รีวิวนี้เป็นรีวิวแรกของผมเลย เป็นสมาชิกเว็บมาก็นานแต่ไม่ได้มีโอกาสตั้งกระทู้สักที แต่ผมอาศัยเข้ามาเที่ยวไปกับคนที่มาตั้งกระทู้ไปเที่ยวในที่ต่างๆ เหมือนเราได้ประสบการณ์ได้ไปเที่ยวในที่ต่างๆพร้อมกับเจ้าของกระทู้ด้วย ส่วนมากกระทู้ก็จะเป็นต่างประเทศโดยเฉพาะญี่ปุ่นจะมีเยอะ ถ้าในประเทศไทยก็จะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวขึ้นชื่อต่างๆ ดังนั้นสาเหตุที่ผมอยากทำรีวิวนี้เพราะว่าอยากนำเสนอสถานที่ท่องเที่ยวที่กาฬสินธุ์ที่บ้านเกิดผมซึ่งก็มีสถานที่ท่องเที่ยวมากมายที่บางคนก็อาจไม่รู้จักว่ากาฬสินธุ์มีแหล่งท่องเที่ยวอะไรบ้าง วันนี้ผมเลยอยากนำเสนอพิพิธภัณ์สิรินธรที่ขุดพบซากกระดูกไดโนเสาร์  ส่วนมากแล้วถ้าพูดถึงไดโนเสาร์คนก็จะนึกถึงขอนแก่น แต่กาฬสินธุ์ก็มีนะครับแถมมีแหล่งท่องเที่ยวใกล้เคียงอีกหลายที่ ถือว่ามาที่เดียวคุ้มเลย ยังไงมารู้จักแหล่งท่องเที่ยวกาฬสินธุ์กันเลยครับ
ปล.กระทู้นี้เป็นกระทู้แรกคำพูดหรือข้อมูลอาจจะไม่เยอะ หรือรูปภาพอาจจะไม่สวยก็ต้องขออภัยด้วยนะครับตากล้องสมัครเล่นครับ


ออกเดินทางสู่ อำเภอสหัสขันธุ์ จังหวัดกาฬสินธุ์ แหล่งขุดค้นเจอซากไดโนเสาร์
เส้นทาง กาฬสินธุ์-สหัสขันธุ์-คำม่วง  ระยะทางจากอำเภอเมืองกาฬสินธุ์ถึงพิพิธภัณฑ์ 32 กิโลเมตรโดยประมาณครับ ถ้าเดินทางโดยรถยนต์ก็ใช้เวลา 30 นาที แต่ผมใช้เพื่อนสองล้อนำทางกินลมชมแดดไปแบบชิ๊ววว ชิว
ถ้าเข้าเขตอำเภอสหัสขันธุ์จะเห็นไดโนเสาร์มาต้อนรับทันทีครับ



ขับรถมาอีกนิดนึง จะเห็นสวนไดโนเสาร์ครับ ที่นี่มีเป็นโขลงเลย ดูแล้วเหมือน จุราสสิค เวิล ยังไงอย่างงั้นเลย




แต่อย่าขับรถเพลินนะครับ ต้องอ่านป้ายให้ดีระมัดระวังด้วยครับ


ถ้าขับรถถึงตัวอำเภอสหัสขันธุ์จะเห็นป้ายนี้บนเขาฝั่งขวามือครับ แสดงว่าถึงแล้ว
มาไปสำรวจกัน




ขับเข้ามาก็จะมาถึงหน้าพิพิธภัณฑ์สิรินธร เลยครับ

เข้ามาดูมาชมได้เลยครับ


พิพิธภัณฑ์สิรินธรตั้งอยู่เชิงเขาภูกุ้มข้าว ขุดค้นพบซากฟอสซิลไดโนเสาร์หลายสายพันธุ์ และหลายตัว ที่มีความสมบูรณ์ จำนวนมากกว่า 700 ชิ้น มีอายุประมาณ 130 ล้านปี อยู่ในยุค ครีเตเชียสตอนต้น และยังขุดค้นพบซากปลาโบราณ เลปิโดเทส พันธุ์ใหม่ของโลกที่มีสภาพสมบูรณ์ ยาวประมาณ 30-60 เซนติเมตร มีอายุ 65 ล้านปีที่แล้ว พิพิธภัณฑ์ได้จัดแสดงนิทรรศการความรู้ทั้งโบราณชีววิทยาและธรณีวิทยา แบ่งออกเป็น 8 โซน คือ โซน 1 จักรวาลและโลก โซน 2 เมื่อชีวิตแรกปรากฏ โซน 3 พาลีโอโซอิก โซน 4 มีโซโซอิก โซน 5 วิถีชีวิตไดโนเสาร์ โซน 6 คืนชีวิตให้ไดโนเสาร์ โซน 7 ซีโนโซอิก และโซน 8 เรื่องของมนุษย์



ได้บัตรแล้วตามมาเลย

เจ้าหน้าที่แนะนำให้เดินตามรอยไดโนเสาร์ครับ










สำหรับผู้ที่ไม่สะดวกในการเดิน นั่งรถเข็นก็มาเที่ยวได้ครับ มีทางลาด และลิฟท์ให้


ที่นี้เหมาะแก่การพาครอบครัวมาครับ เด็กๆได้ความรู้ดีเลย



ในพิพิธภัณฑ์ยังมีร้านขายของที่ระลึก สารมารถเลือกซื้อได้ครับราคาไม่แพง



ตอนผมกำลังออกมายังเห็นกลุ่มคนที่มาเที่ยวอีกกลุ่มครับ เป็นครอบครัวใหญ่เลย


หลังจากที่เราชมนิทรรศการในพิพิธภัณฑ์เสร็จ เราไปดูแหล่งขุดพบของจริงต่อเลย ซึ่งก็ไม่ไกลกันมากครับเดินขึ้นไปอีกหน่อยนึง แต่อย่าลืมนำบัตรที่เราซื้อไปด้วยนะครับ สามารถเข้าดูได้เลย ถ้าไม่นำไปด้วยได้เสียตังค์อีกรอบแน่ๆ









หลังจากที่ดูซากกระดูกไดโนเสาร์เสร็จ แล้วขับรถไปเที่ยวต่อกันเลย อยู่ไม่ไกลกันนัก นั่นคือ พุทธสถานภูสิงห์เป็นที่ประดิษฐานพระพรหมภูมิปาโล ซึ่งเป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัยหน้าตักกว้าง 10.5 เมตร  เป็นที่เคารพสักการะของประชาชนโดยทั่วไปครับ
มีทางขึ้น 2 ทาง คือ ทางเดินเท้าทำเป็นบันได 104 ขั้น ทางทิศตะวันออก ทางนี้เจ้าของกระทู้ไม่ขึ้นแน่นอนวันนี้ เพราะเป็นช่วงกลางวันแดดเปรี้ยงเลย ถ้าเดินขึ้นเห็นว่าจะเป็นลมเอาซะก่อนมาคนเดียวด้วย กลัวไม่มีใครเอาไปเก็บ

และทางลาดยางคดเคี้ยวขึ้นตามไหล่เขาทางทิศตะวันตก มาสองล้อเหมาะกว่าเลย


ขึ้นมาถึงก็กราบไหว้ขอพรกันครับ





จากข้างบนยอดภูสิงห์ยังมองเห็นทิวทัศน์ของทุ่งนาหมู่บ้านและน้ำในเขื่อนลำปาว และเห็นจุดหมายต่อไปด้วย



หลังจากสักการะบูชาพระพรหมภูมิปาโลเสร็จ เดินทางต่อเป็นสถานที่สุดท้ายในการพาเที่ยวในรีวิวนี้
จุดหมายปลายทางก็ไม่ไกลเช่นเคยครับ นั่นคือ วัดพุทธนิมิต(ภูค่าว) พระไสยาสน์ ระยะทางจากพุทธสถานภูสิงห์ถึงวัดพุทธนิมิต(ภูค่าว) ประมาณ 9 กม. ครับขับรถ 15 นาทีก็ถึง
จะเห็นเด่นแต่ไกลเลย




"วัดพุทธนิมิต" วัดเก่าแก่ที่ตั้งอยู่บนยอดเขาภูค่าว อยู่ในเขตบ้านนาสีนวล ตำบลสหัสขันธ์ และที่สำคัญเลยบริเวณยอดเขาด้านทิศตะวันตกมีพระนอนแกะสลักบนแผ่นผาอายุนับพันปี เป็นที่เคารพสักการะของชาวกาฬสินธุ์ ใครมาแล้วไม่ได้มากราบไว้ถือว่ามาไม่ถึงวัดภูค่าวครับ
นอกจากนี้ภายในวัดยังมีโบสถ์ที่ประดับตกแต่ง สวยงามและวิหารที่ประดิษฐานพระพุทธรูปและพระเครื่องจำนวนมากครับ
อุโบสถไม้ วัดพุทธนิมิต ครับ










เมื่อเดินชมทั่วแล้วก็ก็เข้าไปภายในวัดอีกครับ จะมีถนนให้ขับรถขับเข้าไปได้หรือเดินไปก็ได้ ซึ่งเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปไสยาสน์ตะแคงซ้าย ไม่มีเกตุมาลา ความยาวประมาณ 2 เมตร กว้าง 25 ซม. ระหว่างทางเดินก็จะเห็นนกยูง ที่วัดนี้เยอะมากครับ



และยังมีวิหารสังฆนิมิตซึ่งเป็นที่เก็บพระพุทธรูป และพระเครื่องรุ่นต่าง ๆ ที่หายากครับ



จากนั้นเดินนิดเดียวก็ถึงพระพุทธรูปไสยาสน์ หรือพระนอน ครับ




ก็ขอพาเที่ยวกาฬสินธุ์ไว้เท่านี้ก่อน ที่จริงกาฬสินธุ์มีสถานที่ท่องเที่ยวเยอะครับ ถ้ามีโอกาสจะพาเที่ยวกาฬสินธุ์อีกครับ ผิดพลาดประการขออภัยด้วยครับ ข้อมูลอาจไม่ครบถ้วน หาเพิ่มเติมตามเว็บไซ์อื่นได้ครับ