“ ผมก็มีหัวใจนะ ทำไมคุณถึงได้คิดว่าผมไม่รักคุณล่ะ ”
“ เพราะคุณไม่เคยอยากแต่งงานกับฉัน คุณพยายามบ่ายเบี่ยงหาเหตุมาอ้างตลอด จะให้ตำแหน่งคุณก็ไม่ยอม ”
“ เพราะใครๆเขาก็รู้ว่าผมไม่มีอะไร เป็นแค่หัวหน้าฝ่ายบัญชีขืนไปแต่งงานกับคุณคุณไม่อาย ผมก็อายแล้วยังคุณพ่อของคุณอีก ท่านจะยอมหรือที่มีลูกเขยเป็นพนักงานต๊อกต๋อยอยู่ในบริษัท มันเป็นไปไม่ได้หรอกคุณจาม ”
“ แล้วถ้าคุณเป็นผู้ถือหุ้นคนหนึ่งในบริษัทล่ะ คุณจะพอใจไหม ”
“ พูดเป็นเล่น ผมไม่มีเงินไปซื้อหุ้นในบริษัทของคุณหรอก แล้วอีกอย่างใครล่ะที่จะขายหุ้นเอามาให้คนนอกอย่างผม ”
“ ก็จามนี่ไง จามจะโอนหุ้น ส่วนของจามให้คุณ แต่มีข้อแม้ว่าคุณจะต้องแต่งงานกับจาม ”
“ นี่คุณจะประสาทไปแล้วหรือ คุณจะมาโอนหุ้นให้กับผมได้อย่างไร พ่อของคุณจะได้เอาคุณตาย ”
“ หุ้นส่วนนี้เป็นของจามคุณพ่อไม่มีสิทธิ มันเป็นชื่อของจามโดยเด็ดขาด จามจะขายให้ใครก็ได้ ”
“ คุณกำลังไม่สบายใจ เราอย่าเพิ่งพูดถึงเรื่องนี้เลยนะ คุณจามคุณเชื่อใจผมสิว่าผมไม่มีใคร ยิ่งกับกุลธิดา ยิ่งเป็นไปไม่ได้กุลธิดาเขาชอบพออยู่กับหัวหน้าฝ่ายการตลาดคุณไม่รู้หรือไง ”
“ แต่จามไล่เขาออกไปแล้วนี่คะ ”
“ คุณก็ยกเลิกคำสั่งสิ ”
“ น่าเกลียดตายเดี๋ยวไล่เดี๋ยวเลิก ”
“ เอาอย่างนี้ คุณก็ให้เรขาของคุณเป็นคนไปบอก นะ คุณใจดีออก ”
ตะวันเกลี่ยผมให้หญิงสาว จามจุรีจึงยิ้มได้และยอมถอนคำสั่งไล่กุลธิดาออก
ตะวันยังไม่รู้ว่าหุ้นในส่วนที่เป็นของเขามีจำนวนเท่าไร่ และใครเป็นผู้ถือหุ้นที่สูงที่สุดไว้ในมือ ที่เขารู้แล้วคือจามจุรีถือหุ้นอยู่สิบเปอร์เซ็นต์และหุ้นของหล่อนก็คงตกถึงมือเขาไม่ยาก ตะวันไม่กล้าผลีผลามถามจำนวนหุ้นที่คณะกรรมการแต่ละคนถืออยู่ แต่จากที่เห็นเวลากรรมการที่ถือหุ้นประชุม จะมีผู้มาร่วมประชุมไม่เกินสิบคน เขาต้องพยายามหลอกถามเรื่องนี้กับจามจุรีหล่อนจะเป็นคนที่บอกเรื่องนี้ให้เขารู้
สมานกลับมาเล่าเรื่องที่เขาได้เห็นตะวันอีกให้แรมฟัง
“ แรม ข้าได้เห็นคุณสุรียาเต็มตาแล้วละ ”
“ เหรอ แล้วได้คุยกับเธอไหม ”
“ ไม่ได้คุยหรอก ข้านั่งแอบมองเธอ เธอไปหาคุณจันทร์ที่มหาวิทยาลัยอีก ไปวาดรูปให้กัน
“ เธอก็สนิทกับคุณจันทร์มากน่ะสิ ”
“ สนิท แต่ไม่รู้ว่ามากแค่ไหน นี่ข้ากำลังยุคุณจันทร์ให้เธอยอมคบกับคุณสุรียา
“ ทำไมหรือพี่ ”
“ ข้าเชื่อว่าคุณสุรียา ต้องเข้าสุรียาบดีทางคุณจันทร์แน่ ”
“ พี่หมานหมายถึง คุณหนูจะหลอกใช้คุณจันทร์อย่างนั้นหรือ ”
“ ข้าก็ไม่แน่ใจ แต่จะมีวิธีไหนแนบเนียนเท่ากับวิธีนี้ล่ะ ”
“ แต่คุณจันทร์เธอเป็นคนดีนะ พี่หมานไม่สงสารเธอหรือ ”
“ คนดีแล้วทำไม คุณสุรียาเธอเสียหายตรงไหน ”
“ ก็ ถ้าคุณหนูเธอจะล้างแค้น คุณจันทร์เธอก็รับเคราะห์ไปเต็มๆน่ะสิพี่ ”
“ หยิกเล็บมันก็ต้องเจ็บเนื้อแหระวะ ถ้าเราไม่ยอมเสียคุณจันทร์ แล้วคุณสุรียาเธอจะมีโอกาสหรือ อีกอย่างคุณหนูสุรียาเธอคงไม่ถึงกับฆ่าแกงคุณจันทร์เธอหรอกน่า ”
“ ฉันอยากเห็นคุณหนูจังเลยพี่ ”
“ เอ็งอย่าใจร้อนสิวะเรียม ตอนนี้แค่ได้รู้ว่าเธอเข้ามาใกล้พวกสุรียาบดีก็พอแล้ว เสาร์อาทิตย์หน้าข้าจะไม่กลับบ้านนะ เผื่อมีอะไรที่คุณจันทร์เธอจะออกไปไหน ข้าจะได้รู้ไง ”
“ พี่หมานแล้วคุณหนูหน้าเหมือนใครหืมม์ ”
“ เหมือนคุณท่าน สูงใหญ่ ผิวพรรณละม้ายคุณท่าน ผิวขาว ยิ่งท่าเดินของเธอเหมือนคุณท่านมาก ”
“ เหมือนนายท่านมากก็ไมดีน่ะสิ พวกนั้นมันจะสงสัยเอาได้ ”
“ คงไม่หรอกน่า ชื่อนามสกุลของเธอมีใครรู้จักซะที่ไหน ไอ้พวกนั้นถ้ามันสงสัยมันต้องสืบดู คุณหนูเธอคงไม่ประมาทให้ถึงตัวเธอหรอก ”
“ จะไปไหนน่ะลูกจันทร์ ”
นางสวาทถามลูกสาวคนเล็กเมื่อเห็นหญิงสาวสะพายกระเป๋าเตรียมจะออกไปข้างนอก
“ จะไปที่มหาวิทยาลัยค่ะ จันทร์นัดกับเพื่อนเอาไว้ ”
“ แล้วไปยังไง นายสมานกลับบ้านไม่ใช่หรือ ”
“ จันทร์นั่งแท็กซี่ไปก็ได้ค่ะ ”
“ ไม่ดีมั๊ง เดี๋ยวไปกับแม่สิ แม่จะให้คนขับรถของแม่เลยไปส่งนะ ”
“ ก็ได้ค่ะ คุณแม่จะออกไปเลยหรือเปล่าคะ ”
“ ไป จะไปเลยก็ได้ คราวหน้าถ้าลูกมีธุระอะไรก็บอกกับนายหมานให้อยู่สิจ๊ะ รู้ไหม ”
“ คุณแม่คะ จันทร์อยากไปไหนมาไหนโดยที่ไม่ต้องให้น้าหมานคอยรับคอยส่งบ้าง บางทีจันทร์ก็สงสารแก นั่งเฝ้านั่งรอจันทร์ทีเป็นวันๆ น่าเบื่อออก ”
“ เอ๊ะ ก็มันเป็นหน้าที่ของเขา แม่จ้างให้เขามาเป็นคนขับรถให้ลูก จะนานจะช้าอย่างไรเขาก็ต้องคอย ”
จันทราจึงนั่งรถมากับมารดาถึงมหาวิทยาลัย ก่อนลงจากรถนางสวาทยังหันมาสั่งลูกสาว
“ เสร็จธุระแล้วโทรบอกแม่นะ แม่จะให้ช่วงเขามารับ อย่านั่งแท็กซี่กลับเองล่ะ ”
“ ค่ะ ”
“ ไหนล่ะเพื่อนของลูก รออยู่ที่ไหน ”
จันทรามองหาตะวัน ยังไม่เห็นเขาจึงบอกมารดา
“ นัดกันไว้ตอนบ่ายโมง เดี๋ยวเขาก็คงมา ”
“ งั้นแม่ไปก่อนนะ ”
รถของมารดาขับออกไปแล้วจันทราจึงเดินไปที่สระน้ำที่เคยนั่งให้ตะวันวาดรูปให้ วันนี้เป็นวันหยุดนิสิตจึงไม่ค่อยมี จะมีก็แต่พวกที่ต้องมาทำงานส่งอาจารย์ แต่ก็ไม่กี่คน จันทราลงนั่งรอตะวันที่โคนต้นไม้ มองความร่มรื่นของร่มไม้และสระน้ำอย่างเพลินใจ ตะวันมายืนมองหญิงสาวที่นั่งคิดอะไรเพลินๆ วันนี้เธอแต่งตัวน่ารักแบบวัยรุ่น มัดผมที่ยาวเคลียไหล่เอาไว้เป็นหางม้า เขาเรียกเธอเบาๆ
“ คุณจันทร์ ”
จันทราหันมายิ้ม รอยยิ้มของเธอสดใสน่ารักรัก
“ คอยผมนานไหม ”
“ ไม่นานค่ะ ไหนล่ะคะภาพเขียนของฉัน ฉันอยากเห็นจัง ”
ตะวันลงนั่งข้างๆหยิบม้วนภาพออกมาจากถุงกระดาษส่งให้หญิงสาว จันทรารับเอามาคลี่ออกดูอย่างอยากเห็น
“ โอ สวยจังเลย คุณแต่งภาพซะจันทร์ดูสวยเชียว ”
“ ใครบอกว่าผมแต่งภาพให้สวย จริงๆแล้วคุณสวยกว่าในภาพนั่นตั้งเยอะต่างหาก ”
“ แหม คุณยอซะจันทร์เขิน ”
จันทราพูดเรื่อยๆแต่ตายังจ้องภาพเขียนอย่างถูกใจ ตะวันยิ้มอย่างสมใจ
“ คุณจะเอาไปเข้ากรอบไหม ”
“ คงไม่หรอกค่ะ ฉันยังไม่อยากตอบคำถามของคุณป้า คุณพี่ คุณรู้ไหมที่บ้านฉันน่ะ ฉันจะทำอะไรต้องอยู่ในสายตาของคนในบ้านทั้งหมด นี่ถ้ารู้ว่าฉันมาให้คุณวาดรูปให้ฉันอีก คุณคงเดือดร้อนแน่ คราวที่แล้วคุณโดนพี่จามว่าเอามากไหม ”
“ อ๋อ ก็ไม่เท่าไหร่ พวกเขาหวงคุณจังเลยนะ ”
“ ไม่ใช่หรอกค่ะ เพียงแต่ฉันเด็กที่สุดในบ้าน ก็เลยเป็นศูนย์รวมของทุกสายตา ”
“ อย่างคุณนี่เขาเรียกว่าไข่ในหินนะ ”
“ ไข่ในหิน อย่าเรียกอย่างนั้นเลยค่ะ ไม่ถูกหรอก ไข่ในหินก็ต้องทั้งรักทั้งห่วง แต่กรณีของฉันนี่แค่ห่วงมากกว่า ห่วงว่าฉันจะไม่ทันคน ห่วงว่าฉันจะถูกหลอก ”
ดูเถอะ จันทราใสซื่อ เธอเล่าให้เขาฟังเรื่อยๆเพราะไม่เคยได้พูดได้ระบายกับใคร จันทราไว้ใจเขาง่ายเพราะคิดว่าเขาคือคนของพ่อเธออีกคนหนึ่งที่จะเล่าจะคุยอะไรให้ฟังก็ได้ กับจันทราตะวันไม่ต้องใช้เล่ห์เหลี่ยมอะไรมากเขาคุยกับเธออย่างสบายๆ พ่อค้าหาบไข่ย่างเดินเข้ามาขาย ตะวันจึงถามหญิงสาว
“ กินไข่ย่างไหม ”
“ เอาสิคะ ”
ตะวันซื้อไข่ย่างหกฟอง เขาส่งถุงไข่ให้หญิงสาว
“ กินสิกำลังร้อนๆเดี๋ยวผมจะไปหาซื้อน้ำมาให้ ”
จันทราแกะเปลือกไข่อย่างไม่ค่อยชินจนกระทั่งตะวันซื้อน้ำกลับมาแล้วเธอยังปอกเปลือกไข่ไม่หมดฟอง ตะวันมองเธอยิ้มๆ
“ คุณไม่เคยกินไข่ย่างหรือ ”
“ ไม่เคยค่ะ ”
“ ทำไมล่ะ ”
“ ฉันไม่กล้าซื้อ ”
“ นี่คุณเรียนมหาวิทยาลัยปีสามจะขึ้นปีสี่แล้วนะ แค่ไข่ย่างยังไม่กล้าซื้อหรือ ”
“ ไม่ใช่อย่างนั้น ปกติฉันไม่เคยกินของจุกจิก แล้วฉันก็ไม่มีเวลามานั่งเล่น กินอะไรเล่นแบบนี้ เวลาฉันมาเรียนมาถึงก็ใกล้เวลาเข้าเรียนแล้วพอเรียนเสร็จฉันก็กลับบ้าน ของพวกนี้ฉันจะไปซื้อตอนไหนล่ะ แล้วพอฉันจะซื้ออะไรกินบ้าง น้าสมานแกก็จะคอยห้าม กลัวจะท้องเสียบ้าง กลัวจะไม่สะอาดบ้าง ”
ตะวันถอนใจ ชีวิตของจันทราไม่ติดดินเอาซะเลยเธอถูกผู้คนรอบข้างประคบประหงมเสียจนหมดโอกาสใช้ชีวิตอย่างคนทั่วไป มิน่าเธอถึงได้ไว้ใจคนง่ายเพราะการเลี้ยงดูที่ไม่ให้รู้จักโลกของความเป็นไปบ้าง เอาแต่เงินและความสะดวกสบายประเคนให้เหยื่อชิ้นนี้ของเขาจึงเป็นแค่ปลาตู้ที่ไม่มีพิษสงอะไรเลย ตะวันมองนิ้วที่เรียวยาวของเธอที่แกะเปลือกไข่ออกทีละนิด รอยแผลที่ถูกมีดบาดเอาไว้ยังแดงๆอยู่
“ คุณเลิกทำตุ๊กตาไม้แล้วหรือยัง ”
“ ยังค่ะ ก็ยังทำอยู่ เสร็จไปสองตัวแล้วแต่ไม่ได้เรื่องมันไม่ค่อยสมปะกอบ ”
ตะวันหัวเราะ
“ นับว่าคุณมีความพยายามมิใช่น้อย เอามาให้ผมดูบ้างสิ ”
“ ไม่เอาค่ะ ฉันอาย ทำกระต่ายมันก็เหมือนหนูแถมเป็นหนูที่ผอมกะหร่อง ”
“ จันทรากินไข่ตะวันเปิดกระป๋องน้ำอัดลมส่งให้หญิงสาว ทั้งสองนั่งคุยกันไปกินกันไปจนไข่หมด จันทราปัดมือแล้วล้วงหยิบโทรศัพท์ออกมา ”
“ ฉันคงต้องกลับแล้วละ ”
“ แล้วคุณจะโทรไปไหน ”
“ โทรตามคนขับรถของคุณแม่ให้มารับที่นี่ค่ะ ”
“ ให้ผมไปส่งคุณไหม ”
“ อย่าเลยค่ะ ขืนคุณไปส่งฉันคุณแม่หรือใครๆก็รู้น่ะสิว่าฉันออกมาพบกับคุณ ”
ตะวันถอนใจ จันทราไม่มีอิสระที่จะทำอะไรไปไหนมาไหนด้วยตัวเองบ้างเลยหรอ
ตะวันนั่งพิงพนักหัวเตียงหลังจากจบเกมส์พิศวาสกับจามจุรีแล้ว จามจุรีเข้าไปอาบน้ำในห้องน้ำครู่ใหญ่เธอนุ่งผ้าเช็ดตัวออกมาเดินเข้ามานั่งข้างๆเขาเอนหัวซบไหล่ของเขาอย่างเป็นสุข
“ ตะวันอาทิตย์หน้าเราไปเที่ยวภูเก็ตกันไหม ไปเช้าวันเสาร์เย็นวันอาทิตย์เราก็กลับ ”
“ ไม่ได้หรอก อาทิตย์หน้าผมต้องไปเชียงราย ”
“ ไปทำไมคะ คุณก็ย้ายมาอยู่กรุงเทพแล้วนี่ ”
“ ผมจะไปเยี่ยมเพื่อนๆและแวะไปเยี่ยมคุณล้อมเดือนด้วย ”
“ ไปเยี่ยมยายล้อม งั้นจามไม่ให้ไปนี่ตะวันยังคิดไปหาไปติดต่อกับยายล้อมอีกหรือ ”
“ คุณจาม ผมจะไปเยี่ยมใครบ้างทำไมต้องมาห้าม นี่ผมมาอยู่กรุงเทพจะครึ่งปีแล้วใจคอจะไม่ให้ผมกลับไปเยี่ยมบ้านเกิดของผมบ้างหรือไง ”
“ ก็คุณจะไปหายายล้อม ตะวันคุณบอกจามมาดีกว่าว่าคุณสนใจยายล้อมใช่ไหม ”
“ หึงไม่เข้าท่าอีกแล้วนะคุณ คุณล้อมเขาเป็นเพื่อนของคุณนะ ”
“ เพื่อน เพื่อนแล้วทำไมล้อมเขาไม่รู้นี่ว่าตะวันเป็นอะไรกับจาม ท่าทางเขาห่วงคุณจะตาย ตะวันจามไม่อยากปกปิดใครอีกแล้วนะ ”
“ ไม่อยากปกปิด คุณไม่อายใครเขาหรือไงที่มามีอะไรกับผม ในสังคม คุณน่ะหงส์ลอยฟ้า แต่ผมมันห่านลอยน้ำ ขืนคุณเปิดเผยคนเขาจะได้หัวเราะเยาะเอาน่ะสิ ”
“ ตะวันจามจะทำให้คุณเป็นหงส์แล้วเคียงคู่กับจามในสังคมอย่างสง่าผ่าเผย ”
“ คุณอย่าคิดอะไรเพ้อเจ้อไปหน่อยเลยคุณจาม พ่อแม่ของคุณไม่มีวันยอมหรอก ลูกสาวท่านรัฐมนตรีประธานกรรมการบริษัททุติยะเอ็นจิเนียรจะมาเอาพนักงานในบริษัทที่ไม่มีสกุลรุนชาติไปเป็นสามี ผมได้ถูกคุณพ่อของคุณเชือดซะก่อนจะได้เป็นหงส์น่ะสิ ”
“ เรื่องนั้นคุณไม่ต้องห่วง เพียงแค่คุณน่ะจะยอมแต่งงานกับจามไหมเท่านั้น ”
“ คุณจะทำอย่างไร ”
“ จามจะให้คุณได้เป็นกรรมการคนหนึ่งในบริษัท นี่ใกล้จะถึงการประชุมประจำปีของผู้ถือหุ้น จามจะถอนตัวออกจากการเป็นกรรมการและให้คุณเป็นแทน ”
“ ดีนะคุณ นี่คุณแยกหัวกับตัวผมออกจากกันแล้วคุณรู้ไหม ผมตายแน่ตายก่อนที่คุณจะเสนอชื่อของผม ”
“ ตะวันฟังจามสิคะ เรื่องระหว่างจามกับคุณพ่อคุณแม่ไม่ยากอะไรหรอก ท่านคงไม่ว่าอะไรจามถ้าจามจะ เลือกคุณ จามจะผลักดันคุณให้คุณขึ้นไปดำรงตำแหน่งที่สูงขึ้นในบริษัทเป็นที่เกรงใจของทุกคนในบริษัท ”
“ คุณกล้าเสี่ยงที่จะยกหุ้นให้ผมหรือ ไม่กลัวว่าผมจะหักหลังคุณเอาหุ้นไปขายให้คนอื่นหรือไง มันไม่ใช่น้อยๆนะมูลค่าของมัน ”
“ ใครบอกว่าจามจะยกให้คุณเฉยๆ คุณต้องจดทะเบียนสมรสกับจามก่อน เพื่อเป็นหลักประกันของเรา ”
“ นี่ก็เท่ากับว่าผมขายตัวของผมให้กับคุณว่างั้นเถอะ ”
...พิมพ์พิลาสฒ์...
สิ้นแสงสุริยา ตอนที่ 14
“ เพราะคุณไม่เคยอยากแต่งงานกับฉัน คุณพยายามบ่ายเบี่ยงหาเหตุมาอ้างตลอด จะให้ตำแหน่งคุณก็ไม่ยอม ”
“ เพราะใครๆเขาก็รู้ว่าผมไม่มีอะไร เป็นแค่หัวหน้าฝ่ายบัญชีขืนไปแต่งงานกับคุณคุณไม่อาย ผมก็อายแล้วยังคุณพ่อของคุณอีก ท่านจะยอมหรือที่มีลูกเขยเป็นพนักงานต๊อกต๋อยอยู่ในบริษัท มันเป็นไปไม่ได้หรอกคุณจาม ”
“ แล้วถ้าคุณเป็นผู้ถือหุ้นคนหนึ่งในบริษัทล่ะ คุณจะพอใจไหม ”
“ พูดเป็นเล่น ผมไม่มีเงินไปซื้อหุ้นในบริษัทของคุณหรอก แล้วอีกอย่างใครล่ะที่จะขายหุ้นเอามาให้คนนอกอย่างผม ”
“ ก็จามนี่ไง จามจะโอนหุ้น ส่วนของจามให้คุณ แต่มีข้อแม้ว่าคุณจะต้องแต่งงานกับจาม ”
“ นี่คุณจะประสาทไปแล้วหรือ คุณจะมาโอนหุ้นให้กับผมได้อย่างไร พ่อของคุณจะได้เอาคุณตาย ”
“ หุ้นส่วนนี้เป็นของจามคุณพ่อไม่มีสิทธิ มันเป็นชื่อของจามโดยเด็ดขาด จามจะขายให้ใครก็ได้ ”
“ คุณกำลังไม่สบายใจ เราอย่าเพิ่งพูดถึงเรื่องนี้เลยนะ คุณจามคุณเชื่อใจผมสิว่าผมไม่มีใคร ยิ่งกับกุลธิดา ยิ่งเป็นไปไม่ได้กุลธิดาเขาชอบพออยู่กับหัวหน้าฝ่ายการตลาดคุณไม่รู้หรือไง ”
“ แต่จามไล่เขาออกไปแล้วนี่คะ ”
“ คุณก็ยกเลิกคำสั่งสิ ”
“ น่าเกลียดตายเดี๋ยวไล่เดี๋ยวเลิก ”
“ เอาอย่างนี้ คุณก็ให้เรขาของคุณเป็นคนไปบอก นะ คุณใจดีออก ”
ตะวันเกลี่ยผมให้หญิงสาว จามจุรีจึงยิ้มได้และยอมถอนคำสั่งไล่กุลธิดาออก
ตะวันยังไม่รู้ว่าหุ้นในส่วนที่เป็นของเขามีจำนวนเท่าไร่ และใครเป็นผู้ถือหุ้นที่สูงที่สุดไว้ในมือ ที่เขารู้แล้วคือจามจุรีถือหุ้นอยู่สิบเปอร์เซ็นต์และหุ้นของหล่อนก็คงตกถึงมือเขาไม่ยาก ตะวันไม่กล้าผลีผลามถามจำนวนหุ้นที่คณะกรรมการแต่ละคนถืออยู่ แต่จากที่เห็นเวลากรรมการที่ถือหุ้นประชุม จะมีผู้มาร่วมประชุมไม่เกินสิบคน เขาต้องพยายามหลอกถามเรื่องนี้กับจามจุรีหล่อนจะเป็นคนที่บอกเรื่องนี้ให้เขารู้
สมานกลับมาเล่าเรื่องที่เขาได้เห็นตะวันอีกให้แรมฟัง
“ แรม ข้าได้เห็นคุณสุรียาเต็มตาแล้วละ ”
“ เหรอ แล้วได้คุยกับเธอไหม ”
“ ไม่ได้คุยหรอก ข้านั่งแอบมองเธอ เธอไปหาคุณจันทร์ที่มหาวิทยาลัยอีก ไปวาดรูปให้กัน
“ เธอก็สนิทกับคุณจันทร์มากน่ะสิ ”
“ สนิท แต่ไม่รู้ว่ามากแค่ไหน นี่ข้ากำลังยุคุณจันทร์ให้เธอยอมคบกับคุณสุรียา
“ ทำไมหรือพี่ ”
“ ข้าเชื่อว่าคุณสุรียา ต้องเข้าสุรียาบดีทางคุณจันทร์แน่ ”
“ พี่หมานหมายถึง คุณหนูจะหลอกใช้คุณจันทร์อย่างนั้นหรือ ”
“ ข้าก็ไม่แน่ใจ แต่จะมีวิธีไหนแนบเนียนเท่ากับวิธีนี้ล่ะ ”
“ แต่คุณจันทร์เธอเป็นคนดีนะ พี่หมานไม่สงสารเธอหรือ ”
“ คนดีแล้วทำไม คุณสุรียาเธอเสียหายตรงไหน ”
“ ก็ ถ้าคุณหนูเธอจะล้างแค้น คุณจันทร์เธอก็รับเคราะห์ไปเต็มๆน่ะสิพี่ ”
“ หยิกเล็บมันก็ต้องเจ็บเนื้อแหระวะ ถ้าเราไม่ยอมเสียคุณจันทร์ แล้วคุณสุรียาเธอจะมีโอกาสหรือ อีกอย่างคุณหนูสุรียาเธอคงไม่ถึงกับฆ่าแกงคุณจันทร์เธอหรอกน่า ”
“ ฉันอยากเห็นคุณหนูจังเลยพี่ ”
“ เอ็งอย่าใจร้อนสิวะเรียม ตอนนี้แค่ได้รู้ว่าเธอเข้ามาใกล้พวกสุรียาบดีก็พอแล้ว เสาร์อาทิตย์หน้าข้าจะไม่กลับบ้านนะ เผื่อมีอะไรที่คุณจันทร์เธอจะออกไปไหน ข้าจะได้รู้ไง ”
“ พี่หมานแล้วคุณหนูหน้าเหมือนใครหืมม์ ”
“ เหมือนคุณท่าน สูงใหญ่ ผิวพรรณละม้ายคุณท่าน ผิวขาว ยิ่งท่าเดินของเธอเหมือนคุณท่านมาก ”
“ เหมือนนายท่านมากก็ไมดีน่ะสิ พวกนั้นมันจะสงสัยเอาได้ ”
“ คงไม่หรอกน่า ชื่อนามสกุลของเธอมีใครรู้จักซะที่ไหน ไอ้พวกนั้นถ้ามันสงสัยมันต้องสืบดู คุณหนูเธอคงไม่ประมาทให้ถึงตัวเธอหรอก ”
“ จะไปไหนน่ะลูกจันทร์ ”
นางสวาทถามลูกสาวคนเล็กเมื่อเห็นหญิงสาวสะพายกระเป๋าเตรียมจะออกไปข้างนอก
“ จะไปที่มหาวิทยาลัยค่ะ จันทร์นัดกับเพื่อนเอาไว้ ”
“ แล้วไปยังไง นายสมานกลับบ้านไม่ใช่หรือ ”
“ จันทร์นั่งแท็กซี่ไปก็ได้ค่ะ ”
“ ไม่ดีมั๊ง เดี๋ยวไปกับแม่สิ แม่จะให้คนขับรถของแม่เลยไปส่งนะ ”
“ ก็ได้ค่ะ คุณแม่จะออกไปเลยหรือเปล่าคะ ”
“ ไป จะไปเลยก็ได้ คราวหน้าถ้าลูกมีธุระอะไรก็บอกกับนายหมานให้อยู่สิจ๊ะ รู้ไหม ”
“ คุณแม่คะ จันทร์อยากไปไหนมาไหนโดยที่ไม่ต้องให้น้าหมานคอยรับคอยส่งบ้าง บางทีจันทร์ก็สงสารแก นั่งเฝ้านั่งรอจันทร์ทีเป็นวันๆ น่าเบื่อออก ”
“ เอ๊ะ ก็มันเป็นหน้าที่ของเขา แม่จ้างให้เขามาเป็นคนขับรถให้ลูก จะนานจะช้าอย่างไรเขาก็ต้องคอย ”
จันทราจึงนั่งรถมากับมารดาถึงมหาวิทยาลัย ก่อนลงจากรถนางสวาทยังหันมาสั่งลูกสาว
“ เสร็จธุระแล้วโทรบอกแม่นะ แม่จะให้ช่วงเขามารับ อย่านั่งแท็กซี่กลับเองล่ะ ”
“ ค่ะ ”
“ ไหนล่ะเพื่อนของลูก รออยู่ที่ไหน ”
จันทรามองหาตะวัน ยังไม่เห็นเขาจึงบอกมารดา
“ นัดกันไว้ตอนบ่ายโมง เดี๋ยวเขาก็คงมา ”
“ งั้นแม่ไปก่อนนะ ”
รถของมารดาขับออกไปแล้วจันทราจึงเดินไปที่สระน้ำที่เคยนั่งให้ตะวันวาดรูปให้ วันนี้เป็นวันหยุดนิสิตจึงไม่ค่อยมี จะมีก็แต่พวกที่ต้องมาทำงานส่งอาจารย์ แต่ก็ไม่กี่คน จันทราลงนั่งรอตะวันที่โคนต้นไม้ มองความร่มรื่นของร่มไม้และสระน้ำอย่างเพลินใจ ตะวันมายืนมองหญิงสาวที่นั่งคิดอะไรเพลินๆ วันนี้เธอแต่งตัวน่ารักแบบวัยรุ่น มัดผมที่ยาวเคลียไหล่เอาไว้เป็นหางม้า เขาเรียกเธอเบาๆ
“ คุณจันทร์ ”
จันทราหันมายิ้ม รอยยิ้มของเธอสดใสน่ารักรัก
“ คอยผมนานไหม ”
“ ไม่นานค่ะ ไหนล่ะคะภาพเขียนของฉัน ฉันอยากเห็นจัง ”
ตะวันลงนั่งข้างๆหยิบม้วนภาพออกมาจากถุงกระดาษส่งให้หญิงสาว จันทรารับเอามาคลี่ออกดูอย่างอยากเห็น
“ โอ สวยจังเลย คุณแต่งภาพซะจันทร์ดูสวยเชียว ”
“ ใครบอกว่าผมแต่งภาพให้สวย จริงๆแล้วคุณสวยกว่าในภาพนั่นตั้งเยอะต่างหาก ”
“ แหม คุณยอซะจันทร์เขิน ”
จันทราพูดเรื่อยๆแต่ตายังจ้องภาพเขียนอย่างถูกใจ ตะวันยิ้มอย่างสมใจ
“ คุณจะเอาไปเข้ากรอบไหม ”
“ คงไม่หรอกค่ะ ฉันยังไม่อยากตอบคำถามของคุณป้า คุณพี่ คุณรู้ไหมที่บ้านฉันน่ะ ฉันจะทำอะไรต้องอยู่ในสายตาของคนในบ้านทั้งหมด นี่ถ้ารู้ว่าฉันมาให้คุณวาดรูปให้ฉันอีก คุณคงเดือดร้อนแน่ คราวที่แล้วคุณโดนพี่จามว่าเอามากไหม ”
“ อ๋อ ก็ไม่เท่าไหร่ พวกเขาหวงคุณจังเลยนะ ”
“ ไม่ใช่หรอกค่ะ เพียงแต่ฉันเด็กที่สุดในบ้าน ก็เลยเป็นศูนย์รวมของทุกสายตา ”
“ อย่างคุณนี่เขาเรียกว่าไข่ในหินนะ ”
“ ไข่ในหิน อย่าเรียกอย่างนั้นเลยค่ะ ไม่ถูกหรอก ไข่ในหินก็ต้องทั้งรักทั้งห่วง แต่กรณีของฉันนี่แค่ห่วงมากกว่า ห่วงว่าฉันจะไม่ทันคน ห่วงว่าฉันจะถูกหลอก ”
ดูเถอะ จันทราใสซื่อ เธอเล่าให้เขาฟังเรื่อยๆเพราะไม่เคยได้พูดได้ระบายกับใคร จันทราไว้ใจเขาง่ายเพราะคิดว่าเขาคือคนของพ่อเธออีกคนหนึ่งที่จะเล่าจะคุยอะไรให้ฟังก็ได้ กับจันทราตะวันไม่ต้องใช้เล่ห์เหลี่ยมอะไรมากเขาคุยกับเธออย่างสบายๆ พ่อค้าหาบไข่ย่างเดินเข้ามาขาย ตะวันจึงถามหญิงสาว
“ กินไข่ย่างไหม ”
“ เอาสิคะ ”
ตะวันซื้อไข่ย่างหกฟอง เขาส่งถุงไข่ให้หญิงสาว
“ กินสิกำลังร้อนๆเดี๋ยวผมจะไปหาซื้อน้ำมาให้ ”
จันทราแกะเปลือกไข่อย่างไม่ค่อยชินจนกระทั่งตะวันซื้อน้ำกลับมาแล้วเธอยังปอกเปลือกไข่ไม่หมดฟอง ตะวันมองเธอยิ้มๆ
“ คุณไม่เคยกินไข่ย่างหรือ ”
“ ไม่เคยค่ะ ”
“ ทำไมล่ะ ”
“ ฉันไม่กล้าซื้อ ”
“ นี่คุณเรียนมหาวิทยาลัยปีสามจะขึ้นปีสี่แล้วนะ แค่ไข่ย่างยังไม่กล้าซื้อหรือ ”
“ ไม่ใช่อย่างนั้น ปกติฉันไม่เคยกินของจุกจิก แล้วฉันก็ไม่มีเวลามานั่งเล่น กินอะไรเล่นแบบนี้ เวลาฉันมาเรียนมาถึงก็ใกล้เวลาเข้าเรียนแล้วพอเรียนเสร็จฉันก็กลับบ้าน ของพวกนี้ฉันจะไปซื้อตอนไหนล่ะ แล้วพอฉันจะซื้ออะไรกินบ้าง น้าสมานแกก็จะคอยห้าม กลัวจะท้องเสียบ้าง กลัวจะไม่สะอาดบ้าง ”
ตะวันถอนใจ ชีวิตของจันทราไม่ติดดินเอาซะเลยเธอถูกผู้คนรอบข้างประคบประหงมเสียจนหมดโอกาสใช้ชีวิตอย่างคนทั่วไป มิน่าเธอถึงได้ไว้ใจคนง่ายเพราะการเลี้ยงดูที่ไม่ให้รู้จักโลกของความเป็นไปบ้าง เอาแต่เงินและความสะดวกสบายประเคนให้เหยื่อชิ้นนี้ของเขาจึงเป็นแค่ปลาตู้ที่ไม่มีพิษสงอะไรเลย ตะวันมองนิ้วที่เรียวยาวของเธอที่แกะเปลือกไข่ออกทีละนิด รอยแผลที่ถูกมีดบาดเอาไว้ยังแดงๆอยู่
“ คุณเลิกทำตุ๊กตาไม้แล้วหรือยัง ”
“ ยังค่ะ ก็ยังทำอยู่ เสร็จไปสองตัวแล้วแต่ไม่ได้เรื่องมันไม่ค่อยสมปะกอบ ”
ตะวันหัวเราะ
“ นับว่าคุณมีความพยายามมิใช่น้อย เอามาให้ผมดูบ้างสิ ”
“ ไม่เอาค่ะ ฉันอาย ทำกระต่ายมันก็เหมือนหนูแถมเป็นหนูที่ผอมกะหร่อง ”
“ จันทรากินไข่ตะวันเปิดกระป๋องน้ำอัดลมส่งให้หญิงสาว ทั้งสองนั่งคุยกันไปกินกันไปจนไข่หมด จันทราปัดมือแล้วล้วงหยิบโทรศัพท์ออกมา ”
“ ฉันคงต้องกลับแล้วละ ”
“ แล้วคุณจะโทรไปไหน ”
“ โทรตามคนขับรถของคุณแม่ให้มารับที่นี่ค่ะ ”
“ ให้ผมไปส่งคุณไหม ”
“ อย่าเลยค่ะ ขืนคุณไปส่งฉันคุณแม่หรือใครๆก็รู้น่ะสิว่าฉันออกมาพบกับคุณ ”
ตะวันถอนใจ จันทราไม่มีอิสระที่จะทำอะไรไปไหนมาไหนด้วยตัวเองบ้างเลยหรอ
ตะวันนั่งพิงพนักหัวเตียงหลังจากจบเกมส์พิศวาสกับจามจุรีแล้ว จามจุรีเข้าไปอาบน้ำในห้องน้ำครู่ใหญ่เธอนุ่งผ้าเช็ดตัวออกมาเดินเข้ามานั่งข้างๆเขาเอนหัวซบไหล่ของเขาอย่างเป็นสุข
“ ตะวันอาทิตย์หน้าเราไปเที่ยวภูเก็ตกันไหม ไปเช้าวันเสาร์เย็นวันอาทิตย์เราก็กลับ ”
“ ไม่ได้หรอก อาทิตย์หน้าผมต้องไปเชียงราย ”
“ ไปทำไมคะ คุณก็ย้ายมาอยู่กรุงเทพแล้วนี่ ”
“ ผมจะไปเยี่ยมเพื่อนๆและแวะไปเยี่ยมคุณล้อมเดือนด้วย ”
“ ไปเยี่ยมยายล้อม งั้นจามไม่ให้ไปนี่ตะวันยังคิดไปหาไปติดต่อกับยายล้อมอีกหรือ ”
“ คุณจาม ผมจะไปเยี่ยมใครบ้างทำไมต้องมาห้าม นี่ผมมาอยู่กรุงเทพจะครึ่งปีแล้วใจคอจะไม่ให้ผมกลับไปเยี่ยมบ้านเกิดของผมบ้างหรือไง ”
“ ก็คุณจะไปหายายล้อม ตะวันคุณบอกจามมาดีกว่าว่าคุณสนใจยายล้อมใช่ไหม ”
“ หึงไม่เข้าท่าอีกแล้วนะคุณ คุณล้อมเขาเป็นเพื่อนของคุณนะ ”
“ เพื่อน เพื่อนแล้วทำไมล้อมเขาไม่รู้นี่ว่าตะวันเป็นอะไรกับจาม ท่าทางเขาห่วงคุณจะตาย ตะวันจามไม่อยากปกปิดใครอีกแล้วนะ ”
“ ไม่อยากปกปิด คุณไม่อายใครเขาหรือไงที่มามีอะไรกับผม ในสังคม คุณน่ะหงส์ลอยฟ้า แต่ผมมันห่านลอยน้ำ ขืนคุณเปิดเผยคนเขาจะได้หัวเราะเยาะเอาน่ะสิ ”
“ ตะวันจามจะทำให้คุณเป็นหงส์แล้วเคียงคู่กับจามในสังคมอย่างสง่าผ่าเผย ”
“ คุณอย่าคิดอะไรเพ้อเจ้อไปหน่อยเลยคุณจาม พ่อแม่ของคุณไม่มีวันยอมหรอก ลูกสาวท่านรัฐมนตรีประธานกรรมการบริษัททุติยะเอ็นจิเนียรจะมาเอาพนักงานในบริษัทที่ไม่มีสกุลรุนชาติไปเป็นสามี ผมได้ถูกคุณพ่อของคุณเชือดซะก่อนจะได้เป็นหงส์น่ะสิ ”
“ เรื่องนั้นคุณไม่ต้องห่วง เพียงแค่คุณน่ะจะยอมแต่งงานกับจามไหมเท่านั้น ”
“ คุณจะทำอย่างไร ”
“ จามจะให้คุณได้เป็นกรรมการคนหนึ่งในบริษัท นี่ใกล้จะถึงการประชุมประจำปีของผู้ถือหุ้น จามจะถอนตัวออกจากการเป็นกรรมการและให้คุณเป็นแทน ”
“ ดีนะคุณ นี่คุณแยกหัวกับตัวผมออกจากกันแล้วคุณรู้ไหม ผมตายแน่ตายก่อนที่คุณจะเสนอชื่อของผม ”
“ ตะวันฟังจามสิคะ เรื่องระหว่างจามกับคุณพ่อคุณแม่ไม่ยากอะไรหรอก ท่านคงไม่ว่าอะไรจามถ้าจามจะ เลือกคุณ จามจะผลักดันคุณให้คุณขึ้นไปดำรงตำแหน่งที่สูงขึ้นในบริษัทเป็นที่เกรงใจของทุกคนในบริษัท ”
“ คุณกล้าเสี่ยงที่จะยกหุ้นให้ผมหรือ ไม่กลัวว่าผมจะหักหลังคุณเอาหุ้นไปขายให้คนอื่นหรือไง มันไม่ใช่น้อยๆนะมูลค่าของมัน ”
“ ใครบอกว่าจามจะยกให้คุณเฉยๆ คุณต้องจดทะเบียนสมรสกับจามก่อน เพื่อเป็นหลักประกันของเรา ”
“ นี่ก็เท่ากับว่าผมขายตัวของผมให้กับคุณว่างั้นเถอะ ”