ทริปไฟไหม้ @ภูทับเบิก หมอกหนาที่ไร่กะหล่ำปลี 14-15 Jun 14

[CR] ทริปไฟไหม้ @ภูทับเบิก หมอกหนาที่ไร่กะหล่ำปลี 14-15 Jun 14

กระทู้รีวิว

oony_oony http://ppantip.com/profile/1621311
https://www.facebook.com/oonybehappy

ทริปนี้ไฟไหม้สุดๆ เพราะคุยกันคืนวันศุกร์เกือบเที่ยงคืนแค่ว่าไปเที่ยวกัน แล้วก็ส่งรีวิวที่เที่ยวหน้าฝนทิ้งไว้ในกรุ๊ป นัดกันตื่นเช้าเก็บกระเป๋า ส่วนจะไปที่ไหนค่อยว่ากันตอนเช้า มีแค่ใจที่อยากไปเที่ยวล้วนๆจริงๆ เหอๆๆๆๆๆๆ
ตื่นเช้ามาก็มีข้อความทิ้งไว้ในกรุ๊ปว่า ภูทับเบิก
อะไร ยังไง เคยได้ยินแต่ชื่อ ไม่ได้เคยรู้ข้อมูลใดๆเกี่ยวกับภูทับเบิกเลย อยู่ไหน จังหวัดอะไร
เช้าวันนั้นในหัวยังว่างเปล่า รู้อย่างเดียวคือ อาบน้ำ เก็บกระเป๋า แล้วไปเที่ยวกัน

ออกจากกรุงเทพฯไปรับสมาชิกที่สระบุรีอีก 1 คน ออกจากบ้านเพื่อนเกือบ 10 โมง ปักหมุด GPS ที่ภูทับเบิก
แล้วก็เริ่มออกเดินทางกัน ขับรถไปทางสระบุรี ลพบุรี เข้าเพชรบูรณ์ (อ่อ...ข้อมูลแรกที่ได้คือ ภูทับเบิก อยู่ อ.เขาค้อ จ.เพชรบูรณ์ นะจ๊ะ)
ระหว่างเดินทางเราก็เริ่มหาข้อมูลที่พักกันก่อนเป็นอันดับแรก หาข้อมูลจาก google แล้วก็ลองโทรหาที่พักตามที่มีรีวิวแนะนำกันมา
ได้ความว่า ช่วงนี้เป็นช่วง low-season ฝนตกทุกวัน อากาศดี หมอกเพียบ ที่พักว่างไม่ต้องจอง ไปเดินหาเดินเลือกเอาได้เลย
เบาใจว่ามีที่นอนแน่ๆละไม่ต้องกังวล ^ ^
ขับรถฝ่าสายฝนมาเรื่อยๆ จนเที่ยงกว่าๆ ก็เริ่มเห็นป้ายข้างทางชวนหิว “ไก่ย่างวิเชียรบุรี” แวะๆ ไม่ได้สนใจว่าร้านไหนเด่นดัง เจอร้านไหนจอดสะดวกก็จัดกันเลย

อิ่มแล้วก็ไปกันต่อ เข้าตัวเมืองเพชรบูรณ์ ไปทางหล่มสัก ตามพี่จีกะป้ายบอกทางไปเรื่อยๆ
เราไปถึงทางขึ้นภูทับเบิกประมาณบ่าย 3 กว่าๆ ดูเส้นทางจากพี่จีแล้วก็ โอ๊ะ!!!! นี่มันถนนหรือลำไส้เล็กกันเนี่ยะ คดเคี้ยวขดไปขดมาเกิ๊นนน >_<

แต่วิวภูเขาและหมอกข้างทางสวยมาก ระหว่างทางขึ้นภู เราก็ปิดแอร์ เปิดกระจก รับลม รับหมอก สดชื่นมากๆ

บางช่วงของทางขึ้นต้องขับรถฝ่าม่านหมอก มองทางแทบจะไม่เห็น คนนั่งไปเฉยๆอย่างเราก็ตื่นตาตื่นใจกับวิวข้างทางไป
แล้วก็นั่งนับถือและชื่นชมความสามารถในการขับรถของเพื่อนมาก เก่งจริง นับถือ นับถือ

ในที่สุดก็มาถึงภูทับเบิกประมาณ 5 โมงเย็น อย่างแรกก็ขับรถมองหาที่พักเดินเลือกไปมา ก็มาตกลงปลงใจที่ ทับเบิกฮิลล์
อยู่เกือบสุดจุดชมวิวภูทับเบิก เป็นบ้านหลังใหญ่ 2 ห้องนอน ไม่มีแอร์ (เพราะอากาศเย็นตลอดปี) มีเครื่องทำน้ำอุ่นแบบใช้แก๊ส
ไม่มีอาหารเช้าบริการ (เพราะแม่ครัวไม่อยู่) มีแต่กาแฟ กับ ขนมปังปิ้ง บริการ ค่าห้อง 1,200 บาท/คืน
(คุณลุงเจ้าของบอกว่า ถ้าช่วง high-season คืนละ 2,500-4,000 บาท/คืน)
อากาศที่นี่เย็นสบาย มีหมอกตลอดวัน ช่วงนี้จะเป็นวิวไร่กะหล่ำปลีเขียวๆเต็มไปหมด
ในช่วงหน้าหนาวพื้นที่ไร่กะหล่ำปลีจะเปลี่ยนเป็นลานกางเต้นท์ สำหรับผู้ที่ชอบนอนเต้นท์ และ ตื่นมาชมทะเลหมอก

มื้อเย็นวันนี้ที่ โรงเตี๊ยม@ภูทับเบิก ร้านใหญ่ เด่นมาก ร้านเหมือนโรงเตี๊ยมตามหนังจีนกำลังภายใน
วิวดี ลมเย็นจนหนาวเลย เหมือนเรานั่งอยู่กลางหมอกเลย

จิบชาแก้หนาวกันก่อน

มาถึงไร่กะหล่ำปลี ก็ต้องสั่งเมนูนี้ กะหล่ำปลีผัดน้ำปลา
อาหารที่นี่จานใหญ่มาก เมนูผักๆเป็นส่วนใหญ่

จากที่พักมองเห็นแสงไฟจากในเมืองด้วย

ตื่นเช้ามาดูหมอกกัน
วิวจากระเบียงหน้าห้องเลย ^ ^

คุณลุงเจ้าของรีสอร์ทบอกว่าที่นี่อากาศดีทั้งปี มีหมอกทั้งปี แต่หมอกหน้าฝนก็จะลอยๆแบบนี้ล่ะ
พอสายๆหน่อยหมอกก็จะลอยขึ้นมาเต็มพื้นที่ไปหมด มองไม่เห็นพระอาทิตย์เพราะมีเมฆฝนบังอยู่
จะต่างกับหน้าหนาวที่หมอกจะลอยต่ำเป็นทะเลหมอกหนาๆ พระอาทิตย์ขึ้นเห็นท้องฟ้าเปลี่ยนสีชัดเจน
เพราะไม่มีเมฆฝนมาบังไว้ นักท่องเที่ยวเลยชอบมากางเต้นท์นอนสัมผัสอากาศหนาวและดูทะเลหมอกที่นี่กันเยอะ
คุณลุงบอกว่ายังไม่ต้องรีบลงจากภูไปตอนเช้านะ รอให้สายๆหน่อย เพราะระหว่างทางจะมีหมอกหนาปกคลุมตลอดทางมองไม่เห็นถนนหรอก
รอให้สายๆหน่อยให้หมอกจางแล้วค่อยลงไป
เราเลยเดินเล่นดูไร่กะหล่ำปลี ดูหมอก ชมวิวไปเรื่อยๆ แล้วก็หาข้อมูลที่หมายต่อไปจาก google