จากกระทู้จีบสาวโลกส่วนตัวสูง
http://ppantip.com/topic/33885312 ทำให้นึกได้ว่า เมื่อเร็วๆนี้ แฟนเก่าผม ทำคู่มือทำความเข้าใจผม ให้กับแฟนใหม่ ที่กำลังจะแต่งงานกัน ตอนนั้นน้องแม่นฯก็คิดนะ ชีวิตกรุแม่ม อยู่ด้วยอยากขนาดนี้เลยหรอวะ แต่ถามว่าอะไรบ้าง บอกตรงๆ ไม่อ่าน เยอะไป 555
ทีนี้เลยอยากลองบรรยายดูครับ เผื่อใครสนใจจะจีบคนโลกส่วนตัวสูง จะได้เข้าใจ
1. โลกส่วนตัวคืออะไร = แปลตรงๆตัว ก็คือ มีโลกที่เค้าวาดไว้ของเค้าขึ้นมาเอง (เมิงจะแปลทำไม) แต่ ตรงนี้สำคัญนะครับ เพราะคนที่มีโลกส่วนตัวจะสร้างโลกใบนั้นขึ้นมายังไง มันก็ขึ้นอยู่กับ ประสบการณ์หรือสิ่งที่เค้าผ่านมา รวมกับความรู้ ความคิด การศึกษา ทั้งหมดนั่นจะมารวมกันเป็นนิสัยของคนๆนั้น ซึ่งเป็นกรอบความคิดที่ใช้อ้างอิงในหลายๆอย่าง เช่น การดำเนินชีวิต การตัดสินใจ ฯลฯ
2. วิธีที่จะเข้าไปในชีวิตของคนแบบนี้ หรือ วิธีจีบนั่นแหละ รวมทั้งการใช้ชีวิตเมื่อคบกันแล้วด้วย แต่ผมอยากให้ตรองดูจริงๆว่า คุณรับถ้าแค่ไหนถ้า เวลาจีบเนี่ย เข้าไปยากแล้ว แต่อยู่ให้รอดเนี่ย ยากกว่าครับ ถามตัวเองให้แน่ใจก่อนจริงๆ
อาการที่ว่ามานี้ ผมจะเอาตามที่นึกออกแล้วกันนะครับ
- แฟนคุณพูดน้อย ถึงมีปัญหาแล้วคุณอยากให้พูด เค้าก็จะบอกว่าไม่มีอะไร แต่จริงๆมี
- ไม่ชอบพูดมาก ในหลายๆครั้ง เราเลือกที่จะเขียน หรือ พิมพ์ เพราะมันบรรยายได้เต็มที่ ใช้ความคิดเรียบเรียงก่อน แก้ไขลำดับความสำคัญของสิ่งที่ต้องการจะสื่อได้ และที่สำคัญ เก็บไว้ให้คนที่ต้องการจะเข้าใจอ่านได้หลายๆครั้ง ไม่เหมือนกับการพูด เพราะเราไม่ชอบพูดบ่อยๆ
- คุณไม่สามารถตามตื้อ หรือให้เค้ามาอ้อนคุณอยู่ตลอดเวลาได้ เพราะ เค้าจะแฮปปี้กับชีวิตของเค้า เพราะโดยส่วนใหญ่แล้ว คนพวกนี้ จะมีชีวิตเต็ม 100 เพราะฉะนั้น เค้าจะไม่ค่อยหาคนมาเติมเต็ม แต่ชีวิตเค้าเต็มพอแล้ว เค้ามีความสุขอยู่กับตัวเอง หรือ สิ่งที่เค้ารักได้ ถ้าคุณจะต้องการเข้ามา คุณก็ต้องทำตัวให้เป็น อีก 1 อย่างที่เค้ารักให้ได้ แล้วเค้าถึงจะรักคุณมากๆเหมือนได้เรื่องแปลกๆที่เค้ารักนั่นแหละ
- เค้าไม่อยู่ในกรอบของคุณ แต่เค้าเลือกจะอยู่ในกรอบของเค้าเอง
- ไม่เก่งในการเข้าสังคม เพราะ เราจะมั่นใจในสิ่งที่เรารู้จักดี แต่ถ้าอะไรที่เราไม่แน่ใจ เราจะวางตัวเป็นกลาง นิ่งๆ สังเกต เก็บข้อมูล แล้ววิเคราะห์ว่าควรจะทำอย่างไรกับสังคมนั้น ซึ่งถ้าความชอบคล้ายๆกัน อาจจะทำให้อะไรๆง่ายขึ้น แต่ถ้าขัดกับความชอบและสิ่งที่เราเป็นแล้ว ให้ไปรอในส้วมยังดีซะกว่างครับ เช่น ถ้าเกิดมีงานปาร์ตี้ของแฟนคลับพี่เล็ก Greasy ถึงเราจะไม่รู้จักกัน แต่จะมีอะไรบางอย่างที่ชอบเหมือนกัน คุยกันได้ ละลายพฤติกรรม ทำให้เราเข้าสังคมตรงนั้นได้แบบไม่อึดอัด
แต่กลับกัน เกิดให้ไปนั่งกับกลุ่มเพื่อนแฟนที่ไม่เคยเจอกันเลย ไม่รู้จักกันมาก่อน แล้วยังนิสัยคนละแบบ ความชอบคนละขั้ว แบบนี้ แนะนำว่า อย่าพาไปโดยเด็ดขาด แอนตี้ยันวันตายครับ ถ้าอยากพาไป ต้องค่อยๆทำเหมือนการรับน้อง ละลายพฤติกรรม ค่อยๆให้รู้จักทีละเล็กทีละน้อย แล้วค่อยพาเข้าสังคมที่ต้องการจะง่ายกว่าเยอะครับ
- เงียบ ไม่ค่อยพูด โดยเฉพาะในที่ใหม่ๆ กลุ่มใหม่ๆ แต่ เราจะเป็นคนปกติ ในหมู่คนที่เราสนิท เพราะว่า ถึงเราจะเข้าสังคมไม่เก่ง แต่ถ้าเราได้ยอมรับสังคมใดสังคมหนึ่งให้เข้ามาในพื้นที่ส่วนตัวของเราแล้ว เราจะกลมกลืนกับมันได้สบายๆ เช่น คนโลกส่วนตัวสูง ก็จะมีเพื่อน แต่อาจจะไม่มาก และยิ่งเพื่อนสนิทก็ยิ่งน้อย และเราคุยเฮฮาได้ตามปกติเหมือนคนทั่วๆไป นั่นเพราะ เรารู้จักคนเหล่านั้นดีแล้ว เราเข้าใจเค้า ดังนั้น บางคนที่มองว่า ไอ้นี่ ทำไมอยู่ๆมันไม่คุยปกติเหมือนที่อยู่กะเพื่อนมันวะ เงียบเฉย นั่นคือ เค้าไม่สนิทกะคุณไงครับ และกลับไปอยู่ในที่ที่เค้าเข้าใจ ก็คือ ตัวเค้าเอง
- ถึงเราจะเงียบ ไม่พูด แต่เชื่อมั้ย เราคิดมาก แบบ มากๆเลยนะ เราจะสังเกตกับสิ่งรอบข้าง และนำมาประมวลผลหลายๆตลบ
- ถ้ามีปัญหา หรือ ไม่พอใจ การแสดงออกจะมี อยู่ไม่กี่อย่าง เช่น นิ่ง เงียบ แต่ในใจนี่เตรียมระเบิด และเมื่อไหร่ ถ้ารอให้ระเบิดความไม่พอใจออกมาแล้ว ยาว หนักมากด้วย และต้องใช้เวลาซักพัก ที่จะต้องตบๆๆกลับมาให้ความรู้สึกเข้าที่เข้าทาง
- เวลาเราไม่สบายใจ วิธีแก้ไขของเรามีง่ายๆมากๆ แล้วแต่คนชอบ บางคนชอบไปสถานที่บางแห่ง แล้วนั่งปล่อยอารมณ์อยู่แบบนั้น บางคนฟังเพลง บางคนอยากทบทวนคนเดียว ดังนั้น เมื่อเค้าไม่สบายใจแล้ว ถ้าเกิดจากคุณเอง อย่าแปลกใจที่เค้าจะหายหน้าไปในที่ที่เค้าต้องการ แต่ถ้าเค้าไม่สบายใจเพราะคนอื่น แล้วคุณคบเค้าได้แล้ว ตอนนั้น ขอแค่คุณไม่ต้องพูดอะไร แค่นั่งใกล้ๆ จับมือไว้ อะไรๆก็จะคลี่คลายเร็วมากขึ้น
- อย่าพยายามเปลี่ยนแปลงเค้า ทำให้เต็มที่ก็แค่ทำให้เค้าเข้าใจ แล้วเค้าจะตัดสินใจเอง ว่า เค้าจะทำยังไงต่อ เช่น สมมติว่า คนนั้นชอบขี่จักรยาน แต่เราก็รู้ว่า ในกรุงเทพเนี่ย วีออสยังไม่ปลอดภัยเลยกับการจราจรปัจจุบัน อย่าได้บอกเชียวว่า อย่าขี่ ห้ามขี่ ค่อยๆพูดทีละนิดด้วยความอดทน เช่น ทำเป็นเล่าว่าน้องเพื่อนขี่จักรยานแล้วโดนรถชน โดนหมากัด เวลาพี่จะออกไปข้างนอกระวังๆไว้เยอะๆนะ ไม่อยากให้เป็นอะไรขึ้นมา บลาๆๆ แล้วเค้าจะรับรู้ได้เองว่าวันไหนที่ควรหยุดกับสิ่งนั้น แต่ถ้าคุณห้าม แล้วยิ่งคุณไม่มีประสบการณ์กับเรื่องนั้นๆมาแล้วด้วย คุณจะกลายเป็นกระต่ายตื่นตูมที่น่ารักคาญไปทันที
แล้ววิธีทำให้เค้าชอบ ล่ะ ทำยังไง วิธีง่ายๆ คุณต้องมีหน้าอกใหญ่และใส่เสื้อกล้าม ไม่ใช่ ตาบ้า ไอ้นั่นความชอบส่วนตัวของผม แต่จริงๆแล้วผมว่ามีแค่ 3 อย่างเท่านั้นที่สำคัญ
1. ความอดทน เพราะคุณต้องยอมรับว่า คุณไม่สามารถเดินเข้าไปในบ้านใครที่เค้าไม่เปิดรับคุณได้ง่ายๆ และในขณะเดียวกัน เค้าก็จะไม่เดินออกมาจากพื้นที่ของเค้าง่ายๆเช่นกัน ดังนั้น หาให้ได้ว่าอะไรที่เค้าชอบ แล้วค่อยๆแฝงตัวเข้าไปแบบทีละน้อยๆ ซึ่งถ้าตรงกันก็ดี แต่ถ้ามันฝืนไปไม่ไหว ควรหยุด หรือไม่ก็เลือกซะที่จะเข้าใจเค้า เช่น เค้าชอบเดินป่า คุณชอบเดินห้าง คุณจะมาบอกว่า ห้างดีกว่าป่า ไม่ได้เด็ดขาด มันก็มีสองทางเลือก ไม่ไปป่ากับเค้าแบบที่เค้าไม่อึดอัดด้วยนะ ก็ปล่อยเค้าเข้าป่าไปคนเดียวนั่นแหละ ถึงได้บอกว่า อย่าฝืน ถ้าต่างกันมากเกินไป ยังไงก็ไม่รอดครับ แต่ถ้ามีช่องทางที่สามารถเข้าไปได้แล้ว เริ่มจีบแบบขุดหลุม จะมาอ่อยง่ายๆ หรือจีบตรงๆ นี่ติดยาก ปล่อยให้เข้ามาติดกับง่ายกว่า ซึ่งตรงนี้วิธีล้านแปดแล้วแต่วิธีและกรณีนะครับ
2. ความเข้าใจซึ่งคุณต้องเข้าใจที่เค้าเงียบ เพราะเมื่อไหร่ที่คุณไม่เข้าใจว่าทำไมเค้าเงียบ คุณก็จะไม่มีวันเข้าใจสิ่งที่เค้าพูด อันนี้แหละที่ยาก เพราะความชอบยังหากันได้ ง่ายด้วย ยิ่งเดี๋ยวนี้มีเฟซบุค อะไรที่เค้าชอบ เค้าทำซ้ำๆๆๆไม่กี่อย่างหรอก แต่ไอ้การเข้าใจคนที่เพิ่งจีบ หรือแม้แต่จีบติดแล้วเราก็ไม่มีวันเข้าใจมันหมดหรอกเนี่ย ยากที่สุดแล้วผมว่า ซึ่งทุกคนจะมีเส้นชัดเจนว่า เรื่องอะไรที่ล้ำเส้น เช่น เจอของแฟนเก่า บังคับให้ทำ/ไม่ทำอะไร จุกจิกกับชีวิต แต่เมื่อไหร่ที่คุณหาเส้นนี้เจอและไม่ล้ำไปละก็ สวรรค์รอคุณอยู่ตรงหน้าเลยครับ
3. ซื่อสัตย์ และมั่นคง และต้องเป็นอีกโลกนึงของเค้าให้ได้ หมายความว่าไง คือ คุณไม่ควรเปลี่ยนแปลงตัวเอง แต่ทำให้ตัวเป็นรถ 10 ล้อที่แซงจักรยาน มันจะมีแรงดึงดูดพาจักรยานเข้ามาเอง ต้องทำให้เค้ารู้สึกว่า การที่มีคุณอยู่ในชีวิต เค้าไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนแปลงไลฟ์สไตล์ หรือความคิดอะไรเลย แต่คุณมาเพิ่มความสุขให้เค้า แล้วเค้าจะยอมรับคุณเข้ามา และเมื่อได้เข้ามาแล้ว เพียงครั้งเดียวที่คุณไม่ซื่อสัตย์ หรือ มั่นคงพอ ต่อให้รักมากแค่ไหน คุณต้องไม่ลืมข้อแรกคือ เค้ามีความสุขอยู่แล้วกับตัวเอง ดังนั้น คุณสามารถเดินออกไปได้เลยถ้าทำแบบนั้นไปแล้ว คุณอาจจะงงว่า เค้าไม่เสียใจ ไม่ง้อหรอ คำตอบคือ เสียใจครับ แต่กุอยู่ของกุได้ครับ ไม่จำเป็นต้องมีใครมาทำให้ปวดหัวเพิ่ม
ทั้งหมดนี่เป็นอะไรที่พอนึกได้นะครับ อยากให้มาแชร์ๆกัน เผื่อเป็นประโยชน์กับเพื่อนๆ น้องๆ ในเว็บ หากอะไรไม่ตรงไม่พอใจขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยครับ
^___^ ผู้ชายทุกวันนี้เหลือน้อยเต็มทน มาจีบผู้ชายโลกส่วนตัวสูงกันเถอะ
ทีนี้เลยอยากลองบรรยายดูครับ เผื่อใครสนใจจะจีบคนโลกส่วนตัวสูง จะได้เข้าใจ
1. โลกส่วนตัวคืออะไร = แปลตรงๆตัว ก็คือ มีโลกที่เค้าวาดไว้ของเค้าขึ้นมาเอง (เมิงจะแปลทำไม) แต่ ตรงนี้สำคัญนะครับ เพราะคนที่มีโลกส่วนตัวจะสร้างโลกใบนั้นขึ้นมายังไง มันก็ขึ้นอยู่กับ ประสบการณ์หรือสิ่งที่เค้าผ่านมา รวมกับความรู้ ความคิด การศึกษา ทั้งหมดนั่นจะมารวมกันเป็นนิสัยของคนๆนั้น ซึ่งเป็นกรอบความคิดที่ใช้อ้างอิงในหลายๆอย่าง เช่น การดำเนินชีวิต การตัดสินใจ ฯลฯ
2. วิธีที่จะเข้าไปในชีวิตของคนแบบนี้ หรือ วิธีจีบนั่นแหละ รวมทั้งการใช้ชีวิตเมื่อคบกันแล้วด้วย แต่ผมอยากให้ตรองดูจริงๆว่า คุณรับถ้าแค่ไหนถ้า เวลาจีบเนี่ย เข้าไปยากแล้ว แต่อยู่ให้รอดเนี่ย ยากกว่าครับ ถามตัวเองให้แน่ใจก่อนจริงๆ
อาการที่ว่ามานี้ ผมจะเอาตามที่นึกออกแล้วกันนะครับ
- แฟนคุณพูดน้อย ถึงมีปัญหาแล้วคุณอยากให้พูด เค้าก็จะบอกว่าไม่มีอะไร แต่จริงๆมี
- ไม่ชอบพูดมาก ในหลายๆครั้ง เราเลือกที่จะเขียน หรือ พิมพ์ เพราะมันบรรยายได้เต็มที่ ใช้ความคิดเรียบเรียงก่อน แก้ไขลำดับความสำคัญของสิ่งที่ต้องการจะสื่อได้ และที่สำคัญ เก็บไว้ให้คนที่ต้องการจะเข้าใจอ่านได้หลายๆครั้ง ไม่เหมือนกับการพูด เพราะเราไม่ชอบพูดบ่อยๆ
- คุณไม่สามารถตามตื้อ หรือให้เค้ามาอ้อนคุณอยู่ตลอดเวลาได้ เพราะ เค้าจะแฮปปี้กับชีวิตของเค้า เพราะโดยส่วนใหญ่แล้ว คนพวกนี้ จะมีชีวิตเต็ม 100 เพราะฉะนั้น เค้าจะไม่ค่อยหาคนมาเติมเต็ม แต่ชีวิตเค้าเต็มพอแล้ว เค้ามีความสุขอยู่กับตัวเอง หรือ สิ่งที่เค้ารักได้ ถ้าคุณจะต้องการเข้ามา คุณก็ต้องทำตัวให้เป็น อีก 1 อย่างที่เค้ารักให้ได้ แล้วเค้าถึงจะรักคุณมากๆเหมือนได้เรื่องแปลกๆที่เค้ารักนั่นแหละ
- เค้าไม่อยู่ในกรอบของคุณ แต่เค้าเลือกจะอยู่ในกรอบของเค้าเอง
- ไม่เก่งในการเข้าสังคม เพราะ เราจะมั่นใจในสิ่งที่เรารู้จักดี แต่ถ้าอะไรที่เราไม่แน่ใจ เราจะวางตัวเป็นกลาง นิ่งๆ สังเกต เก็บข้อมูล แล้ววิเคราะห์ว่าควรจะทำอย่างไรกับสังคมนั้น ซึ่งถ้าความชอบคล้ายๆกัน อาจจะทำให้อะไรๆง่ายขึ้น แต่ถ้าขัดกับความชอบและสิ่งที่เราเป็นแล้ว ให้ไปรอในส้วมยังดีซะกว่างครับ เช่น ถ้าเกิดมีงานปาร์ตี้ของแฟนคลับพี่เล็ก Greasy ถึงเราจะไม่รู้จักกัน แต่จะมีอะไรบางอย่างที่ชอบเหมือนกัน คุยกันได้ ละลายพฤติกรรม ทำให้เราเข้าสังคมตรงนั้นได้แบบไม่อึดอัด
แต่กลับกัน เกิดให้ไปนั่งกับกลุ่มเพื่อนแฟนที่ไม่เคยเจอกันเลย ไม่รู้จักกันมาก่อน แล้วยังนิสัยคนละแบบ ความชอบคนละขั้ว แบบนี้ แนะนำว่า อย่าพาไปโดยเด็ดขาด แอนตี้ยันวันตายครับ ถ้าอยากพาไป ต้องค่อยๆทำเหมือนการรับน้อง ละลายพฤติกรรม ค่อยๆให้รู้จักทีละเล็กทีละน้อย แล้วค่อยพาเข้าสังคมที่ต้องการจะง่ายกว่าเยอะครับ
- เงียบ ไม่ค่อยพูด โดยเฉพาะในที่ใหม่ๆ กลุ่มใหม่ๆ แต่ เราจะเป็นคนปกติ ในหมู่คนที่เราสนิท เพราะว่า ถึงเราจะเข้าสังคมไม่เก่ง แต่ถ้าเราได้ยอมรับสังคมใดสังคมหนึ่งให้เข้ามาในพื้นที่ส่วนตัวของเราแล้ว เราจะกลมกลืนกับมันได้สบายๆ เช่น คนโลกส่วนตัวสูง ก็จะมีเพื่อน แต่อาจจะไม่มาก และยิ่งเพื่อนสนิทก็ยิ่งน้อย และเราคุยเฮฮาได้ตามปกติเหมือนคนทั่วๆไป นั่นเพราะ เรารู้จักคนเหล่านั้นดีแล้ว เราเข้าใจเค้า ดังนั้น บางคนที่มองว่า ไอ้นี่ ทำไมอยู่ๆมันไม่คุยปกติเหมือนที่อยู่กะเพื่อนมันวะ เงียบเฉย นั่นคือ เค้าไม่สนิทกะคุณไงครับ และกลับไปอยู่ในที่ที่เค้าเข้าใจ ก็คือ ตัวเค้าเอง
- ถึงเราจะเงียบ ไม่พูด แต่เชื่อมั้ย เราคิดมาก แบบ มากๆเลยนะ เราจะสังเกตกับสิ่งรอบข้าง และนำมาประมวลผลหลายๆตลบ
- ถ้ามีปัญหา หรือ ไม่พอใจ การแสดงออกจะมี อยู่ไม่กี่อย่าง เช่น นิ่ง เงียบ แต่ในใจนี่เตรียมระเบิด และเมื่อไหร่ ถ้ารอให้ระเบิดความไม่พอใจออกมาแล้ว ยาว หนักมากด้วย และต้องใช้เวลาซักพัก ที่จะต้องตบๆๆกลับมาให้ความรู้สึกเข้าที่เข้าทาง
- เวลาเราไม่สบายใจ วิธีแก้ไขของเรามีง่ายๆมากๆ แล้วแต่คนชอบ บางคนชอบไปสถานที่บางแห่ง แล้วนั่งปล่อยอารมณ์อยู่แบบนั้น บางคนฟังเพลง บางคนอยากทบทวนคนเดียว ดังนั้น เมื่อเค้าไม่สบายใจแล้ว ถ้าเกิดจากคุณเอง อย่าแปลกใจที่เค้าจะหายหน้าไปในที่ที่เค้าต้องการ แต่ถ้าเค้าไม่สบายใจเพราะคนอื่น แล้วคุณคบเค้าได้แล้ว ตอนนั้น ขอแค่คุณไม่ต้องพูดอะไร แค่นั่งใกล้ๆ จับมือไว้ อะไรๆก็จะคลี่คลายเร็วมากขึ้น
- อย่าพยายามเปลี่ยนแปลงเค้า ทำให้เต็มที่ก็แค่ทำให้เค้าเข้าใจ แล้วเค้าจะตัดสินใจเอง ว่า เค้าจะทำยังไงต่อ เช่น สมมติว่า คนนั้นชอบขี่จักรยาน แต่เราก็รู้ว่า ในกรุงเทพเนี่ย วีออสยังไม่ปลอดภัยเลยกับการจราจรปัจจุบัน อย่าได้บอกเชียวว่า อย่าขี่ ห้ามขี่ ค่อยๆพูดทีละนิดด้วยความอดทน เช่น ทำเป็นเล่าว่าน้องเพื่อนขี่จักรยานแล้วโดนรถชน โดนหมากัด เวลาพี่จะออกไปข้างนอกระวังๆไว้เยอะๆนะ ไม่อยากให้เป็นอะไรขึ้นมา บลาๆๆ แล้วเค้าจะรับรู้ได้เองว่าวันไหนที่ควรหยุดกับสิ่งนั้น แต่ถ้าคุณห้าม แล้วยิ่งคุณไม่มีประสบการณ์กับเรื่องนั้นๆมาแล้วด้วย คุณจะกลายเป็นกระต่ายตื่นตูมที่น่ารักคาญไปทันที
แล้ววิธีทำให้เค้าชอบ ล่ะ ทำยังไง วิธีง่ายๆ คุณต้องมีหน้าอกใหญ่และใส่เสื้อกล้าม ไม่ใช่ ตาบ้า ไอ้นั่นความชอบส่วนตัวของผม แต่จริงๆแล้วผมว่ามีแค่ 3 อย่างเท่านั้นที่สำคัญ
1. ความอดทน เพราะคุณต้องยอมรับว่า คุณไม่สามารถเดินเข้าไปในบ้านใครที่เค้าไม่เปิดรับคุณได้ง่ายๆ และในขณะเดียวกัน เค้าก็จะไม่เดินออกมาจากพื้นที่ของเค้าง่ายๆเช่นกัน ดังนั้น หาให้ได้ว่าอะไรที่เค้าชอบ แล้วค่อยๆแฝงตัวเข้าไปแบบทีละน้อยๆ ซึ่งถ้าตรงกันก็ดี แต่ถ้ามันฝืนไปไม่ไหว ควรหยุด หรือไม่ก็เลือกซะที่จะเข้าใจเค้า เช่น เค้าชอบเดินป่า คุณชอบเดินห้าง คุณจะมาบอกว่า ห้างดีกว่าป่า ไม่ได้เด็ดขาด มันก็มีสองทางเลือก ไม่ไปป่ากับเค้าแบบที่เค้าไม่อึดอัดด้วยนะ ก็ปล่อยเค้าเข้าป่าไปคนเดียวนั่นแหละ ถึงได้บอกว่า อย่าฝืน ถ้าต่างกันมากเกินไป ยังไงก็ไม่รอดครับ แต่ถ้ามีช่องทางที่สามารถเข้าไปได้แล้ว เริ่มจีบแบบขุดหลุม จะมาอ่อยง่ายๆ หรือจีบตรงๆ นี่ติดยาก ปล่อยให้เข้ามาติดกับง่ายกว่า ซึ่งตรงนี้วิธีล้านแปดแล้วแต่วิธีและกรณีนะครับ
2. ความเข้าใจซึ่งคุณต้องเข้าใจที่เค้าเงียบ เพราะเมื่อไหร่ที่คุณไม่เข้าใจว่าทำไมเค้าเงียบ คุณก็จะไม่มีวันเข้าใจสิ่งที่เค้าพูด อันนี้แหละที่ยาก เพราะความชอบยังหากันได้ ง่ายด้วย ยิ่งเดี๋ยวนี้มีเฟซบุค อะไรที่เค้าชอบ เค้าทำซ้ำๆๆๆไม่กี่อย่างหรอก แต่ไอ้การเข้าใจคนที่เพิ่งจีบ หรือแม้แต่จีบติดแล้วเราก็ไม่มีวันเข้าใจมันหมดหรอกเนี่ย ยากที่สุดแล้วผมว่า ซึ่งทุกคนจะมีเส้นชัดเจนว่า เรื่องอะไรที่ล้ำเส้น เช่น เจอของแฟนเก่า บังคับให้ทำ/ไม่ทำอะไร จุกจิกกับชีวิต แต่เมื่อไหร่ที่คุณหาเส้นนี้เจอและไม่ล้ำไปละก็ สวรรค์รอคุณอยู่ตรงหน้าเลยครับ
3. ซื่อสัตย์ และมั่นคง และต้องเป็นอีกโลกนึงของเค้าให้ได้ หมายความว่าไง คือ คุณไม่ควรเปลี่ยนแปลงตัวเอง แต่ทำให้ตัวเป็นรถ 10 ล้อที่แซงจักรยาน มันจะมีแรงดึงดูดพาจักรยานเข้ามาเอง ต้องทำให้เค้ารู้สึกว่า การที่มีคุณอยู่ในชีวิต เค้าไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนแปลงไลฟ์สไตล์ หรือความคิดอะไรเลย แต่คุณมาเพิ่มความสุขให้เค้า แล้วเค้าจะยอมรับคุณเข้ามา และเมื่อได้เข้ามาแล้ว เพียงครั้งเดียวที่คุณไม่ซื่อสัตย์ หรือ มั่นคงพอ ต่อให้รักมากแค่ไหน คุณต้องไม่ลืมข้อแรกคือ เค้ามีความสุขอยู่แล้วกับตัวเอง ดังนั้น คุณสามารถเดินออกไปได้เลยถ้าทำแบบนั้นไปแล้ว คุณอาจจะงงว่า เค้าไม่เสียใจ ไม่ง้อหรอ คำตอบคือ เสียใจครับ แต่กุอยู่ของกุได้ครับ ไม่จำเป็นต้องมีใครมาทำให้ปวดหัวเพิ่ม
ทั้งหมดนี่เป็นอะไรที่พอนึกได้นะครับ อยากให้มาแชร์ๆกัน เผื่อเป็นประโยชน์กับเพื่อนๆ น้องๆ ในเว็บ หากอะไรไม่ตรงไม่พอใจขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยครับ