ความทรงจำ....Y Fiction จากตอน ความทรงจำหน้า 53
สายตาของทั้งคู่ มองไปยังท้องฟ้ายามเย็นที่เจือไปด้วยเเสงสีส้มอ่อนๆเบื้องหน้าดัวยกัน
"อยากให้ทุกๆวันมีเเต่เวลาเเบบนี้เนอะ"
"พรุ่งนี้ฝนอาจตกก็ได้"
เด็กหนุ่มร่างบางพูดขึ้นเรียบๆก่อนจะเอนศีรษะพิงกับไหล่กว้างของบีม
"เชื่อสิ หลังฝนตกนายอาจได้เห็นรุ้งกินน้ำก็ได้"
"ถ้างั้น เราจะมาดูรุ้งกินน้ำด้วยกันเเบบนี้ทุกๆครั้งใช่มั้ย" บีมค่อยๆหลับตาลงช้าๆโดยไม่สังเกตว่าสายตาของไนท์ฉายความเศร้ามากมายเพียงใด
"แน่ล่ะ ถ้าเพียงว่าในทุกๆวันมีรุ้งกินน้ำนะ" เขายิ้มเล็กน้อยขณะที่ดวงตาทั้งคู่ยังมองใบหน้าของเด็กหนุ่มที่กำลังหลับตาพริ้มอยู่
"นายกำลังมองหน้าฉันตอนหลับเหมือนทุกๆครั้งสินะ" เสียงหวานๆพูดขึ้นอย่างรู้ทันพร้อมกับอมยิ้มอย่างอ่อนโยน เเค่นี้ก็เพียงพอเเล้วให้ไนท์ยิ้มตาม
ริมฝีปากของของไนท์สัมผัสกับหน้าผากของบีมอย่างเเผ่วเบา เขาหลับตาลงช้าๆราวกับว่าอยากหยุดเวลาเอาไว้ให้นานที่สุดเช่นกัน
"ผมทำแบบนี้ได้คนเดียวนะ"
นั่นเป็นความทรงจำครั้งสุดท้ายที่ผมจำได้ก่อนที่ไนท์จะจากไป ถ้าชื่อของเขาหมายถึงกลางคืนชื่อของผมคือเเสงสว่าง.... เราคงห่างไกลกันเหลือเกิน
ผมเดินมาตามถนนเส้นเก่าๆที่ตอนนี้ดูกว้างจากเมื่อหลายปีก่อน เเต่ทว่ามันกลับอ้างว้างกว่าทั้งๆที่มันเล็กและเเคบกว่าด้วยซ้ำ หรือเพราะตอนนั้น...ผมไม่ได้เดินอยู่เพียงลำพังเหมือนตอนนี้ ศาลาเก่าๆถูกรื้อถอนไปจนหมด เหลือเเต่เพียงภาพจางๆของวันวานที่น้อยคนนักจะยังคงจำได้
รถโดยสารคันเล็กๆพาผมเดินทางต่อมายังบ้านไม้หลังเก่าๆที่ผมจากไปและกลับมาทุกๆปีก่อนเรียนจบ คงมีเพียงรอยยิ้มจากผู้หญิงวัย 50 คนเดิมที่ไม่เปลี่ยน "ผมโตเเล้วนะเเม่" ผมพูดประโยคนี้บ่อยๆทั้งๆที่ในสายตาของเธอคนนี้ไม่เคยมองว่าผมเปลี่ยนไปจากตอนเด็กเเม้เเต่น้อย ผมยังคงเป็นเด็กชายสำหรับเธอเสมอ
อ้อมกอดที่อบอุ่นไม่เคยเปลี่ยนประคองผมไว้พร้อมๆกับรอยยิ้มที่เปื้อนอยู่บนใบหน้าตลอดเวลา ความชราไม่เคยพรากความรักของเธอไปจากผมจริงๆ
"คิดถึงไนท์เนอะ เเม่จำได้ว่าเค้าชอบกินไข่เจียวฝีมือเรา"เเม่พูดขึ้นทั้งๆที่ภาพเหล่านั้นมันจางหายไปนานเหลือเกิน เเน่ล่ะผมยังคงจำได้อย่างชัดเจน
"ตอนนี้เค้าคงไม่ชอบกินไข่เจียวเเล้วเเหละเเม่" ผมพูดเเกมหยอกให้เธอยิ้มตามหรือบางทีผมอาจพูดเพื่อเเทงใจดำตัวเองก็เป็นได้
"หิวเเล้วเเม่" ผมยิ้ม
ผมนอนอ่านหนังสือในห้องนอนหลังมื้อค่ำผ่านไป เสียงฟ้าร้องทำให้ผมละสายตาจากหน้ากระดาษ เเล้วลุกขึ้นไปปิดหน้าต่างก่อนที่ฝนจะสาดเข้ามาในไม่ช้า นอกหน้าต่างยามนี้ เด็กชายสองคนกำลังเล่นน้ำฝนกันอย่างสนุกสนานจนลืมไปว่าพวกเขาอาจไม่สบายในเวลาต่อมา หรือนั่นมันคือความสุขกันเเน่นะ ที่ผมนึกถึง
ผมปิดหน้าต่างลงก่อนที่ความทรงจำในหัวจะพรั่งพรูออกมามากกว่านั้น บางครั้งการเลือกปิดตาย อาจดีกว่าการปล่อยเรื่องราวดีๆให้ออกมาวิ่งเล่นในตอนนี้
เสียงฝนกระหน่ำลงมาจนได้ยินอย่างชัดเจน ราวกับว่าในตอนนี้ท้องฟ้ากำลังร้องไห้อย่างหนัก ผมคิดอะไรเพลินๆเหมือนเด็กๆที่จินตนาการได้ไม่สิ้นสุด
เพราะบางครั้งการกลับไปเป็นเด็ก อาจหมายถึงความสุขที่ไม่สามารถหาได้อีกครั้งในตอนที่เราโตเป็นผู้ใหญ่ ผมมองเพดานอยู่ครู่หนึ่งเพื่อช่วยให้นอนหลับ
"นายว่าเวลาฝนตก จะมีคนเหงาอยู่กี่คนบนโลกใบนี้" เสียงของใครบางคนดังก้องอยู่ในหัวของผม การนอนมองเพดานไม่ช่วยอะไรเลย ความเหงากำลังมาเยือนผมสินะ
ในหนังสือที่อ่านบอกวิธีต่างๆให้เราจัดการกับความอ้างว้าง เเต่ทางเดินในชีวิตจริงมันเหมือนจะไม่ง่ายเท่ากับตัวอักษรจากนักเขียนเหล่านั้นเลยจริงๆ
ผมนอนคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนตัดสินใจเปิดไฟหัวเตียงขึ้นมาอีกรอบเเล้วหยิบหมอนใบโปรดเดินออกจากห้องนอนตรงไปยังห้องนอนของเเม่ข้างๆ
"บีมนอนด้วยนะเเม่"
"ผมไม่ได้กลัวเสียงฟ้าร้องหรอก แต่ผมกลัวความรู้สึกของตัวเองตอนที่ฝนตกหนักๆก็เเค่นั้น" ผมตอบตัวเองในใจ ขณะยืนรอเเม่อยู่หน้าประตูห้องนอน
นี่เเหละมั้งที่ทำให้เเม่มองว่าผมยังเป็นเด็ก หรือจริงๆผมอาจโตเเต่ตัวอย่างที่เธอชอบพูดเสมอๆ วันเวลาผ่านไปอีกหนึ่งคืน เเละผ่านมาเเล้วหลายปี...
เสียงออดโรงเรียนเลิกดังขึ้น...ผมวิ่งจากสนามกีฬาไปเก็บกระเป๋าอย่างรวดเร็วก่อนที่ไอ้ขี้งอลจะโวยวายเหมือนทุกๆวัน บางทีก็แอบคิดไปว่ามันเป็นพ่อผมหรอ "เออ กูเนี่ยพ่อ เพราะกูตัวโตกว่าเเละดูเเลได้" ผมชินกับประโยคนี้ของมันจริงๆ เเม้ว่ามันจะฟังดูทะ
ๆไปหน่อย เเต่ผมก็ไม่ได้ขัดข้องอะไร
ผมมักจะเดินกลับบ้านพร้อมๆกับมันเสมอ ทั้งๆที่มีรถโดยสารอยู่เต็มถนน
"เดินกลับอะดีเเล้วนอกจากประหยัดก็ยังมีเพื่อนเดินคุยไปเรื่อยๆ" นี่คือเหตุผลที่มันพูดบ่อยๆ
"ช่วยสงสารขาเรียวๆของกูด้วย เดินทุกวันน่องปูดพอดี" ดูเหมือนจะเป็นประโยคที่ไม่เข้าหูมันเเถมยังลอยเคว้งไปกับลมอีกต่างหากหน้ากวนๆของมันนี่น่านัก นอกจากมาดกวนๆบวกหน้าหล่อๆของมันเเล้ว ไอ้ไนท์ยังเก่งไปซะหมดจนบางทีผมคิดว่า มันอาจเป็นอัจฉริยะกลับชาติมาเกิดก็เป็นได้ เเต่เเหงล่ะผมจะไม่ชมมัน
บ้านของมันจะถึงก่อนผม แต่ทุกๆวันมันจะเดินเลยมาอีกเกือบ 300 เมตรเพื่อมาส่งผม เเล้วเดินย้อนกลับไป
ความน่ารักของมันอยู่ตรงนี้เเหละครับ ><
.
.
.
โปรดติดตามตอนต่อไป อิอิ
credit:
https://www.facebook.com/Dolphinfilm
YouTube:
http://bit.ly/DolphinFilm
"คิดไม่ถึง" Ost.Timeline เพราะรักไม่สิ้นสุด 2 บอล&จีโน่ - Official Music Video
[Y Fiction] Timeline Next Gen : ความทรงจำหน้า 53
สายตาของทั้งคู่ มองไปยังท้องฟ้ายามเย็นที่เจือไปด้วยเเสงสีส้มอ่อนๆเบื้องหน้าดัวยกัน
"อยากให้ทุกๆวันมีเเต่เวลาเเบบนี้เนอะ"
"พรุ่งนี้ฝนอาจตกก็ได้"
เด็กหนุ่มร่างบางพูดขึ้นเรียบๆก่อนจะเอนศีรษะพิงกับไหล่กว้างของบีม
"เชื่อสิ หลังฝนตกนายอาจได้เห็นรุ้งกินน้ำก็ได้"
"ถ้างั้น เราจะมาดูรุ้งกินน้ำด้วยกันเเบบนี้ทุกๆครั้งใช่มั้ย" บีมค่อยๆหลับตาลงช้าๆโดยไม่สังเกตว่าสายตาของไนท์ฉายความเศร้ามากมายเพียงใด
"แน่ล่ะ ถ้าเพียงว่าในทุกๆวันมีรุ้งกินน้ำนะ" เขายิ้มเล็กน้อยขณะที่ดวงตาทั้งคู่ยังมองใบหน้าของเด็กหนุ่มที่กำลังหลับตาพริ้มอยู่
"นายกำลังมองหน้าฉันตอนหลับเหมือนทุกๆครั้งสินะ" เสียงหวานๆพูดขึ้นอย่างรู้ทันพร้อมกับอมยิ้มอย่างอ่อนโยน เเค่นี้ก็เพียงพอเเล้วให้ไนท์ยิ้มตาม
ริมฝีปากของของไนท์สัมผัสกับหน้าผากของบีมอย่างเเผ่วเบา เขาหลับตาลงช้าๆราวกับว่าอยากหยุดเวลาเอาไว้ให้นานที่สุดเช่นกัน
"ผมทำแบบนี้ได้คนเดียวนะ"
นั่นเป็นความทรงจำครั้งสุดท้ายที่ผมจำได้ก่อนที่ไนท์จะจากไป ถ้าชื่อของเขาหมายถึงกลางคืนชื่อของผมคือเเสงสว่าง.... เราคงห่างไกลกันเหลือเกิน
ผมเดินมาตามถนนเส้นเก่าๆที่ตอนนี้ดูกว้างจากเมื่อหลายปีก่อน เเต่ทว่ามันกลับอ้างว้างกว่าทั้งๆที่มันเล็กและเเคบกว่าด้วยซ้ำ หรือเพราะตอนนั้น...ผมไม่ได้เดินอยู่เพียงลำพังเหมือนตอนนี้ ศาลาเก่าๆถูกรื้อถอนไปจนหมด เหลือเเต่เพียงภาพจางๆของวันวานที่น้อยคนนักจะยังคงจำได้
รถโดยสารคันเล็กๆพาผมเดินทางต่อมายังบ้านไม้หลังเก่าๆที่ผมจากไปและกลับมาทุกๆปีก่อนเรียนจบ คงมีเพียงรอยยิ้มจากผู้หญิงวัย 50 คนเดิมที่ไม่เปลี่ยน "ผมโตเเล้วนะเเม่" ผมพูดประโยคนี้บ่อยๆทั้งๆที่ในสายตาของเธอคนนี้ไม่เคยมองว่าผมเปลี่ยนไปจากตอนเด็กเเม้เเต่น้อย ผมยังคงเป็นเด็กชายสำหรับเธอเสมอ
อ้อมกอดที่อบอุ่นไม่เคยเปลี่ยนประคองผมไว้พร้อมๆกับรอยยิ้มที่เปื้อนอยู่บนใบหน้าตลอดเวลา ความชราไม่เคยพรากความรักของเธอไปจากผมจริงๆ
"คิดถึงไนท์เนอะ เเม่จำได้ว่าเค้าชอบกินไข่เจียวฝีมือเรา"เเม่พูดขึ้นทั้งๆที่ภาพเหล่านั้นมันจางหายไปนานเหลือเกิน เเน่ล่ะผมยังคงจำได้อย่างชัดเจน
"ตอนนี้เค้าคงไม่ชอบกินไข่เจียวเเล้วเเหละเเม่" ผมพูดเเกมหยอกให้เธอยิ้มตามหรือบางทีผมอาจพูดเพื่อเเทงใจดำตัวเองก็เป็นได้
"หิวเเล้วเเม่" ผมยิ้ม
ผมนอนอ่านหนังสือในห้องนอนหลังมื้อค่ำผ่านไป เสียงฟ้าร้องทำให้ผมละสายตาจากหน้ากระดาษ เเล้วลุกขึ้นไปปิดหน้าต่างก่อนที่ฝนจะสาดเข้ามาในไม่ช้า นอกหน้าต่างยามนี้ เด็กชายสองคนกำลังเล่นน้ำฝนกันอย่างสนุกสนานจนลืมไปว่าพวกเขาอาจไม่สบายในเวลาต่อมา หรือนั่นมันคือความสุขกันเเน่นะ ที่ผมนึกถึง
ผมปิดหน้าต่างลงก่อนที่ความทรงจำในหัวจะพรั่งพรูออกมามากกว่านั้น บางครั้งการเลือกปิดตาย อาจดีกว่าการปล่อยเรื่องราวดีๆให้ออกมาวิ่งเล่นในตอนนี้
เสียงฝนกระหน่ำลงมาจนได้ยินอย่างชัดเจน ราวกับว่าในตอนนี้ท้องฟ้ากำลังร้องไห้อย่างหนัก ผมคิดอะไรเพลินๆเหมือนเด็กๆที่จินตนาการได้ไม่สิ้นสุด
เพราะบางครั้งการกลับไปเป็นเด็ก อาจหมายถึงความสุขที่ไม่สามารถหาได้อีกครั้งในตอนที่เราโตเป็นผู้ใหญ่ ผมมองเพดานอยู่ครู่หนึ่งเพื่อช่วยให้นอนหลับ
"นายว่าเวลาฝนตก จะมีคนเหงาอยู่กี่คนบนโลกใบนี้" เสียงของใครบางคนดังก้องอยู่ในหัวของผม การนอนมองเพดานไม่ช่วยอะไรเลย ความเหงากำลังมาเยือนผมสินะ
ในหนังสือที่อ่านบอกวิธีต่างๆให้เราจัดการกับความอ้างว้าง เเต่ทางเดินในชีวิตจริงมันเหมือนจะไม่ง่ายเท่ากับตัวอักษรจากนักเขียนเหล่านั้นเลยจริงๆ
ผมนอนคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนตัดสินใจเปิดไฟหัวเตียงขึ้นมาอีกรอบเเล้วหยิบหมอนใบโปรดเดินออกจากห้องนอนตรงไปยังห้องนอนของเเม่ข้างๆ
"บีมนอนด้วยนะเเม่"
"ผมไม่ได้กลัวเสียงฟ้าร้องหรอก แต่ผมกลัวความรู้สึกของตัวเองตอนที่ฝนตกหนักๆก็เเค่นั้น" ผมตอบตัวเองในใจ ขณะยืนรอเเม่อยู่หน้าประตูห้องนอน
นี่เเหละมั้งที่ทำให้เเม่มองว่าผมยังเป็นเด็ก หรือจริงๆผมอาจโตเเต่ตัวอย่างที่เธอชอบพูดเสมอๆ วันเวลาผ่านไปอีกหนึ่งคืน เเละผ่านมาเเล้วหลายปี...
เสียงออดโรงเรียนเลิกดังขึ้น...ผมวิ่งจากสนามกีฬาไปเก็บกระเป๋าอย่างรวดเร็วก่อนที่ไอ้ขี้งอลจะโวยวายเหมือนทุกๆวัน บางทีก็แอบคิดไปว่ามันเป็นพ่อผมหรอ "เออ กูเนี่ยพ่อ เพราะกูตัวโตกว่าเเละดูเเลได้" ผมชินกับประโยคนี้ของมันจริงๆ เเม้ว่ามันจะฟังดูทะๆไปหน่อย เเต่ผมก็ไม่ได้ขัดข้องอะไร
ผมมักจะเดินกลับบ้านพร้อมๆกับมันเสมอ ทั้งๆที่มีรถโดยสารอยู่เต็มถนน
"เดินกลับอะดีเเล้วนอกจากประหยัดก็ยังมีเพื่อนเดินคุยไปเรื่อยๆ" นี่คือเหตุผลที่มันพูดบ่อยๆ
"ช่วยสงสารขาเรียวๆของกูด้วย เดินทุกวันน่องปูดพอดี" ดูเหมือนจะเป็นประโยคที่ไม่เข้าหูมันเเถมยังลอยเคว้งไปกับลมอีกต่างหากหน้ากวนๆของมันนี่น่านัก นอกจากมาดกวนๆบวกหน้าหล่อๆของมันเเล้ว ไอ้ไนท์ยังเก่งไปซะหมดจนบางทีผมคิดว่า มันอาจเป็นอัจฉริยะกลับชาติมาเกิดก็เป็นได้ เเต่เเหงล่ะผมจะไม่ชมมัน
บ้านของมันจะถึงก่อนผม แต่ทุกๆวันมันจะเดินเลยมาอีกเกือบ 300 เมตรเพื่อมาส่งผม เเล้วเดินย้อนกลับไป
ความน่ารักของมันอยู่ตรงนี้เเหละครับ ><
.
.
.
โปรดติดตามตอนต่อไป อิอิ
credit: https://www.facebook.com/Dolphinfilm
YouTube: http://bit.ly/DolphinFilm
"คิดไม่ถึง" Ost.Timeline เพราะรักไม่สิ้นสุด 2 บอล&จีโน่ - Official Music Video