ผมมีโอกาสได้เดินทางขึ้นไปยัง "ภูทับเบิก" เมื่อวานที่ผ่านมา สถานที่ที่ผมให้คำนิยามว่า "เส้นทาง3ฤดู" เพราะสามารถท่องเที่ยวได้ตลอดทั้งปีครับ ในครั้งนี้วันที่ผมเดินทางมาเข้าสู่ช่วงหน้าฝนแบบเต็มตัว สิ่งแรกที่หวังที่สุดเมื่อไปถึง "ภูทับเบิก" คือ ต้องได้เห็นทะเลหมอก จึงได้แต่ภาวนาให้คืนนี้ฝนตก เพื่อที่ตื่นเช้ามาจะได้สมหวัง เมื่อขึ้นไปถึงทับเบิก เวลา 15.30น. สิ่งแรกที่สัมผัสได้คือ สายหมอกที่ลอยฟุ้งเต็มพื้นที่ปะทะกับใบหน้า ทั้งเย็นทั้งหนาว จนแยกไม่ออกว่านี่ฤดูฝนหรือหนาวกันแน่ ฮ่าๆ สักพักใหญ่ๆและแล้วพรที่ผมขอไว้ก็เป็นจริง...(เย้ๆ) ฝนเทกระหน่ำลงมาแบบไม่ลืมหูลืมตา (ยิ้มในใจว่าพรุ่งนี้กรูได้เห็นทะเลหมอกแน่) ทำให้วันนั้นฝนตกทั้งคืนเลยครับ แต่ตกแบบหยุดๆ ตกๆ ลมแรง อุนหภูมิประมาณ 16องศาเห็นจะได้

    ในทริปนี้ผมเลือกพักที่ "ภูการ์เด้นรีสอร์ท" ครับ เพราะเท่าที่ดูๆและเคยมาตระเวณก่อนหน้านี้ครั้งนึง คิดว่าที่นี่น่าจะเป็นมุมที่สามารถเก็บภาพทะเลหมอกยามเช้าได้ดีที่สุดอีกหนึ่งที่  นอกจากทะเลหมอกจะเป็นสิ่งที่นักท่องเที่ยวที่มาเยือนทับเบิกต้องการจะมาสัมผัสแล้ว ยังมีอีกหนึ่งสิ่งที่นักท่องเที่ยวท่องมาชม นั้นก็คือ "ทุ่งกะหล่ำปลี" ช่วงนี้ถือว่ายังพอมีให้ชมและถ่ายรูปครับ แต่ก็มีบางส่วนที่ชาวบ้านนั้นตัดออกไปขาย จึงทำให้ทุ่งกะหล่ำปีแหว่งๆบ้างเป็นบางจุด เพื่อไม่เป็นการเสียเวลา มาชมรูปกันเลยครับ

      ฝากแฟนเพจ "สะพายเป้เตร่ทั่วไทย" ไว้ในอ้อมกอดด้วยนะครับ https://www.facebook.com/wanderaroundthailand


ตื่นเช้ามาบริเวณหน้าที่พัก พรที่ขอไว้สมดั่งหวังครับ ได้เห็นทะเลหมอกแล้ว ถึงจะมีไม่มากแต่ก็ถือว่าไม่ผิดหวังครับ พระอาทิตย์กำลังโผล่ขึ้นมาสาดส่องแสงพอดี