สวัสดีครับวันนี้ผมได้มีโอกาสไปถอยเจ้าน้องใหม่มาแรงแห่งค่าย I-Mobile นั่นก็คือเจ้า IQ Big 2
เปิดตัวราคามาที่ 4,990.- ถูกกว่า IQ Big 1 อยู่ 1000 บาท แต่สเป็คต่างๆนั้นคุ้มค่าจริงๆ
ตัวนี้ออกมาตาม IQ Big 1 หรือจะออกมาเพื่อฆ่า Big 1 ก็ไม่รู้นะเพราะสเป็ครูปร่างดูดีกว่าพี่มันหมด
เรามาดูสเป็คคร่าวๆของมันกันก่อนดีกว่า

- หน้าจอขนาด 5.5 นิ้ว HD 1080 x 720 พิกเซล OGS
- ซีพียู Quad core 1.2GHz (แต่ในเครื่องเป็น 1.3)
- RAM 2GB ROM 16GB
- รองรับหน่วยความจำ microSD card สูงสุด 32GB
- กล้องหลังความละเอียด 12 ล้านพิกเซล f/2.0 ออโต้โฟกัส แฟลช
- กล้องหน้าความละเอียด 5 ล้านพิกเซล
- แบตเตอรี่ 4000mAh
- Android 5.0 Lollipop

สเป็คถือว่าใช้ได้อยู่ไม่ขี้ริ้วขี้เหร่เลยมาดูตัวเครื่องและอุปกรณ์กันก่อนเลยดีกว่า
เครื่องที่ผมซื้อมานั้นเป็นสีดำทองรุ่นนี้มีออกมาสองสีคือ สีเงินหน้าขาว และ สีทองหน้าดำ
ซึ่งโดยส่วนตัวแล้วเลือกสีดำทองเพราะสีขาวเส้นขอบจอนั้นหนาไปหน่อยคือเว้นระยะห่างระหว่างจอ
กับขอบแล้วดูเห็นชัดเกินไปถ้าทำออกมาพอดีจอนี่จะสวยกว่านี้เยอะแต่ไม่เป็นไรให้อภัยใช้สีดำได้


ด้านหลังตอนยังไม่แกะสติ๊กเกอร์ฝาหลังเป็นพลาสติกแกะแบตออกไม่ได้


ด้านซ้ายช่องใส่เมมการ์ดมีไม้จิ้มไว้จิ้มออกมาตัวถาดทำจากอลูมิเนียมถือว่าดูดีใช้ได้
ขอบๆเป็นเหมือนโลหะสีทองๆจับแล้วรู้สึกดีอยู่แต่จะลอกมั้ยต้องรอดูกันต่อไป


ด้านล่างเป็นช่องไมโครโฟนสนทนา

ด้านบนเป็นช่องเสียบสายชาร์จและ USB พร้อมรูหูฟังปกติ

ด้านขวาเป็นปุ่ม เพิ่ม + ลด - เสียงและปุ่มเปิดปิดเครื่องทำจากอลูมิเนียมสัมผัสแล้วรู้สึกดีอยู่
พร้อมที่ใส่ซิมสองซิมขนาดพี่หนุ่ย ไมโคร ซิมด้านในซิม 1 ซิมนอกซิม 2


ด้านหลังกล้อง 12 ล้าน F2.0 พร้อมแฟรชและตัวตัดเสียงรบกวนรอบข้าง

ด้านหน้าแถบบนจอเป็นกล้อง ลำโพงสนทนา ไฟ LED แจ้งเตือนข้อความแจ้งเตือนแบตหมดมีสามสีแดง เขียว น้ำเงิน
ต่อมาเป็นเซ็นเซอร์อยู่ข้างๆกับแฟรชด้านหน้า ตัวนี้มีแฟรชด้านหน้าด้วยสว่างได้แม้แสงน้อยรุ่นก่อนหน้านี้มีคนบอกกันว่าลำโพง
ทั้งหน้าและหลังของ IQ Big 1 นั้นเบารุ่นนี้เหมือนออกมาแก้เกมส์ได้ลำโพงสนทนาดังกระหึ่มเลยแต่ลำโพงหลังนั้นธรรมดา

หน้าจอด้านล่างเป็นปุ่มเบสิกของแอนดรอยคือ ตั้งค่า โฮม แบ็คกลับ ส่วนด้านในหน้าล็อกสกรีนถ้าปัดจากซ้ายไปขวาจะเข้าโทรด่วน
ถ้าปัดจากขวาไปซ้ายจะเข้ากล้องทันทีส่วนปลดล็อกนั้นอยู่ตรงกลาง เวลาชาจไฟไปสักพักจะมีแจ้งด้วยว่าอีกกี่ชั่วโมงจะเต็ม


ลอกฟิล์มและสติ๊กเกอร์อิมี่ออกใสๆให้ดูเลย สติ๊กเกอร์ลอกออกไม่ต้องกลัวประกันหลุดนะครับเพราะอิมี่รุ่นนี้เขายิงเลเซอร์ไว้ที่ฝาหลังเลย


จับใส่เคสใสที่แถมมา สวยงามตามราคา




ต่อมามาดูอุปกรณ์กันบ้างดีกว่า I-Mobile ให้เยอะจริงเรียกว่าครบฟิล์มเคสผ้า

สายชาร์จเป็นสายแบบแบนยาวถือว่าดีแต่ดันให้สีขาวมาซะงั้น!! ทั้งๆที่เครื่องสีดำขัดกันอย่างแรงแถมเปื้อนง่าย
พอเอาสายเสียบกับเต้าชาร์จหัว USB จะจมไม่มิดเหมือนเสียบไม่สุดแต่จริงๆสุดแล้ว ถือว่าพลาดอย่างแรงตกม้าตาย

หูฟังเป็นแบบ Ear pod แบบไอโฟนซึ่งสีขาวอีกเหมือนกันดีกว่าตัวเก่าๆเป็น Ear bud เชยๆจริงๆน่าจะทำ In ear ได้แล้ว
ตัวนี้ดูแล้วเฉยๆใส่ไว้ในกล่องอย่างเดิมดีกว่า

ต่อมาเคสซึ่งพัฒนาขึ้นมานิดนึงจากรุ่นก่อนๆ (IQ 6.3)ที่ให้เคสพลาสติกแข็งกันแค่ 4 มุมมาเป็นซิลิโคนแบบนิ่ม
นิ่ม.... นิ่มไป!!! คือนิ่มจนไม่คิดว่ามันจะปกป้องโทรศัพท์ได้สักกะนิดกันรอยขนแมวได้แต่หล่นทีมีแต่แน่นอนถอดง่ายใส่ง่าย
สรุปต้องไปซื้อเคสซิลิโคนใหม่แต่ตอนนี้ใช้ไปก่อนเพราะเคสยังไม่มีเข้ามา


มาดูด้านระบบปฏิบัตการกันบ้างดีกว่าตัวนี้เปิดเครื่องมามีแอพครบเลย แอพขยะเพียบต้องมานั่งลดออก เอาวะเหลือดีกว่าขาด

การะปรับแต่งหน้าตามีหลายตีมให้ลองเพิ่มลดวิคเจ็ทตามสบาย มีเอฟเฟคเวลาเราเลื่อนอยากได้แบบไหนรวมมาให้หมดจากทุกค่าย

กดค้างปุ่มโฮมจะขึ้นแอพที่เปิดทิ้งไว้เครียทิ้งได้ทั้งหมดทีเดียวต่อมา Task Bar เลื่อนลงมาทีแรกจะเจอ notification ต่างๆก่อน
ต้องเลื่อนซ้ำอีกทีเพื่อนปรับตั้งค่าเช่นเปิด Wifi อะไรแบบนี้แรกๆดูลำบากใช้สักแปปก็ชิน

หน้าตาปุ่มกดตอนโทรออกทำออกมาได้สวยเหมือนไอโฟนเด้ะ (แทบจะอันเดียวกันเลยหละเธอว์)
ด้านขวาเป็นแหล่งเก็บข้อมูลซึ่งไม่แบ่งพาทิชั่น!! โอ้วววว ไม่น่าเชื่อไม่ต้องมากดย้ายแอพเข้า SD Card กันอีกต่อไปแล้ว
กดลงเอาๆได้เลยน้ำตาจะไหลขอแชร์นะครับ ก่อนหน้านี้ใช้ 6.3 เดี๋ยวความจำเต็มๆต้องมากดย้ายลำบากตอนนี้ชีวิตดีขึ้นเยอะ!


มาดูฟีเจอร์เด่นของมันกันบ้างไล่เรียงกันลงไปเลยอันแรกซ้ายสุด Black Screen Gesture คือเซ็ตไว้ว่าวาดนิ้วเป็นรุปนี้ๆแล้วจะเปิดแอพนั้นๆ
ต่อมา Hot Knot เป็นการถ่ายโอนไฟล์ระหว่างสมาร์ทโฟน 2 เครื่อง ด้วยการเอาหน้าจอมาแตะกัน คล้ายๆ เทคโนโลยี NFC
ต่อมาอันสุดท้าย โหมดประหยัดแบตเตอรี่ แต่ไม่ใช่ ultra saving mode นะมันมีอีกอัน
เรียกว่าโคตรประหยัดประหยัดแล้วประหยัดอีกเลย อันนี้เรียกว่า Battery saving features โหมดประหยัดแบตเตอรี่จะชวยให้เราสามารถใช้งานได้ยาวนานขึ้นถึง 90 นาทีโดยการปิดการเชื่อมต่อเพื่อลดประสิทธิภาพการใช้งาน Google’s Project Volta ซึ่งฟีเจอร์นี้จะทำการควบคุมการใช้พลังงานให้คุ้มค่ามากที่สุดตั้งแต่เรื่องพื้นๆอย่างการเปิด-ปิด 3G หรือ 4G LTE ควบคุมหน้าจอ จนลงลึกไปถึงการจัดการพลังงานของชิปประมวลผลเลยทีเดียว


*** นี่เลยอันนี้จุดเด่นจุดขายพอๆกะแบตและจอเลยผมซื้อเพราะอันนี้หละอยากใช้นานๆไม่ชอบชาร์จแบตพ่วง ultra saving mode นั่นเอง
ปรับจอเป็นขาวดำลดการบริโภคทรัพยากรอยู่ได้เป็นวันๆมีแอพให้เพิ่มลงไปอันนี้พึ่งเปิดเครื่องยังไม่ลงแอพเลยมีเท่านี้ไม่แน่ใจว่าเพิ่มได้กี่แอพแต่หลักๆน่าจะเป็นพวกแอพสื่อสาร

*** อันนี้เขาก็ชูเป็นฟีเจอร์เด่นอีกเหมือนกันแต่สำหรับผมเฉยๆออกจะเกะกะด้วยซ้ำแล้วแต่ความชอบของใครของมันกดแล้วจะเด้ง shortcut ให้เข้าได้อย่างไว

เกมส์ผมลองเล่นที่ติมมากะเครื่องมินเนี่ยนแอบมีหน่วงบางทีที่กราฟฟิคเยอะๆแต่ผมว่าไม่ได้เป็นที่ตัว Hardware หรอกน่าจะเป็นที่ตัว Software lolipop มากกว่า
ที่ยังไม่ค่อยสเถียรเพราะเกมส์อื่นที่คนในกลุ่ม I-mobile Community Thailand ลองเล่นดูก็ลื่นไหลดีรออัพเดทกันไปครับอยากแรงก่อนต้องทำใจเรื่องรอมและ FW

สุดท้ายแต่ไม่ท้ายสุด กล้อง มีโหมดหลากหลายให้เล่นทั้งบิวตี้ พาโนราม่า รัวๆช็อตเรียกอะไรไม่รู้ ปรับได้หลากหลายดี
แต่แอบมีอมม่วงๆตอนโฟกัสแต่พอถ่ายออกมาไม่มี ม่วงมาให้ใจเสียเล่นๆ ฮ่าๆ กดถ่ายเร็วดีโฟกัสไวภาพสวยพอใจคมชัดดีไม่น่าเชื่อว่า 12 ล้าน

ทิ้งท้ายด้วยรูปถ่ายจากกล้องหลังละกันครับกล้องหน้าไม่มีตัวอย่างแต่ไม่ต่างกับรุ่นก่อนๆเท่าไรนอกจากสว่างกว่า




สรุปแล้ว : โดยรวมของผมถือว่าชอบครับพอใจในราคาของมันที่สู้พวก Zenfone สบายๆแบตอึดๆเล่นทั้งวันทั้งคืนพกไปไหนก็ไม่ต้องกลัววูบ
ติดต่อใครไม่ได้จอใหญ่ดูหนังเล่นเกมครบละครับข้อเสียมีบ้างแต่ก็นะราคาเท่านี้ได้ฟีเจอร์หลายๆอย่างเทียบเท่าพวกเรือธงค่ายดังได้ถือว่าคุ้มสำหรับผม
ถ้าล็อตต่อไปปรับปรุงแก้ไขข้อบกพร่องอาจจัดอีกสักสีมาเคียงคู่กัน ขอจบการรีวิวแต่เพียงเท่านี้ขอบคุณครับ^^