วันนี้มาเล่าประสบการ์ณไปเที่ยวเปรูกับน้องสาวเมื่อเดือนที่ผ่านมาครับ
Diary 1 Lima-Cusco
22.06.15
หลังจากการเดินทางอันยาวไกล (28 ชั่วโมง ในนั้นอยู่บนเครื่อง 24 ชั่วโมง แล้วก็ Layover อีก 4 ชั่วโมงที่กรุง Amsterdam) ผมก็ได้มาถึงเมือง Lima ประเทศเปรูซะที จะบอกว่าระหว่างอยู่บนเครื่องติดหวัด ไม่สบาย คออักสบด้วยละเพราะต้องอยู่บนเครื่องบินนานๆ แต่ก็ลงจากเครื่องแล้ว ดีใจมากเลย ฮ่าๆๆ
ขอเล่าประวัติก่อนนิดนึงนะครับ ประเทศเปรูเป็นประเทศในทวีปอเมริกาใต้ ใช้ภาษาสเปนและเป็นที่อยู่ของชาว Inca (ปี พ.ศ. 1438-1618) ก่อนที่จะมาเป็นเมืองขึ้นของประเทศสเปน ทั้งนี่ทั้งนั้นเราจะสมารถเห็นซากสถานที่โบราณที่ชาวอินคาได้สร้างไว้ตั้งแต่ยุครุ่งเรืองของอาณาจักรอินคา และสมารถเห็นได้ในประเทศเพื่อนบ้าน เช่น ประเทศเอคควาดอร์ อาเจนติน่า ชิลี้ เป็นต้น ทว่าบ้างครั้งซากเหล่านี้ที่ถูกทำลายโดยชาวสเปนที่มายึดครอง และมีโบสถ์ Catholic ถูกสร้างทับเพราะมิชันแนรีเชื่อว่าถ้าชาวบ้านนับถือศาสนา Catholic จะต้องให้เข้ามาบูชาและทำความเคารพต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในพื้นที่เดียวกับที่เคยเป็นวัดของพวกเขา แต่ตรงส่วนนี้ผมไปดูแล้วเขาไม่ให้ถ่ายรูป ก็เลยถ่ายสถานที่อื่นมาให้ดูกันครับ
เครื่องลงจอดที่เมือง Lima ตอน 6 โมงเย็นวันจันทร์ ณ ตอนนั่นก็เหนื่อยมาก เลยรีบขึ้นแทกซี่ไปพักผ่อนที่โรงแรม Belmond Miraflores Park เป็นโรงแรมที่สวยมากครับ และอยากแนะนำให้ที่จะไปเที่ยว Lima ครับ
ขอข้ามไป Cusco เลยนะครับ เช้าวันรุ่งขึ้นผมกับน้องสาวออกเดินทางไปเมือง Cusco ที่เคยเป็นเมืองหลวงของอาณาจักรอินคาเพื่อเรียนรู้วัฒนาธรรมและประวัติศาสตร์ของชาวอินคาครับ
23.06.15
โรงแรมที่พักในเมืองนี้คือ Belmond Monasterio (Monasterio แปลว่า Monastery เป็นวัดของคริสเตียนเก่าที่ Renovate ให้เป็นโรงแรม 5 ดาว) เป็นโรงแรมที่มีประวัติน่าสนใจมาก
วันนี้ได้ไปดูซากปอมประการ Saqsayhuaman สถานที่บูชายันลามาดำ และ Quencho วัดแห่งดวงดาว วัดแห่งพระอาทิตย์ วัดแห่งพระจันทร์ และก็โบสถ์ Catholic ประจำเมือง Cusco ที่ชาวสเปนสร้างทับวัดใน Colonial ครับ
ที่นี้มีชาวท้องทินเยอะมาก เป็นหลานๆของชาวอินคา บ้างคนพูดภาษา Quecha ได้ (ภาษาของชาวอินคา) และชอบใส่ชุดสีสันสดใส บ้างครั้งจะมีตัว Alpaca ไม่ก็ตัว Llama ข้างกาย
วันพรุ่งนี้ 24.06 เป็นวัน Inti Rayami เทศการของพระอาทิตย์ จะมีการฉลองและเล่นละครเลี่ยนแบบการบูชาลามาดำในสมัยอินคา ที่ Saqsayhuaman ตอนนี้ในเมืองก็เริ่มมีคนฉลอง ร้องเพลง เต้นรำกันใหญ่เลยครับ
Diary 2 Sacred Valley
24.06.15
วันนี้ได้ไปหลายที่เลย เริ่มจากออกนอกเมือง Cusco ไปทาง Sacred Valley (หุบเขาศักดิ์สิทธิ์) เมืองแรกที่หยุดดูคือเมือง Chincero เป็นเมืองเล็กๆน่ารัก ชาวเมืองนี้เก่งเรื่องทอผ้า และผู้หญิงในเมืองจะใส่ชุดสีดำแดง ผมก็ได้ไปดูการทอผ้าของชาว Chincero โดยใช้ขนอัลพากะ กับขนลามาครับ เป็นอะไรที่น่าสนใจมาก ก่อนอื่นเขาจะเอาขนที่ได้มาล้างด้วยราก Sakta จนขนเป็นสีขาวแล้วเอาออกไปตากแดดจนแห้งครับ หลังจากนั้นเขาก็เอาขนมาปั่นให้เป็นเส้นแล้วค่อยเอาไปย้อมสีธรรมชาติโดยต้มมันลงไปกับส่วนดอกไม้ ใบไม้ ไม่ก็แมลงบด (Cochineal) สำหรับสีแดงครับ พอเสร็จขั้นตอนนี้แล้วก็สมารถเอาไปทอเป็นลายสวยๆได้เลยครับ ชาว Chincero บอกมาว่าแต่ละครอบครัวจะมีลายประจำตะกูลที่แม่จะสอนลูกสาวตอนลูกสาว 7 ขวบและสืบทอดกันไปเรื่อยๆครับ
พอแวะเมือง Chincero ก็เดินทางต่อไปทางเหนือจนถึงเมือง Maras ที่เลื่องชื่อสำหรับเหมืองเกลือที่สร้างเป็นชั้นๆตามภูเขา และระเบียงปลูกและทดลองการเจริญเติบโตของพืชในพื้นที่สูง Moray ของชาวอินคา ระเบียง Moray ที่ชาวอินคาตั้งใจทำไว้จะเป็นวงกลมหลายๆวงซ่อนๆกันทำให้แต่ละส่วนของ Moray ได้รับแสงอาทิตย์และมีอุณหภูมิที่แตกต่างกัน
ถึงตอนนี้ก็เหนื่อยและครับ เวลาประมานบ่ายโมง ไปกินข้าวเที่ยงที่เมือง Urubamba ในหุบเขาศักดิ์สิทธิ์ ร้านอาหารชื่อร้าน Tunupa ครับ เป็น Buffet อาหารเปรู อยากบอกเลยว่าอาหารที่นี่รสชาติแย่มาก แต่บรรยากาศดีมากเลยยกโทษให้ได้ ฮ่าๆๆ พอถึงร้านก็ได้ลองชิม Ceviche ที่เป็นยำปลาแซลมอนของบ้านเขาด้วย คือเมนูอย่างเดียวที่พอรับได้ในร้านนี้ พอกินอาหารเสร็จแล้วกเดินลงไปถ่ายรูปกับตัวอัลพากะครับ ที่นี้มีตัว Vicuna ด้วยครับ เป็นตัวที่ขนแพงที่สุดในอเมริกาใต้เลย เพราะว่าขนมันน้อยมาก และก็นุ่มมากด้วย (ป.ล. พยายามถ่ายกับตัว Vicuna นะ แต่มัน
น้ำลายใส่ - -“)
สถานที่สุดทายของวันคือเมือง Ollantaytambo เป็นเมืองของจักรพรรดิ Pachacuti (ครองราชย์ตั้งแต่ปี พ.ศ. 1438-1471) เมืองนี้มีระเบียง Pumatallis และวัดสำคัญหลายๆวัดบนเขา แต่ไม่ได้ไป ไปปีนระเบียงก็หมดวันแล้วครับ อีกอย่างที่สำคัญเกี่ยวกับเมือง Ollaytaytambo คือ เมืองนี้จะเป็นจุดเริ่มต้นของ Inca Trail (เดินตามรอยอินคาไปถึง Machu Picchu) ที่ใช้เวลาประมาน 4 วัน 3 คืนครับ สำหรับนักผจญภัยที่ร่างกายแข็งแรงนะ
อยากเพิ่มเติมอีกอย่าง ระหว่างทางไปจาก Cusco ไป Ollantaytambo วิวสวยมากเลยครับ
HIGHLIGHT! Diary 3 Machu Picchu
25.06.15
และแล้ววันที่สำคัญที่สุดก็มาถึง! วันที่ได้ไปดู 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลก นั่นก็คือ Machu Picchu เมืองในตำนานกลางหุบเขา Andes เป็นที่พักร้อนของจักรพรรดิ Pachacuti และเป็นเมืองสุดทายที่ถูกค้นพบของชาวอินคาในแทบ Sacred Valley ด้วยครับ ในตัว Machu Picchu มีวัดสำคัญหลายๆวัด เช่น วัดแห่งดวงอาทิตย์ วัดแห่งดวงจันทร์ วัดกระจกสองอัน วัดนก Condor และอีกมากมาย รวมถึงบ้านของจักรพรรดิ และหอดูดาว
Machu Picchu ถูกสร้างขึ้นประมานปี 1438 และสร้างเสร็จประมานปี 1472 ช่วงยุคจักรพรรดิ Pachacuti แต่ตอนที่ชาวสเปนมายึดครองเปรูก็นำพาโรคภัยไข้เจ็บมาหลายอย่างเช่นไข้หัด ซึ่งชาวอินคาคนหนึ่งได้เอาไข้หัดไปที่ Machu Picchu ทำให้ทุกคนป่วยและตาย จนเมืองนี้กลายเป็นเมืองร้างถึงแม้ว่าชาวสเปนจะไม่เจอเมืองนี้ก็ตาม (โลงอกไป เขาไม่มีโอกาสมาทำลายเมืองเพราะคนตายหมด)
การไปที่ Machu Picchu ครับ: จากตัวเมือง Cusco ไป Machu Picchu ก็ต้องนั่งรถไปสถานีรถไฟที่ Ollantaytambo (1 ชั่วโมงครึ่ง) ก่อนนั่งรถไฟไปอีกประมาน 1 ชั่วโมง ครึ่งจะถึงตีนเขา Aguas Calientes หรือ Machu Picchu Pueblo คือเมืองของที่อยู่ใต้ Machu Picchu ครับ หลังจากถึงเมือง Aguas Calientes แล้วก็นั่งรถบัสขึ้นไปบนเขาจนถึง Machu Picchu
อีกวิถีคือการเดินจาก Ollantaytambo ไปถึง Machu Picchu เลย ใช้เวลาประมาน 4 วัน เป็นการเดินป่าตามรอยชาวอินคาจริงๆเลย (ตาม Inca Trail) ในสมัยที่ไม่มีรถเนอะ และการนี้เราจะได้ขึ้นเขา Machu Picchu ด้วย (Machu Picchu แปลว่าเทือกเขาเก่าในภาษา Quecha) เพราะว่าพอถึงเมือง Machu Picchu แล้วเขาที่เราเห็นจะไม่ใช่เขา Machu Picchu แต่เป็นเขา Wayna Picchu ที่สมารถมองเห็นจากเขา Machu Picchu (Wayna Picchu แปลว่าเทือกเขาใหม่ – ดูจากในรูปเลยครับ นี่คือเขา Wayna Picchu)
ทุกอย่างในเมืองนี้สร้างขึ้นจากหินครับ ชาวอินคาจะใช้เทคนิค Imperial สำหรับวัดและบ้านของจักรพรรดิ (การต่อหินขนาดใหญ่ที่ถูกขัดให้เรียบเนียนจะได้ไม่ต้องใช้กาวหรือดินตอนต่อตึก) และ Rustic เทคนิคสำหรับตึกอื่นๆ (การต่อหินขนาดเล็กลงมาหน่อย และไม่ได้ขัดให้เนียน)
อยากบอกว่า ตอนที่ไปถึงมันสุดยอดจริงๆครับ บรรยายไม่ถูก ต้องมาเห็นเองกับตา เพราะรูปภาพถ่ายไปก็ไม่เหมือนมาเห็น 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกจริงๆ (ถึงแม้ตอนเห็นจะเป็นหวัดอยู่) ไม่เสียใจที่มาดูจริงๆครับ
ขอบคุณทุกคนที่ติดตาม Trip ไปเปรูด้วยนะครับ เจอกันใหม่ตอนไปกาลาปากอสครับ ^^ (ขออภัยถ้าภาษาไทยผิดด้วยนะครับ)
ใครสนใจทริปสนุกอย่างนี้มาถามได้เลยนะครับ
Credit: ROAMER 21 / Rand Osathanugrah
facebook.com/roam21
facebook.com/randosathanugrah
ผจญภัยเปรู เมืองอินคา สองพี่น้องเด็กไทย#Roamer21
Diary 1 Lima-Cusco
22.06.15
หลังจากการเดินทางอันยาวไกล (28 ชั่วโมง ในนั้นอยู่บนเครื่อง 24 ชั่วโมง แล้วก็ Layover อีก 4 ชั่วโมงที่กรุง Amsterdam) ผมก็ได้มาถึงเมือง Lima ประเทศเปรูซะที จะบอกว่าระหว่างอยู่บนเครื่องติดหวัด ไม่สบาย คออักสบด้วยละเพราะต้องอยู่บนเครื่องบินนานๆ แต่ก็ลงจากเครื่องแล้ว ดีใจมากเลย ฮ่าๆๆ
ขอเล่าประวัติก่อนนิดนึงนะครับ ประเทศเปรูเป็นประเทศในทวีปอเมริกาใต้ ใช้ภาษาสเปนและเป็นที่อยู่ของชาว Inca (ปี พ.ศ. 1438-1618) ก่อนที่จะมาเป็นเมืองขึ้นของประเทศสเปน ทั้งนี่ทั้งนั้นเราจะสมารถเห็นซากสถานที่โบราณที่ชาวอินคาได้สร้างไว้ตั้งแต่ยุครุ่งเรืองของอาณาจักรอินคา และสมารถเห็นได้ในประเทศเพื่อนบ้าน เช่น ประเทศเอคควาดอร์ อาเจนติน่า ชิลี้ เป็นต้น ทว่าบ้างครั้งซากเหล่านี้ที่ถูกทำลายโดยชาวสเปนที่มายึดครอง และมีโบสถ์ Catholic ถูกสร้างทับเพราะมิชันแนรีเชื่อว่าถ้าชาวบ้านนับถือศาสนา Catholic จะต้องให้เข้ามาบูชาและทำความเคารพต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในพื้นที่เดียวกับที่เคยเป็นวัดของพวกเขา แต่ตรงส่วนนี้ผมไปดูแล้วเขาไม่ให้ถ่ายรูป ก็เลยถ่ายสถานที่อื่นมาให้ดูกันครับ
เครื่องลงจอดที่เมือง Lima ตอน 6 โมงเย็นวันจันทร์ ณ ตอนนั่นก็เหนื่อยมาก เลยรีบขึ้นแทกซี่ไปพักผ่อนที่โรงแรม Belmond Miraflores Park เป็นโรงแรมที่สวยมากครับ และอยากแนะนำให้ที่จะไปเที่ยว Lima ครับ
ขอข้ามไป Cusco เลยนะครับ เช้าวันรุ่งขึ้นผมกับน้องสาวออกเดินทางไปเมือง Cusco ที่เคยเป็นเมืองหลวงของอาณาจักรอินคาเพื่อเรียนรู้วัฒนาธรรมและประวัติศาสตร์ของชาวอินคาครับ
23.06.15
โรงแรมที่พักในเมืองนี้คือ Belmond Monasterio (Monasterio แปลว่า Monastery เป็นวัดของคริสเตียนเก่าที่ Renovate ให้เป็นโรงแรม 5 ดาว) เป็นโรงแรมที่มีประวัติน่าสนใจมาก
วันนี้ได้ไปดูซากปอมประการ Saqsayhuaman สถานที่บูชายันลามาดำ และ Quencho วัดแห่งดวงดาว วัดแห่งพระอาทิตย์ วัดแห่งพระจันทร์ และก็โบสถ์ Catholic ประจำเมือง Cusco ที่ชาวสเปนสร้างทับวัดใน Colonial ครับ
ที่นี้มีชาวท้องทินเยอะมาก เป็นหลานๆของชาวอินคา บ้างคนพูดภาษา Quecha ได้ (ภาษาของชาวอินคา) และชอบใส่ชุดสีสันสดใส บ้างครั้งจะมีตัว Alpaca ไม่ก็ตัว Llama ข้างกาย
วันพรุ่งนี้ 24.06 เป็นวัน Inti Rayami เทศการของพระอาทิตย์ จะมีการฉลองและเล่นละครเลี่ยนแบบการบูชาลามาดำในสมัยอินคา ที่ Saqsayhuaman ตอนนี้ในเมืองก็เริ่มมีคนฉลอง ร้องเพลง เต้นรำกันใหญ่เลยครับ
Diary 2 Sacred Valley
24.06.15
วันนี้ได้ไปหลายที่เลย เริ่มจากออกนอกเมือง Cusco ไปทาง Sacred Valley (หุบเขาศักดิ์สิทธิ์) เมืองแรกที่หยุดดูคือเมือง Chincero เป็นเมืองเล็กๆน่ารัก ชาวเมืองนี้เก่งเรื่องทอผ้า และผู้หญิงในเมืองจะใส่ชุดสีดำแดง ผมก็ได้ไปดูการทอผ้าของชาว Chincero โดยใช้ขนอัลพากะ กับขนลามาครับ เป็นอะไรที่น่าสนใจมาก ก่อนอื่นเขาจะเอาขนที่ได้มาล้างด้วยราก Sakta จนขนเป็นสีขาวแล้วเอาออกไปตากแดดจนแห้งครับ หลังจากนั้นเขาก็เอาขนมาปั่นให้เป็นเส้นแล้วค่อยเอาไปย้อมสีธรรมชาติโดยต้มมันลงไปกับส่วนดอกไม้ ใบไม้ ไม่ก็แมลงบด (Cochineal) สำหรับสีแดงครับ พอเสร็จขั้นตอนนี้แล้วก็สมารถเอาไปทอเป็นลายสวยๆได้เลยครับ ชาว Chincero บอกมาว่าแต่ละครอบครัวจะมีลายประจำตะกูลที่แม่จะสอนลูกสาวตอนลูกสาว 7 ขวบและสืบทอดกันไปเรื่อยๆครับ
พอแวะเมือง Chincero ก็เดินทางต่อไปทางเหนือจนถึงเมือง Maras ที่เลื่องชื่อสำหรับเหมืองเกลือที่สร้างเป็นชั้นๆตามภูเขา และระเบียงปลูกและทดลองการเจริญเติบโตของพืชในพื้นที่สูง Moray ของชาวอินคา ระเบียง Moray ที่ชาวอินคาตั้งใจทำไว้จะเป็นวงกลมหลายๆวงซ่อนๆกันทำให้แต่ละส่วนของ Moray ได้รับแสงอาทิตย์และมีอุณหภูมิที่แตกต่างกัน
ถึงตอนนี้ก็เหนื่อยและครับ เวลาประมานบ่ายโมง ไปกินข้าวเที่ยงที่เมือง Urubamba ในหุบเขาศักดิ์สิทธิ์ ร้านอาหารชื่อร้าน Tunupa ครับ เป็น Buffet อาหารเปรู อยากบอกเลยว่าอาหารที่นี่รสชาติแย่มาก แต่บรรยากาศดีมากเลยยกโทษให้ได้ ฮ่าๆๆ พอถึงร้านก็ได้ลองชิม Ceviche ที่เป็นยำปลาแซลมอนของบ้านเขาด้วย คือเมนูอย่างเดียวที่พอรับได้ในร้านนี้ พอกินอาหารเสร็จแล้วกเดินลงไปถ่ายรูปกับตัวอัลพากะครับ ที่นี้มีตัว Vicuna ด้วยครับ เป็นตัวที่ขนแพงที่สุดในอเมริกาใต้เลย เพราะว่าขนมันน้อยมาก และก็นุ่มมากด้วย (ป.ล. พยายามถ่ายกับตัว Vicuna นะ แต่มัน น้ำลายใส่ - -“)
สถานที่สุดทายของวันคือเมือง Ollantaytambo เป็นเมืองของจักรพรรดิ Pachacuti (ครองราชย์ตั้งแต่ปี พ.ศ. 1438-1471) เมืองนี้มีระเบียง Pumatallis และวัดสำคัญหลายๆวัดบนเขา แต่ไม่ได้ไป ไปปีนระเบียงก็หมดวันแล้วครับ อีกอย่างที่สำคัญเกี่ยวกับเมือง Ollaytaytambo คือ เมืองนี้จะเป็นจุดเริ่มต้นของ Inca Trail (เดินตามรอยอินคาไปถึง Machu Picchu) ที่ใช้เวลาประมาน 4 วัน 3 คืนครับ สำหรับนักผจญภัยที่ร่างกายแข็งแรงนะ
อยากเพิ่มเติมอีกอย่าง ระหว่างทางไปจาก Cusco ไป Ollantaytambo วิวสวยมากเลยครับ
HIGHLIGHT! Diary 3 Machu Picchu
25.06.15
และแล้ววันที่สำคัญที่สุดก็มาถึง! วันที่ได้ไปดู 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลก นั่นก็คือ Machu Picchu เมืองในตำนานกลางหุบเขา Andes เป็นที่พักร้อนของจักรพรรดิ Pachacuti และเป็นเมืองสุดทายที่ถูกค้นพบของชาวอินคาในแทบ Sacred Valley ด้วยครับ ในตัว Machu Picchu มีวัดสำคัญหลายๆวัด เช่น วัดแห่งดวงอาทิตย์ วัดแห่งดวงจันทร์ วัดกระจกสองอัน วัดนก Condor และอีกมากมาย รวมถึงบ้านของจักรพรรดิ และหอดูดาว
Machu Picchu ถูกสร้างขึ้นประมานปี 1438 และสร้างเสร็จประมานปี 1472 ช่วงยุคจักรพรรดิ Pachacuti แต่ตอนที่ชาวสเปนมายึดครองเปรูก็นำพาโรคภัยไข้เจ็บมาหลายอย่างเช่นไข้หัด ซึ่งชาวอินคาคนหนึ่งได้เอาไข้หัดไปที่ Machu Picchu ทำให้ทุกคนป่วยและตาย จนเมืองนี้กลายเป็นเมืองร้างถึงแม้ว่าชาวสเปนจะไม่เจอเมืองนี้ก็ตาม (โลงอกไป เขาไม่มีโอกาสมาทำลายเมืองเพราะคนตายหมด)
การไปที่ Machu Picchu ครับ: จากตัวเมือง Cusco ไป Machu Picchu ก็ต้องนั่งรถไปสถานีรถไฟที่ Ollantaytambo (1 ชั่วโมงครึ่ง) ก่อนนั่งรถไฟไปอีกประมาน 1 ชั่วโมง ครึ่งจะถึงตีนเขา Aguas Calientes หรือ Machu Picchu Pueblo คือเมืองของที่อยู่ใต้ Machu Picchu ครับ หลังจากถึงเมือง Aguas Calientes แล้วก็นั่งรถบัสขึ้นไปบนเขาจนถึง Machu Picchu
อีกวิถีคือการเดินจาก Ollantaytambo ไปถึง Machu Picchu เลย ใช้เวลาประมาน 4 วัน เป็นการเดินป่าตามรอยชาวอินคาจริงๆเลย (ตาม Inca Trail) ในสมัยที่ไม่มีรถเนอะ และการนี้เราจะได้ขึ้นเขา Machu Picchu ด้วย (Machu Picchu แปลว่าเทือกเขาเก่าในภาษา Quecha) เพราะว่าพอถึงเมือง Machu Picchu แล้วเขาที่เราเห็นจะไม่ใช่เขา Machu Picchu แต่เป็นเขา Wayna Picchu ที่สมารถมองเห็นจากเขา Machu Picchu (Wayna Picchu แปลว่าเทือกเขาใหม่ – ดูจากในรูปเลยครับ นี่คือเขา Wayna Picchu)
ทุกอย่างในเมืองนี้สร้างขึ้นจากหินครับ ชาวอินคาจะใช้เทคนิค Imperial สำหรับวัดและบ้านของจักรพรรดิ (การต่อหินขนาดใหญ่ที่ถูกขัดให้เรียบเนียนจะได้ไม่ต้องใช้กาวหรือดินตอนต่อตึก) และ Rustic เทคนิคสำหรับตึกอื่นๆ (การต่อหินขนาดเล็กลงมาหน่อย และไม่ได้ขัดให้เนียน)
อยากบอกว่า ตอนที่ไปถึงมันสุดยอดจริงๆครับ บรรยายไม่ถูก ต้องมาเห็นเองกับตา เพราะรูปภาพถ่ายไปก็ไม่เหมือนมาเห็น 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกจริงๆ (ถึงแม้ตอนเห็นจะเป็นหวัดอยู่) ไม่เสียใจที่มาดูจริงๆครับ
ขอบคุณทุกคนที่ติดตาม Trip ไปเปรูด้วยนะครับ เจอกันใหม่ตอนไปกาลาปากอสครับ ^^ (ขออภัยถ้าภาษาไทยผิดด้วยนะครับ)
ใครสนใจทริปสนุกอย่างนี้มาถามได้เลยนะครับ
Credit: ROAMER 21 / Rand Osathanugrah
facebook.com/roam21
facebook.com/randosathanugrah