"จดหมายถึงน้องสาว" จากข่าวของแตงโม โตโน่

เราเขียนข้อความนี้ "แด่น้องสาวคนสวยของเราทั้ง 3 คน" หลังจากเห็นข่าวนี้ ที่ยังคงแรงและเป็นที่น่าสนใจที่สุด ณ นาทีนี้
ขอนำมาแบ่งปันแด่เพื่อนๆ ค่ะ
.
ตอนเราเห็นข่าวแตงโม เรานึกถึงคุณพ่อแตงโมก่อนเลย ว่าท่านจะเสียใจแค่ไหน T____T ถ้าแตงโมเป็นอะไรไป
.
อะไรก็เกิดขึ้นได้ อะไรก็ไม่แน่นอน เรื่องราวของคนสองคนในฐานะสามีภรรยา หรือคู่ชีวิต ที่บางครั้งแม้แต่พ่อแม่ก็ยังนับว่าเป็นคนอื่น
ไม่มีใครรู้ดีเท่าคนสองคนว่าเกิดอะไรขึ้น ในแต่ละวันที่ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกัน ทำดี ทำไม่ดีอะไรต่อกันมาบ้าง
.
ถ้าความดีเปรียบเสมือนน้ำหยดลงหินทุกวัน หินมันยังกร่อนฉันใด ...ความไม่ดีก็เปรียบเสมือนน้ำเซาะทรายริมตลิ่ง ที่นานวันเข้าตลิ่งก็
สามารถพังทลายได้เช่นกันฉันนั้น
.
ผู้เฒ่าผู้แก่อาบน้ำร้อนมาก่อนเรานานมากโข สอนนักสอนหนาว่า "อดข้าวดอกนะเจ้าชีวาวาย มิตายดอกเพราะอดเสน่หา" แต่หนุ่มสาว
อ่อนด้อยประสบการณ์ก็ยังมิฟังเสียงพร่ำเตือน กี่รายแล้วที่ชีวาวายเพราะเสน่หา
.
สำหรับเรา ในฐานะพี่สาว ที่มีน้องสาวสวยๆ ถึง 3 คน ขอเตือนผ่านสื่อเลยว่า ผู้หญิงเราจงเข้มแข็ง จงมีชีวิตอยู่ให้ด้วยตนเอง
อย่าหลงลืมครอบครัว หน้าที่การงาน และภาระรับผิดชอบชีวิตของตัวเองที่ต้องสร้างความมั่นคงให้กับตัวเอง อย่าเอาชีวิตและ
ความสุขไปฝากไว้กับใคร
.
รักได้ แต่อย่าหลงจนไม่รู้ว่าอะไรถูกผิด ชีวิตเรายังมีอะไรอีกมากมาย มากกว่าผู้ชายและความรัก ...และในท่อนแรกของความรักนั้น
มักจะเป็นเวลาที่สุขสุดๆ เพียงสั้นๆ ที่คนสมัยนี้เรียกว่า "ช่วงโปรโมชั่น" แต่ในท่อนกลางนั้นยาวนานเหลือแสน นานจนไม่รู้อนาคตว่าจะจบเมื่อไหร่
.
ท่อนสุดท้ายจะดีหรือร้าย ก็ขึ้นอยู่กับท่อนกลางนี่ล่ะ ที่ต่างฝ่ายต่างจะต้องเรียนรู้กันและกันไปทุกๆ วัน ปรับตัวเข้าหากันทีละน้อยทุกๆ วัน
บางครั้งต้องเป็นเสมือนดวงตา แขน ขา ของกันและกัน แต่บางครั้งก็ต้องทำเอาหูไปนา เอาตาไปไร่บ้าง เพราะไม่เคยมีกฏเกณฑ์ใดๆ
ที่แน่นอน สำหรับการใช้ชีวิตคู่
.
ถ้าจะขอสักหนึ่งกฏที่สำคัญที่สุด ก็ขอแนะให้ใช้ "กฏแห่งการให้อภัยซึ่งกันและกัน" ...เพราะไม่มีทางที่ใครจะทำถูกใจเราได้ทั้งหมด
และเพราะปีนี้ไม่เหมือนปีที่แล้ว และปีหน้าก็จะไม่เหมือนกับปีนี้อีกเช่นกัน อย่าคาดหวังอะไรล่วงหน้าและอย่าวิตกจริตมากเกินไป
จงทำทุกๆ วันและปัจจุบันขณะให้ดีที่สุด ถ้าปฏิบัติดีต่อกันและเอาใจใส่กันและกันมากพอ ต่อให้ปัญหาร้ายแรงแค่ไหน ก็จะผ่านมันไปได้
.
.
ขอยกคำของคุณพ่อแตงโมที่เคยเขียนถึงลูกเมื่อ 9 ธันวาคม 2556 มาไว้ตรงนี้ แล้วท่านจะเห็นถึงความไม่เที่ยง....
"พ่อแตงโมเขียนดีมาก สอนลูก เตือนลูกด้วยซ้ำว่าดูแลกันให้ดีๆ ระวังอย่าให้เขาเสียใจ"
.
"พ่อไม่แน่ใจว่ามันเร็วไปหรือเปล่า พ่อรู้สึกว่าทั้งคู่พร้อมแล้วเหรอ พ่อไม่แน่ใจว่าลูกที่พ่อกอดอยู่ทุกวันจะไปมีคู่หมั้นแล้ว เป็นคนที่ชื่อโตโน่
แต่หลังจากเหตุการณ์เดือนที่ผ่านมา (เหตุชุมนุมทางการเมือง) หลังจากเห็นลูก ๆ ของพ่อ มีความรักต่อประเทศชาติ พระมหากษัตริย์
และอีกมากมาย พ่อเห็นว่าลูกพ่อโตแล้ว เหมาะสมคู่ควรที่จะใช้ชีวิตอยู่กับคนที่ลูกรัก ดังนั้น ขอแสดงความยินดีด้วยกับลูกสาวในครั้งนี้"
.
"เป็นครั้งแรกที่คุณพ่อเขียนถึงเพื่อนชายของลูก และสอนลูกว่าอย่าคบเพื่อนชายเพียงเพราะเขารวย ให้คบเพราะขยันทำมาหากิน
เพราะการมีงานทำ มีตัวตนในสังคมทำให้เขามีจุดยืนไม่ใช่มนุษย์ลอย ๆ ส่วนเรื่องการทำงานนั้นก็เป็นตัวบ่งชี้ในทุกเรื่องและทุกอย่างของชีวิต
เพราะมันจะทำให้ชีวิตลูกผู้ชายคนหนึ่ง มีคุณค่าและรับผิดชอบได้ทั้งตัวเองและคนที่เขารัก ส่วนโตโน่เป็นผู้ชายคนเดียวที่มีคุณสมบัติตาม
ที่คุณพ่อได้แนะนำไว้ จึงอยากเตือนให้ลูกรู้จักคุณค่าของเขา และให้ระวังอย่าทำให้เขาเสียใจ เพราะคนจริงจังเมื่อเวลาที่เราทำให้เขาผิดหวัง
ก็เหมือนไปทำลายชีวิตของเขา เพราะฉะนั้นหากคิดจะรักกันก็ต้องรู้จักหันหน้าเข้าหากันในทุก ๆ ทาง เพื่อสร้างประโยชน์ให้แก่กันและกันให้มากที่สุด
.
"สำหรับผม เมื่อก่อนนั้นผมมีอยู่หน้าที่เดียวคือทำอย่างไรให้ชีวิตผมยืนยาวที่สุด เพื่อที่จะอยู่ให้ความสุขกับลูกได้ แต่เมื่อโตโน่เข้ามา
ผมคิดว่าเขาน่าจะเป็นคนที่ดูแลลูกสาวผมในวันที่ผมไม่อยู่ได้ และเมื่อเขาทั้งคู่สามารถเดินไปถึงจุดนั้น ผมก็ดีใจ"
.
ลิงค์ข่าวจาก http://women.kapook.com/view123384.html
"ย้อนอ่านจดหมายของ พ่อโสภณ ถึง แตงโม ...ในวันที่ลูกสาวจะใช้ชีวิตคู่"

*** ขอแท็ก ห้องแป้ง เพราะสาวๆ เยอะ / ศาลาประชาคม และสวนลุม เพราะเกี่ยวกับสุขภาพจิต ปัญหาสังคม ค่ะ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่