จากมติชนออนไลน์
หลายคนคงได้ยินชื่อ "สถานรับเลี้ยงเด็กบ้านครูน้อย" มาบ้าง เนื่องจากเปิดดำเนินการมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2523 โดยนางนวลน้อย ทิมกุล หรือ "ครูน้อย" และเป็นเวลากว่า 35 ปี ที่บ้านครูน้อยได้ช่วยเหลือเด็กพิการซ้ำซ้อน เด็กที่พ่อแม่ต้องโทษจำคุก และเด็กเร่ร่อน เพื่อให้มีโอกาสได้ศึกษา และมีสิทธิที่จะรับการศึกษาภาคบังคับเท่าเทียมกับเด็กอื่น ๆ
ล่าสุด เฟซบุ๊ก สถานรับเลี้ยงเด็กยากจน บ้านครูน้อย ได้เผยว่า ครูน้อยนั้นเตรียมปิดทำการสถานรับเลี้ยงเด็กภายในสิ้นเดือน ก.ค.นี้ เนื่องจากไม่สามารถรับภาระค่าใช้จ่ายได้ ปัญหาหนี้สิน ประกอบกับสุขภาพเริ่มทรุดโทรมลง พร้อมกันนี้ ยังได้ประกาศขายบ้านเพื่อใช้หนี้อีกด้วย
อนึ่ง "สถานรับเลี้ยงเด็กบ้านครูน้อย" นั้น ตั้งอยู่บ้านเลขที่ 319 หมู่ 1 ซอยราษฎร์บูรณะ 26 เขตราษฎร์บูรณะ กทม. เคยมีข่าวว่าจะทำการปิดตัวแล้วครั้งหนึ่ง เนื่องจากมีค่าใช้จ่ายที่สูงเกินกว่าจะรับไหว กระทั่งต้องไปกู้เงินนอกระบบมาใช้จ่ายจนมีหนี้สูงถึง 8 ล้านบาท จนหลายฝ่ายได้เข้าให้ความช่วยเหลือจนปลดหนี้ได้สำเร็จ ขณะที่อีกฝ่ายก็ได้ตั้งคำถามว่า เหตุใดค่าใช้จ่ายจึงไม่เพียงพอ เนื่องจากบ้านครูน้อยนั้นเป็นสถานรับเลี้ยงเด็กที่มีชื่อเสียง ถึงขนาดมีผู้ใจบุญ "เข้าคิว" บริจาคกันเลยทีเดียว
สุดเศร้า จ่อปิดตำนาน35ปี"บ้านครูน้อย"สถานรับเลี้ยงเด็กยากจน 31ก.ค.นี้
หลายคนคงได้ยินชื่อ "สถานรับเลี้ยงเด็กบ้านครูน้อย" มาบ้าง เนื่องจากเปิดดำเนินการมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2523 โดยนางนวลน้อย ทิมกุล หรือ "ครูน้อย" และเป็นเวลากว่า 35 ปี ที่บ้านครูน้อยได้ช่วยเหลือเด็กพิการซ้ำซ้อน เด็กที่พ่อแม่ต้องโทษจำคุก และเด็กเร่ร่อน เพื่อให้มีโอกาสได้ศึกษา และมีสิทธิที่จะรับการศึกษาภาคบังคับเท่าเทียมกับเด็กอื่น ๆ
ล่าสุด เฟซบุ๊ก สถานรับเลี้ยงเด็กยากจน บ้านครูน้อย ได้เผยว่า ครูน้อยนั้นเตรียมปิดทำการสถานรับเลี้ยงเด็กภายในสิ้นเดือน ก.ค.นี้ เนื่องจากไม่สามารถรับภาระค่าใช้จ่ายได้ ปัญหาหนี้สิน ประกอบกับสุขภาพเริ่มทรุดโทรมลง พร้อมกันนี้ ยังได้ประกาศขายบ้านเพื่อใช้หนี้อีกด้วย
อนึ่ง "สถานรับเลี้ยงเด็กบ้านครูน้อย" นั้น ตั้งอยู่บ้านเลขที่ 319 หมู่ 1 ซอยราษฎร์บูรณะ 26 เขตราษฎร์บูรณะ กทม. เคยมีข่าวว่าจะทำการปิดตัวแล้วครั้งหนึ่ง เนื่องจากมีค่าใช้จ่ายที่สูงเกินกว่าจะรับไหว กระทั่งต้องไปกู้เงินนอกระบบมาใช้จ่ายจนมีหนี้สูงถึง 8 ล้านบาท จนหลายฝ่ายได้เข้าให้ความช่วยเหลือจนปลดหนี้ได้สำเร็จ ขณะที่อีกฝ่ายก็ได้ตั้งคำถามว่า เหตุใดค่าใช้จ่ายจึงไม่เพียงพอ เนื่องจากบ้านครูน้อยนั้นเป็นสถานรับเลี้ยงเด็กที่มีชื่อเสียง ถึงขนาดมีผู้ใจบุญ "เข้าคิว" บริจาคกันเลยทีเดียว