สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 5
ไอ้แคมเปญ #DontJudgeChallenge ในโซเชี่ยลเน็ทเวิร์คต่างๆเนี่ย มันมีที่มาจากคลิปอันนี้ ที่ทำโดยบล๊อคเกอร์ความงามชาวต่างชาติ
เขาอัดคลิปประมาณว่าตอนหน้าสดๆไม่มีเมคอัพ หน้าเธอสิวเขรอะเบย
แล้วก็มีประโยคคำพูดที่สื่อว่าคนที่เห็นหน้าของเธอตอนสิวเขรอะต่างวิจารณ์เธอว่าหน้าตาน่าเกลียด อั๊กลี่ อะเฟร่ด เธอก็เลยเมคอัพแต่งหน้าออกมาจนสวยเช้ง แน่นอนว่าเสียงวิจารณ์ภายนอกที่เคยด่าเธอว่าน่าเกลียด กลับกลายเป็นคำชมที่บอกว่าเธอสวยจังเบย
บล๊อคเกอร์ความงามคนนี้ก็ตั้งคำถามว่า สิ่งนี้เป็นเรื่องที่ถูกต้องแล้วงั้นหรือ สุดท้ายแล้วสิ่งที่คนชื่นชมว่างดงามไม่ใช่ตัวตนของเธอ แต่เป็นการประทินผิวที่เธอบรรจงทำเป็นชั่วโมงต่างหาก แล้ววันรุ่งขึ้นถ้าเธอตื่นขึ้นมาล้างหน้าไม่มีเมคอัพมีแต่หนังหน้าสดๆ คนจะยังชื่นชมว่าเธอสวยอีกมั้ย
ตอนท้ายคลิป บล๊อคเกอร์คนนี้ก็ปาดเอาเครื่องสำอางของตัวเองออกจนหมด เหลือแต่หนังหน้าที่ปราศจากการเมคอัพ เพื่อสื่อว่า ความงามของคนเกิดจากภายใน ไม่ได้เกิดจากเครื่องสำอางหรือความงามภายนอกใดๆทั้งสิ้น
https://www.youtube.com/watch?v=WWTRwj9t-vU
ที่มาจากเพจดราม่า
https://www.facebook.com/DramaAdd/posts/10153517047498291
เขาอัดคลิปประมาณว่าตอนหน้าสดๆไม่มีเมคอัพ หน้าเธอสิวเขรอะเบย
แล้วก็มีประโยคคำพูดที่สื่อว่าคนที่เห็นหน้าของเธอตอนสิวเขรอะต่างวิจารณ์เธอว่าหน้าตาน่าเกลียด อั๊กลี่ อะเฟร่ด เธอก็เลยเมคอัพแต่งหน้าออกมาจนสวยเช้ง แน่นอนว่าเสียงวิจารณ์ภายนอกที่เคยด่าเธอว่าน่าเกลียด กลับกลายเป็นคำชมที่บอกว่าเธอสวยจังเบย
บล๊อคเกอร์ความงามคนนี้ก็ตั้งคำถามว่า สิ่งนี้เป็นเรื่องที่ถูกต้องแล้วงั้นหรือ สุดท้ายแล้วสิ่งที่คนชื่นชมว่างดงามไม่ใช่ตัวตนของเธอ แต่เป็นการประทินผิวที่เธอบรรจงทำเป็นชั่วโมงต่างหาก แล้ววันรุ่งขึ้นถ้าเธอตื่นขึ้นมาล้างหน้าไม่มีเมคอัพมีแต่หนังหน้าสดๆ คนจะยังชื่นชมว่าเธอสวยอีกมั้ย
ตอนท้ายคลิป บล๊อคเกอร์คนนี้ก็ปาดเอาเครื่องสำอางของตัวเองออกจนหมด เหลือแต่หนังหน้าที่ปราศจากการเมคอัพ เพื่อสื่อว่า ความงามของคนเกิดจากภายใน ไม่ได้เกิดจากเครื่องสำอางหรือความงามภายนอกใดๆทั้งสิ้น
https://www.youtube.com/watch?v=WWTRwj9t-vU
ที่มาจากเพจดราม่า
https://www.facebook.com/DramaAdd/posts/10153517047498291
ความคิดเห็นที่ 6
อืม เราก็เคยเกลียดแคมเปญนี้มาก เพราะตอนแรกเราดูแค่คลิปวิดีโอของชาวเวียดนามคนหนึ่งที่แต่งหน้าเละๆ เติมสิว เขียนคิ้วให้ดูน่าเกลียด จากนั้นก็... ปิ้งง กลายเป็นคนสวยไปเลย ตอนแรกที่เราดูเราไม่รู้สึกอะไร คิดว่าคงเป็นการเรียกร้องความสนใจไปก็แค่นั้น แต่พอหลังๆเห็นคนแชร์คลิปประมาณนี้บ่อยขึ้น ไม่ได้มีแค่คนเดียว
แต่มีเป็นร้อยๆ ซึ่งเราทนดูสองสามคลิปแล้วก็หยุดเลย เพราะมันเป็นการ "เหยียดหยาม" ที่รุนแรงอย่างหนึ่ง การที่ให้คนเฟคแต่งหน้าทาปากเละๆ แล้วสุดท้ายก็เฟคแต่งหน้าทาปากให้มันสวยๆ มันเรียกว่าดีตรงไหน มันช่วยให้คนที่หน้าตาหน้าเกลียดจริงๆรู้สึกดีขึ้นจริงๆรึเปล่า ก็ไม่ นอกเสียนี่คือกระแสโชว์ความสวยความหล่อตัวเอง นี่ไม่ว่าจริงๆ
ซึ่งโชคดีจริงๆที่เราได้มาอ่านที่มาที่ไปของชาเลนจ์นี้ เพราะมันทำให้เราคิดอะไรได้หลายๆอย่าง คือคนที่คิดชาเลนจ์นี้เขาไม่ได้มีเจตนาร้ายเลย แต่ยังสะท้อนให้เห็นถึงสังคมหน้ากากแห่งความที่มองผู้คนจากผิวเผิน ความทะเยอทะยานที่ไร้คุณค่าแต่กลายเป็นค่านิยมของวัยรุ่น ผู้ใหญ่ในอนาคต ความสวยความหล่อที่มีค่ามากกว่าความรู้และปัญญา กลายเป็นใบเบิกทางแห่งความรุ่งโรจน์ และคลิปที่ทำต่อๆมาพวกนี้ก็ไม่ต่างกันเลย มันทำให้เราตีความได้ในหลายๆแง่
แต่เราไม่ได้มองคนหน้าตาดีเป็นโง่นะ พวกเขาไม่ได้ตั้งใจให้เป็นแบบนี้ ก็เหมือนที่พวกเราคนหน้าตาไม่ดีก็ไม่ได้ตั้งใจให้เกิดมาเป็นแบบนี้เช่นกัน มันไม่มีทางเลือก แต่เราไม่อยากให้คนหน้าตาไม่ดีถูกมองอย่างรังเกียจ เหมือนสัตว์ประหลาด ไม่ใช่เหมือนคน โอเค สัตว์ทุกชนิดล้วนอยากได้พ่อพันธุ์แม่พันธุ์ที่สมบูรณ์แบบที่สุดเพื่อการสืบพันธุ์อยู่ แต่มนุษย์เราต่างจากสัตว์โดยสิ้นเชิง เพราะพวกเรามีปัญญา ที่จะใช้พิจารณาถึงจิตใจว่ามีความดีมากน้อยเพียงไหน ไม่ใช่แค่การตัดสินจากผิวหนังที่หุ้มกระดูกเหมือนสัตว์แบบนี้ ถูกไหม
แต่มีเป็นร้อยๆ ซึ่งเราทนดูสองสามคลิปแล้วก็หยุดเลย เพราะมันเป็นการ "เหยียดหยาม" ที่รุนแรงอย่างหนึ่ง การที่ให้คนเฟคแต่งหน้าทาปากเละๆ แล้วสุดท้ายก็เฟคแต่งหน้าทาปากให้มันสวยๆ มันเรียกว่าดีตรงไหน มันช่วยให้คนที่หน้าตาหน้าเกลียดจริงๆรู้สึกดีขึ้นจริงๆรึเปล่า ก็ไม่ นอกเสียนี่คือกระแสโชว์ความสวยความหล่อตัวเอง นี่ไม่ว่าจริงๆ
ซึ่งโชคดีจริงๆที่เราได้มาอ่านที่มาที่ไปของชาเลนจ์นี้ เพราะมันทำให้เราคิดอะไรได้หลายๆอย่าง คือคนที่คิดชาเลนจ์นี้เขาไม่ได้มีเจตนาร้ายเลย แต่ยังสะท้อนให้เห็นถึงสังคมหน้ากากแห่งความที่มองผู้คนจากผิวเผิน ความทะเยอทะยานที่ไร้คุณค่าแต่กลายเป็นค่านิยมของวัยรุ่น ผู้ใหญ่ในอนาคต ความสวยความหล่อที่มีค่ามากกว่าความรู้และปัญญา กลายเป็นใบเบิกทางแห่งความรุ่งโรจน์ และคลิปที่ทำต่อๆมาพวกนี้ก็ไม่ต่างกันเลย มันทำให้เราตีความได้ในหลายๆแง่
แต่เราไม่ได้มองคนหน้าตาดีเป็นโง่นะ พวกเขาไม่ได้ตั้งใจให้เป็นแบบนี้ ก็เหมือนที่พวกเราคนหน้าตาไม่ดีก็ไม่ได้ตั้งใจให้เกิดมาเป็นแบบนี้เช่นกัน มันไม่มีทางเลือก แต่เราไม่อยากให้คนหน้าตาไม่ดีถูกมองอย่างรังเกียจ เหมือนสัตว์ประหลาด ไม่ใช่เหมือนคน โอเค สัตว์ทุกชนิดล้วนอยากได้พ่อพันธุ์แม่พันธุ์ที่สมบูรณ์แบบที่สุดเพื่อการสืบพันธุ์อยู่ แต่มนุษย์เราต่างจากสัตว์โดยสิ้นเชิง เพราะพวกเรามีปัญญา ที่จะใช้พิจารณาถึงจิตใจว่ามีความดีมากน้อยเพียงไหน ไม่ใช่แค่การตัดสินจากผิวหนังที่หุ้มกระดูกเหมือนสัตว์แบบนี้ ถูกไหม
แสดงความคิดเห็น
Don't Judge Challenge รณรงค์ไม่ตัดสินแต่คุณก็ตัดสินไปแล้ว...?
เป็นแคมเปญที่รณรงค์ให้คนรุ่นใหม่ ไม่ตัดสินคนอื่นจากภายนอก
แต่ส่วนใหญ่คนที่อัดคลิปเนี่ย ก็ตัดสินไปแล้วจากการแต่งหน้าปลอมๆ ว่าคนที่มีสิว คิ้วไม่สวย ฟันหลอเก ฯลฯ เนี่ย น่าเกลียด
จะต้องล้างออก เอาออกไปซะ เพื่อที่จะได้ดูสวย ดูดี...
จริงๆแล้ว แคมเปญนี้ ต้องการสื่อว่า
คนเรามักจะคิดว่าคุณค่าของตัวเรานั้น มาจากคนอื่นๆที่คอยตัดสินเรา ว่าเราดูดี ดูหล่อ ดูสวย ดูเพอร์เฟ็ค
แต่ว่าจริงๆแล้วการเห็นคุณค่าของตนเองเนี่ย มันมาจากความมั่นใจในตัวเองที่เรามี
ให้ภูมิใจ มั่นใจในตัวเอง และมีความสุขกับตัวตนที่ตัวเองเป็น
โดยที่ไม่ต้องคำนึงถึงว่ารูปร่างหน้าตาของเราจะเป็นอย่างไร
เพราะคนทุกคน ดูดี สวย หล่อ ในแบบที่ตัวเองเป็นกันอยู่แล้ว
จึงไม่จำเป็นจะต้องให้ใครมาตัดสินว่าเราสวยหรือขี้เหล่
แต่มันกลับผิดเพี้ยน กลายเป็นคนที่มีหน้าตาดีๆอยู่แล้ว
ดันมาแต่งหน้าหลอกว่าตัวเองมีสิว ฟันหลอ คิ้วไม่สวย ฯลฯ
พอล้างหน้าออก ก็แต่งหน้าทำผมใหม่ เก๊กสวยเก๊กหล่อให้ตัวเองดูดีจากตอนแรกซะงั้น
แล้วคนที่เห็นก็เข้าไปชมว่า สวยๆๆๆ หล่อๆๆๆ
ในขณะที่คนที่เขามีสิว ฟันหลอ คิ้วไม่สวย ฯลฯ จริงๆเนี่ย
ก็เหมือนโดนล้อเลียน โดนตอกย้ำว่าคนที่มีเนี่ย เป็นคนที่ไม่สวย ตลก ขี้เหล่ น่าเกลียด
มันผิดจุดประสงค์ที่ต้องการจะสื่อไปเลย
ฝากถึงใครก็ตามที่อยากจะทำ แล้วกำลังคิดที่จะแต่งหน้าปลอมๆอย่างว่า
อยากจะบอกว่าไม่ต้องแต่งหน้าปลอมๆอะไรทั้งนั้น
แค่ใช้หน้าสด หน้าที่เป็นธรรมชาติโดยไม่มีเครื่องสำอางของตัวเองนั่นแหละ
อย่าเอาแต่ตามกระแสหรือคิดว่าทำแล้วมันจะตลก เพราะคุณกำลังทำร้ายความรู้สึกของคนอื่นอยู่
ปล. tag ห้องไหนผิดขออภัยนะคะ