ช่วงหลายวันที่ผ่านมานี้เห็นการเเสดงความคิดเห็นกับเรื่องมหาลัยกันเยอะมาก ไม่ว่าจะเป็นเกณฑ์การรับพนักงานของ scb หรือล่าสุดอย่างเซนทรัลก็มีมาโพสกัน

คำถามที่ส่วนใหญ่จะถามกันคือ....
  ทำไมองค์กรต่างๆเหล่านี้ถึงไม่เปิดกว้างให้ความเสมอภาคกับทุกมหาวิทยาลัย ?

เเต่  หลายๆคนลืมคิดไปหรือเปล่าครับ ว่าการรับสมัครพนักงานใหม่ เขาจะรู้ศักยภาพเเละความสามารถของคุณได้อย่างไรครับ เขาจึงใช้เกณฑ์มหาลัยมาตัดสินในเบื้องต้นบางท่านอาจเเย้งว่าทำไมเขาถึงไม่จัดสอบกันให้มันเป็นเรื่องเป็นราวไปเลยละเเฟร์ๆดี มันก็ใช่ เเต่เขาจะทำไปเพื่ออะไรละครับให้มันสิ้นเปลืองงบประมาณเปล่าๆทั้งทางด้านเวลาเเละทรัพยากรบางที่เลยเลือกจากมหาลัยดังๆผมไม่ได้ต้องการสื่อให้เห็นว่าราชภัฏหรือมหาลัยไม่ดังไม่ดีเปล่าเลย เเต่ในความเป็นจริงเราต้องยอมรับกันว่าคนที่สามารถเข้าเรียนมหาลัยที่ดังได้ย่อมมีความสามารถมากกว่าเพราะการเเข่งขันมันมากกว่านั่นเองครับ ดังนั้นถ้าคุณเป็นผู้ประกอบการย่อมต้องการบุคลากรที่มีประสิทธิภาพคุณจะใช้เกณฑ์อะไรในการคัดเลือกละครับ เกรด มหาลัย เพราะมันอยู่ในทรานสคริปคุณนั่นเเหละครับ

ผมทราบครับว่าพื้นฐานคนเราไม่เหมือนกันทั้งทางฐานะครอบครัว สภาพเเวดล้อม เเต่คุณสามารถพยายามได้ครับโลกเด่วนี้เปิดกว้าง เพื่อนผมบางคนฐานะทางบ้านไม่ค่อยดีเเต่ก็ด้วยความพยายามเลยกู้กยศ เพื่อเรียนได้ครับ ผมจึงเชื่อว่าอยู่ที่ความพยายามของตัวคุณเองครับ

ผมเชื่อว่าก่อนที่หลายๆท่านจะเลือกเรียนที่ใดนั้นก็คงทราบกันเเล้วว่าระบบมันเป็นเเบบนี้ไม่เฉพาะที่ไทย เเม้เเต่ต่างประเทศยังมีการจัดลำดับมหาวิทยาลัยที่มีโอกาสได้งานทำมากที่สุดเลยครับ  โลกเราเป็นโลกของการเเข่งขันครับเราจึงควรที่จะยอมรับในสิ่งที่เราเลือกหลายๆบริษัทยังเปิดกว้างให้โอกาสกับพวกคุณอย่าพึ่งหมดกำลังใจนะครับ เราลองเอาเวลาเเห่งความเสียใจ การเปรียบเทียบ มาเป็นการพัฒนาตนเองดีกว่าครับ ไม่ว่าจะเป็นเกรดเฉลี่ย หรือทักษะภาษาอังกฤษทั้งโทอิค โทเฟล เพราะสิ่งเหล่านี้สามารถเเสดงให้เห็นศักยภาพคุณในการสมัครงานได้ครับ