เมื่อค่ำวันนี้ผมเดินออกจากร้านสะดวกซื้อ เห็นชายวัยกลางคนคนหนึ่ง ไม่แน่ใจว่าเป็นคนเข็นผักในตลาดหรือพี่วินมอไซด์(ใส่เสื้อกั๊กสีส้มซีดเก่า) ชายคนนั้นหยุดยืนนับเศษตังทอนอยู่หน้าร้านฯ มืออีกข้างก็ยกเครื่องดื่มชูกำลังขึ้นดื่มเป็นระยะๆ สิ่งที่เขาทำคือ...
ชายคนนั้นโยนเหรียญ 50สตางค์ลงถังขยะ(ด้านบนเป็นหลุมที่เขี่ยบุหรี่)พร้อมสลิปใบเสร็จ ก่อนจะทิ้งขวดเครื่องดื่มชูกำลังและถลุยน้ำลายลงถังขยะ เงินทอนที่เขาเก็บเข้ากระเป๋ากางเกง คือเหรียญสีเงินวาวและธนาบัตรสีเขียวหนึ่งถึงสองใบ
สิ่งที่ผมทำคือเอาสลิปใบเสร็จของผม หยิบเหรียญ50สตางค์จากถังขยะใบนั้นขึ้นมาวางบนตู้เติมเงินที่อยู่ใกล้กัน
มีสองสิ่งที่ผมคิด ณ ขณะนั้น คือ
1.) เหรียญมีพระบรมฉายาลักษณ์ ไม่ควรไปอยู่ในจุดจุดนั้น
2.) ทำไมเขาไม่เห็นมูลค่าของเหรียญสตางค์ ส่วนตัวผมเก็บเหรียญเหล่านี้รวมไว้บริจาคได้ปีนึงเป็นหลักพัน ซึ่งก็เป็นเศษเงินทอนจากการซื้อของตามร้านสะดวกซื้อและห้างสรรพสินค้านี่แระ
หรือสมัยนี้คนข้ามผ่านคำว่า มีสลึงพึงบรรจบให้ครบบาท หรือมันเล็กจนมองไม่เห็นมูลค่ากันไปเสียแล้ว = ="
คนสมัยนี้มองมูลค่าของเหรียญสตางค์แบบนี้หรือครับ?
ชายคนนั้นโยนเหรียญ 50สตางค์ลงถังขยะ(ด้านบนเป็นหลุมที่เขี่ยบุหรี่)พร้อมสลิปใบเสร็จ ก่อนจะทิ้งขวดเครื่องดื่มชูกำลังและถลุยน้ำลายลงถังขยะ เงินทอนที่เขาเก็บเข้ากระเป๋ากางเกง คือเหรียญสีเงินวาวและธนาบัตรสีเขียวหนึ่งถึงสองใบ
สิ่งที่ผมทำคือเอาสลิปใบเสร็จของผม หยิบเหรียญ50สตางค์จากถังขยะใบนั้นขึ้นมาวางบนตู้เติมเงินที่อยู่ใกล้กัน
มีสองสิ่งที่ผมคิด ณ ขณะนั้น คือ
1.) เหรียญมีพระบรมฉายาลักษณ์ ไม่ควรไปอยู่ในจุดจุดนั้น
2.) ทำไมเขาไม่เห็นมูลค่าของเหรียญสตางค์ ส่วนตัวผมเก็บเหรียญเหล่านี้รวมไว้บริจาคได้ปีนึงเป็นหลักพัน ซึ่งก็เป็นเศษเงินทอนจากการซื้อของตามร้านสะดวกซื้อและห้างสรรพสินค้านี่แระ
หรือสมัยนี้คนข้ามผ่านคำว่า มีสลึงพึงบรรจบให้ครบบาท หรือมันเล็กจนมองไม่เห็นมูลค่ากันไปเสียแล้ว = ="