ขออีกทีนะ
ที่มา :
http://manager.co.th/iBizChannel/ViewNews.aspx?NewsID=9580000073162
ผู้ถือหุ้นรายย่อย POLAR ร่อนหนังสือถึงนายกฯ และ รมว.คลัง ขอให้ตรวจสอบ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง กรณีเข้าซื้อหุ้นเพิ่มทุนแบบเฉพาะเจาะจงในราคาถูก และขายออกอย่างรวดเร็ว ชี้ไม่เป็นธรรมต่อรายย่อย คาดมีการใช้ข้อมูลภายในไปใช้ประโยชน์
รายงานข่าวแจ้งว่า ผู้ถือหุ้นรายย่อยของ บมจ.โพลาริส แคปปิตัล (POLAR) ได้ทำหนังสือขอความเป็นธรรมต่อนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง สื่อมวลชน สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) รวมทั้งสมาคมต่างๆ เพื่อให้เข้าตรวจสอบกรณีหุ้น POLAR (เดิมชื่อ LL เปลี่ยนเป็น WAT และ WAT เปลี่ยนเป็น POLAR) ที่ได้มีการเพิ่มทุนซ้ำแล้วซ้ำเล่า และการเข้าซื้อหุ้นเพิ่มทุนแบบเฉพาะเจาะจง (PP) ของ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผู้บัญชาการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) แบบไม่เป็นธรรม
ทั้งนี้ ผู้ถือหุ้นรายย่อยมองว่า การเพิ่มทุนหลายครั้งส่งผลให้ผู้ถือหุ้นรายย่อยได้ประสบต่อการขาดทุน ต้องหาเงินมาใส่เพิ่มทุน ราคาหุ้นได้ลดต่ำลงมา ผู้ลงทุนรายย่อยหมดความหวัง อีกทั้งยังมีการขายหุ้นให้แก่บุคคลกันเองราคาต่ำ และซื้อที่ดินใน จ.พังงา จากคนกันเองในราคาสูง นอกจากนี้ พล.ต.อ.สมยศ ยังได้หุ้น PP ในราคาถูก และมีการเทขายออกอย่างรวดเร็วในเวลาอันสั้น ทำให้ได้กำไรมหาศาล
โดยเนื้อหาในหนังสือร้องเรียน ระบุว่า การที่บริษัทฯ เปลี่ยนชื่อหุ้นหลายครั้งเพราะทำแสบไว้กับรายย่อย จนรายย่อยเข็ดขยาด ต้องเปลี่ยนชื่อเพื่อให้รายย่อยกลุ่มใหม่เข้ามาเล่น และเป็นเหยื่อรายต่อไป
ดังนี้น จึงขอความเห็นใจจาก ก.ล.ต. และ ตลท. กรุณาให้ความสนใจข้อร้องเรียน และเรียกร้องให้หน่วยงานรัฐเข้ามาแก้ไขปัญหาการบริหารงานแบบเอาเปรียบรายย่อยให้ทันท่วงที ไม่เช่นนั้นการเปลี่ยนชื่อ การขายหุ้นทิ้งของผู้ถือหุ้นรายย่อยเดิมจากการที่ขาดความหวังจะสู้ และไม่อยากทนถือหุ้นต่อไป จะเข้าทางความต้องการของผู้บริหารที่จะได้สูบผลประโยชน์จากผู้ถือหุ้นรายย่อย
สำหรับข้อเรียกร้องของผู้ถือหุ้นรายย่อย คือ ให้นายกรัฐมนตรี สั่งให้ รมว.คลัง สั่งให้ ก.ล.ต.เข้าตรวจสอบ POLAR กรณีขายหุ้น PP ราคาถูก มีการใช้ข้อมูลภายใน (อินไซด์) ซื้อที่ดิน และบริหารไม่เป็นธรรม และสั่งการให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) เข้าตรวจสอบกรณี POLAR การขายหุ้น PP ราคาถูก
ทั้งนี้ มองว่าการปฏิบัติอันไม่ชอบธรรมของ พล.ต.อ.สมยศ ที่ได้มาในราคาถูกมาก และขายออกอย่างรวดเร็ว การเข้าซื้อผิดปกติ ราคาซื้อ PP ผิดปกติ ราคาขายหุ้นออกผิดปกติ ช่วงเวลาเข้าซื้อหุ้นไม่มีอินไซด์ได้จำนวนมากเป็นอันดับหนึ่ง และไม่เป็นธรรมต่อผู้ถือหุ้นรายย่อย
โดยก่อนหน้านี้ พล.ต.อ.สมยศ เป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ใน WAT ก่อนจะเปลี่ยนชื่อเป็น POLAR ต่อมาได้ขายหุ้นออกไป จนปัจจุบันไม่มีรายชื่อในบัญชีผู้ถือหุ้นรายใหญ่
ผู้ถือหุ้นรายย่อย POLAR ร่อนหนังสือถึงนายกฯ และ รมว.คลัง
ที่มา : http://manager.co.th/iBizChannel/ViewNews.aspx?NewsID=9580000073162
ผู้ถือหุ้นรายย่อย POLAR ร่อนหนังสือถึงนายกฯ และ รมว.คลัง ขอให้ตรวจสอบ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง กรณีเข้าซื้อหุ้นเพิ่มทุนแบบเฉพาะเจาะจงในราคาถูก และขายออกอย่างรวดเร็ว ชี้ไม่เป็นธรรมต่อรายย่อย คาดมีการใช้ข้อมูลภายในไปใช้ประโยชน์
รายงานข่าวแจ้งว่า ผู้ถือหุ้นรายย่อยของ บมจ.โพลาริส แคปปิตัล (POLAR) ได้ทำหนังสือขอความเป็นธรรมต่อนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง สื่อมวลชน สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) รวมทั้งสมาคมต่างๆ เพื่อให้เข้าตรวจสอบกรณีหุ้น POLAR (เดิมชื่อ LL เปลี่ยนเป็น WAT และ WAT เปลี่ยนเป็น POLAR) ที่ได้มีการเพิ่มทุนซ้ำแล้วซ้ำเล่า และการเข้าซื้อหุ้นเพิ่มทุนแบบเฉพาะเจาะจง (PP) ของ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผู้บัญชาการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) แบบไม่เป็นธรรม
ทั้งนี้ ผู้ถือหุ้นรายย่อยมองว่า การเพิ่มทุนหลายครั้งส่งผลให้ผู้ถือหุ้นรายย่อยได้ประสบต่อการขาดทุน ต้องหาเงินมาใส่เพิ่มทุน ราคาหุ้นได้ลดต่ำลงมา ผู้ลงทุนรายย่อยหมดความหวัง อีกทั้งยังมีการขายหุ้นให้แก่บุคคลกันเองราคาต่ำ และซื้อที่ดินใน จ.พังงา จากคนกันเองในราคาสูง นอกจากนี้ พล.ต.อ.สมยศ ยังได้หุ้น PP ในราคาถูก และมีการเทขายออกอย่างรวดเร็วในเวลาอันสั้น ทำให้ได้กำไรมหาศาล
โดยเนื้อหาในหนังสือร้องเรียน ระบุว่า การที่บริษัทฯ เปลี่ยนชื่อหุ้นหลายครั้งเพราะทำแสบไว้กับรายย่อย จนรายย่อยเข็ดขยาด ต้องเปลี่ยนชื่อเพื่อให้รายย่อยกลุ่มใหม่เข้ามาเล่น และเป็นเหยื่อรายต่อไป
ดังนี้น จึงขอความเห็นใจจาก ก.ล.ต. และ ตลท. กรุณาให้ความสนใจข้อร้องเรียน และเรียกร้องให้หน่วยงานรัฐเข้ามาแก้ไขปัญหาการบริหารงานแบบเอาเปรียบรายย่อยให้ทันท่วงที ไม่เช่นนั้นการเปลี่ยนชื่อ การขายหุ้นทิ้งของผู้ถือหุ้นรายย่อยเดิมจากการที่ขาดความหวังจะสู้ และไม่อยากทนถือหุ้นต่อไป จะเข้าทางความต้องการของผู้บริหารที่จะได้สูบผลประโยชน์จากผู้ถือหุ้นรายย่อย
สำหรับข้อเรียกร้องของผู้ถือหุ้นรายย่อย คือ ให้นายกรัฐมนตรี สั่งให้ รมว.คลัง สั่งให้ ก.ล.ต.เข้าตรวจสอบ POLAR กรณีขายหุ้น PP ราคาถูก มีการใช้ข้อมูลภายใน (อินไซด์) ซื้อที่ดิน และบริหารไม่เป็นธรรม และสั่งการให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) เข้าตรวจสอบกรณี POLAR การขายหุ้น PP ราคาถูก
ทั้งนี้ มองว่าการปฏิบัติอันไม่ชอบธรรมของ พล.ต.อ.สมยศ ที่ได้มาในราคาถูกมาก และขายออกอย่างรวดเร็ว การเข้าซื้อผิดปกติ ราคาซื้อ PP ผิดปกติ ราคาขายหุ้นออกผิดปกติ ช่วงเวลาเข้าซื้อหุ้นไม่มีอินไซด์ได้จำนวนมากเป็นอันดับหนึ่ง และไม่เป็นธรรมต่อผู้ถือหุ้นรายย่อย
โดยก่อนหน้านี้ พล.ต.อ.สมยศ เป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ใน WAT ก่อนจะเปลี่ยนชื่อเป็น POLAR ต่อมาได้ขายหุ้นออกไป จนปัจจุบันไม่มีรายชื่อในบัญชีผู้ถือหุ้นรายใหญ่