สวัสดีครับทุกท่าน

หลังจากที่เดินทางไปหลายที่ ท่องเที่ยวมาหลายปี
ได้รับข้อมูลมากมายจากการรีวิวหลายๆท่าน จึงอยากนำข้อมูลที่มีมาแชร์กันบ้าง

สำหรับครั้งนี้(ครั้งแรก) ขออนุญาตพาทุกท่านไปที่เขาใหญ่กันครับ

ที่นี่.... .

ที่   Escape Khao Yai



ขอเกริ่นก่อนนะครับ ผมไปครั้งนี้เตรียมตัวไม่นานเพราะมีงานด่วน
รูปทั้งหมดถ่ายจาก Ipad mini และแต่งภาพโทนสีตามใจคนแต่ง
อาจไม่โดนใจกันบ้าง ขออภัยมานะที่นี้ด้วยนะครับ (โดยเฉพาะรูปเมื่อไม่มีแสงจะเบลอสุดๆ)

และรูปมีไม่มาก เน้น รีวิวห้องพักซะส่วนใหญ่นะครับ

เมื่อทำใจได้แล้วตามมาเลยครับ >>>>>>



เริ่มจากแผนกต้อนรับ ถามแขกตั้งแต่หน้าประตูว่าชื่ออะไร

แล้วพนักงานจะพาไป check-in
เวลาที่ check-in ได้ตามที่ระบุใน Agoda คือ 14.00 น.

การเดินทางมาไม่ยาก หลายท่านที่เคยไปเขาใหญ่คงรู้จักร้าน daily home เข้าซอยนั้นแหละครับ ขับชิวๆไปไม่มากไม่มายสิบกว่าโลได้ และสามารถไปทะลุออกถนนธนรัชต์เลย(เส้นปาลิโอ้)


โรงแรมเราอยู่กลางหุบเขาเลย มีป้ายบอกตลอดทางให้อุ่นใจ
แต่ข้อเสียคือมันติดถนน ทำให้มีรถวิ่งไปวิ่งมาบ้าง แต่ไม่มากครับมันไม่ใช่เส้นหลัก

         __________________________________________________________________________________________




นี่คือ ส่วนหนึ่งของตึกของโรงแรม
มีทั้งหมดสองตึก กับอีกหนึ่งชุด pool villa

แต่ละตึกจะมี สี่ชั้น  ชั้นละ 6 ห้องเท่านั้น



หลังจากมีรถกอล์ฟมาส่งเราที่ตึก (ซึ่งถ้าเดินไม่กี่ก้าวก็ถึง) และวนแนะนำทุกส่วนของโรงแรมทั้งสปา ฟิตเนส สระน้ำ
ขึ้นมาก็ตกใจเล็กน้อย จากตึกภายนอกดูเหมือนว่าแต่ละชั้นจะมีหลายห้อง

แต่ขึ้นมามีหกห้องเอง

ครั้งนี้ เราได้อยู่ชั้น 3



ภาพระเบียงด้านหนึ่งซึ่งมองไปจะมีห้องหนึ่งอยู่ข้างนอก ด้านในประตูมีอีกสองห้อง



และเนื่องจากเป็นระเบียงแบบทางเดียว ไม่มีห้องฝั่งตรงข้าม ทุกห้องจึงได้วิวที่ระเบียงห้อง เหมือนๆกัน


         __________________________________________________________________________________________




ประตูห้องของเรา



และนี่คือเตียง  น่านอนจังเลยยย

ในส่วนของห้องนี้ จองมาแบบ Deluxe Room ขนาดประมาณ 26 ตารางเมตร(เท่านั้น)
ห้องของเราเป็นแบบที่มากที่สุดของที่นี่
ยังมีแบบ Deluxe เตียง king size ซึ่งเป็นห้องมุม ขนาดใหญ่กว่าของเราหน่อย
และแบบ Pool Villa อีกจำนวนหนึ่ง ไม่มากไม่มายนับๆดู 5-6 ห้องเท่านั้นเอง



ส่วนของรายละเอียดแต่ละห้องแต่ละชั้น จะแบ่งเป็น อีก 4 ประเภท
1.Wood
2.Earth
3.Floral
4.Florest

ของเราเป็น Floral ซึ่งใจจริงแล้วตอนจองผ่าน agoda ไม่สามารถระบุห้องได้
เราก็รอลุ้นกัน สุดท้ายก็ได้มาสมใจ โดยที่ยังไม่ได้บอกใครเลยว่าอยากได้ โชคดีจริงๆ(ที่จริงผมลืมระบุที่ front เพราะมัวแต่วุ่นๆ)

รายละเอียดของแต่ละห้องจะต่างกันไปตามโทนสี ของตกแต่ง กลิ่นเฉพาะในห้อง และเสียงเพลง(ผมชอบอันนี้มากๆ)

อยากทราบรายละเอียดแต่ละห้องสามารถดูได้จากเว็บ http://www.escape-hotel.com/khaoyai/th/ ได้เลยครับ


สภาพเตียง และหัวเตียง
เค้าจัดหมอนมาเต็มจริงๆ นี่ยังไม่รวมหมอนสำรองในตู้อีก 2 ใบนะครับ



เตียงโดยรวมไม่ใหญ่มาก จะเห็นว่าทีวีปลายเตียง แทบจะติดเตียง สำหรับผู้ที่ชอบวิ่งเล่นในห้องไม่แนะนำครับ

และขนาดห้องก็มีแค่นี้ มีโซฟาเล็กๆข้างหลังผมอีกนิด

สำหรับห้องเป็นสไตล์คอนโด แบบถนัดของแสนสิริ แม้จะไม่ใหญ่มาก แต่ทุกอย่างครบและลงตัวจริงๆ ครับ



ภาพตกแต่งสวย เข้ากับบรรยากาศห้องสุดๆ



ที่นี่มี ทีวี 32 นิ้ว ที่ช่องมีไม่มาก(แต่เราไม่ได้มาดูทีวีกันนี่นะ) จึงมี เครื่องเล่น DVD มาให้ด้วย(เราก็ไม่ได้มานอนดูหนังกันนี่นะ แต่ผมก็ดู ก่อนนอน ฮ่าา)



และนี่คือ.... Highlight ของห้องที่นี่       "ลำโพงไม้จามจุรี"



เมื่อเปิดประตูเข้ามาสัมผัสแรกคือกลิ่น สัมผัสที่สองคือเสียงเพลงจากลำโพงนี้
มันทำให้ห้องนี้ดูน่าพักผ่อนจริงๆ เพลง Blossa (ของห้อง Floral) ทำให้อารมณ์ที่วุ่นๆเหนื่อยของผม ผ่อนคลายได้ทันที

อยากขโมยกลับไปจัง เสียงมันเพราะมากกกกกก (ก.ไก่ ล้านตัว)



แขกกิตติมศักดิ์ของเราในทริปนี้



แม้ห้องจะเล็ก แต่เราก็มีระเบียงส่วนตัวนะ



วิวเขาฝั่งตรงข้ามก็ชิวไปอีกแบบ




กลางคืนนั่งดูดาวได้ แต่กลางวันอาจจะร้อนไปหน่อยสำหรับการนั่งชิว



วิวจากระเบียงของเรา
มองเห็นแผนกต้อนรับ Lobby และห้องอาหารหลักของที่นี่ 'Green Oak' ที่ชั้น 2



วิวอีกฝั่งจะเห็นฟิตเนสใต้อาคารที่เป็นแอ่งน้ำ ยังมีสปาอีกแห่งที่อยู่ใต้นั้น(ซึ่งเราไม่ได้ไปถายมาเลยครับ สปาก็ปิดปรับปรุงอยู่)
มีสระว่ายน้ำถัดออกไป จะอยู่หน้าตึกที่สองเลย และที่เห็นไกลๆนั่น คอนโดอื่นๆ



กลับเข้ามาดูในห้องกันต่อ หลังจากเห็นบริเวณห้องไปแล้ว อีกส่วนจะเป็นทางเดินไปห้องน้ำ
มีตู้เย็น ตู้เก็บของ ตู้เสื้อผ้า และห้องน้ำ



นี่ครับตู้เย็น มีน้ำให้สองขวดเล็ก มีกาต้มน้ำไฟฟ้าอยู่ด้วย



ในตู้เสื้อผ้า



มีถุงต่างๆและไดร์เป่าผม



มาถึงส่วนสำคัญของห้องนี้อีกส่วน คือ ห้องน้ำ
ที่ผมบอกว่าสำคัญเพราะ มันคงสำคัญจริงๆละ เค้าถึงทำมาใหญ่เกือบเท่าห้องนอนเลย
เดินเข้าไปนี่หมุนตัวได้สบายๆ



อ่างล้างหน้า สำหรับที่นี่มีผ้าให้ใช้สามขนาด



อุปกรณ์ต่างๆข้างอ่างล้างหน้า มี Hand wash และ Body lotion ด้วย ซึ่งตาม Concept มันจึงมีกลิ่นธรรมชาติและสมุนไพร



โซนอาบน้ำ(โซนเปียก) อยู่ด้านใน มีตั้งแต่ฝักบัวหัวใหญ่ Rain Shower และอ่างอาบน้ำ



ฝักบัวใหญ่เกือบเท่า Rain shower อยู่แระ ตอนใช้นึกว่าเปิด Rain Shower เหอะ



อุปกรณ์อาบน้ำข้างๆ ก็กลิ่นสมุนไพรเช่นกัน



อีกมุมนึง



รายละเอียดห้องเราครับ ^^



อยู่ดีๆผม ก็อยากได้รองเท้าแตะของที่นี่ซะงั้น มันดู Minimal ดี



เมื่อเห็นใบนี้ แผนการขโมยลำโพงไม้จึงต้องพับเก็บไปก่อน ราคานี่ เท่าห้องพักเลย





เราออกมาดูข้างนอกกันบ้าง ตอนนี้อะไรก็สวย แม้แต่บันไดหนีไฟ(เพลงมันกล่อมผมอยู่หมัดจริงๆ)




ภาพของคอนโด 23 degree ด้านหลังของโรงแรม มีคนเข้าอยู่กันบ้างแล้ว



ป้ายบอกทางระหว่างตึกทั้งสอง



ทางเดินหน้าตึก ไปสู่สระว่ายน้ำ ฟิตเนส และสปา (และ pool villa)



สระว่ายน้ำของเรา กว้างขวางพอสมควร




มีเตียงริมสระ และบาร์ที่จะเปิดตอนค่ำๆ



มุมนี้จะเห็นตึกทั้งหมดของโรงแรม



และนี่คือ ห้อง Pool Vila สำหรับคนชอบพูลแบบ Private ที่นี่อาจจะไม่เหมาะเท่าไหร่
เพราะ สระของห้องหันมาเจอกับสระใหญ่นี้ และคาดว่าคนที่ตึกสองด้านบนก็จะมองลงมาเห็นสระในห้องอยู่เหมือนกัน



ตัดภาพมาตอนค่ำ หลังจากผมกลับมาจากการตะลอนทัวร์เขาใหญ่




ห้องอาหาร Green Oak ในตอนค่ำ สวยดี คนทานเยอะอยู่เหมือนกัน คงไม่อยากออกไปไหนไกล
เป็นห้องอาหารหลักได้ทุกมื้อ รวมถึงอาหารเช้าก็ทานที่นี่ (ผมไม่ได้รีวิวนะครับ เพราะได้ทานแป๊ปเดียวจริงๆ)




Lobby ตอนค่ำๆ




ภาพวิวในยามค่ำคืนของโรงแรม จะเห็นว่ามีกองไฟด้วยนะ



ฟู่วๆๆ เปลวไฟ จากกองไฟกลางโรงแรมสวยดี เหมือนมาตั้งแคมป์รอบกองไฟยังไงไม่รู้



กลับมาที่สระน้ำอีกที มาเล่นน้ำ นอนแช่น้ำดูดาวกลางหุบเขา

บาร์เปิดแล้ว เล็กๆน่ารัก แต่งได้สวยดี




แสงไฟมัน วิ๊งวับ ฟรุ๊งฟริ๊ง มุ๊งมิ้ง ดีจุงเบย ชอบมาก



ขอลากันด้วยภาพสุดท้ายนะครับ ว่าจะไม่บอกเบอร์ห้องแล้วนะ เดี๋ยวมีคนตามมาเคาะห้อง ฮี่ๆ

ผิดพลาดประการใด ติ ชม บอกกล่าวกันได้ครับ

ฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะครับทุกท่าน
Little SalMon