สวัสดีค่ะ พอดีไปอ่านกระทู้นึงเรื่องโรคจิตแล้วนึกถึงเรื่องของตัวเองที่เคยเจอมาหนักๆสองรอบในชีวิต
สองครั้งก็เป็นช่วงมหาลัยทั้งคู่แล้วก็เป็นช่วงที่อยู่คนเดียว ไม่ค่อยมีคนค่ะ ลองเอามาเล่าให้ฟังเผื่อใครเจอเหตุการณ์คล้ายๆแบบนี้ต่อไปในอนาคตจะได้หลบเลี่ยงหรือหาวิธีป้องกันตัวไว้นะคะ
ครั้งแรกที่เจอกับตัวจังๆคือตอนกำลังรอรถตู้ค่ะ ช่วงตอนอยู่ปี1 ตรงป้ายปากเกร็ดฝั่งตรงข้ามกับเมเจอร์เลย เวลาประมาณเกือบๆเที่ยงพอดีวันนั้นมีเรียนคาบบ่ายเลยออกมาจากบ้านช่วงก่อนสักสองชั่วโมง เรายืนรอรถตู้จะไปมหาลัย แถวนั้นไม่ค่อยมีคนเท่าไรทั้งที่ธรรมดาคนจะชุกชมค่อนข้างตลอด ก็ยืนรออยู่ไม่ถึงสิบนาที รถตู้ผ่านมาก็มีแต่คนดันเต็มหมดแล้ว เราก็รอต่อไป ตอนนั้นสังเกตเห็นว่ามีผู้ชายคนนึงใส่ชุดเหมือนนักเรียนทหารอากาศ เครื่องแบบสีน้ำเงินเข้มๆ หน้าตาธรรมดาดูไม่เหมือนพวกโรคจิตหรืออะไร เรายืนอยู่ไม่ไกลมากแต่เห็นที่หางตาเหมือนเขาพึมพำๆพูดอะไรอยู่แต่มองมาทางเรา คือเราจับใจความไม่ได้ว่าเขาต้องการจะสื่ออะไร พูดๆแล้วเริ่มเดินมาใกล้เราก็ขยับเดินไปที่อื่น ไม่คิดว่าจะตามมา ไม่รู้ตัวเลยค่ะว่ามายืนอยู่ข้างหลังตั้งแต่เมื่อไร รู้สึกตัวอีกทีก็เหมือนโดนอะไรเหนียวๆป้ายที่น่องขาด้านหลัง (เราใส่กระโปรงพลีทเลยเข่าลงมาประมาณสามสี่นิ้ว) ตอนนั้นคือตกใจแล้วรีบเอามือจับชายกระโปรงปาดมันทิ้งไปเลย คือรู้แล้วว่ามันคืออะไรที่แปลกปลอมแล้วหันไปมองปรากฎว่าไอ้ผู้ชายคนนั้นยืนยิ้มอยู่ข้างหลังค่ะ เราขนลุกซู่พูดอะไรไม่ออก ตอนนั้นโชคดีที่มีรถเมล์ที่จำได้ว่าผ่านแถวๆมหาลัยมาพอดีเราเลยรีบโดดขึ้นแบบไม่คิดอะไรเลย ตอนขึ้นมาเราก็ยังเห็นมันยืนยิ้มอยู่ค่ะ คือขนลุกมาก นี่ตรูเจอโรคจิตเข้าให้แล้วสินะ...
ตอนนั่งอยู่บนรถเมล์เราก็พยายามตรวจสอบตัวเองค่ะว่ามึนมั้ยวูบมั้ย? เพราะยังไม่รู้ว่าไอ้ที่โดนป้ายมามันคืออะไร ในกระเป๋ามีกระดาษเปียกเช็ดมืออยู่เลยรีบเช็ดมันรัวๆด้วยความขยะแขยง มันไม่มีสีด้วยเลยมานั่งนึก บางทีมันอาจเป็น 'น้ำลาย' รึเปล่า? เหมือนอยากจะแกล้งเราให้ตกใจมั้ง แต่คือพอคิดแล้วขนลุกมากค่ะ 5555 สุดท้ายรถเมล์ที่เรานั่งมันก็ไม่ผ่านแถวมหาลัยเราค่ะ สุดท้ายเลยต้องลงจากรถแล้วขึ้นแท็กซี่ไปเรียนทั้งที่ฝนตกอยู่ดี เฮ้อ ชีวิต orz
รอบที่ 2 ที่เจอนี่หนักกว่าค่ะ อยู่มหาลัยน่าจะประมาณปี 2 รึ ปี 3 นี่ล่ะค่ะ กำลังนั่งรถกลับจากบ้านเพื่อน ขึ้นรถตู้เหมือนกัน วันนั้นคนแทบไม่มีเลย เรานั่งอยูที่เบาะแถวที่ 4 นับจากแถวคนขับเลยค่ะ นั่งชิดกระจกฝั่งขวามือ แล้วแถวหลังจากเราไปก็ไม่มีคนนั่งเลย เบาะด้านข้างเราก็ว่างค่ะ เรานั่งฟังเพลงเสียบหูฟังอยู่ไม่ได้มองอะไรใครเท่าไรรู้แค่รถคันนี้แถวหลังเราไม่มีคนนั่งมีแต่คนข้างหน้าเราทั้งนั้น จนกระทั่งรถจอดอยู่ที่ป้ายนึง มีผู้ชายคนนึงผมยาวๆดูเซอร์ๆ ถือบอร์ดไม้อัดที่ไว้ใช้รองกระดาษวาดเขียนขึ้นมาด้วยแล้วนั่งลงที่เบาะข้างๆเราค่ะ เราก็เฉยไม่ได้คิดอะไร นั่งเล่นโทรศัพท์อยู่ แล้วไม่รู้ว่าผ่านไปกี่นาทีมันก็เริ่มขยับค่ะ ดึงซิปกางเกงตัวเองลงแล้วควักไอ้นั่นออกมา..ก่อนจะทำการบรรเลงขยับข้อมืออย่างเมามันโดยใช้บอร์ดนั่นตั้งปิดไว้ทางด้านซ้ายเพื่อไม่ให้คนอื่นเห็น (คือมันจะให้เราเห็นนั่นแหละค่ะ) ตอนนั้นนี่ช็อคมาก แบบ เฮ้ย? จริงดิ? เอาอีกแล้วหรอวะ ทำไมต้องกรู๊!! TT_TT แล้วมันก็บังเอิ๊ยบังเอิญไม่มีคนขึ้นมาด้านหลังเราเลยค่ะ เราพยายามหันมองหาความช่วยเหลือก็พบแต่ความว่างเปล่า เบาะด้านหน้าก็ไม่ได้สนใจ เราไม่รู้จะทำยังไง คืออยากตะโกนด่าหรือทำอะไรสักอย่างที่ทำให้มันอายค่ะ แต่เราก็ไม่กล้า ยอมรับว่าปอด 55555 แต่ก็ไม่ได้แสดงสีหน้าว่ากลัวหรืออะไร เราแนบหัวอยู่กับกระจกแล้วเอาโทรศัพท์ขึ้นมาพิมพ์พยายามทำเป็นไม่มองไม่สนค่ะ มันก็ทำๆหยุดๆเวลารถจอดมีคนขึ้นลงค่ะ รู้สึกว่ามันช่างเป็นทริปการเดินทางที่ย๊าวยาว น้ำตาจะไหล... สุดท้ายรถจอดมันเห็นเราทำเฉยไม่ได้ตกใจไม่ได้กลัวเลยตัดสินใจซิปกางเกงแล้วเผ่นลงป้ายไปค่ะ อยากจะบ้าตาย สุดท้ายเราก็ถึงที่หมายด้วยความมึน เพราะเอาแต่เพ่งจองโทรศัพท์นานๆทำเอาปวดหัวไปเลย
แล้วจากนั้นก็ไม่เจออีกค่ะ หลังๆมาขับรถเองแล้วเลยไม่ต้องขึ้นรถสาธารณะลดอัตราการเจอคนพวกนี้น้อยลงไปด้วย แต่ยังไงก็จะระวังตัวให้ดี
เพื่อนๆมีประสบการณ์โรคจิตๆอะไรที่เจอมาบ้างมาแชร์กันค่ะ
สาวๆหนุ่มๆ เคยเจอโรคจิตประเภทไหนกันบ้างคะมาลองแชร์ประสบการณ์กันดู
สองครั้งก็เป็นช่วงมหาลัยทั้งคู่แล้วก็เป็นช่วงที่อยู่คนเดียว ไม่ค่อยมีคนค่ะ ลองเอามาเล่าให้ฟังเผื่อใครเจอเหตุการณ์คล้ายๆแบบนี้ต่อไปในอนาคตจะได้หลบเลี่ยงหรือหาวิธีป้องกันตัวไว้นะคะ
ครั้งแรกที่เจอกับตัวจังๆคือตอนกำลังรอรถตู้ค่ะ ช่วงตอนอยู่ปี1 ตรงป้ายปากเกร็ดฝั่งตรงข้ามกับเมเจอร์เลย เวลาประมาณเกือบๆเที่ยงพอดีวันนั้นมีเรียนคาบบ่ายเลยออกมาจากบ้านช่วงก่อนสักสองชั่วโมง เรายืนรอรถตู้จะไปมหาลัย แถวนั้นไม่ค่อยมีคนเท่าไรทั้งที่ธรรมดาคนจะชุกชมค่อนข้างตลอด ก็ยืนรออยู่ไม่ถึงสิบนาที รถตู้ผ่านมาก็มีแต่คนดันเต็มหมดแล้ว เราก็รอต่อไป ตอนนั้นสังเกตเห็นว่ามีผู้ชายคนนึงใส่ชุดเหมือนนักเรียนทหารอากาศ เครื่องแบบสีน้ำเงินเข้มๆ หน้าตาธรรมดาดูไม่เหมือนพวกโรคจิตหรืออะไร เรายืนอยู่ไม่ไกลมากแต่เห็นที่หางตาเหมือนเขาพึมพำๆพูดอะไรอยู่แต่มองมาทางเรา คือเราจับใจความไม่ได้ว่าเขาต้องการจะสื่ออะไร พูดๆแล้วเริ่มเดินมาใกล้เราก็ขยับเดินไปที่อื่น ไม่คิดว่าจะตามมา ไม่รู้ตัวเลยค่ะว่ามายืนอยู่ข้างหลังตั้งแต่เมื่อไร รู้สึกตัวอีกทีก็เหมือนโดนอะไรเหนียวๆป้ายที่น่องขาด้านหลัง (เราใส่กระโปรงพลีทเลยเข่าลงมาประมาณสามสี่นิ้ว) ตอนนั้นคือตกใจแล้วรีบเอามือจับชายกระโปรงปาดมันทิ้งไปเลย คือรู้แล้วว่ามันคืออะไรที่แปลกปลอมแล้วหันไปมองปรากฎว่าไอ้ผู้ชายคนนั้นยืนยิ้มอยู่ข้างหลังค่ะ เราขนลุกซู่พูดอะไรไม่ออก ตอนนั้นโชคดีที่มีรถเมล์ที่จำได้ว่าผ่านแถวๆมหาลัยมาพอดีเราเลยรีบโดดขึ้นแบบไม่คิดอะไรเลย ตอนขึ้นมาเราก็ยังเห็นมันยืนยิ้มอยู่ค่ะ คือขนลุกมาก นี่ตรูเจอโรคจิตเข้าให้แล้วสินะ...
ตอนนั่งอยู่บนรถเมล์เราก็พยายามตรวจสอบตัวเองค่ะว่ามึนมั้ยวูบมั้ย? เพราะยังไม่รู้ว่าไอ้ที่โดนป้ายมามันคืออะไร ในกระเป๋ามีกระดาษเปียกเช็ดมืออยู่เลยรีบเช็ดมันรัวๆด้วยความขยะแขยง มันไม่มีสีด้วยเลยมานั่งนึก บางทีมันอาจเป็น 'น้ำลาย' รึเปล่า? เหมือนอยากจะแกล้งเราให้ตกใจมั้ง แต่คือพอคิดแล้วขนลุกมากค่ะ 5555 สุดท้ายรถเมล์ที่เรานั่งมันก็ไม่ผ่านแถวมหาลัยเราค่ะ สุดท้ายเลยต้องลงจากรถแล้วขึ้นแท็กซี่ไปเรียนทั้งที่ฝนตกอยู่ดี เฮ้อ ชีวิต orz
รอบที่ 2 ที่เจอนี่หนักกว่าค่ะ อยู่มหาลัยน่าจะประมาณปี 2 รึ ปี 3 นี่ล่ะค่ะ กำลังนั่งรถกลับจากบ้านเพื่อน ขึ้นรถตู้เหมือนกัน วันนั้นคนแทบไม่มีเลย เรานั่งอยูที่เบาะแถวที่ 4 นับจากแถวคนขับเลยค่ะ นั่งชิดกระจกฝั่งขวามือ แล้วแถวหลังจากเราไปก็ไม่มีคนนั่งเลย เบาะด้านข้างเราก็ว่างค่ะ เรานั่งฟังเพลงเสียบหูฟังอยู่ไม่ได้มองอะไรใครเท่าไรรู้แค่รถคันนี้แถวหลังเราไม่มีคนนั่งมีแต่คนข้างหน้าเราทั้งนั้น จนกระทั่งรถจอดอยู่ที่ป้ายนึง มีผู้ชายคนนึงผมยาวๆดูเซอร์ๆ ถือบอร์ดไม้อัดที่ไว้ใช้รองกระดาษวาดเขียนขึ้นมาด้วยแล้วนั่งลงที่เบาะข้างๆเราค่ะ เราก็เฉยไม่ได้คิดอะไร นั่งเล่นโทรศัพท์อยู่ แล้วไม่รู้ว่าผ่านไปกี่นาทีมันก็เริ่มขยับค่ะ ดึงซิปกางเกงตัวเองลงแล้วควักไอ้นั่นออกมา..ก่อนจะทำการบรรเลงขยับข้อมืออย่างเมามันโดยใช้บอร์ดนั่นตั้งปิดไว้ทางด้านซ้ายเพื่อไม่ให้คนอื่นเห็น (คือมันจะให้เราเห็นนั่นแหละค่ะ) ตอนนั้นนี่ช็อคมาก แบบ เฮ้ย? จริงดิ? เอาอีกแล้วหรอวะ ทำไมต้องกรู๊!! TT_TT แล้วมันก็บังเอิ๊ยบังเอิญไม่มีคนขึ้นมาด้านหลังเราเลยค่ะ เราพยายามหันมองหาความช่วยเหลือก็พบแต่ความว่างเปล่า เบาะด้านหน้าก็ไม่ได้สนใจ เราไม่รู้จะทำยังไง คืออยากตะโกนด่าหรือทำอะไรสักอย่างที่ทำให้มันอายค่ะ แต่เราก็ไม่กล้า ยอมรับว่าปอด 55555 แต่ก็ไม่ได้แสดงสีหน้าว่ากลัวหรืออะไร เราแนบหัวอยู่กับกระจกแล้วเอาโทรศัพท์ขึ้นมาพิมพ์พยายามทำเป็นไม่มองไม่สนค่ะ มันก็ทำๆหยุดๆเวลารถจอดมีคนขึ้นลงค่ะ รู้สึกว่ามันช่างเป็นทริปการเดินทางที่ย๊าวยาว น้ำตาจะไหล... สุดท้ายรถจอดมันเห็นเราทำเฉยไม่ได้ตกใจไม่ได้กลัวเลยตัดสินใจซิปกางเกงแล้วเผ่นลงป้ายไปค่ะ อยากจะบ้าตาย สุดท้ายเราก็ถึงที่หมายด้วยความมึน เพราะเอาแต่เพ่งจองโทรศัพท์นานๆทำเอาปวดหัวไปเลย
แล้วจากนั้นก็ไม่เจออีกค่ะ หลังๆมาขับรถเองแล้วเลยไม่ต้องขึ้นรถสาธารณะลดอัตราการเจอคนพวกนี้น้อยลงไปด้วย แต่ยังไงก็จะระวังตัวให้ดี
เพื่อนๆมีประสบการณ์โรคจิตๆอะไรที่เจอมาบ้างมาแชร์กันค่ะ