ถ้ามีคนเอาทรัพย์สินมาฝาก ซึ่งผมก็จะมีกระดาษลงรายละเอียดว่าเอาอะไรมาฝากๆ ตั้งแต่เมื่อไหร่ แล้วเกิดว่าคนฝากเสียชีวิต ทายาทของผู้ฝากมาขอทรัพย์สินของผู้เสียชีวิตคืน ผมบอกว่าได้ แต่ให้ทายาทบอกมาว่าผู้เสียชีวิตฝากทรัพย์สินอะไรไว้บ้างให้เอาหลักฐานซึ่งก็คือกระดาษที่ผมเคยให้ไว้มาแล้วผมจะคืนทรัพย์สินให้ ถ้ากระดาษใบไหนทายาทหาไม่เจอ ผมก็ทำมุบมิบไม่แจ้งให้ทายาททราบ (ทั้งๆ ที่ผมก็มีบัญชีรายการสินทรัพย์ ซึ่งครบถ้วน) แล้วผมก็อ้างว่าทางทายาทไม่ได้มาขอคืนเอง แล้วก็เก็บทรัพย์สินนั้นเอาไว้
ผมทำแบบนี้น่าเกลียดไหมครับ?
เรื่องยังไม่จบครับ ผมอยากดูความเห็นกับเรื่องนี้ แล้วผมจะมาเล่าให้ฟังว่าเรื่องนี้มันเป็นมายังไง เป็นเรื่องสมมติซึ่งมีส่วนจากเรื่องจริงในสังคมนะครับ
===========================================================================
ที่มาที่ไปของเรื่องสมมติข้างบน เกิดจากธนาคารๆ หนึ่ง ลูกค้าเสียชีวิต ทายาทนำคำสั่งศาลไปขอปิดบัญชี ซึ่งผจก.มรดกเอาสมุดบัญชีของผู้เสียชีวิตไปเท่าที่จะหาเจอ ไปถึงธนาคารก็ให้ปิดบัญชีจนเสร็จ แต่มาทราบหลังจากนั้นว่ามีอีกบัญชีที่ยังไม่ได้ปิด (ธนาคารเดียวกัน) จึงต้องกลับไปทำเรื่องปิดบัญชีอีกครั้ง ซึ่งก็ได้ถามเจ้าหน้าที่ธนาคารว่าทำไมถึงไม่บอกว่ามีบัญชีที่ยังไม่ได้ปิดอีก เจ้าหน้าที่ธนาคารก็บอกว่าเค้าไม่รู้ พอถามว่าดูในระบบไม่ได้เหรอว่ามีบัญชีอะไรบ้าง เจ้าหน้าที่ก็บอกดูไม่ได้ ต้องให้ทายาทเป็นผู้บอกมาเองว่าต้องการปิดบัญชีอะไรบ้าง...
แล้วก่อนที่จะปิดบัญชีได้ ทางธนาคารต้องมีการขอใบมรณะบัตรเพื่อส่งเรื่องเข้าสำนักงานใหญ่ แล้วทางสนง.ใหญ่ถึงจะส่งจดหมายกลับมาให้ทายาทเพื่อแจ้งว่าต้องใช้เอกสารอะไรบ้าง ซึ่งหนึ่งในเอกสารที่ต้องเตรียมก็คือสมุดบัญชีทุกเล่มที่ต้องการปิด (แต่ไม่บอกว่าบัญชีอะไรบ้าง สาขาอะไรบ้าง ซึ่งข้อมูลพวกนี้ทางสนง.ใหญ่ควรจะมี และเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับทายาท??)
แบบนี้ธนาคารบาปไหมครับ?
===========================================================================
ความเห็นที่ 1-8 เป็นความเห็นจากเรื่องที่ผมสมมติขึ้นโดยใช้ผมเป็นตัวแทนของผู้รับฝากสินทรัพย์ ก่อนที่ผมจะมาโพสในส่วนของเรื่องจริงที่ธนาคารเป็นผู้กระทำ ซึ่งความเห็น1-8 ก็เป็นความเห็นปกติที่คนดีๆ น่าจะมีความเห็นแบบนี้ครับ
ถ้ามีคนเอาทรัพย์สินมาฝาก แล้วคนฝากเสียชีวิต ผมทำแบบนี้ได้ไหมครับ?
ผมทำแบบนี้น่าเกลียดไหมครับ?
เรื่องยังไม่จบครับ ผมอยากดูความเห็นกับเรื่องนี้ แล้วผมจะมาเล่าให้ฟังว่าเรื่องนี้มันเป็นมายังไง เป็นเรื่องสมมติซึ่งมีส่วนจากเรื่องจริงในสังคมนะครับ
===========================================================================
ที่มาที่ไปของเรื่องสมมติข้างบน เกิดจากธนาคารๆ หนึ่ง ลูกค้าเสียชีวิต ทายาทนำคำสั่งศาลไปขอปิดบัญชี ซึ่งผจก.มรดกเอาสมุดบัญชีของผู้เสียชีวิตไปเท่าที่จะหาเจอ ไปถึงธนาคารก็ให้ปิดบัญชีจนเสร็จ แต่มาทราบหลังจากนั้นว่ามีอีกบัญชีที่ยังไม่ได้ปิด (ธนาคารเดียวกัน) จึงต้องกลับไปทำเรื่องปิดบัญชีอีกครั้ง ซึ่งก็ได้ถามเจ้าหน้าที่ธนาคารว่าทำไมถึงไม่บอกว่ามีบัญชีที่ยังไม่ได้ปิดอีก เจ้าหน้าที่ธนาคารก็บอกว่าเค้าไม่รู้ พอถามว่าดูในระบบไม่ได้เหรอว่ามีบัญชีอะไรบ้าง เจ้าหน้าที่ก็บอกดูไม่ได้ ต้องให้ทายาทเป็นผู้บอกมาเองว่าต้องการปิดบัญชีอะไรบ้าง...
แล้วก่อนที่จะปิดบัญชีได้ ทางธนาคารต้องมีการขอใบมรณะบัตรเพื่อส่งเรื่องเข้าสำนักงานใหญ่ แล้วทางสนง.ใหญ่ถึงจะส่งจดหมายกลับมาให้ทายาทเพื่อแจ้งว่าต้องใช้เอกสารอะไรบ้าง ซึ่งหนึ่งในเอกสารที่ต้องเตรียมก็คือสมุดบัญชีทุกเล่มที่ต้องการปิด (แต่ไม่บอกว่าบัญชีอะไรบ้าง สาขาอะไรบ้าง ซึ่งข้อมูลพวกนี้ทางสนง.ใหญ่ควรจะมี และเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับทายาท??)
แบบนี้ธนาคารบาปไหมครับ?
===========================================================================
ความเห็นที่ 1-8 เป็นความเห็นจากเรื่องที่ผมสมมติขึ้นโดยใช้ผมเป็นตัวแทนของผู้รับฝากสินทรัพย์ ก่อนที่ผมจะมาโพสในส่วนของเรื่องจริงที่ธนาคารเป็นผู้กระทำ ซึ่งความเห็น1-8 ก็เป็นความเห็นปกติที่คนดีๆ น่าจะมีความเห็นแบบนี้ครับ