สิ้นแสงสุริยา ตอนที่ 14

กระทู้สนทนา
“  ผมก็มีหัวใจนะ ทำไมคุณถึงได้คิดว่าผมไม่รักคุณล่ะ  ”
“  เพราะคุณไม่เคยอยากแต่งงานกับฉัน คุณพยายามบ่ายเบี่ยงหาเหตุมาอ้างตลอด จะให้ตำแหน่งคุณก็ไม่ยอม  ”
“  เพราะใครๆเขาก็รู้ว่าผมไม่มีอะไร เป็นแค่หัวหน้าฝ่ายบัญชีขืนไปแต่งงานกับคุณคุณไม่อาย ผมก็อายแล้วยังคุณพ่อของคุณอีก ท่านจะยอมหรือที่มีลูกเขยเป็นพนักงานต๊อกต๋อยอยู่ในบริษัท มันเป็นไปไม่ได้หรอกคุณจาม  ”
“  แล้วถ้าคุณเป็นผู้ถือหุ้นคนหนึ่งในบริษัทล่ะ คุณจะพอใจไหม  ”
“  พูดเป็นเล่น ผมไม่มีเงินไปซื้อหุ้นในบริษัทของคุณหรอก  แล้วอีกอย่างใครล่ะที่จะขายหุ้นเอามาให้คนนอกอย่างผม  ”
“  ก็จามนี่ไง จามจะโอนหุ้น ส่วนของจามให้คุณ แต่มีข้อแม้ว่าคุณจะต้องแต่งงานกับจาม  ”
“  นี่คุณจะประสาทไปแล้วหรือ คุณจะมาโอนหุ้นให้กับผมได้อย่างไร พ่อของคุณจะได้เอาคุณตาย  ”
“  หุ้นส่วนนี้เป็นของจามคุณพ่อไม่มีสิทธิ มันเป็นชื่อของจามโดยเด็ดขาด จามจะขายให้ใครก็ได้  ”
“  คุณกำลังไม่สบายใจ เราอย่าเพิ่งพูดถึงเรื่องนี้เลยนะ คุณจามคุณเชื่อใจผมสิว่าผมไม่มีใคร ยิ่งกับกุลธิดา ยิ่งเป็นไปไม่ได้กุลธิดาเขาชอบพออยู่กับหัวหน้าฝ่ายการตลาดคุณไม่รู้หรือไง  ”
“  แต่จามไล่เขาออกไปแล้วนี่คะ  ”
“  คุณก็ยกเลิกคำสั่งสิ  ”
“  น่าเกลียดตายเดี๋ยวไล่เดี๋ยวเลิก  ”
“  เอาอย่างนี้ คุณก็ให้เรขาของคุณเป็นคนไปบอก นะ คุณใจดีออก  ”

ตะวันเกลี่ยผมให้หญิงสาว จามจุรีจึงยิ้มได้และยอมถอนคำสั่งไล่กุลธิดาออก
ตะวันยังไม่รู้ว่าหุ้นในส่วนที่เป็นของเขามีจำนวนเท่าไร่ และใครเป็นผู้ถือหุ้นที่สูงที่สุดไว้ในมือ ที่เขารู้แล้วคือจามจุรีถือหุ้นอยู่สิบเปอร์เซ็นต์และหุ้นของหล่อนก็คงตกถึงมือเขาไม่ยาก ตะวันไม่กล้าผลีผลามถามจำนวนหุ้นที่คณะกรรมการแต่ละคนถืออยู่ แต่จากที่เห็นเวลากรรมการที่ถือหุ้นประชุม จะมีผู้มาร่วมประชุมไม่เกินสิบคน เขาต้องพยายามหลอกถามเรื่องนี้กับจามจุรีหล่อนจะเป็นคนที่บอกเรื่องนี้ให้เขารู้

สมานกลับมาเล่าเรื่องที่เขาได้เห็นตะวันอีกให้แรมฟัง

“  แรม ข้าได้เห็นคุณสุรียาเต็มตาแล้วละ  ”
“  เหรอ แล้วได้คุยกับเธอไหม  ”
“  ไม่ได้คุยหรอก ข้านั่งแอบมองเธอ เธอไปหาคุณจันทร์ที่มหาวิทยาลัยอีก ไปวาดรูปให้กัน
“  เธอก็สนิทกับคุณจันทร์มากน่ะสิ  ”
“  สนิท แต่ไม่รู้ว่ามากแค่ไหน นี่ข้ากำลังยุคุณจันทร์ให้เธอยอมคบกับคุณสุรียา
“  ทำไมหรือพี่  ”
“  ข้าเชื่อว่าคุณสุรียา ต้องเข้าสุรียาบดีทางคุณจันทร์แน่  ”
“  พี่หมานหมายถึง คุณหนูจะหลอกใช้คุณจันทร์อย่างนั้นหรือ  ”
“  ข้าก็ไม่แน่ใจ แต่จะมีวิธีไหนแนบเนียนเท่ากับวิธีนี้ล่ะ  ”
“  แต่คุณจันทร์เธอเป็นคนดีนะ พี่หมานไม่สงสารเธอหรือ  ”
“  คนดีแล้วทำไม คุณสุรียาเธอเสียหายตรงไหน  ”
“  ก็ ถ้าคุณหนูเธอจะล้างแค้น คุณจันทร์เธอก็รับเคราะห์ไปเต็มๆน่ะสิพี่  ”
“  หยิกเล็บมันก็ต้องเจ็บเนื้อแหระวะ ถ้าเราไม่ยอมเสียคุณจันทร์ แล้วคุณสุรียาเธอจะมีโอกาสหรือ อีกอย่างคุณหนูสุรียาเธอคงไม่ถึงกับฆ่าแกงคุณจันทร์เธอหรอกน่า  ”
“  ฉันอยากเห็นคุณหนูจังเลยพี่  ”
“  เอ็งอย่าใจร้อนสิวะเรียม ตอนนี้แค่ได้รู้ว่าเธอเข้ามาใกล้พวกสุรียาบดีก็พอแล้ว  เสาร์อาทิตย์หน้าข้าจะไม่กลับบ้านนะ เผื่อมีอะไรที่คุณจันทร์เธอจะออกไปไหน ข้าจะได้รู้ไง  ”
“  พี่หมานแล้วคุณหนูหน้าเหมือนใครหืมม์  ”
“  เหมือนคุณท่าน สูงใหญ่ ผิวพรรณละม้ายคุณท่าน ผิวขาว ยิ่งท่าเดินของเธอเหมือนคุณท่านมาก  ”
“  เหมือนนายท่านมากก็ไมดีน่ะสิ พวกนั้นมันจะสงสัยเอาได้  ”
“  คงไม่หรอกน่า ชื่อนามสกุลของเธอมีใครรู้จักซะที่ไหน ไอ้พวกนั้นถ้ามันสงสัยมันต้องสืบดู คุณหนูเธอคงไม่ประมาทให้ถึงตัวเธอหรอก  ”
“  จะไปไหนน่ะลูกจันทร์  ”

นางสวาทถามลูกสาวคนเล็กเมื่อเห็นหญิงสาวสะพายกระเป๋าเตรียมจะออกไปข้างนอก

“  จะไปที่มหาวิทยาลัยค่ะ จันทร์นัดกับเพื่อนเอาไว้  ”
“  แล้วไปยังไง นายสมานกลับบ้านไม่ใช่หรือ  ”
“  จันทร์นั่งแท็กซี่ไปก็ได้ค่ะ  ”
“  ไม่ดีมั๊ง เดี๋ยวไปกับแม่สิ แม่จะให้คนขับรถของแม่เลยไปส่งนะ  ”
“  ก็ได้ค่ะ คุณแม่จะออกไปเลยหรือเปล่าคะ  ”
“  ไป  จะไปเลยก็ได้ คราวหน้าถ้าลูกมีธุระอะไรก็บอกกับนายหมานให้อยู่สิจ๊ะ รู้ไหม  ”
“  คุณแม่คะ จันทร์อยากไปไหนมาไหนโดยที่ไม่ต้องให้น้าหมานคอยรับคอยส่งบ้าง บางทีจันทร์ก็สงสารแก นั่งเฝ้านั่งรอจันทร์ทีเป็นวันๆ น่าเบื่อออก  ”
“  เอ๊ะ  ก็มันเป็นหน้าที่ของเขา แม่จ้างให้เขามาเป็นคนขับรถให้ลูก จะนานจะช้าอย่างไรเขาก็ต้องคอย  ”

จันทราจึงนั่งรถมากับมารดาถึงมหาวิทยาลัย ก่อนลงจากรถนางสวาทยังหันมาสั่งลูกสาว

“  เสร็จธุระแล้วโทรบอกแม่นะ แม่จะให้ช่วงเขามารับ อย่านั่งแท็กซี่กลับเองล่ะ  ”
“  ค่ะ  ”
“  ไหนล่ะเพื่อนของลูก  รออยู่ที่ไหน  ”

จันทรามองหาตะวัน ยังไม่เห็นเขาจึงบอกมารดา

“  นัดกันไว้ตอนบ่ายโมง เดี๋ยวเขาก็คงมา  ”
“  งั้นแม่ไปก่อนนะ  ”

รถของมารดาขับออกไปแล้วจันทราจึงเดินไปที่สระน้ำที่เคยนั่งให้ตะวันวาดรูปให้ วันนี้เป็นวันหยุดนิสิตจึงไม่ค่อยมี จะมีก็แต่พวกที่ต้องมาทำงานส่งอาจารย์ แต่ก็ไม่กี่คน จันทราลงนั่งรอตะวันที่โคนต้นไม้ มองความร่มรื่นของร่มไม้และสระน้ำอย่างเพลินใจ ตะวันมายืนมองหญิงสาวที่นั่งคิดอะไรเพลินๆ วันนี้เธอแต่งตัวน่ารักแบบวัยรุ่น มัดผมที่ยาวเคลียไหล่เอาไว้เป็นหางม้า เขาเรียกเธอเบาๆ

“  คุณจันทร์  ”

จันทราหันมายิ้ม รอยยิ้มของเธอสดใสน่ารักรัก

“  คอยผมนานไหม  ”
“  ไม่นานค่ะ ไหนล่ะคะภาพเขียนของฉัน ฉันอยากเห็นจัง  ”

ตะวันลงนั่งข้างๆหยิบม้วนภาพออกมาจากถุงกระดาษส่งให้หญิงสาว จันทรารับเอามาคลี่ออกดูอย่างอยากเห็น

“  โอ  สวยจังเลย คุณแต่งภาพซะจันทร์ดูสวยเชียว  ”
“  ใครบอกว่าผมแต่งภาพให้สวย จริงๆแล้วคุณสวยกว่าในภาพนั่นตั้งเยอะต่างหาก  ”
“  แหม  คุณยอซะจันทร์เขิน  ”

จันทราพูดเรื่อยๆแต่ตายังจ้องภาพเขียนอย่างถูกใจ ตะวันยิ้มอย่างสมใจ

“  คุณจะเอาไปเข้ากรอบไหม  ”
“  คงไม่หรอกค่ะ ฉันยังไม่อยากตอบคำถามของคุณป้า คุณพี่ คุณรู้ไหมที่บ้านฉันน่ะ ฉันจะทำอะไรต้องอยู่ในสายตาของคนในบ้านทั้งหมด นี่ถ้ารู้ว่าฉันมาให้คุณวาดรูปให้ฉันอีก คุณคงเดือดร้อนแน่ คราวที่แล้วคุณโดนพี่จามว่าเอามากไหม  ”
“  อ๋อ  ก็ไม่เท่าไหร่ พวกเขาหวงคุณจังเลยนะ  ”
“  ไม่ใช่หรอกค่ะ เพียงแต่ฉันเด็กที่สุดในบ้าน ก็เลยเป็นศูนย์รวมของทุกสายตา  ”
“  อย่างคุณนี่เขาเรียกว่าไข่ในหินนะ  ”
“  ไข่ในหิน อย่าเรียกอย่างนั้นเลยค่ะ ไม่ถูกหรอก ไข่ในหินก็ต้องทั้งรักทั้งห่วง แต่กรณีของฉันนี่แค่ห่วงมากกว่า ห่วงว่าฉันจะไม่ทันคน ห่วงว่าฉันจะถูกหลอก  ”

ดูเถอะ จันทราใสซื่อ เธอเล่าให้เขาฟังเรื่อยๆเพราะไม่เคยได้พูดได้ระบายกับใคร จันทราไว้ใจเขาง่ายเพราะคิดว่าเขาคือคนของพ่อเธออีกคนหนึ่งที่จะเล่าจะคุยอะไรให้ฟังก็ได้ กับจันทราตะวันไม่ต้องใช้เล่ห์เหลี่ยมอะไรมากเขาคุยกับเธออย่างสบายๆ  พ่อค้าหาบไข่ย่างเดินเข้ามาขาย ตะวันจึงถามหญิงสาว

“  กินไข่ย่างไหม  ”
“  เอาสิคะ  ”

ตะวันซื้อไข่ย่างหกฟอง เขาส่งถุงไข่ให้หญิงสาว

“  กินสิกำลังร้อนๆเดี๋ยวผมจะไปหาซื้อน้ำมาให้  ”

จันทราแกะเปลือกไข่อย่างไม่ค่อยชินจนกระทั่งตะวันซื้อน้ำกลับมาแล้วเธอยังปอกเปลือกไข่ไม่หมดฟอง ตะวันมองเธอยิ้มๆ

“  คุณไม่เคยกินไข่ย่างหรือ  ”
“  ไม่เคยค่ะ  ”
“  ทำไมล่ะ  ”
“  ฉันไม่กล้าซื้อ  ”
“  นี่คุณเรียนมหาวิทยาลัยปีสามจะขึ้นปีสี่แล้วนะ แค่ไข่ย่างยังไม่กล้าซื้อหรือ  ”
“  ไม่ใช่อย่างนั้น ปกติฉันไม่เคยกินของจุกจิก แล้วฉันก็ไม่มีเวลามานั่งเล่น กินอะไรเล่นแบบนี้ เวลาฉันมาเรียนมาถึงก็ใกล้เวลาเข้าเรียนแล้วพอเรียนเสร็จฉันก็กลับบ้าน ของพวกนี้ฉันจะไปซื้อตอนไหนล่ะ แล้วพอฉันจะซื้ออะไรกินบ้าง น้าสมานแกก็จะคอยห้าม กลัวจะท้องเสียบ้าง กลัวจะไม่สะอาดบ้าง  ”

ตะวันถอนใจ ชีวิตของจันทราไม่ติดดินเอาซะเลยเธอถูกผู้คนรอบข้างประคบประหงมเสียจนหมดโอกาสใช้ชีวิตอย่างคนทั่วไป มิน่าเธอถึงได้ไว้ใจคนง่ายเพราะการเลี้ยงดูที่ไม่ให้รู้จักโลกของความเป็นไปบ้าง เอาแต่เงินและความสะดวกสบายประเคนให้เหยื่อชิ้นนี้ของเขาจึงเป็นแค่ปลาตู้ที่ไม่มีพิษสงอะไรเลย ตะวันมองนิ้วที่เรียวยาวของเธอที่แกะเปลือกไข่ออกทีละนิด รอยแผลที่ถูกมีดบาดเอาไว้ยังแดงๆอยู่

“  คุณเลิกทำตุ๊กตาไม้แล้วหรือยัง  ”
“  ยังค่ะ ก็ยังทำอยู่ เสร็จไปสองตัวแล้วแต่ไม่ได้เรื่องมันไม่ค่อยสมปะกอบ  ”

ตะวันหัวเราะ

“  นับว่าคุณมีความพยายามมิใช่น้อย เอามาให้ผมดูบ้างสิ  ”
“  ไม่เอาค่ะ ฉันอาย ทำกระต่ายมันก็เหมือนหนูแถมเป็นหนูที่ผอมกะหร่อง  ”
“  จันทรากินไข่ตะวันเปิดกระป๋องน้ำอัดลมส่งให้หญิงสาว ทั้งสองนั่งคุยกันไปกินกันไปจนไข่หมด จันทราปัดมือแล้วล้วงหยิบโทรศัพท์ออกมา  ”
“  ฉันคงต้องกลับแล้วละ  ”
“  แล้วคุณจะโทรไปไหน  ”
“  โทรตามคนขับรถของคุณแม่ให้มารับที่นี่ค่ะ  ”
“  ให้ผมไปส่งคุณไหม  ”
“  อย่าเลยค่ะ ขืนคุณไปส่งฉันคุณแม่หรือใครๆก็รู้น่ะสิว่าฉันออกมาพบกับคุณ  ”

ตะวันถอนใจ จันทราไม่มีอิสระที่จะทำอะไรไปไหนมาไหนด้วยตัวเองบ้างเลยหรอ
ตะวันนั่งพิงพนักหัวเตียงหลังจากจบเกมส์พิศวาสกับจามจุรีแล้ว จามจุรีเข้าไปอาบน้ำในห้องน้ำครู่ใหญ่เธอนุ่งผ้าเช็ดตัวออกมาเดินเข้ามานั่งข้างๆเขาเอนหัวซบไหล่ของเขาอย่างเป็นสุข

“  ตะวันอาทิตย์หน้าเราไปเที่ยวภูเก็ตกันไหม ไปเช้าวันเสาร์เย็นวันอาทิตย์เราก็กลับ  ”
“  ไม่ได้หรอก อาทิตย์หน้าผมต้องไปเชียงราย  ”
“  ไปทำไมคะ คุณก็ย้ายมาอยู่กรุงเทพแล้วนี่  ”
“  ผมจะไปเยี่ยมเพื่อนๆและแวะไปเยี่ยมคุณล้อมเดือนด้วย  ”
“  ไปเยี่ยมยายล้อม งั้นจามไม่ให้ไปนี่ตะวันยังคิดไปหาไปติดต่อกับยายล้อมอีกหรือ  ”
“  คุณจาม ผมจะไปเยี่ยมใครบ้างทำไมต้องมาห้าม นี่ผมมาอยู่กรุงเทพจะครึ่งปีแล้วใจคอจะไม่ให้ผมกลับไปเยี่ยมบ้านเกิดของผมบ้างหรือไง  ”
“  ก็คุณจะไปหายายล้อม ตะวันคุณบอกจามมาดีกว่าว่าคุณสนใจยายล้อมใช่ไหม  ”
“  หึงไม่เข้าท่าอีกแล้วนะคุณ คุณล้อมเขาเป็นเพื่อนของคุณนะ  ”
“  เพื่อน  เพื่อนแล้วทำไมล้อมเขาไม่รู้นี่ว่าตะวันเป็นอะไรกับจาม ท่าทางเขาห่วงคุณจะตาย ตะวันจามไม่อยากปกปิดใครอีกแล้วนะ  ”
“  ไม่อยากปกปิด คุณไม่อายใครเขาหรือไงที่มามีอะไรกับผม ในสังคม คุณน่ะหงส์ลอยฟ้า แต่ผมมันห่านลอยน้ำ ขืนคุณเปิดเผยคนเขาจะได้หัวเราะเยาะเอาน่ะสิ  ”
“  ตะวันจามจะทำให้คุณเป็นหงส์แล้วเคียงคู่กับจามในสังคมอย่างสง่าผ่าเผย  ”
“  คุณอย่าคิดอะไรเพ้อเจ้อไปหน่อยเลยคุณจาม พ่อแม่ของคุณไม่มีวันยอมหรอก ลูกสาวท่านรัฐมนตรีประธานกรรมการบริษัททุติยะเอ็นจิเนียรจะมาเอาพนักงานในบริษัทที่ไม่มีสกุลรุนชาติไปเป็นสามี ผมได้ถูกคุณพ่อของคุณเชือดซะก่อนจะได้เป็นหงส์น่ะสิ  ”
“  เรื่องนั้นคุณไม่ต้องห่วง เพียงแค่คุณน่ะจะยอมแต่งงานกับจามไหมเท่านั้น  ”
“  คุณจะทำอย่างไร  ”
“  จามจะให้คุณได้เป็นกรรมการคนหนึ่งในบริษัท นี่ใกล้จะถึงการประชุมประจำปีของผู้ถือหุ้น จามจะถอนตัวออกจากการเป็นกรรมการและให้คุณเป็นแทน  ”
“  ดีนะคุณ นี่คุณแยกหัวกับตัวผมออกจากกันแล้วคุณรู้ไหม ผมตายแน่ตายก่อนที่คุณจะเสนอชื่อของผม  ”
“  ตะวันฟังจามสิคะ  เรื่องระหว่างจามกับคุณพ่อคุณแม่ไม่ยากอะไรหรอก ท่านคงไม่ว่าอะไรจามถ้าจามจะ  เลือกคุณ จามจะผลักดันคุณให้คุณขึ้นไปดำรงตำแหน่งที่สูงขึ้นในบริษัทเป็นที่เกรงใจของทุกคนในบริษัท  ”
“  คุณกล้าเสี่ยงที่จะยกหุ้นให้ผมหรือ ไม่กลัวว่าผมจะหักหลังคุณเอาหุ้นไปขายให้คนอื่นหรือไง มันไม่ใช่น้อยๆนะมูลค่าของมัน  ”
“  ใครบอกว่าจามจะยกให้คุณเฉยๆ คุณต้องจดทะเบียนสมรสกับจามก่อน เพื่อเป็นหลักประกันของเรา  ”
“  นี่ก็เท่ากับว่าผมขายตัวของผมให้กับคุณว่างั้นเถอะ  ”




...พิมพ์พิลาสฒ์...
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่