เมื่อคืนวานนี้ ในโลกโซเชียลมีเดียของคนที่ชื่นชอบฟุตบอล ต่างมีการแชร์รูป และ ข้อความต่างๆ ที่มีแอดมินของเพจฟุตบอลทีมบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด โพสต์ข้อความที่พาดพิงต่อ "โค้ชซิโก้" เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง และ ทราบมาว่าคนโพสต์ออกมาขอโทษแล้ว
ประเด็นที่แอดมินคนดังกล่าวขอโทษแล้ว ผมไม่ขอเอ่ยถึง เพราะคิดว่าคงโดนสังคมพิจารณาไปแล้ว ....แต่ที่จะกล่าวถึงคือ " ซิโก้ " เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง ผู้ฝึกสอนฟุตบอลทีมชาติไทย
ผมเชื่อเหลือเกินว่า ถ้าใครที่โดนพาดพิงลักษณะแบบนี้ต้องมีการโต้ตอบกลับไปบ้าง ไม่ทางใดก็ทางนึง
แต่.....เงียบ "โค้ชซิโก้" ไม่มีการตอบโต้อะไรทั้งสิ้น
ทำไมถึงเงียบ เพราะมันเป็นความจริงงั้นเหรอ ? หรือเงียบเพราะเหตุผลอื่น ?
ผมไม่เคยมีโอกาสคลุกคลีกับอดีตนักกีฬาทีมชาติรายนี้ ทำได้เพียงมองเขาโลดเล่นอยู่ในสนามผ่านทางหน้าจอทีวี เวลาที่ทีมชาติไทยลงทำการแข่งขัน
ผมไม่เคยรู้จักเป็นการส่วนตัว แต่เขาทำให้ผมเห็นเป็นประจำสำหรับนิสัยไม่ต่อล้อต่อเถียง จากการเล่นในสนาม บ่อยครั้งที่ ซิโก้ จะโดนเสียบหนักๆ หรือมีการปะทะหนัก
แต่...." ซิโก้ ไม่เคยลุกมาทำตัวนอกเกม หรือ โวยวาย พ่นคำด่าทอใส่คู่ต่อสู้ให้เห็น " พร้อมกับหันหลังไปเล่นต่อ มุ่งมั่นต่อเป้าหมายคือเล่นเพื่อทีม และ เล่นเพื่อคนไทย
" เล่นเพื่อคนไทย " ฟังแล้วอาจจะดูน้ำเน่า แต่บอกเลยว่าช่วงที่ศรัทธาของฟุตบอลไทยมันอยู่ขีดสูง ก็คือช่วงที่มี ซิโก้ เล่นอยู่ในทีมด้วย และ ทุกคนในทีมทุ่มเทกันเต็มร้อย ทุกเกมที่คนไทยได้ดูจะรู้สึกเลยว่า นี่คือเล่นด้วยใจ และ เพื่อคนไทยที่เชียร์อยู่จริงๆ
เช่นเดียวกันกับการได้ขึ้นมาคุมทีมระดับชาติ "ซิโก้" จะย้ำให้นักกีฬาทุกคนใส่ใจกับเกมมากกว่าที่จะทำตัวแอคอาร์ทค่อยจ้องจะเตะ จ้องจะนอกเกมคอยเอาคืนเวลาโดนปะทะหนัก และ ภาพที่เคยถูกมองว่าบอลไทยไปมวยโลกก็ค่อยๆลางหายไป ก่อนที่จะมาเป็นยุคของฟุตบอลไทยที่มีแต่ "สปิริต" อีกครั้ง
" นักกีฬาไทยในช่วงขวบปีที่ซิโก้ดูแล ทุกคนอยู่ในกรอบของสุภาพบุรุษลูกหนัง " และเหตุนี้จึงทำให้คนไทยกลับมามีศรัทธาต่อฟุตบอลระดับชาติ
สำหรับผมที่โตมากับบอลไทยในยุคดรีมทีม ยอมรับเลยว่า เคยหมดศรัทธาบอลไทยไปพักใหญ่ จนมีโค้ชซิโก้ที่มาทำให้ทุกอย่างกลับมา ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบการเล่นที่ชัดเจน,นักกีฬากระหายที่จะลงสนาม,ผลงานที่เป็นชิ้นเป็นอัน ทุกอย่างที่กล่าวมามันคือฟุตบอลไทยที่ผมเคยรู้จัก และ ได้มีทักทายกันใหม่อีกครั้ง
สุดท้ายนี้รู้สึกดีใจที่ โค้ชซิโก้ ทำตัวเป็นทองไม่รู้ร้อน ซึ่งผมไม่รู้ว่าความหมายของคำนี้มันดีหรือไม่ดี แต่สำหรับผมมันดี เพราะทองยังไงก็เป็นทอง ไฟจะเผายังไงก็ยังเป็น"ทอง"อยู่วันยังค่ำ
ขอสดุดีต่อฟุตบอลไทย
เอก ประวิตร
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้https://www.facebook.com/eakprawit/photos/np.1435316101718896.100002243858342/717446385034455/?type=1¬if_t=notify_me_page
ซิโก้ ทำไมคุณทำตัวเป็นทองไม่รู้ร้อน ?
เมื่อคืนวานนี้ ในโลกโซเชียลมีเดียของคนที่ชื่นชอบฟุตบอล ต่างมีการแชร์รูป และ ข้อความต่างๆ ที่มีแอดมินของเพจฟุตบอลทีมบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด โพสต์ข้อความที่พาดพิงต่อ "โค้ชซิโก้" เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง และ ทราบมาว่าคนโพสต์ออกมาขอโทษแล้ว
ประเด็นที่แอดมินคนดังกล่าวขอโทษแล้ว ผมไม่ขอเอ่ยถึง เพราะคิดว่าคงโดนสังคมพิจารณาไปแล้ว ....แต่ที่จะกล่าวถึงคือ " ซิโก้ " เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง ผู้ฝึกสอนฟุตบอลทีมชาติไทย
ผมเชื่อเหลือเกินว่า ถ้าใครที่โดนพาดพิงลักษณะแบบนี้ต้องมีการโต้ตอบกลับไปบ้าง ไม่ทางใดก็ทางนึง
แต่.....เงียบ "โค้ชซิโก้" ไม่มีการตอบโต้อะไรทั้งสิ้น
ทำไมถึงเงียบ เพราะมันเป็นความจริงงั้นเหรอ ? หรือเงียบเพราะเหตุผลอื่น ?
ผมไม่เคยมีโอกาสคลุกคลีกับอดีตนักกีฬาทีมชาติรายนี้ ทำได้เพียงมองเขาโลดเล่นอยู่ในสนามผ่านทางหน้าจอทีวี เวลาที่ทีมชาติไทยลงทำการแข่งขัน
ผมไม่เคยรู้จักเป็นการส่วนตัว แต่เขาทำให้ผมเห็นเป็นประจำสำหรับนิสัยไม่ต่อล้อต่อเถียง จากการเล่นในสนาม บ่อยครั้งที่ ซิโก้ จะโดนเสียบหนักๆ หรือมีการปะทะหนัก
แต่...." ซิโก้ ไม่เคยลุกมาทำตัวนอกเกม หรือ โวยวาย พ่นคำด่าทอใส่คู่ต่อสู้ให้เห็น " พร้อมกับหันหลังไปเล่นต่อ มุ่งมั่นต่อเป้าหมายคือเล่นเพื่อทีม และ เล่นเพื่อคนไทย
" เล่นเพื่อคนไทย " ฟังแล้วอาจจะดูน้ำเน่า แต่บอกเลยว่าช่วงที่ศรัทธาของฟุตบอลไทยมันอยู่ขีดสูง ก็คือช่วงที่มี ซิโก้ เล่นอยู่ในทีมด้วย และ ทุกคนในทีมทุ่มเทกันเต็มร้อย ทุกเกมที่คนไทยได้ดูจะรู้สึกเลยว่า นี่คือเล่นด้วยใจ และ เพื่อคนไทยที่เชียร์อยู่จริงๆ
เช่นเดียวกันกับการได้ขึ้นมาคุมทีมระดับชาติ "ซิโก้" จะย้ำให้นักกีฬาทุกคนใส่ใจกับเกมมากกว่าที่จะทำตัวแอคอาร์ทค่อยจ้องจะเตะ จ้องจะนอกเกมคอยเอาคืนเวลาโดนปะทะหนัก และ ภาพที่เคยถูกมองว่าบอลไทยไปมวยโลกก็ค่อยๆลางหายไป ก่อนที่จะมาเป็นยุคของฟุตบอลไทยที่มีแต่ "สปิริต" อีกครั้ง
" นักกีฬาไทยในช่วงขวบปีที่ซิโก้ดูแล ทุกคนอยู่ในกรอบของสุภาพบุรุษลูกหนัง " และเหตุนี้จึงทำให้คนไทยกลับมามีศรัทธาต่อฟุตบอลระดับชาติ
สำหรับผมที่โตมากับบอลไทยในยุคดรีมทีม ยอมรับเลยว่า เคยหมดศรัทธาบอลไทยไปพักใหญ่ จนมีโค้ชซิโก้ที่มาทำให้ทุกอย่างกลับมา ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบการเล่นที่ชัดเจน,นักกีฬากระหายที่จะลงสนาม,ผลงานที่เป็นชิ้นเป็นอัน ทุกอย่างที่กล่าวมามันคือฟุตบอลไทยที่ผมเคยรู้จัก และ ได้มีทักทายกันใหม่อีกครั้ง
สุดท้ายนี้รู้สึกดีใจที่ โค้ชซิโก้ ทำตัวเป็นทองไม่รู้ร้อน ซึ่งผมไม่รู้ว่าความหมายของคำนี้มันดีหรือไม่ดี แต่สำหรับผมมันดี เพราะทองยังไงก็เป็นทอง ไฟจะเผายังไงก็ยังเป็น"ทอง"อยู่วันยังค่ำ
ขอสดุดีต่อฟุตบอลไทย
เอก ประวิตร
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้