อ้างถึงกระทู้ก่อนหน้านี้ สำหรับการรีวิว AIS Fibre [
http://ppantip.com/topic/33666257]
ที่สัญญาว่าจะกลับมารีวิว
AIS Playbox หลังจากการติดตั้งเสร็จแล้ว มาตามสัญญาแล้วนะครับ
แต่ก่อนอื่น ผมขอพูดถึงอินเทอร์เน็ตก่อน หลังจากการใช้งานมาประมาณ 1 เดือนกว่าๆ
เรื่องสัญญาณไม่ค่อยมีปัญหา (แทบจะไม่มีเลยดีกว่า) จะมีก็ช่วงค่ำๆ-ดึกๆ ที่อินเทอร์เน็ตมีแกว่งๆบ้าง
แต่ก็ใช้งานได้ดี สำหรับการใช้งานอินเทอร์เน็ตแบบปกตินะครับ
ที่สำคัญคือ รวมบิลกับค่าโทรศัพท์ AIS เรียบร้อย ทำให้ได้ความเร็วเพิ่มมาอีก 1 เท่า
จากเดิม Download ที่ 15 Mbps เป็น 30 Mbps ในส่วนของ upload speed เท่าเดิมคือ 5 Mbps
แต่ถ้าจะให้พูดความรู้สึกจริงๆ คือ ไม่ค่อยแตกต่างอะครับ เพราะผมใช้งานทั่วไป
แค่ใช้บราวเซอร์ รับ-ส่งเมลล์ เล่น facebook ดู Youtube ฯลฯ มีแค่ดาวน์โหลดไฟล์ใหญ่ๆ อันนี้รู้สึกได้ครับ
ขอพูดเรื่องการรวมบิลนิดหน่อย คือหลังจากโทรไปรวมบิลแล้ว
ใช้เวลาอยู่พอสมควรตั้งแต่ ติดต่อไปครั้งแรก และต้องโทรไปอีกครั้ง 2 สัปดาห์
และต้องรอรอบบิลของมือถือ รอบใหม่ถึงจะได้เริ่มใช้งานโปรฯ รวมค่าบิลโทรศัพท์มือถือ
แต่ท้ายที่สุดแล้วก็ได้ความเร็วมาอีก 1 เท่า แฮปปปปปปี้
มาเข้าเรื่องที่ AIS PLAYBOX กันดีกว่าาาาาครับ จากที่ AIS ระบุไว้ว่า ทางจะเข้ามาติดตั้ง AIS PLAYBOX ให้ประมาณ 1 มิถุนายน
เวลาก็ผ่านไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ซึ่งผมก็ไม่ได้โทรไปทวงนะ เข้าใจแหละว่าอาจจะยังไม่พร้อม
จนได้รับการติดต่อมาจาก AIS Playbox ว่าจะเข้ามาติดตั้งกล่อง วันที่ 17 มิ.ย. นัดติดตั้งวันที่ 27 มิ.ย. ที่ผ่านมานี่เองงงง
ช่างมาตรงตามนัด โทรเข้ามาคอนเฟิร์มนัดก่อนล่วงหน้า 1 วัน พอเจอช่าง คือ เรื่องเดิมเลย เป็นใครไม่รู้ ดูไม่ออกว่ามาจาก AIS
และผมแทบตกใจ เพราะพี่เค้าดูเหมือนอาเฮียเจ้าของร้านขายทีวีมากๆ แต่ช่างเถอะ เอากล่องมาให้เราก็พอ ><'
อุปกรณ์ที่มีมาให้ในกล่องก็จะมี ตัวกล่อง+สายไฟ, รีโมท, สาย AV, สาย LAN, คู่มือ, สาย HDMI
ตัวกล่อง มีช่อง USB 2.0 2 ช่อง ช่องเสียบ Micro SD Card 1 ช่อง ช่องเสียบสาย LAN ช่องเสียบสาย HDMI
ช่อง digital audio ด้วย ส่วน Spec ของกล่องตามรูปเลยครับ
เรื่อง Materials ของตัวกล่องและรีโมท ดูดีทีเดียว เป็นสีดำ ผิวสัมผัสด้านๆ ดู Premium ครับ
ตัวรีโมทออกแบบคล้ายๆๆๆ กับรีโมทของ apple เลย อันเล็ก สะดวกมือ สวยด้วย ผมชอบเลย
แต่ติดตรงที่ปุ่มไม่แน่นเท่าไหร่ บางทีกดก็ไม่ได้ครับ เดี๋ยวถ้าเสียคงต้องส่งคืน
ส่วนการต่อไม่ยุ่งยากเลย เนื่องจากเป็น digital smart box จึงไม่ต้องใช้สายอากาศแต่อย่างใด
ผมใช้ HDMI ต่อออกจอ และใช้สาย LAN ต่อกับ Router โดยตรง (สามารถต่อด้วย WIFI ก็ได้นะ)
เปิดครั้งแรกจะต้อง Sign in ซึ่งต้องไปลงทะเบียนกล่องที่เว็บไซต์นิดหน่อย แต่ก็ไม่ยุ่งยากครับ ส่วนนี้ช่างที่มาติดทำให้เรียบร้อย
หน้าจอนี้เป็นหน้าจอเริ่มต้น มีเมนูหลักอยู่ 5 ไอคอนด้านล่างครับ
เมนู PLAYBOX > TV หลักๆคือจะมีช่อง Digital Free TV ทั่วไปกับ ZPayTV (CTH) ซึ่งเข้าไปดูในเว็บไซต์เห็นระบุว่าเป็น Free Premium Channel ซึ่งก็ไม่รู้ว่า ฟรีถึงเมื่อไหร่ แต่ที่ผมชอบเลยคือ Fox Movie Premium HD กับ NATIONAL GEOGRAPHIC CHANNEL HD แต่มีปัญหาเรื่อง เสียง 2 ภาษา ซึ่งไปตั้งค่าให้เป็น ENG แล้ว เสียงพากษ์ไทยอย่างเดียวเลยครับ ทำอย่างไรก็ไม่ได้เสียง Soundtrack
การเลือกช่องง่ายดี ใช้ไอคอนการเลือกดูช่อง มี Logo ระบุไม่ต้องจำหมายเลขช่อง ตอนเปลี่ยนช่องจะมีการ streaming ภาพขึ้นเป็น % บอกครับ แต่ไม่นาน ประมาณ 2-3 วินาที ภาพของช่องนั้นๆ ถึงจะปรากฏ
ส่วนความคมชัด นี่ คือ ชัดดดดดดดเลย ชัดระดับ HD นั่นแหละครับ แฮปปปปปปปปี้
เมนู PLAYBOX > Movies จะเป็นหนังและซีรีส์ของ GTH ครับ มีเรื่องใหม่ที่ชัดระดับ 4K คือ ไอฟาย
นอกนั้นชัด HD บ้าง SD บ้าง แต่ในนี้ก็มีหนังไม่เยอะครับ แต่มีทุกเรื่องของ GHT ส่วนใหญ่ดูหมดแล้ว
ส่วน PLAYBOX > KARAOKE นี่น่าสนใจมากกกกกกก เพราะเราสามารถร้องเพลงกับ MV ได้เลย มีให้ร้องเยอะพอสมควรเลยครับ ซึ่งก็มีแต่เพลงของค่ายแกรมมี่
เมนู PLAYBOX > HOOQ เป็น App หนังเหมือนกันครับ แต่เป็นหนังฮอลลิวู๊ด+ไทย ปนกันซึ่งมีทั้งใหม่และเก่า มีหลายเรื่องทีเดียว เยอะพอสมควร เรื่องความใหม่ของหนังนั้น ไม่ได้มีใหม่สดๆร้อนๆ แต่ก็พอจะมีหนังดังๆ ให้ดูบ้างครับ ถือว่าโอเคเลย (รายชื่อหนัง update เข้าไปดูได้ที่เว็บไซต์ AIS Playbox ได้)
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้http://www.ais.co.th/playbox/program_movie.html
เรื่องระบบเสียงหนังของ app นี้เป็น ENG มี Subtitle แต่ตัวเล็กกกกมากกกก แถมติดขอบล่างจอเลย แบ่งบรรทัดก็ไม่ดี อ่านไม่สะดวก ควรปรับปรุงเรื่องนี้แหละ สุดท้าย ปิด sub ฟัง Soundtrack แบบงูๆปลาๆ เหมาะกับการฝึกภาษาอังกฤษทีเดียวเชียว
ตัวนี้ช่างที่มาติดบอกว่า ดูได้ฟรี 1 เดือน หลังจากนี้เสียตัง [แวะไปดูเว็บของ HOOQ มาเห็นระบุว่า 119 บาท
ที่น่าสนใจคือ Smart BOX ตัวนี้เป็น ANDROID ครับ ติดตั้ง Application อื่นๆได้ด้วย
เช็คอีเมล์ได้ ดู Browser ได้ ซึ่งผมยังไม่ได้ลองเลยซักอย่าง ซึ่งส่วนนี้เราน่าจะคุ้นกันอยู่แล้วครับ
เรื่องความเร็ว มันไม่ได้เร็วแบบปรุ๊ดปร๊าดดด มีหน่วงๆ ตอนเข้า App และเปลี่ยนช่อง
ในส่วนอื่นๆปลีกย่อยไม่ขอพูดถึงละกันครับ เพราะมีความสามารถเหมือนกล่องอื่นๆทั่วไป
เช่น ต่อ HD กับ USB เล่น file เพลงและหนังได้
ส่วนอื่นๆ ที่ผมยังไม่ได้ลอง แต่คิดว่าดีมากคือ เชื่อมต่อกับมือถือได้ ทั้งMiracast , รีโมตมือถือ (Phone Remote), DLNA และ AirPlay ยังไม่ได้ลองเช่นกัน คือ แอบคิดอยู่ว่าส่วนตัวไม่ได้ใช้ ไอโฟน จะเชื่อมต่อกับพวกนี้ได้หรือปล่าวววน้าาา
รีวิวเบื้องต้นนี้คงทำให้เพื่อนๆพอเห็นภาพ AIS PLAYBOX บางส่วนแล้วนะครับ เอาไว้ลองใช้งานกับมือถือแล้วจะมารีวิวละเอียดอีกทีครับ
ขอบคุณที่ติดตามครับ
ดูทีวีผ่านเน็ตมาจะครบอาทิตย์แล้ว เท่าที่ใช้งานส่วนใหญ่จะดูทีวีของ CHT และ HOOQ เป็นหลัก
ความรู้สึก.. ผมว่าคุ้มค่านะ content ค่อนข้างดี ดูได้ไม่มีปัญหาครับ สามารถรับชมรายการทีวีย้อนหลังได้ 7 วัน
เอาจริงๆคือ ผมไม่เคยย้อนไปดูเลยครัช 555 เลยลองดูสักหน่อยละกัน
ความสามารถคือ สามารถเลื่อนดูได้ย้อนหลัง 7 วันครับ
เลื่อนดูตามรายการได้ โดยไม่ยุ่งยาก จากที่เห็นคือวันที่ 1 JUL เป็นรายการณ ปัจจุบันครับ
แต่.... ข้อเสียคือ เลื่อนดูยากมาก เลือกวันไม่เท่าไหร่ แต่เลือกช่องและช่วงเวลาที่จะดูเนี่ยสิยาก น่าจะออก UI ให้ใช้งานได้ง่ายกว่านี้
ลองย้อนกลับไปดู 7 วันเลย ก็มีตารางรายการของทุกช่องให้เลือก ผมเลือกมารายการนึง
เป็น Thairat TV ช่วง 10.00-11.00 PM ก็สามารถ Streaming ดูได้ราบรื่นดีนะครับ
ย้อนไปดู บัลลังเมฆ ช่อง ONE ก็ดูได้ อูยยยยยย ผมนี่ร้องว๊าววเลย
สรุปคือ ใช้งานง่ายครับ ไม่ยุ่งยาก ย้อนดูรายการโปรดได้ สบายๆๆ
ต่อไปเป็นขั้นตอนการลง Application ของ Google Play ครับ
เนื่องจากต้อง Sign-in เข้า Google Account ผมว่าค่อนข้างมีปัญหาในการใช้งาน Keyboard กับรีโมทครับ
เพราะต้องเลื่อนๆๆๆๆๆๆ ไปจิ้มตัวอักษรทีละตัว ด้วยสติปัญญาอันน้อยนิด
สังเกตว่ามันมี USB นี่น่า และเป็น Android นี่น่า เลยหยิบเอา USB ของ Keyboard มาต่อซะเลย
ปรากฏว่า มัน Workkkkkkkkk ครับ ผมสามารถพิมพ์ตัวอักษรผ่าน Keyboard ได้สบายๆๆ
ทำให้สะดวกสบายมากขึ้นในการพิมพ์ User name และ Password และอื่นๆๆๆ เพราะผมลองสมัคร account ใหม่
เสร็จเรียบร้อยไปลองโหลด Application ในเมนู google play ครับ
โหลด Youtube
ก็ติดตั้งได้ไม่ปัญหาอะไร ติดที่อย่างเดียวคือ User interface เหมือนบน SmartPhone เด๊ะๆๆๆ
เปิด Application Youtube ดูก็สามารถเปิดได้ครับ
แต่ใช้งานค่อนข้างลำบากนิดหน่อย เพราะต้องใช้งานแบบ touch screen เหมือนบนมือถือครับ
User experience ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ แต่ก็สามารถใช้ได้ไม่ติดขัดครับ
อย่างที่บอกว่าสามารถใช้ Key Board USB ได้ ก็ต้องใช้ Mouse ได้เช่นกัน
ใช้ 2 อย่างนี้สบายกว่า ใช้รีโมทเยอะครับ เชื่อผม
ขยายหน้าจอเป็น Full Screen ก็เป็น HD ครับ
มาที่การต่อกับโทรศัพท์บ้างดีกว่าครับ แต่ไม่ไหวแล้วง่วงนอน ผมขอลงรูปไว้ก่อนนะครับ
[CR] รีวิว กล่อง AIS PLAYBOX หลังจากติดตั้งสดๆร้อนๆ ตามสัญญา
ที่สัญญาว่าจะกลับมารีวิว AIS Playbox หลังจากการติดตั้งเสร็จแล้ว มาตามสัญญาแล้วนะครับ
แต่ก่อนอื่น ผมขอพูดถึงอินเทอร์เน็ตก่อน หลังจากการใช้งานมาประมาณ 1 เดือนกว่าๆ
เรื่องสัญญาณไม่ค่อยมีปัญหา (แทบจะไม่มีเลยดีกว่า) จะมีก็ช่วงค่ำๆ-ดึกๆ ที่อินเทอร์เน็ตมีแกว่งๆบ้าง
แต่ก็ใช้งานได้ดี สำหรับการใช้งานอินเทอร์เน็ตแบบปกตินะครับ
ที่สำคัญคือ รวมบิลกับค่าโทรศัพท์ AIS เรียบร้อย ทำให้ได้ความเร็วเพิ่มมาอีก 1 เท่า
จากเดิม Download ที่ 15 Mbps เป็น 30 Mbps ในส่วนของ upload speed เท่าเดิมคือ 5 Mbps
แต่ถ้าจะให้พูดความรู้สึกจริงๆ คือ ไม่ค่อยแตกต่างอะครับ เพราะผมใช้งานทั่วไป
แค่ใช้บราวเซอร์ รับ-ส่งเมลล์ เล่น facebook ดู Youtube ฯลฯ มีแค่ดาวน์โหลดไฟล์ใหญ่ๆ อันนี้รู้สึกได้ครับ
ขอพูดเรื่องการรวมบิลนิดหน่อย คือหลังจากโทรไปรวมบิลแล้ว
ใช้เวลาอยู่พอสมควรตั้งแต่ ติดต่อไปครั้งแรก และต้องโทรไปอีกครั้ง 2 สัปดาห์
และต้องรอรอบบิลของมือถือ รอบใหม่ถึงจะได้เริ่มใช้งานโปรฯ รวมค่าบิลโทรศัพท์มือถือ
แต่ท้ายที่สุดแล้วก็ได้ความเร็วมาอีก 1 เท่า แฮปปปปปปี้
มาเข้าเรื่องที่ AIS PLAYBOX กันดีกว่าาาาาครับ จากที่ AIS ระบุไว้ว่า ทางจะเข้ามาติดตั้ง AIS PLAYBOX ให้ประมาณ 1 มิถุนายน
เวลาก็ผ่านไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ซึ่งผมก็ไม่ได้โทรไปทวงนะ เข้าใจแหละว่าอาจจะยังไม่พร้อม
จนได้รับการติดต่อมาจาก AIS Playbox ว่าจะเข้ามาติดตั้งกล่อง วันที่ 17 มิ.ย. นัดติดตั้งวันที่ 27 มิ.ย. ที่ผ่านมานี่เองงงง
ช่างมาตรงตามนัด โทรเข้ามาคอนเฟิร์มนัดก่อนล่วงหน้า 1 วัน พอเจอช่าง คือ เรื่องเดิมเลย เป็นใครไม่รู้ ดูไม่ออกว่ามาจาก AIS
และผมแทบตกใจ เพราะพี่เค้าดูเหมือนอาเฮียเจ้าของร้านขายทีวีมากๆ แต่ช่างเถอะ เอากล่องมาให้เราก็พอ ><'
อุปกรณ์ที่มีมาให้ในกล่องก็จะมี ตัวกล่อง+สายไฟ, รีโมท, สาย AV, สาย LAN, คู่มือ, สาย HDMI
ตัวกล่อง มีช่อง USB 2.0 2 ช่อง ช่องเสียบ Micro SD Card 1 ช่อง ช่องเสียบสาย LAN ช่องเสียบสาย HDMI
ช่อง digital audio ด้วย ส่วน Spec ของกล่องตามรูปเลยครับ
เรื่อง Materials ของตัวกล่องและรีโมท ดูดีทีเดียว เป็นสีดำ ผิวสัมผัสด้านๆ ดู Premium ครับ
ตัวรีโมทออกแบบคล้ายๆๆๆ กับรีโมทของ apple เลย อันเล็ก สะดวกมือ สวยด้วย ผมชอบเลย
แต่ติดตรงที่ปุ่มไม่แน่นเท่าไหร่ บางทีกดก็ไม่ได้ครับ เดี๋ยวถ้าเสียคงต้องส่งคืน
ส่วนการต่อไม่ยุ่งยากเลย เนื่องจากเป็น digital smart box จึงไม่ต้องใช้สายอากาศแต่อย่างใด
ผมใช้ HDMI ต่อออกจอ และใช้สาย LAN ต่อกับ Router โดยตรง (สามารถต่อด้วย WIFI ก็ได้นะ)
เปิดครั้งแรกจะต้อง Sign in ซึ่งต้องไปลงทะเบียนกล่องที่เว็บไซต์นิดหน่อย แต่ก็ไม่ยุ่งยากครับ ส่วนนี้ช่างที่มาติดทำให้เรียบร้อย
หน้าจอนี้เป็นหน้าจอเริ่มต้น มีเมนูหลักอยู่ 5 ไอคอนด้านล่างครับ
เมนู PLAYBOX > TV หลักๆคือจะมีช่อง Digital Free TV ทั่วไปกับ ZPayTV (CTH) ซึ่งเข้าไปดูในเว็บไซต์เห็นระบุว่าเป็น Free Premium Channel ซึ่งก็ไม่รู้ว่า ฟรีถึงเมื่อไหร่ แต่ที่ผมชอบเลยคือ Fox Movie Premium HD กับ NATIONAL GEOGRAPHIC CHANNEL HD แต่มีปัญหาเรื่อง เสียง 2 ภาษา ซึ่งไปตั้งค่าให้เป็น ENG แล้ว เสียงพากษ์ไทยอย่างเดียวเลยครับ ทำอย่างไรก็ไม่ได้เสียง Soundtrack
การเลือกช่องง่ายดี ใช้ไอคอนการเลือกดูช่อง มี Logo ระบุไม่ต้องจำหมายเลขช่อง ตอนเปลี่ยนช่องจะมีการ streaming ภาพขึ้นเป็น % บอกครับ แต่ไม่นาน ประมาณ 2-3 วินาที ภาพของช่องนั้นๆ ถึงจะปรากฏ
ส่วนความคมชัด นี่ คือ ชัดดดดดดดเลย ชัดระดับ HD นั่นแหละครับ แฮปปปปปปปปี้
เมนู PLAYBOX > Movies จะเป็นหนังและซีรีส์ของ GTH ครับ มีเรื่องใหม่ที่ชัดระดับ 4K คือ ไอฟาย
นอกนั้นชัด HD บ้าง SD บ้าง แต่ในนี้ก็มีหนังไม่เยอะครับ แต่มีทุกเรื่องของ GHT ส่วนใหญ่ดูหมดแล้ว
ส่วน PLAYBOX > KARAOKE นี่น่าสนใจมากกกกกกก เพราะเราสามารถร้องเพลงกับ MV ได้เลย มีให้ร้องเยอะพอสมควรเลยครับ ซึ่งก็มีแต่เพลงของค่ายแกรมมี่
เมนู PLAYBOX > HOOQ เป็น App หนังเหมือนกันครับ แต่เป็นหนังฮอลลิวู๊ด+ไทย ปนกันซึ่งมีทั้งใหม่และเก่า มีหลายเรื่องทีเดียว เยอะพอสมควร เรื่องความใหม่ของหนังนั้น ไม่ได้มีใหม่สดๆร้อนๆ แต่ก็พอจะมีหนังดังๆ ให้ดูบ้างครับ ถือว่าโอเคเลย (รายชื่อหนัง update เข้าไปดูได้ที่เว็บไซต์ AIS Playbox ได้) [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
เรื่องระบบเสียงหนังของ app นี้เป็น ENG มี Subtitle แต่ตัวเล็กกกกมากกกก แถมติดขอบล่างจอเลย แบ่งบรรทัดก็ไม่ดี อ่านไม่สะดวก ควรปรับปรุงเรื่องนี้แหละ สุดท้าย ปิด sub ฟัง Soundtrack แบบงูๆปลาๆ เหมาะกับการฝึกภาษาอังกฤษทีเดียวเชียว
ตัวนี้ช่างที่มาติดบอกว่า ดูได้ฟรี 1 เดือน หลังจากนี้เสียตัง [แวะไปดูเว็บของ HOOQ มาเห็นระบุว่า 119 บาท
ที่น่าสนใจคือ Smart BOX ตัวนี้เป็น ANDROID ครับ ติดตั้ง Application อื่นๆได้ด้วย
เช็คอีเมล์ได้ ดู Browser ได้ ซึ่งผมยังไม่ได้ลองเลยซักอย่าง ซึ่งส่วนนี้เราน่าจะคุ้นกันอยู่แล้วครับ
เรื่องความเร็ว มันไม่ได้เร็วแบบปรุ๊ดปร๊าดดด มีหน่วงๆ ตอนเข้า App และเปลี่ยนช่อง
ในส่วนอื่นๆปลีกย่อยไม่ขอพูดถึงละกันครับ เพราะมีความสามารถเหมือนกล่องอื่นๆทั่วไป
เช่น ต่อ HD กับ USB เล่น file เพลงและหนังได้
ส่วนอื่นๆ ที่ผมยังไม่ได้ลอง แต่คิดว่าดีมากคือ เชื่อมต่อกับมือถือได้ ทั้งMiracast , รีโมตมือถือ (Phone Remote), DLNA และ AirPlay ยังไม่ได้ลองเช่นกัน คือ แอบคิดอยู่ว่าส่วนตัวไม่ได้ใช้ ไอโฟน จะเชื่อมต่อกับพวกนี้ได้หรือปล่าวววน้าาา
รีวิวเบื้องต้นนี้คงทำให้เพื่อนๆพอเห็นภาพ AIS PLAYBOX บางส่วนแล้วนะครับ เอาไว้ลองใช้งานกับมือถือแล้วจะมารีวิวละเอียดอีกทีครับ
ขอบคุณที่ติดตามครับ
-----> มาเพิ่มเติมเรื่อง ชมย้อนหลัง, โหลด App และ ต่อมือถือ ครัชชชชช <------
ความรู้สึก.. ผมว่าคุ้มค่านะ content ค่อนข้างดี ดูได้ไม่มีปัญหาครับ สามารถรับชมรายการทีวีย้อนหลังได้ 7 วัน
เอาจริงๆคือ ผมไม่เคยย้อนไปดูเลยครัช 555 เลยลองดูสักหน่อยละกัน
ความสามารถคือ สามารถเลื่อนดูได้ย้อนหลัง 7 วันครับ
เลื่อนดูตามรายการได้ โดยไม่ยุ่งยาก จากที่เห็นคือวันที่ 1 JUL เป็นรายการณ ปัจจุบันครับ
แต่.... ข้อเสียคือ เลื่อนดูยากมาก เลือกวันไม่เท่าไหร่ แต่เลือกช่องและช่วงเวลาที่จะดูเนี่ยสิยาก น่าจะออก UI ให้ใช้งานได้ง่ายกว่านี้
ลองย้อนกลับไปดู 7 วันเลย ก็มีตารางรายการของทุกช่องให้เลือก ผมเลือกมารายการนึง
เป็น Thairat TV ช่วง 10.00-11.00 PM ก็สามารถ Streaming ดูได้ราบรื่นดีนะครับ
ย้อนไปดู บัลลังเมฆ ช่อง ONE ก็ดูได้ อูยยยยยย ผมนี่ร้องว๊าววเลย
สรุปคือ ใช้งานง่ายครับ ไม่ยุ่งยาก ย้อนดูรายการโปรดได้ สบายๆๆ
ต่อไปเป็นขั้นตอนการลง Application ของ Google Play ครับ
เนื่องจากต้อง Sign-in เข้า Google Account ผมว่าค่อนข้างมีปัญหาในการใช้งาน Keyboard กับรีโมทครับ
เพราะต้องเลื่อนๆๆๆๆๆๆ ไปจิ้มตัวอักษรทีละตัว ด้วยสติปัญญาอันน้อยนิด
สังเกตว่ามันมี USB นี่น่า และเป็น Android นี่น่า เลยหยิบเอา USB ของ Keyboard มาต่อซะเลย
ปรากฏว่า มัน Workkkkkkkkk ครับ ผมสามารถพิมพ์ตัวอักษรผ่าน Keyboard ได้สบายๆๆ
ทำให้สะดวกสบายมากขึ้นในการพิมพ์ User name และ Password และอื่นๆๆๆ เพราะผมลองสมัคร account ใหม่
เสร็จเรียบร้อยไปลองโหลด Application ในเมนู google play ครับ
โหลด Youtube
ก็ติดตั้งได้ไม่ปัญหาอะไร ติดที่อย่างเดียวคือ User interface เหมือนบน SmartPhone เด๊ะๆๆๆ
เปิด Application Youtube ดูก็สามารถเปิดได้ครับ
แต่ใช้งานค่อนข้างลำบากนิดหน่อย เพราะต้องใช้งานแบบ touch screen เหมือนบนมือถือครับ
User experience ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ แต่ก็สามารถใช้ได้ไม่ติดขัดครับ
อย่างที่บอกว่าสามารถใช้ Key Board USB ได้ ก็ต้องใช้ Mouse ได้เช่นกัน
ใช้ 2 อย่างนี้สบายกว่า ใช้รีโมทเยอะครับ เชื่อผม
ขยายหน้าจอเป็น Full Screen ก็เป็น HD ครับ
มาที่การต่อกับโทรศัพท์บ้างดีกว่าครับ แต่ไม่ไหวแล้วง่วงนอน ผมขอลงรูปไว้ก่อนนะครับ