สวัสดีค่ะ เราอายุเพียง27 แต่ว่าเราเหมือนผ่านชีวิตมามากมาย ครั้งแรกที่เราผิดพลาดคือ การท้องโดยไม่ได้แต่งงาน เนื่องจาก เรามารู้ตัวว่าท้อง หลังจากที่ เราเลิกกับพ่อของลูกไปแล้ว
และชีวิต เราก็ได้ผ่านพ้นอุปสรรคครั้งที่1ไป จนเรามาเจอ ผู้ชายคนนึงในบริษัทเดียวกัน เขาเป็นคนญี่ปุ่น อายุ34ปี เราคบหากันได้ไม่นาน(ปีครึ่ง) เราตัดสินใจ ที่จะแต่งงานกัน เพราะตัวเขาก็รับและเอ็นดูลูกเราอยู่พอสมควร และเขาก็พร้อมแล้วในการแต่งงาน จากนั้น เราเริ่มสร้างครอบครัวด้วยกัน ซื้อคอนโด ซื้อรถ เรามีทรัพย์สินและหนี้สินไปพร้อมๆกัน
ทุกอย่างดูเหมือนว่ามันจะลงตัว เพื่อนๆต่างพากันอิจฉา รวมถึงญาติพี่น้อง โดยส่วนตัว เขาคิดว่าเราไปไม่รอด ญาติเราค่อนข้างที่จะดูถูกเรา เพราะเรามีลูก ติดเที่ยว และเปลี่ยนงานบ่อย คือมีบางคนรัก ก็มีบางคนเกลียด
แต่แล้ว ชีวิตคู่ที่แท้จริง ก็เริ่มต้นขึ้น คือแฟนญีุ่ปุ่นคนนี้ เขามีเรื่องที่ดี และ มีเรื่องที่ไม่ดี เรื่องที่ดีของเขาก็คือ ความซื่อสัตย์ ไม่เจ้าชู้ ให้เงินเราทุกบาท ทุกสตางค์ แต่ส่วนที่ไม่ดีของเขานี่สิ มันอาจจะเกินคำว่าให้อภัย เราสองคนด้วยภาษาต่างกัน(เราพอพูดภาษาญี่ปุ่นได้ แต่ไม่ลึกซึ้ง) วัฒนธรรมต่างกัน จึงทำให้มีปากเสียงกันอยู่บ่อยๆ ตัวเราก็ยอมรับว่าตัวเราก็ไม่ได้ดี เราเป็นคนเอาแต่ใจ แต่ส่วนใหญ่แฟนเราก็ยอมเรา แต่ถ้าเกิดบางครั้งที่เขาไม่ยอม หรือเราพูดว่าเขา ที่ทำให้เขาแคลงใจ เขาจะใช้กำลังกับเรา แม้ว่าจะอยู่กลางที่สาธารณะก็เถอะ เขาก็ฉุด กระชาก ลาก ถู เรามาแล้ว ต่อหน้าผู้คนเป็นร้อย เราอายมาก เราทำอะไรไม่ถูก จนบางครั้ง ผู้รักษาความปลอดภัยแถวนั้น ต้องเดินเข้ามาช่วยเรา และล่าสุดเขาทุ้มเราบนเตียง แล้วกระชากเสื้อผ้าเราขาดหลุดรุ้ย จนดูไม่ได้ ถึงแม้ว่าเราจะร้องไห้เท่าไหร่ เขาไม่เคยที่จะอ่อนโยนกับเราสักครั้ง และมันไม่ใช่แค่ครั้งแรก แต่มันเป็นสิบครั้งแล้ว แต่สุดท้ายทุกๆครั้ง เขาก็จะขอโทษในสิ่งที่เขาทำลงไป
ส่วนตัวเราคิดว่า เราอาจจะพูดไม่ดี ยั่วโมโห หรือเอาแต่ใจมากแค่ไหน คำว่าลูกผู้ชาย ไม่ควรที่จะใช้กำลังกับผู้หญิง ดังนั้นทำให้เราเริ่มมีความคิดว่า เราควรที่จะเดินออกมา หรือ ก้าวต่อไปดี
**ตอนนี้เราสับสนมาก ไม่รู้ว่าชีวิตต่อไป จะเดินต่อไปได้อย่างไร ในเมื่อ หนี้สิน ที่กองอยู่ข้างหน้ามันเยอะเหลือเกิน เราลำพังคนเดียวคงจ่ายไมไหว ไหนจะลูกที่ต้องส่งเสียค่าเทอมเลี้ยงดูอีก เพราะส่วนใหญ่ เกือบทั้งหมด แฟนเราเป็นคนรับผิดชอบหมดทุกอย่าง ที่สำคัญ ญาติพี่น้องเราเขาคอยเหยียบเรา เมื่อเราล้มอยู่แล้ว เราไม่อยากให้พี่น้องรับรู้เรื่องราวในชีวิตเรา และไม่อยากให้เขาดูถูกเราเหมือนที่เขาคิดกันไว้ เราควรทำอย่างไรดี?
ถูกสามีญี่ปุ่นใช้กำลัง
และชีวิต เราก็ได้ผ่านพ้นอุปสรรคครั้งที่1ไป จนเรามาเจอ ผู้ชายคนนึงในบริษัทเดียวกัน เขาเป็นคนญี่ปุ่น อายุ34ปี เราคบหากันได้ไม่นาน(ปีครึ่ง) เราตัดสินใจ ที่จะแต่งงานกัน เพราะตัวเขาก็รับและเอ็นดูลูกเราอยู่พอสมควร และเขาก็พร้อมแล้วในการแต่งงาน จากนั้น เราเริ่มสร้างครอบครัวด้วยกัน ซื้อคอนโด ซื้อรถ เรามีทรัพย์สินและหนี้สินไปพร้อมๆกัน
ทุกอย่างดูเหมือนว่ามันจะลงตัว เพื่อนๆต่างพากันอิจฉา รวมถึงญาติพี่น้อง โดยส่วนตัว เขาคิดว่าเราไปไม่รอด ญาติเราค่อนข้างที่จะดูถูกเรา เพราะเรามีลูก ติดเที่ยว และเปลี่ยนงานบ่อย คือมีบางคนรัก ก็มีบางคนเกลียด
แต่แล้ว ชีวิตคู่ที่แท้จริง ก็เริ่มต้นขึ้น คือแฟนญีุ่ปุ่นคนนี้ เขามีเรื่องที่ดี และ มีเรื่องที่ไม่ดี เรื่องที่ดีของเขาก็คือ ความซื่อสัตย์ ไม่เจ้าชู้ ให้เงินเราทุกบาท ทุกสตางค์ แต่ส่วนที่ไม่ดีของเขานี่สิ มันอาจจะเกินคำว่าให้อภัย เราสองคนด้วยภาษาต่างกัน(เราพอพูดภาษาญี่ปุ่นได้ แต่ไม่ลึกซึ้ง) วัฒนธรรมต่างกัน จึงทำให้มีปากเสียงกันอยู่บ่อยๆ ตัวเราก็ยอมรับว่าตัวเราก็ไม่ได้ดี เราเป็นคนเอาแต่ใจ แต่ส่วนใหญ่แฟนเราก็ยอมเรา แต่ถ้าเกิดบางครั้งที่เขาไม่ยอม หรือเราพูดว่าเขา ที่ทำให้เขาแคลงใจ เขาจะใช้กำลังกับเรา แม้ว่าจะอยู่กลางที่สาธารณะก็เถอะ เขาก็ฉุด กระชาก ลาก ถู เรามาแล้ว ต่อหน้าผู้คนเป็นร้อย เราอายมาก เราทำอะไรไม่ถูก จนบางครั้ง ผู้รักษาความปลอดภัยแถวนั้น ต้องเดินเข้ามาช่วยเรา และล่าสุดเขาทุ้มเราบนเตียง แล้วกระชากเสื้อผ้าเราขาดหลุดรุ้ย จนดูไม่ได้ ถึงแม้ว่าเราจะร้องไห้เท่าไหร่ เขาไม่เคยที่จะอ่อนโยนกับเราสักครั้ง และมันไม่ใช่แค่ครั้งแรก แต่มันเป็นสิบครั้งแล้ว แต่สุดท้ายทุกๆครั้ง เขาก็จะขอโทษในสิ่งที่เขาทำลงไป
ส่วนตัวเราคิดว่า เราอาจจะพูดไม่ดี ยั่วโมโห หรือเอาแต่ใจมากแค่ไหน คำว่าลูกผู้ชาย ไม่ควรที่จะใช้กำลังกับผู้หญิง ดังนั้นทำให้เราเริ่มมีความคิดว่า เราควรที่จะเดินออกมา หรือ ก้าวต่อไปดี
**ตอนนี้เราสับสนมาก ไม่รู้ว่าชีวิตต่อไป จะเดินต่อไปได้อย่างไร ในเมื่อ หนี้สิน ที่กองอยู่ข้างหน้ามันเยอะเหลือเกิน เราลำพังคนเดียวคงจ่ายไมไหว ไหนจะลูกที่ต้องส่งเสียค่าเทอมเลี้ยงดูอีก เพราะส่วนใหญ่ เกือบทั้งหมด แฟนเราเป็นคนรับผิดชอบหมดทุกอย่าง ที่สำคัญ ญาติพี่น้องเราเขาคอยเหยียบเรา เมื่อเราล้มอยู่แล้ว เราไม่อยากให้พี่น้องรับรู้เรื่องราวในชีวิตเรา และไม่อยากให้เขาดูถูกเราเหมือนที่เขาคิดกันไว้ เราควรทำอย่างไรดี?