: ห ล บ เ ลี ย แ ผ ล ใ จ ที่ ชั ย ภู มิ :

~ สวัสดีค่ะทุกคน ~

เนื่องจากเพิ่งเลิกกับแฟน เลยมาเที่ยวคนเดียว อยู่คนเดียวมัน 4 วันติดไปเลย

เศร้าเศร้าเศร้า


ขอเกริ่นนิดนึง ว่าทริปนี้วางแผนว่าจะมากับแฟน ตั้งแต่ปีที่แล้ว คือพวกเราอยากหาทริปหน้าฝนเที่ยวกัน มาลงเอยที่นี่ค่ะ จองตั๋วโปรของแอร์เอเชียตั้งแต่ปีก่อน กะเที่ยวที่ขอนแก่นและขับรถมาชัยภูมิ แต่ดันมาเลิกกันก่อนที่จะเดินทาง 1 อาทิตย์ค่ะ ร้องไห้


การเดินทางครั้งนี้ เราเริ่มจากดอนเมือง บินมาลงขอนแก่น แต่เป้าหมายจริงๆอยู่ที่ทุ่งดอกกระเจียว จ.ชัยภูมิค่ะ


เราเช่ารถจาก Thai Rent a Car ที่สนามบินขอนแก่น ค่าเช่า 5-8 กรกฎาคม ตกอยู่ที่ประมาณ 2,700 นิดๆ เพราะบวกค่ะประกันอะไรซักอย่าง


รถที่ได้ เป็นรถ Yaris รุ่นใหม่ล่าสุด สีขาว ใหม่มาก พึ่งขับมาแค่ 40 กิโลได้ ก็ดีนะ อืดนิดๆ เครื่องไม่แรงมาก แต่เป็นอีโค่คาร์ ประหยัดน้ำมันดีนะ แต่แอร์ไม่ค่อยเย็นจับจิตอ่ะ


เราขับจากสนามบินขอนแก่น ก็เข้าพักที่โรงแรมก่อนเลย เนื่องจากเพลียมากจริงๆ เราพักที่ La Villa ค่ะ ห้องกว้างใหญ่ไพศาลมาก ตีลังกาได้หลายตลบ ดีจริงๆนะโรงแรมนี้ ตามแพลนคือเดี๋ยวเราจะไปเขื่อนอุบลรัตน์ แต่รอให้เย็นกว่านี้อีกนิดค่อยออกเดินทาง


เรื่องเศร้าคือ พอเย็นปุ้ป ออกเดินทางไปตาม Google Map คุณพระ! หลงทางค่ะ หาเขื่อนไม่เจอ แป้กมาก เลยขับรถกลับตัวเมือง และแวะเซนทรัลเดินเล่นเล็กน้อย


ก่อนนอนก็คิดในใจว่า แค่วันแรกก็พังซะละ ทันใดนั้นเปิด Google วางแผนใหม่ทันที วันพรุ่งนี้และวันต่อๆไปจะต้องดีกว่าวันนี้แน่นอน


จริงๆที่วางแผนไว้ตอนที่ยังไม่ทะเลาะกัน คือตามนี้ค่ะ;
5 ก.ค. - ขอนแก่น / พระธาตุขามแก่น / อุทยานแห่งชาติน้ำพอง / เขื่อนอุบลรัตน์ / U-Bar
6 ก.ค. - น้ำตกตาดโตน / เขื่อนลำปะทาว / มอหินขาว / น้ำตกไทรทอง / ผาหด
7 ก.ค. - อุทยานแห่งชาติป่าหินงาม / ทุ่งดอกกระเจียว / มอตั้ง / ผาสุดแผ่นดิน / เขื่อนจุฬาภรณ์ / กลับขอนแก่น / ตลาดต้นตาล
8 ก.ค. - กลับกรุงเทพฯ

แต่เรื่องที่เกิดขึ้นจริง มันไม่ได้เป็นไปตามแพลนหรอกนะคะ


คืนที่ 1 กำลังจะผ่านไป คุณเอ๊ย! เชื่อมั้ยว่านอนคนเดียวนี่มันหลับยากแท้ มันไม่เหมือนเวลามีแฟนมาด้วย มันเงียบเหงา วังเวง มันแปลกๆ มันทำให้เรานึกถึงแฟนขึ้นมาทันใด แต่ในใจก็คิดว่ามันจบลงไปแล้วจะนึกทำไมอีก ข่มตานอนต่อไปค่ะ ใจร้าว


วันที่ 2 ตื่นมาแบบงงๆ เพราะต้องรีบขับรถไปชัยภูมิ ซึ่งดูคร่าวๆไว้ว่า ต้องมีประมาณ 3 ชม. กว่าๆ กว่าจะถึงเป้าหมาย อาบน้ำแต่งตัว ลงมากินอาหารเช้าของโรงแรม พอดีวันนี้แขกน้อย เลยไม่มีบุฟเฟ่ต์ แต่เค้าให้สั่งอะไรที่อยากกินได้ เราเลยขอไข่กะทะ หน้าตาก็ตามรูปเลยค่ะ ส่วนรสชาติก็ทั่วๆไป




ระหว่างกิน ก็นึกๆนะ ถ้ามีแฟน คงลากกันออกไปหาไรกินหร่อยๆละอ่ะ พอดีมาคนเดียว ก็ต้องกินตามที่มีแล่ะ เห้อ!!! กินเสร็จก็ขนของขึ้นรถ เตรียมออกเดินทาง


ตอนขับรถคนเดียว มันก็พะวงเล็กน้อยนะว่าจะรอดมั้ย ขับอยู่นาน 3 ชม. กว่า เรื่องเก่าๆก็ผุดขึ้นมาค่ะ แต่เดี๋ยวค่อยเล่าให้ฟังค่ะ


เมื่อมาถึงชัยภูมิแล้ว เราเหลือบเห็นป้ายอุทยานแห่งชาติไทรทอง ที่ดูเหมือนว่าจะอยู่ใกล้กว่าอุทยานแห่งชาติป่าหินงาม ที่เป็นเป้าหมายของเรา เราเลยตัดสินใจไปไทรทองก่อนเลยค่ะ


ค่าเข้าสำหรับคน ก็ 20 บาท นำรถเข้าไปด้วย บวกอีก 30 บาท รวมเป็น 50 บาทค่ะ พอเข้าไปปุ้ป หึหึ ไม่มีอะไรเลยค่ะ เห็นในรีวิวเค้าว่าในนี้ก็มีดอกกระเจียว ตามป้ายทุ่งบัวสวรรค์ไป แต่ก็ไม่เจอแฮะ เลยขับต่อมาที่น้ำตกไทรทอง หนักกว่าเดิมค่ะ แป้กมาก เนื่องจากฝนแล้ง น้ำตกเลยไม่มีน้ำค่ะ แต่ทางเข้าน้ำตกก็ดูมีอะไรๆอยู่นิดนึงนะคะ เห็นนักท่องเที่ยวพยายามถ่ายรูปกัน




ส่วนรูปนี้ เป็นทางเข้าไปต้นไม้พันปีค่ะ ซึ่งก็ไม่ค่อยมีอะไรมากนัก




ในใจก็เริ่มคิดอีกละ จะแป้ก 2 วันติดเลยรึเนี่ย หลังจากนั้นรีบบึ่งไปเช็คอินที่ เส้นทาง@LOVE ทันทีค่ะ ซึ่งต้องใช้เวลาประมาณ 1 ชม. กว่าจะถึง เห้อ... ทำไมแต่ละที่มันไกลกันเหลือเกิน


แต่พอขับมาถึงที่พักแล้วปุ้ป ค่อยหายเหนื่อยหน่อยค่ะ ที่พักสวยดี ตกแต่งในแบบแปลกๆ เก็บภาพมาให้ดูกันตามนี้นะคะ ส่วนค่าห้อง 1,500 บาทต่อคืน รวมอาหารเช้าค่ะ












เหมือนว่า ห้องนอนเค้าจะดีไซน์มาซัก 3-4 ประเภทนะคะ ห้องที่เรานอน จะออกแนววินเทจน่ารักดีค่ะ เดี๋ยวมีรูปให้ดู ส่วนใครอยากนอนเตนท์ ก็มีให้นอนนะคะ เค้าว่า เช้าๆนี่มีหมอกลงด้วยนะที่นี่ บรรยากาศดีและโรแมนติคค่ะ


และนี่คือห้องพักของเราเอง อยากจะให้ห้องนอนที่บ้านเป็นแบบนี้จัง เปิดประตูมามีชิงช้า หลังห้องมีสวนผัก มองไปเห็นวิวภูเขาเขียวขจี ดูแล้วชุ่มหัวใจดีนะคะ


















ลืมบอกไปว่า ที่รีสอร์ทนี้เค้าอนุญาติให้นำสัตว์เลี้ยงเข้ามาพักได้ด้วยนะคะ แต่เก็บอึกันเองน๊าาา ท่าทางเจ้าของที่นี่จะรักน้องหมาเอามากๆเลยค่ะ


เอาล่ะ ออกเดินทางไปที่เป้าหมายของทริปเลยดีกว่า นั่นก็คือ อุทยานแห่งชาติป่าหินงาม อยู่ห่างจากรีสอร์ทไป 4 กม. เองค่ะ ส่วนใครกังวลเรื่องถนนหนทาง ไม่ต้องห่วงค่ะ ถนนดีมาก ไร้รอยต่อทอเต็มผืน ไม่ขรุขระ ไม่ลูกรังจนสะเทือนตับไตคุณแน่นอน


ถึงซักที ค่าเข้าชมคนละ 20 บาท และมีค่ารถรางที่ซุ้มถัดไปอีกคนละ 30 บาทค่ะ ส่วนราคาเด็ก เราไม่ได้ดู ขออภัยค่ะ พอเดินถึงรถลาง ก็รอบนรถซักครู่ พอคนขึ้นรถเกือบเต็มคัน ก็ล้อหมุนค่ะ นี่เรามาวันจันทร์นะ แต่นักท่องเที่ยวก็มีมาเรื่อยๆเลยค่ะ คนไทยทั้งนั้น ดีอ่ะ! มากันเป็นคู่ๆ ดี๊ดี สะเทือนใจ ฮือๆ


จุดแรกที่คนขับพามาให้เราลงคือ ผาสุดแผ่นดิน ค่ะ ถ้าใครเห็นรีวิว มันก็คืออีแง่งที่มันยื่นออกไป แล้วคนก็ไปนั่งอยู่ตรงสามเหลี่ยมเบอมิวด้าห้อยขาโชว์ความหวาดเสียวนั่นแล่ะค่ะ แต่เสียใจ ไม่ใช่เรา 555 ใจไม่ถึงพอ ประเด็นคือไม่มีคนช่วยประคองไปส่งที่ปลายแง่งมัน ไม่งั้นได้ภาพเด็ดละ จึงทำได้แต่ถ่ายเท่าที่มีความสามารถเท่านั้น ร้องไห้










เท่าที่เรานั่งสังเกตุการณ์อยู่พักนึง ก็ไม่เห็นมีใครริอาจจะไปนั่งที่ปลายผานี่เลยนะคะ คงเป็นเพราะลมมันแรงด้วย การทรงตัวไม่ดี มีสิทธิ์ตกได้เป็นผีเฝ้าผาเลยนะ ใครไปก็ระวังกันหน่อยค่ะ โอกาสเดินสะดุดมีสูงมาก อย่าใส่ส้นเข็มไปเดินกันล่ะ 555 ยิ้ม


จากนั้น เราก็เดินกลับไปขึ้นรถที่จุดแรกที่เราลงตะกี้ รถคันใหม่ก็เวียนมารับและพาไปที่ทุ่งดอกกระเจียวค่ะ เอาล่ะ... ถึงไฮไลท์ของทริปซะที ขออภัยหากทำให้ท่านรอนาน 555 จุ๊บๆ


ผลที่ออกก็คือ ดอกกระเจียวก็พอมีค่ะ แต่น้ำมันแล้งอ่ะเนอะปีนี้ มันเลยออกดอกน้อยมาก และดอกกระเจียวก็เป็นดอกที่ต้องอาศัยน้ำจากธรรมชาติเท่านั้น ซึ่งก็คือน้ำฝน มันถึงจะเจริญเติบโตให้พวกเรายลโฉมเป็นบุญตาได้ เราก็เก็บภาพมาได้ประมาณหนึ่งค่ะ ส่วนใครคิดจะเดินเข้าไปกลางทุ่งเพื่อเก็บภาพล่ะก็ เสียใจค่ะ มีลุงคอยเป่านกหวีดไล่ และขู่ว่ามีงูนะ นั่นนี่สารพัด คนที่เข้าไป บอกเลยค่ะ อาย!!! ลุงเค้าเสียงดังมากจริงๆ


และนี่คือภาพของดอกกระเจียวค่ะ อมยิ้ม02








ดอกน้อยชิมิล่า ร้องไห้ ไม่มีอะไรสมดั่งใจหวังเลยจริงๆนะทริปนี้ แต่คิดในแง่ดีนะคะ มันออกมาดอกเดียว ก็ยังดี ดีกว่าไม่ออกเลยซักดอกอ่ะค่ะ ฮือๆ






มองกันไป นับได้ทั้งหมดกี่ดอกเอ่ย แหะๆ ถึง 10 มั้ยนะ บ้า! เกินค่า... ยังดี








จบแล้วสำหรับดอกกระเจียว ถัดมา รถรางก็มารับและไปส่งที่จุดสุดท้าย นั่นคือ ลานหินงาม แต่เสียใจด้วย เราไม่ลงไปดู เพราะเข้าใจไปเองว่าไม่น่ามีอะไรค่ะ จริงๆแล้วคือหมดแรงค่ะ 555


ถึงเวลากลับไปพักผ่อนที่รีสอร์ทต่อ และก็ยังมิวายเก็บภาพในรีสอร์ทอีกนิดนึง เราสั่งข้าวกินในรีสอร์ทเลย เป็นข้าวแพนงหมู + ไข่เค็ม ราคา 69 บาท ก็โอเคนะ และแล้วก็พบนักท่องเที่ยวเป็นน้องหมาแล้ว 1 ตัว แต่ท่าทางไม่ค่อยอยากจะเล่นด้วยเลยนะ หึๆ


















ถ่ายรีสอร์ทต่อไป ยาวไปๆ เอาให้คุ้มเลย ประเด็นคือไปคนเดียว เลยไม่มีไรทำ ถ่ายรูปเล่นเรื่อยเปื่อย เละๆเทะๆ 555 ลืมบอกไป กล้องที่เราใช้คือ Sony @5000 นะคะ เลนส์ก็ไม่ได้ซื้อใหม่ ก็ใช้เลนส์ที่มันมากับตัวกล้องอ่ะค่ะ ส่วนตัว อยากได้เลนส์ไวด์ แต่พอดีเพิ่งเองเอาเลนส์อันเดิมไปเปลี่ยนมา 4,700 บาทโดยประมาณ เนื่องจากอันเดิมเลนส์เบี้ยว เพราะมีอยู่ทริปนึง เดินลื่นที่น้ำตก กล้องกระแทกพื้นหิน ร้องไห้หนักมาก ซูมไม่ได้ไปพักนึง โฮๆ ร้องไห้








[img]http://f.ptcdn.info/176/033/000/1436279
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่