ถือเป็นเรื่องปกติของคู่รัก ที่เมื่อมีรัก เรื่องของการมีเพศสัมพันธ์ก็จะเกิดขึ้นตามมา "การมีเพศสัมพันธ์" นับว่าเป็นเรื่องปกติ ไม่ใช่เรื่องผิดอะไร ถ้าถึงเวลาที่เหมาะสม
จะทำอย่างไร เมื่อระหว่างที่คุณกำลังเล่นจ้ำจี้ จู้ฮุกกรู้ แล้วถุงยางอนามัยเกิดรั่ว หรือฉีดขาด! จะทำอย่างไรเมื่อลืมกินยาคุมกำเนิด! จะทำอย่างไร เมื่อเกิดกรณีไม่คาดฝันถูกข่มขืน หรือเผลอปล่อยกายไปโดยไม่ได้ป้องกัน! เหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นได้กับคุณผู้หญิงทุกคน วันนี้ทิชชี่จึงมีเรื่องที่คุณผู้หญิงควรรู้เกี่ยวกับการกิน "ยาคุมฉุกเฉิน" มาแนะนำ
"ยาคุมฉุกเฉิน" ชื่อก็บอกแล้ว ว่า "ฉุกเฉิน" ก็เหมือนยาคุมกำเนิดธรรมดา แต่จะมีปริมาณฮอร์โมนต่อเม็ดสูงกว่า ต้องกินหลังจากมีเพศสัมพันธ์ภายในเวลาที่กำหนด ซึ่งต้องใช้ในกรณีฉุกเฉินเท่านั้น ไม่ควรนำมาใช้เพื่อการคุมกำเนิดในระยะยาว เพราะอาจเกิดอันตรายหรือผลข้างเคียงได้ หากใช้ไม่ถูกวิธีนะคะ
วิธีกินยาคุมฉุกเฉินให้ได้ผล
- ยาคุมฉุกเฉิน 1 กล่อง จะมีตัวยา 2 เม็ด ประกอบด้วยตัวยาที่เป็นฮอร์โมนขนาดสูง คือ ลีโวนอร์เจสเตรล (levonorgestrel) เม็ดละ 750 ไมโครกรัม
- การกินยาคุมฉุกเฉินที่ถูกต้องคือ กินเม็ดแรกให้เร็วที่สุด หลังจากมีเพศสัมพันธ์ที่ไม่ได้ป้องกันทันที โดยไม่ควรเกิน 72 ชั่วโมง และจะต้องกินยาเม็ดที่สองหลังจากกินเม็ดแรกไม่เกิน 12 ชั่วโมง
- การกินยาเม็ดแรกภายใน 72 ชั่วโมง หลังการมีเพศสัมพันธ์ดังกล่าวตามด้วยยาเม็ดที่สอง จะให้ประสิทธิภาพในการป้องกันการตั้งครรภ์ได้ 75% แต่หากเริ่มยาภายใน 24ชั่วโมง หลังการมีเพศสัมพันธ์ จะให้ประสิทธิภาพในการป้องกันการตั้งครรภ์เพิ่มขึ้นเป็น 85% ดังนั้นจึงควรรับประทานยาเม็ดแรกหลังการมีเพศสัมพันธ์ให้เร็วที่สุด
- หากมีการอาเจียนภายใน 2 ชั่วโมงหลังกินยาแต่ละเม็ด ต้องกินยาใหม่ และไม่แนะนำให้กินยาเกิน 4 เม็ด หรือ 2 กล่อง ต่อเดือน
ผลข้างเคียงของยาคุมฉุกเฉิน
- ประจำเดือนอาจคลาดเคลื่อน ทำให้มาช้าหรือเร็วกว่าปกติ ข้อนี้ไม่ต้องกังวลไปนะคะ
- อาจมีเลือดออกกะปริดกะปรอยออกมาระหว่างเดือน
- ปวดท้อง คลื่นไส้ อาเจียน ปวดศีรษะ เวียนหัว เจ็บคัดเต้านม
- ซึมเศร้า วิตกกังวล เกิดการเปลี่ยนแปลงทางอารมณ์
คนส่วนน้อยเท่านั้นที่กิน "ยาคุมฉุกเฉิน" แล้วจะมีอาการข้างเคียงดังกล่าว คุณสาวๆ ไม่ต้องตกใจนะคะ เป็นผลข้างเคียงที่เกิดขึ้นได้ ไม่เป็นอันตรายรุนแรง และไม่จำเป็นต้องใช้ยารักษาใดๆ ค่ะ
ดีที่สุด อย่ากินยาคุมแบบฉุกเฉิน เกิน 2 ครั้งในชีวิต เพราะเป็นการการกระตุ้นเซลล์มะเร็ง ทำให้เสี่ยงต่อมะเร็ง หรือ กระทบต่อรังไข่ มดลูก และร่างกาย การที่ร่างกายรับสิ่งใดมากเกินไปย่อมไม่ดีอย่างแน่นอนนะคะ
ขอย้ำว่า "ยาคุมฉุกเฉิน" ใช้ในกรณีฉุกเฉินเท่านั้น หากคิดจะรัก คิดจะมีเพศสัมพันธ์ ต้องรู้จักป้องกัน ยืดอกพกถุงยางอนามัยจะปลอดภัย และคุมกำเนิดได้ดีที่สุดค่ะ
ที่มา : คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล
Report : LIV Capsule
เรื่องจริงที่ผู้หญิงต้องรู้ "ยาคุมฉุกเฉิน" ห้ามกินเกิน 2 ครั้งในชีวิต
จะทำอย่างไร เมื่อระหว่างที่คุณกำลังเล่นจ้ำจี้ จู้ฮุกกรู้ แล้วถุงยางอนามัยเกิดรั่ว หรือฉีดขาด! จะทำอย่างไรเมื่อลืมกินยาคุมกำเนิด! จะทำอย่างไร เมื่อเกิดกรณีไม่คาดฝันถูกข่มขืน หรือเผลอปล่อยกายไปโดยไม่ได้ป้องกัน! เหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นได้กับคุณผู้หญิงทุกคน วันนี้ทิชชี่จึงมีเรื่องที่คุณผู้หญิงควรรู้เกี่ยวกับการกิน "ยาคุมฉุกเฉิน" มาแนะนำ
"ยาคุมฉุกเฉิน" ชื่อก็บอกแล้ว ว่า "ฉุกเฉิน" ก็เหมือนยาคุมกำเนิดธรรมดา แต่จะมีปริมาณฮอร์โมนต่อเม็ดสูงกว่า ต้องกินหลังจากมีเพศสัมพันธ์ภายในเวลาที่กำหนด ซึ่งต้องใช้ในกรณีฉุกเฉินเท่านั้น ไม่ควรนำมาใช้เพื่อการคุมกำเนิดในระยะยาว เพราะอาจเกิดอันตรายหรือผลข้างเคียงได้ หากใช้ไม่ถูกวิธีนะคะ
วิธีกินยาคุมฉุกเฉินให้ได้ผล
- ยาคุมฉุกเฉิน 1 กล่อง จะมีตัวยา 2 เม็ด ประกอบด้วยตัวยาที่เป็นฮอร์โมนขนาดสูง คือ ลีโวนอร์เจสเตรล (levonorgestrel) เม็ดละ 750 ไมโครกรัม
- การกินยาคุมฉุกเฉินที่ถูกต้องคือ กินเม็ดแรกให้เร็วที่สุด หลังจากมีเพศสัมพันธ์ที่ไม่ได้ป้องกันทันที โดยไม่ควรเกิน 72 ชั่วโมง และจะต้องกินยาเม็ดที่สองหลังจากกินเม็ดแรกไม่เกิน 12 ชั่วโมง
- การกินยาเม็ดแรกภายใน 72 ชั่วโมง หลังการมีเพศสัมพันธ์ดังกล่าวตามด้วยยาเม็ดที่สอง จะให้ประสิทธิภาพในการป้องกันการตั้งครรภ์ได้ 75% แต่หากเริ่มยาภายใน 24ชั่วโมง หลังการมีเพศสัมพันธ์ จะให้ประสิทธิภาพในการป้องกันการตั้งครรภ์เพิ่มขึ้นเป็น 85% ดังนั้นจึงควรรับประทานยาเม็ดแรกหลังการมีเพศสัมพันธ์ให้เร็วที่สุด
- หากมีการอาเจียนภายใน 2 ชั่วโมงหลังกินยาแต่ละเม็ด ต้องกินยาใหม่ และไม่แนะนำให้กินยาเกิน 4 เม็ด หรือ 2 กล่อง ต่อเดือน
ผลข้างเคียงของยาคุมฉุกเฉิน
- ประจำเดือนอาจคลาดเคลื่อน ทำให้มาช้าหรือเร็วกว่าปกติ ข้อนี้ไม่ต้องกังวลไปนะคะ
- อาจมีเลือดออกกะปริดกะปรอยออกมาระหว่างเดือน
- ปวดท้อง คลื่นไส้ อาเจียน ปวดศีรษะ เวียนหัว เจ็บคัดเต้านม
- ซึมเศร้า วิตกกังวล เกิดการเปลี่ยนแปลงทางอารมณ์
คนส่วนน้อยเท่านั้นที่กิน "ยาคุมฉุกเฉิน" แล้วจะมีอาการข้างเคียงดังกล่าว คุณสาวๆ ไม่ต้องตกใจนะคะ เป็นผลข้างเคียงที่เกิดขึ้นได้ ไม่เป็นอันตรายรุนแรง และไม่จำเป็นต้องใช้ยารักษาใดๆ ค่ะ
ดีที่สุด อย่ากินยาคุมแบบฉุกเฉิน เกิน 2 ครั้งในชีวิต เพราะเป็นการการกระตุ้นเซลล์มะเร็ง ทำให้เสี่ยงต่อมะเร็ง หรือ กระทบต่อรังไข่ มดลูก และร่างกาย การที่ร่างกายรับสิ่งใดมากเกินไปย่อมไม่ดีอย่างแน่นอนนะคะ
ขอย้ำว่า "ยาคุมฉุกเฉิน" ใช้ในกรณีฉุกเฉินเท่านั้น หากคิดจะรัก คิดจะมีเพศสัมพันธ์ ต้องรู้จักป้องกัน ยืดอกพกถุงยางอนามัยจะปลอดภัย และคุมกำเนิดได้ดีที่สุดค่ะ
ที่มา : คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล
Report : LIV Capsule