เปรียบมวยคู่เอกของ เครื่องบินที่จะมาแทน L-39 กองทัพอากาศ
มารู้จัก L-39 เครื่องบิน L-39 ตอนนี้ประจำการอยู่ที่กองบิน41 เชียงใหม่
ภารกิจของ L-39
ในกองทัพอากาศไทยคือภารกิจฝึกนักบินที่จะทำการบินกับเครื่องบินขับไล่ หรือ
Lead-In Fighter Trainer (LIFT) โดยนักบินที่จบจากโรงเรียนการบินกำแพงแสน
ก็จะมาฝึกกับเครื่องบินชนิดนี้
หลังจากนั้นก็จะแยกย้ายไปฝึกบินกับเครื่องบินขับไล่ต่อไป
L-39 ใช้เครื่องยนต์ Turbo Fan Progress/Ivchenko AI-25TL 1 เครื่อง ให้แรงขับ 16900 นิวตัน
ยาว 12.13 เมตร ความกว้างจากปลายปีกถึงปลายปีก 9.46 เมตร น้ำหนักตัวเปล่า 3.5
ตัน บรรทุกอาวุธได้ 1.2 ตัน มีความเร็วสูงสุด 0.8 มัค พิสัยบินไกล 1,000 กม.
เพดานบินสูงสุด 37,000 ฟุต
ทีนี้มาทำความเข้าใจกับวัตถุประสงค์หลักในการจัดซื้อเครื่องบินในครั้งนี้
กองทัพอากาศกำลังมองหาเครื่องมาบินที่จะมาใช้ในภารกิจฝึกนักบิน Lead In Fighter พูดภาษาง่าย ๆ คือ
ศิษย์การบินที่จบจากโรงเรียนการบิน ฝึกเครื่องบินใบพัดมา พอแยกสายนักบินเป็นสายขับไล่และ
ลำเลียงแล้วก็ต้องมีการฝึกในขั้นต่อไป ในที่นี้ขอกล่าวถึงนักบินสายขับไล่ หรือFighter
ซึ่งเครื่องบินขับไล่เป็นเครื่องบินที่มีสมรรถนะสูงมากทั้งยังเป็นเครื่องบินไอพ่น
ซึ่งการบินแต่ละครั้งมีค่าใช้จ่ายสูงมากกองทัพอากาศทั่วโลกส่วนมากจึงให้ศิษย์การบินเหล่านี้
ได้ฝึกฝนและพัฒนาทักษะกับเครื่องบินไอพ่นแบบฝึกก่อนที่จะไปบินเครื่องบินขับไล่ขั้นสูงในขั้นต่อไป
เมื่อกองทัพอากาศกำลังจัดหาเครื่องบินฝึกสมรรถนะเครื่องบินก็ต้องเหมาะสมกับนักบิน
ที่กำลังเปลี่ยนแบบจากใบพัดเป็นไอพ่นเช่นกัน
การจัดหาเครื่องบินที่มาทดแทน L-39 ครั้งนี้ จึงมีมวยคู่เอก สองสำนัก ที่น่าจับตามอง ได้แก่
M-346 จากประเทศอิตาลี และ T-50 จากประเทศเกาหลี
ที่ดูจะเข้าตากรรมการและบรรดากองเชียร์มากที่สุด ผมจึงอยากนำเสนอข้อมูลทั้งสองรุ่น ดังนี้
ความหล่อของมวยคู่นี้ สูสี ด้วย
รูปลักษณ์ภายนอกที่เป็นเครื่องบินฝึกขั้นสูง M-346 หน้าตาหล่อเหลา มองข้างหน้ารู้เลยว่าเป็นหนุ่มนายแบบมาจากอิตาลี
ไว้ลายเมืองแฟชั่น และยนตรกรรมแนวสปอร์ตมาแต่ไกลเลย
ส่วนทาง T-50 หนุ่มน้อยหน้ามนเมกามาศัลยกรรมที่เกาหลี เป็นตี๋อินเตอร์ ทำออกมาแล้วก็หล่อสมใจ
โดยหวังว่าจะหลอกล่อใจสาวเอเชียได้ ดั่งเช่นที่หลอกสาวอินโด และ สาวฟิลิปปินส์ไปแล้ว
เปรียบมวยคู่เอก "เครื่องบินที่จะมาแทน L-39" ของกองทัพอากาศไทย
มารู้จัก L-39 เครื่องบิน L-39 ตอนนี้ประจำการอยู่ที่กองบิน41 เชียงใหม่
ภารกิจของ L-39
ในกองทัพอากาศไทยคือภารกิจฝึกนักบินที่จะทำการบินกับเครื่องบินขับไล่ หรือ
Lead-In Fighter Trainer (LIFT) โดยนักบินที่จบจากโรงเรียนการบินกำแพงแสน
ก็จะมาฝึกกับเครื่องบินชนิดนี้
หลังจากนั้นก็จะแยกย้ายไปฝึกบินกับเครื่องบินขับไล่ต่อไป
L-39 ใช้เครื่องยนต์ Turbo Fan Progress/Ivchenko AI-25TL 1 เครื่อง ให้แรงขับ 16900 นิวตัน
ยาว 12.13 เมตร ความกว้างจากปลายปีกถึงปลายปีก 9.46 เมตร น้ำหนักตัวเปล่า 3.5
ตัน บรรทุกอาวุธได้ 1.2 ตัน มีความเร็วสูงสุด 0.8 มัค พิสัยบินไกล 1,000 กม.
เพดานบินสูงสุด 37,000 ฟุต
ทีนี้มาทำความเข้าใจกับวัตถุประสงค์หลักในการจัดซื้อเครื่องบินในครั้งนี้
กองทัพอากาศกำลังมองหาเครื่องมาบินที่จะมาใช้ในภารกิจฝึกนักบิน Lead In Fighter พูดภาษาง่าย ๆ คือ
ศิษย์การบินที่จบจากโรงเรียนการบิน ฝึกเครื่องบินใบพัดมา พอแยกสายนักบินเป็นสายขับไล่และ
ลำเลียงแล้วก็ต้องมีการฝึกในขั้นต่อไป ในที่นี้ขอกล่าวถึงนักบินสายขับไล่ หรือFighter
ซึ่งเครื่องบินขับไล่เป็นเครื่องบินที่มีสมรรถนะสูงมากทั้งยังเป็นเครื่องบินไอพ่น
ซึ่งการบินแต่ละครั้งมีค่าใช้จ่ายสูงมากกองทัพอากาศทั่วโลกส่วนมากจึงให้ศิษย์การบินเหล่านี้
ได้ฝึกฝนและพัฒนาทักษะกับเครื่องบินไอพ่นแบบฝึกก่อนที่จะไปบินเครื่องบินขับไล่ขั้นสูงในขั้นต่อไป
เมื่อกองทัพอากาศกำลังจัดหาเครื่องบินฝึกสมรรถนะเครื่องบินก็ต้องเหมาะสมกับนักบิน
ที่กำลังเปลี่ยนแบบจากใบพัดเป็นไอพ่นเช่นกัน
การจัดหาเครื่องบินที่มาทดแทน L-39 ครั้งนี้ จึงมีมวยคู่เอก สองสำนัก ที่น่าจับตามอง ได้แก่
M-346 จากประเทศอิตาลี และ T-50 จากประเทศเกาหลี
ที่ดูจะเข้าตากรรมการและบรรดากองเชียร์มากที่สุด ผมจึงอยากนำเสนอข้อมูลทั้งสองรุ่น ดังนี้
ความหล่อของมวยคู่นี้ สูสี ด้วย
รูปลักษณ์ภายนอกที่เป็นเครื่องบินฝึกขั้นสูง M-346 หน้าตาหล่อเหลา มองข้างหน้ารู้เลยว่าเป็นหนุ่มนายแบบมาจากอิตาลี
ไว้ลายเมืองแฟชั่น และยนตรกรรมแนวสปอร์ตมาแต่ไกลเลย
ส่วนทาง T-50 หนุ่มน้อยหน้ามนเมกามาศัลยกรรมที่เกาหลี เป็นตี๋อินเตอร์ ทำออกมาแล้วก็หล่อสมใจ
โดยหวังว่าจะหลอกล่อใจสาวเอเชียได้ ดั่งเช่นที่หลอกสาวอินโด และ สาวฟิลิปปินส์ไปแล้ว