ดีจ้า ว่าที่เจ้าสาว และ เจ้าสาว ทั้งหลาย มันนึกครึ้มไปเอาอัลบั้ม Pre-Wedding มาดู แล้วมันอยากแชร์อะไรให้ฟัง มันมีทั้งเครียด เสียใจ ตื้นตันใจ และขอบคุณหลายๆคน และ หลายๆเหตุการณ์มาก คนทั่วไปไม่รู้หรอก เพื่อนๆ ยังไม่รู้เลย 5555 ถ้าได้อ่าน คงรู้วันนี้ล่ะ
เราแต่งงานมา 7 ปีแล้วนะ ..... 7 ปีที่แล้ว ตอนจะแต่งงาน มันคืออะไร ผู้หญิงมันงงๆนะ ไม่รู้เป็นเหมือนกันป่าว? คือ ปกติ เป็นคนเซอร์ๆ หน้าไม่แต่ง แต่งหน้าไม่เป็น นั่งหน้าคอมฯ ทำงาน Graphic ไปเรื่อยๆ ที่ โรงเรียนนานาชาติแห่งหนึ่ง
ตอนนั้นแฟนก็ทำงานอีกที่หนึ่ง พอจะแต่งงาน ก็ต้องเตรียมงานสิ...มันคืออะไร ยังไง
คือ เราไม่เคยแต่งอะ แล้วมันต้องทำยังไงมั่ง? รู้แค่ว่า
1. ต้องมีการ์ดเชิญ
2. สถานที่แต่งงาน
3. ชุดแต่งงาน
4. คิดว่าน่าจะต้องมี ถ่ายรูป Pre-Wedding ปะ ที่เวลาเดินห้าง จะเห็นเขามาออกบู้ท แล้วก็ลากๆๆๆ คนที่เดินมาเป็นคู่ๆ เชียร์ แพ็คเกจ โน่นนี่
เราคิดได้แค่นี้ ไม่ได้อยากให้ ใหญ่โต อะไร เชื่อปะ แค่คิดแค่นี้นะ ก็ มโนถึง งบประมาณ ต่างๆนานา จะเอาเงินจากไหนนิ ไม่อยากเป็นหนี้ หลังงานแต่งนะ (พอดี มีหลายคู่บอกว่า ขาดทุนอยู่แล้ว ทุกคู่แหละ...เอิ่มม.. คือกลัว ไม่พร้อมจะเป็นหนี้ค่ะ เราพวก พอเพียง ไม่ใช่ดารา ไม่ใช่ไฮโซ)
ส่วนปัญหา ก็มีมาเป็นระยะค่ะ
เรื่องความเชื่อ และ ศาสนา อันนี้ งง มาก ณ เวลานั้น บ้านเราเป็นพุธ บ้านทางแม่สามีเป็นอิสลาม พ่อสามีเป็นพุธ เราเป็นคริสเตียน สามีคืออะไรก็ได้
อันนี้ และดูจะเครียดที่สุดไม่รู้จะเอาไง (ขออนุญาติ ผู้อ่านทุกท่าน Comment อย่างสุภาพนะคะ เพราะหลังจากนี้ กลัว มีบางท่าน ของขึ้น แต่เรื่องมันนาน มาแล้ว ไม่มันจบไปค่ะ ^-^)
ประเด็นแรก เอิ่ม... ทำพิธีอะไรล่ะนี่
เรากะว่า ไม่ต้องวุ่นวายหรอก ก็จัดงานเลี้ยง ตอนกลางคืน จบ
แต่แม่เรา บอก ไม่ได้ ต้องมีพิธี
คือ ตอนนั้น พิธีพุธ เราก็ไม่เอา พิธีอสลาม เราก็ไม่เอา ถ้าจะมีพิธี เราอยากได้แบบคริส แต่ .....
คริสเตียน เป็นกลุ่ม ที่เคร่งมาก โดยเฉพาะ เรื่องการแต่งงาน ห้ามแต่งกับ คนที่ไม่ใช่คริสเตียน (นี่คือ โบสถ์ที่เราอยู่ ณ ตอนนั้น) ระหว่างเตรียมงาน จึงไม่มี คนจากทาง คริสเตียน มาช่วยเรา แม้แต่คนเดียว คือ ไม่มี จนวันงาน กลุ่มเพื่อนคริสเตียนก็ไม่มีมา (มีพี่ 2 ท่านมา แต่ไม่ใช่กลุ่มที่สนิทกัน)
พ่อเรา บอกว่า "เพื่นที่โบสถ์มีมาป่าว"
เรา "ไม่มาค่ะ"
พ่อ "ดูไว้ เวลาคนอื่นเดือนร้อน พ่อเห็นเราไปช่วยเขาได้ ดึกๆดื่นๆ ช่วยมาตลอด หลายปี แล้วดูเอานะ วันนี้ เขาไม่มาร่วมงาน จำไว้นะ ว่าใคร คือคนที่รักเรา"
บอกเลย วันงานแต่งวันนั้น แอบเศร้าลึกๆ เพราะมัน "เจ็บ" และ "จำ" พ่อพูดสั้นๆ และ เราก็เงียบไป
กลับมาที่ การเตรียมงาน 5555 (ไม่ต้องเครียดตามนะ ฟังต่อๆ)
***ทางโบสถ์เราไม่จัดให้น่ะสิ เขามีระบบของเขา
พอเราไปแจกการ์ด ผู้ใหญ่ในนั้น ก็ รับแบบ รับไปอย่างนั้น เออ จะว่าไงดี มีคนนึง เหมือน"แช่ง"กลับมาด้วยอ้ะ ตอนนั้น คือ น้ำตาตกใน หน้าชา เพราะไม่คิดว่า คนที่เราเคารพ จะพูดจาแบบนี้ออกมาได้ไง(วะ) เขาบอกว่า ไม่มีทางได้ดีหรอก! (ด้วยน้ำเสียงอันดัง และมั่นใจ หน้าโบสถ์เลยจ้า /(*.*)\
แน่นอน ไม่มีความร่วมมือจากทางโบสถ์เรา แต่เราจัดพิธี ในโบสถ์นะ แต่เป็น โบสถ์ คาทอลิค เพราะเราทำงาน โรงเรียน นานาชาติ ที่เป็น คาทอลิค
บอกเลย ซึ้งมาก คิดแล้ว น้ำตาจะไหลตลอด
เราเข้าไปปรึกษา Father ชราท่านหนึ่ง ที่เราทำงานด้วย ท่านเมตตามาก ท่านงง ว่า ทำไม ทางโบสถ์เราไม่จัดให้ แต่ท่านดีมาก ไม่ว่าอะไรใคร แต่ ช่วยเรา จัดเตรียมงานทุกอย่าง ทั้งวันซ้อม วันจริง .....พระเจ้า! คนที่ช่วยเรา คือคนที่ เราไม่ได้คาดหวัง อยากจะบอกความน่ารัก ของ Father ชราท่านนี้มาก
ท่านเตรียม บาทหลวงร่วมให้ จองวันให้ ถามเราว่า พิธีไหน ที่เราทำได้ และทำไม่ได้ เขาจะให้เราข้ามไป ไม่ต้องทำ ขนาด วันงานตอนเช้า คนที่เราจ้างมาจัดดอกไม้ คือตามงบอ้ะ ไม่ฟูมาก มันคือ ดอกไม้ที่ติดตามเก้าอี้ในโบสถ์ คาทอลิก เป็นทางยาวจากประตูไป ที่บัลลังค์(ไม่รู้เรียกถูกไหมนะคะ) คือ Father เห็นแล้ว คือ ไม่ฟูมั๊งคะ ท่านเลยเข้าไป คุ้ยๆๆหาริบบิ้น สีชมพูสวยมาก มาติดดอกไม้ทุกช่อ ตามแนวเก้าอี้ เราไม่เห็น แต่ พี่ๆเดินมาบอกอ้ะ น้ำตาจิไหล
TuT ส่วนเรื่อง คนพูดนำ คนร้องเพลง คนเล่นเปียโน ก็คือ เพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ที่ทำงานเลย... ไม่ได้พวกเธอ พี่จะเศร้ามาก 5555 ^^
กลับมาที่การเตรียมงาน
***ได้พิธีเช้าแล้ว แม่เรา OK แต่กังวล ทางคุณยาย ว่าจะยังไง ต้องขอบคุณคุณ คุณแม่สามี ที่ให้เกียรติเรามากๆ เพราะเขาไปคุยกับคุณยายแล้วว่า คงไม่มีพิธีทางอิสลามนะ ซึ่งเราไม่ได้อะไรมาก ก่อนแต่งก็มีไปพบญาติเขา ได้ใส่ชุด คล้ายๆชุดแต่งงานมุสลิม แต่วันนั้นแค่เป็นวันกินข้าวรวมญาติ หรือ อะไรสักอย่างค่ะ ชุดสวยดี เราดูเข้ากับชุดมากเลยอ่า ^^
***มาดูฤกษ์ ค่าาา คุณพ่อบอก ต้อง 11 มิ.ย. คือ ว่า เราไปจอง โรงแรม 21 มิ.ย. เอาไงดี เลยบอก เป็นจดทะเบียน 11 มิ.ย. แล้วกัน คุณพ่อ OK
ก็นึกว่า ไปจดที่เขต อ้าว... ไม่ใช่แค่ไปจดเฉยๆละ เป็นเรื่องราวนิสนึง
มีพานสินสอด มี คุณตาคุณยาย มีญาติมา และ มีเจ้าหน้าที่ มาให้จดทะเบียนที่บ้านเลย แล้วก็ให้เราไปซื้อ ผ้าขนหนูห่อของขวัญมา
คุณแม่บอกว่า มันคือ การไหว้ผู้ใหญ่ รับไหว้ผู้ใหญ่...อ่อๆๆๆ ไม่รู้ประเพณีจริงๆ เพราะทางบ้านสามี คือ ไม่รู้พิธีการเหมือนกัน (ตอนเขาแต่งงาน ปัญหาเยอะกว่าเราอีกอะ ^^')
เดี๋ยวมาต่อนะ
ประสบการณ์เตรียมงานแต่งงาน ครบรส น้ำตา รอยยิ้ม มาหมด
เราแต่งงานมา 7 ปีแล้วนะ ..... 7 ปีที่แล้ว ตอนจะแต่งงาน มันคืออะไร ผู้หญิงมันงงๆนะ ไม่รู้เป็นเหมือนกันป่าว? คือ ปกติ เป็นคนเซอร์ๆ หน้าไม่แต่ง แต่งหน้าไม่เป็น นั่งหน้าคอมฯ ทำงาน Graphic ไปเรื่อยๆ ที่ โรงเรียนนานาชาติแห่งหนึ่ง
ตอนนั้นแฟนก็ทำงานอีกที่หนึ่ง พอจะแต่งงาน ก็ต้องเตรียมงานสิ...มันคืออะไร ยังไง
คือ เราไม่เคยแต่งอะ แล้วมันต้องทำยังไงมั่ง? รู้แค่ว่า
1. ต้องมีการ์ดเชิญ
2. สถานที่แต่งงาน
3. ชุดแต่งงาน
4. คิดว่าน่าจะต้องมี ถ่ายรูป Pre-Wedding ปะ ที่เวลาเดินห้าง จะเห็นเขามาออกบู้ท แล้วก็ลากๆๆๆ คนที่เดินมาเป็นคู่ๆ เชียร์ แพ็คเกจ โน่นนี่
เราคิดได้แค่นี้ ไม่ได้อยากให้ ใหญ่โต อะไร เชื่อปะ แค่คิดแค่นี้นะ ก็ มโนถึง งบประมาณ ต่างๆนานา จะเอาเงินจากไหนนิ ไม่อยากเป็นหนี้ หลังงานแต่งนะ (พอดี มีหลายคู่บอกว่า ขาดทุนอยู่แล้ว ทุกคู่แหละ...เอิ่มม.. คือกลัว ไม่พร้อมจะเป็นหนี้ค่ะ เราพวก พอเพียง ไม่ใช่ดารา ไม่ใช่ไฮโซ)
ส่วนปัญหา ก็มีมาเป็นระยะค่ะ
เรื่องความเชื่อ และ ศาสนา อันนี้ งง มาก ณ เวลานั้น บ้านเราเป็นพุธ บ้านทางแม่สามีเป็นอิสลาม พ่อสามีเป็นพุธ เราเป็นคริสเตียน สามีคืออะไรก็ได้
อันนี้ และดูจะเครียดที่สุดไม่รู้จะเอาไง (ขออนุญาติ ผู้อ่านทุกท่าน Comment อย่างสุภาพนะคะ เพราะหลังจากนี้ กลัว มีบางท่าน ของขึ้น แต่เรื่องมันนาน มาแล้ว ไม่มันจบไปค่ะ ^-^)
ประเด็นแรก เอิ่ม... ทำพิธีอะไรล่ะนี่
เรากะว่า ไม่ต้องวุ่นวายหรอก ก็จัดงานเลี้ยง ตอนกลางคืน จบ
แต่แม่เรา บอก ไม่ได้ ต้องมีพิธี
คือ ตอนนั้น พิธีพุธ เราก็ไม่เอา พิธีอสลาม เราก็ไม่เอา ถ้าจะมีพิธี เราอยากได้แบบคริส แต่ .....
คริสเตียน เป็นกลุ่ม ที่เคร่งมาก โดยเฉพาะ เรื่องการแต่งงาน ห้ามแต่งกับ คนที่ไม่ใช่คริสเตียน (นี่คือ โบสถ์ที่เราอยู่ ณ ตอนนั้น) ระหว่างเตรียมงาน จึงไม่มี คนจากทาง คริสเตียน มาช่วยเรา แม้แต่คนเดียว คือ ไม่มี จนวันงาน กลุ่มเพื่อนคริสเตียนก็ไม่มีมา (มีพี่ 2 ท่านมา แต่ไม่ใช่กลุ่มที่สนิทกัน)
พ่อเรา บอกว่า "เพื่นที่โบสถ์มีมาป่าว"
เรา "ไม่มาค่ะ"
พ่อ "ดูไว้ เวลาคนอื่นเดือนร้อน พ่อเห็นเราไปช่วยเขาได้ ดึกๆดื่นๆ ช่วยมาตลอด หลายปี แล้วดูเอานะ วันนี้ เขาไม่มาร่วมงาน จำไว้นะ ว่าใคร คือคนที่รักเรา"
บอกเลย วันงานแต่งวันนั้น แอบเศร้าลึกๆ เพราะมัน "เจ็บ" และ "จำ" พ่อพูดสั้นๆ และ เราก็เงียบไป
กลับมาที่ การเตรียมงาน 5555 (ไม่ต้องเครียดตามนะ ฟังต่อๆ)
***ทางโบสถ์เราไม่จัดให้น่ะสิ เขามีระบบของเขา
พอเราไปแจกการ์ด ผู้ใหญ่ในนั้น ก็ รับแบบ รับไปอย่างนั้น เออ จะว่าไงดี มีคนนึง เหมือน"แช่ง"กลับมาด้วยอ้ะ ตอนนั้น คือ น้ำตาตกใน หน้าชา เพราะไม่คิดว่า คนที่เราเคารพ จะพูดจาแบบนี้ออกมาได้ไง(วะ) เขาบอกว่า ไม่มีทางได้ดีหรอก! (ด้วยน้ำเสียงอันดัง และมั่นใจ หน้าโบสถ์เลยจ้า /(*.*)\
แน่นอน ไม่มีความร่วมมือจากทางโบสถ์เรา แต่เราจัดพิธี ในโบสถ์นะ แต่เป็น โบสถ์ คาทอลิค เพราะเราทำงาน โรงเรียน นานาชาติ ที่เป็น คาทอลิค
บอกเลย ซึ้งมาก คิดแล้ว น้ำตาจะไหลตลอด
เราเข้าไปปรึกษา Father ชราท่านหนึ่ง ที่เราทำงานด้วย ท่านเมตตามาก ท่านงง ว่า ทำไม ทางโบสถ์เราไม่จัดให้ แต่ท่านดีมาก ไม่ว่าอะไรใคร แต่ ช่วยเรา จัดเตรียมงานทุกอย่าง ทั้งวันซ้อม วันจริง .....พระเจ้า! คนที่ช่วยเรา คือคนที่ เราไม่ได้คาดหวัง อยากจะบอกความน่ารัก ของ Father ชราท่านนี้มาก
ท่านเตรียม บาทหลวงร่วมให้ จองวันให้ ถามเราว่า พิธีไหน ที่เราทำได้ และทำไม่ได้ เขาจะให้เราข้ามไป ไม่ต้องทำ ขนาด วันงานตอนเช้า คนที่เราจ้างมาจัดดอกไม้ คือตามงบอ้ะ ไม่ฟูมาก มันคือ ดอกไม้ที่ติดตามเก้าอี้ในโบสถ์ คาทอลิก เป็นทางยาวจากประตูไป ที่บัลลังค์(ไม่รู้เรียกถูกไหมนะคะ) คือ Father เห็นแล้ว คือ ไม่ฟูมั๊งคะ ท่านเลยเข้าไป คุ้ยๆๆหาริบบิ้น สีชมพูสวยมาก มาติดดอกไม้ทุกช่อ ตามแนวเก้าอี้ เราไม่เห็น แต่ พี่ๆเดินมาบอกอ้ะ น้ำตาจิไหล
TuT ส่วนเรื่อง คนพูดนำ คนร้องเพลง คนเล่นเปียโน ก็คือ เพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ที่ทำงานเลย... ไม่ได้พวกเธอ พี่จะเศร้ามาก 5555 ^^
กลับมาที่การเตรียมงาน
***ได้พิธีเช้าแล้ว แม่เรา OK แต่กังวล ทางคุณยาย ว่าจะยังไง ต้องขอบคุณคุณ คุณแม่สามี ที่ให้เกียรติเรามากๆ เพราะเขาไปคุยกับคุณยายแล้วว่า คงไม่มีพิธีทางอิสลามนะ ซึ่งเราไม่ได้อะไรมาก ก่อนแต่งก็มีไปพบญาติเขา ได้ใส่ชุด คล้ายๆชุดแต่งงานมุสลิม แต่วันนั้นแค่เป็นวันกินข้าวรวมญาติ หรือ อะไรสักอย่างค่ะ ชุดสวยดี เราดูเข้ากับชุดมากเลยอ่า ^^
***มาดูฤกษ์ ค่าาา คุณพ่อบอก ต้อง 11 มิ.ย. คือ ว่า เราไปจอง โรงแรม 21 มิ.ย. เอาไงดี เลยบอก เป็นจดทะเบียน 11 มิ.ย. แล้วกัน คุณพ่อ OK
ก็นึกว่า ไปจดที่เขต อ้าว... ไม่ใช่แค่ไปจดเฉยๆละ เป็นเรื่องราวนิสนึง
มีพานสินสอด มี คุณตาคุณยาย มีญาติมา และ มีเจ้าหน้าที่ มาให้จดทะเบียนที่บ้านเลย แล้วก็ให้เราไปซื้อ ผ้าขนหนูห่อของขวัญมา
คุณแม่บอกว่า มันคือ การไหว้ผู้ใหญ่ รับไหว้ผู้ใหญ่...อ่อๆๆๆ ไม่รู้ประเพณีจริงๆ เพราะทางบ้านสามี คือ ไม่รู้พิธีการเหมือนกัน (ตอนเขาแต่งงาน ปัญหาเยอะกว่าเราอีกอะ ^^')
เดี๋ยวมาต่อนะ