ใครที่จะไปบริจาคให้สถานรับเลี้ยงฯ ... "เงิน" อาจไม่ใช่สิ่งที่ต้องการมากที่สุด !?

กระทู้สนทนา
* ขอบอกก่อนว่า ข้อมูลที่เขียนนี้ อาจจะไม่ตรงกับบางมูลนิธิ *


เรื่องเกิดจากว่า เรากับเพื่อนๆ ไปทำโครงงานและช่วยเหลือมูลนิธิแห่งหนึ่งที่ดูแลเด็กกำพร้าและเด็กด้อยโอกาส
มูลนิธิแห่งนี้เป็น 1 ใน หลายๆ มูลนิธิที่เกี่ยวกับเด็กในประเทศไทย
ตั้งอยู่ในจังหวัดนครปฐม ภายในโรงเรียนคริสต์แห่งหนึ่ง
เป็นมูลนิธิเล็กๆ
มีเด็กๆ ตั้งแต่ชั้นประถม-มัธยม อยู่ประมาณ 20 กว่าคน

ทีนี้ก่อนที่จะไปช่วยเหลือ เราก็เข้าไปสัมภาษณ์เจ้าหน้าที่และสำรวจมูลนิธิ
ก็ได้รู้เรื่องของบริจาคที่เขาต้องการ

"เงิน ไม่ใช่สิ่งที่เขาต้องการที่สุด"

ห๊ะะะ!!! แน่นอน ครั้งแรกที่ได้ยินเรากับเพื่อนๆก็แปลกใจ เพราะคนส่วนใหญ่ในสังคมก็มีความคิดฝังหัวที่ว่า
สถานรับเลี้ยง/มูลนิธิ เขาต้องการการเงินที่สุด
แต่ไม่ได้หมายความว่า เขาไม่ต้องการนะ --- ต้องการมาก แต่ไม่ได้ต้องการมากที่สุดแค่นั้นเอง

แล้วพวกเขาต้องการอะไรบ้างล่ะ?  
สำหรับมูลนิธินี้ ก็มีประเภทของบริจาค+รายละเอียดดังนี้ค่ะ

อันดับ1: ของใช้ส่วนตัว, การศึกษา, อุปกรณ์การศึกษา และคอมพิวเตอร์  
"ของใช้ส่วนตัว"  
เด็กมี20กว่าคน มูลนิธิก็ต้องซื้อเยอะ ซื้อบ่อย แต่เจ้าหน้าที่มีน้อยและเงินทุนก็ไม่ได้มาก ทำให้ขาดแคลนมาก

"การศึกษา"
บางคนอาจจะงงว่า มันต่างกับทุนการศึกษายังไง?
ในที่นี้ การศึกษาหมายถึง หนังสือดีๆ ที่ใช้สอบเข้ามหาลัย  
การสอบสมัยนี้ก็รู้ๆกันอยู่ว่ามันยากมากๆ ต้องมีหนังสือดีๆ+เรียนพิเศษด้วยซ้ำ
อันที่จริงเขาก็มีนะคะเป็นหนังสือที่โรงเรียนบริจาคมา แต่เราลองหยิบมาอ่านแล้ว มันยังดีไม่พอจริงๆค่ะ ใช้สอบเอ็นท์ไม่ได้
แต่หนังสือที่เขาบอกว่าต้องการจริงๆอีกอย่าง คือ "หนังสืออ่านเล่น" ต้องการมาก ไทยหรืออังกฤษก็ได้

นอกจากนี้ การศึกษายังหมายถึง ข้อมูลข่าวสารที่เกี่ยวกับคณะต่างๆ(เช่นค่าเทอม) ทุนอุดหนุนการศึกษาในคณะ
ฟังดูเล็กน้อยมาก แต่สิ่งนี้ทำให้เด็กๆ หลายคนไม่กล้าแม้กระทั่งจะฝันถึงคณะหรือมหาวิทยาลัยรัฐดีๆได้
เพราะเขาคิดว่าค่าเทอมแพงมาก(โดยเฉพาะหมอ)และไม่รู้เรื่องทุนอุดหนุนการศึกษาในคณะ
ทำให้เด็กๆที่ออกจากที่นี่ไปเลือกที่จะเรียนในมหาลัยเปิด+ทำงานไปด้วย
ทั้งๆที่บางคนมีผลการเรียนที่ดีมาก ควรจะได้มีโอกาสที่ดีกว่านั้น
(แต่มูลนิธิก็มีส่งเงินเป็นค่าเทอมหรือไม่เด็กบางคนก็เลือกที่จะมาช่วยงานในมูลนิธิ คือมูลนิธิเขาก็ยังดูแลอยู่บ้างน่ะค่ะ)

"อุปกรณ์การศึกษา"
ประเด็นคือมันเยอะ และไม่ถูกเท่าไรด้วย โดยเฉพาะวิชาศิลปะ เช่นปากกาตัดเส้น สีโป๊สเตอร์ ฯลฯ ต้องการมากกก

"คอมพิวเตอร์"
ดูเป็นของฟุ่มเฟือยในสายตาบางคน แต่ทุกวันนี้เวลาทำรายงานส่ง อาจารย์ก็มักจะสั่งให้เราพิมพ์โดยใช้คอมพิวเตอร์
คือแทบทุกวิชาจะต้องมีการบ้านที่ต้องใช้คอมฯทั้งนั้น  ซึ่งที่มูลนิธิก็มี...แต่มันไม่ค่อยดีเท่าไร ต้องเซฟงานทุกๆ 5 นาที เดี๋ยวติดๆ ดับๆ
ตัวที่ปกติมีแค่ 1-2 ตัวเอง(แต่เด็กมี 20กว่าคน)

อันดับ2: เงิน ทุนการศึกษา และ ยา
"เงิน"
บางคนอาจจะแย้งว่า ที่ของมันขาดแคลนก็เพราะเงินไม่พอด้วยไม่ใช่หรอ แล้วทำไมไม่ให้เงินเป็นอันดับ1ล่ะ!?
ที่เป็นอย่างนี้เพราะ ที่นี่เป็นมูลนิธิเล็กๆ มีเจ้าหน้าที่ 2 คนผลัดกันดูแลเด็กแบบ วัน-เว้น-วัน
ถ้าคุณบริจาคเป็นเงินมา ก็ดีมากๆเลยค่ะ
แต่...จะออกไปซื้อของยังไงดี?
คือ ถ้าเจ้าหน้าที่Aไป ก็จะไม่มีใครดูแลเด็ก งั้นก็ต้องรีบโทรตามเจ้าหน้าที่ B มา ซึ่งมันค่อนข้างวุ่นวาย
เขาก็เลยบอกว่า "ถ้าเป็นไปได้ ขอเป็นสิ่งของที่เอามาใช้ได้เลยจะดีกว่าค่ะ เพราะเวลาออกไปซื้อมันลำบาก"
แต่ๆๆ ... เขาก็ต้องการนะ เอามาจ่ายค่าน้ำค่าไฟ และ........

"ทุนการศึกษา"
ค่ะ จ่ายค่าเทอม และค่าสมัครสอบ GAT-PAT, 7 วิชาสามัญ และอื่นๆ
โชคดีที่มูลนิธินี้เป็นมูลนิธิในเครือคริสต์และเป็นของโรงเรียนที่เขาตั้งอยู่ด้วย ค่าเทอมก็เลยพอคุยกันได้ แต่ก็ลำบากหน่อย
แต่สำหรับค่าสมัครสอบนั้น สำหรับคนที่อาศัยอยู่กับครอบครัวก็อาจจะไม่รู้สึกอะไรมาก
แต่กับเด็กจนๆ และเด็กกลุ่มนี้ บอกเลยว่ามันเยอะนะ  
เห็นค่าสมัครแล้ว(ไม่ว่าจะเป็นแกทแพทหรือ7วิชา) อย่างกับระบบการศึกษาบ้านเราจะบอกว่า
"ฉันไม่มีพื้นที่ให้สำหรับเด็กจนๆ" หรือ "ฉันลืมนึกถึงพวกเธอไป"
มันแพงอ่ะะะ เราก็ไม่รู้เหมือนกันว่าก.ศึกษาธิการ มีทุนลดค่าใช้จ่ายพวกนี้มั้ย
ที่น่าเศร้าไปกว่านั้นคือ ทุนการศึกษาต่างๆ ที่มีอยู่ในประเทศ
เท่าที่เราหาข้อมูลให้เด็กๆพวกนี้ ทุนสำหรับเด็กยากจน มันมีน้อยมาก
อย่างทุนเรียนดีเงี้ย เราก็นึกว่าค่าสมัครไม่แพง(เพราะแบบฟรีสำหรับเด็กยากจนมีน้อยก็เลยหาที่จ่ายถูกๆแล้วกัน)
ค่าสมัคร 500 บาท ...คือ ขอที่ยืนในสังคมด้านการศึกษาให้เด็กพวกนี้หน่อยได้มั้ย (ก็ยังดีที่มีบางทุนให้นะ)

"ยา"
อันนี้ก็ขาดแคลนไม่แพ้กัน แค่ยาสามัญนะ เช่นพาราฯ ทิงเจอร์ฯ ตอนที่เรากับเพื่อนไปดูน่ะ เขาไม่มีมาสักพักแล้ว
เวลาน้องๆไม่สบาย ก็ลำบากค่ะ

อันดับ 3: อาหาร เสื้อผ้า และ อุปกรณ์การกีฬา
"อาหาร"
เคยแต่เกือบไม่มี โชคดีที่เขายังมีคณะซิสเตอร์ดูแล เลยหามาได้ทันเวลา หรือไม่ก็มีคนมาบริจาคให้พอดี (เขาบอกว่าเด็กๆกินข้าวจุมาก555)
แต่เขาก็ค่อนข้างต้องการมากนะคะ เพราะต้องกินทุกวัน

"เสื้อผ้า"
คล้ายๆกับอาหาร คณะซิสเตอร์จะมีให้เป็นชุดฟอร์ม แต่ชุดธรรมดา เด็กๆก็ไม่ค่อยมี เขาก็อยากได้เสื้อผ้าบริจาคเช่นกันค่ะ
นอกจากเสื้อผ้าก็ยังมี "ผ้าดิบ" ที่เขาต้องการมากๆ เพราะเขาสามารถนำมาตัดเย็บได้หลายอย่างมากๆ

"อุปกรณ์การกีฬาและดนตรี"
เด็กๆจะชอบอย่างหลังมากกว่า คือ ดนตรี ด้วยความที่มูลนิธินี้มีแต่เด็กผู้หญิงล้วนด้วย เขาก็เลยเล่นกีฬาน้อยกว่าดนตรี
ตอนที่ไปจัดกิจกรรมให้เด็กๆ เขามีเล่นดนตรีขอบคุณพวกเราด้วย ประทับใจมากเลยค่ะ

นี่คือเท่าที่เรากับเพื่อนๆ รวบรวมและจดบันทึกไว้
อาจจะไม่ได้เป็นอย่างนี้ทุกมูลนิธิ
มูลนิธินี้ เป็นมูลนิธิขนาดเล็ก และดูแลน้องๆ ดีพอสมควร ตั้งอยู่ในโรงเรียนด้วย
แต่ก็ยังคงขาดแคลนหลายๆอย่าง โดยเฉพาะเรื่อง "การศึกษา"
ขนาดเขาตั้งอยู่ในร.ร.นะคะ เรื่องทุนฯหรือค่าเทอม น้องๆยังไม่รู้เลย (แล้วมูลนิธิที่อื่นที่ไม่ได้ตั้งในร.ร.และลำบากกว่าจะขนาดไหน)
พวกเขาคิดว่าค่าเทอมแพงมาก เพราะมีแต่ม.เอกชนมาแนะแนวกับพวกเขา แต่ไม่มีม.รัฐเข้าไป ข่าวสารเข้าถึงน้อย

สรุปเรื่องของบริจาคที่มาแชร์ คือคนที่ต้องการช่วยเหลือน้องๆ(ที่อื่นๆไม่ใช่แค่ที่นี่) อยากบริจาคเงิน
ถ้าเป็นไปได้อยากให้นำเงินบริจาคส่วนหนึ่ง ซื้อสิ่งของแล้วบริจาคร่วมด้วยค่ะ เช่น อาหาร เสื้อผ้า ยา อื่นๆที่ได้กล่าวไว้แล้ว
เพราะเขาจะได้นำของไปใช้ได้เลยและเอาเงินไปจ่ายในสิ่งที่ต้องการเพิ่มเติม หรือไม่ก็โทรถามก่อนก็ดีค่ะ(ถ้ามีเบอร์)

อีกอย่างคือ เด็กกำพร้าหรือเด็กด้อยโอกาส พวกเขาไม่ใช่ปัญหาสังคม หรือ เด็กมีปัญหาอย่างที่หลายคนคิดเลยนะคะ
ตอนที่เราเจอกับน้องๆ เขาดูเหมือนเด็กทั่วไปมากๆ
เป็นเด็กที่ต้องการโอกาสในสังคม
เป็นเด็กที่จะเติบโตเป็นทรัพยากรล้ำค่าในสังคม
เพียงแต่เขาต้องการใครสักคน ช่วยดูแลและให้โอกาสเขา

เพียงแค่นี้แหละค่ะ ที่อยากนำมาแบ่งปัน
ขอบคุณแทนเด็กๆพวกนี้ด้วยค่ะ หัวใจ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่