ความเคลื่อนไหวทีมฟุตบอลชายทีมชาติไทย หลังจาก "ซิโก้" เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง หัวหน้าผู้ฝึกสอน ได้เข้าหารือกับ "บังยี" วรวีร์ มะกูดี นายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย ถึงการเตรียมทีมชาติชุดต่างๆ ซึ่งได้ข้อสรุปว่าจะมีการเลื่อนโปรแกรมทีพีแอลในแมตช์ที่ 22 ขยับออกไปแข่งขันในวันที่ 3 ต.ค. เพื่อให้ทีมชาติไทยมีเวลาเก็บตัวเพิ่มเป็น 20 วัน โดยจะมีแมตช์อุ่นเครื่องกับฟิลิปปินส์ ในวันที่ 3 ก.ย. ก่อนพบ อิรัก ในศึกฟุตบอลโลกรอบคัดเลือก นัดที่ 3 ในวันที่ 8 ก.ย. นอกจากนี้ยังเตรียมเชิญ ฮ่องกง มาอุ่นเครื่อง 1 นัดก่อนเกมบุกเยือนเวียดนาม ด้วยนั้น
นอกจากนี้ในส่วนของทีมปรีโอลิมปิก ที่วางแผนจะไปเก็บตัวที่ กาตาร์ สัก 7 วันก่อนแข่งขันรอบคัดเลือกรอบสุดท้าย ซึ่ง "ซิโก้" ยืนยันว่าจะคุมทีมชุดนี้ด้วยตัวเอง ขณะที่ทีมชุดยู-16 และ ยู-19 ชิงแชมป์เอเชีย รอบคัดเลือก ที่มีคิวแข่งขันในช่วงเดือน ก.ย.-ต.ค. นั้น มีการเปิดเผยจากแหล่งข่าววงในว่า ดร.กษม ชนะวงศ์ ประธานสโมสรขอนแก่น เอฟซี จะเข้ามาเป็นผู้จัดการทีมชุด ยู-16 และ นายณัฎฐพล ทีปสุวรรณ ประธานสโมสรบางกอก เอฟซี จะเป็นผู้จัดการทีมชุดยู-19 ซึ่งผู้จัดการทีมจะเป็นผู้ตัดสินใจว่าจะตั้งใครเป็นเฮดโค้ช โดยเบื้องต้นคาดว่า ยู-19 จะเลือกใช้โค้ชต่างชาติ โดยให้ "ซิโก้" ดูภาพรวมในเรื่องสไตล์การเล่นเท่านั้น
ล่าสุดได้รับการเปิดเผยจาก "โค้ชแม็ก" ใกล้รุ่ง ตรีจักรสังข์ ผู้ช่วยของ "ซิโก้" ว่าในวันจันทร์ที่ 29 มิ.ย. นี้ ทีมงานสตาฟฟ์จะมีการประชุมกันเพื่อแบ่งหน้าที่ในการดูแลทีมชาติแต่ละชุด โดยความคิดเห็นส่วนตัว ไม่เห็นด้วยนักที่จะใช้โค้ชต่างชาติ เพราะมองว่าโค้ชไทยเข้าใจธรรมชาติของนักเตะมากกว่า เนื่องจากมีรายละเอียดปลีกย่อยเยอะที่โค้ชต่างชาติอาจรับมือไม่ไหวโดยเฉพาะในรุ่นเด็กที่อยู่ในช่วงวัยหัวเลี้ยวหัวต่อ อีกทั้งระบบการเล่นหรือแนวทางของโค้ชแต่ละคนก็ย่อมแตกต่างกัน เป็นไปได้ยากที่จะปฏิบัติตามแนวทางที่ "ซิโก้" วางให้
"บอลไทยยุคนี้สร้างศรัทธาจากแฟนบอลได้ สิ่งหนึ่งคือเรื่องการปลูกฝังความคิด เราได้เห็น สารัช อยู่เย็น หรือ อาทิตย์ ดาวสว่าง ในรูปแบบใหม่จากที่เคยเสียใบเหลืองง่ายๆ แต่เขาก็ปรับตัวขึ้นมาด้วยแนวทางความคิดและวินัยที่พี่โก้พยายามแนะนำ โค้ชต่างชาติอาจจะคิดอีกแบบว่าต้องเล่นให้เต็มที่ เข้าบอลให้หนัก ซึ่งแต่ละคนก็ย่อมมีอีโก้ มีของ มีความรู้ความสามารถ และอยากให้เล่นในแบบของตัวเอง ไม่เพียงโค้ชต่างชาติ คนไทยด้วยกันก็เป็น แต่ถ้าให้ทีมชาติทุกชุดเติบโตมาด้วยแนวทางเดียวกัน ระบบการเล่นเดียวกันได้ ผมว่าน่าจะเป็นผลดีที่สุดครับ"
ส่วนกรณีที่ "ซิโก้" เผยว่าอาจส่ง "โค้ชแม็ก" และ "โค้ชโชค" เข้าไปทำงานในทีมเยาวชนทั้งสองชุด "โค้ชแม็ก" กล่าวว่า ตอนนี้ตนได้พูดคุยกับโค้ชของโรงเรียนระดับหัวกะทิในรุ่นเยาวชนของเมืองไทย อย่างเช่น อัสสัมชัน ธนบุรี, ประเทืองทิพ วิทยา หรืออะคาเดมี่ของ ชลบุรี และ บุรีรัมย์ บ้างแล้ว ซึ่งทางทีมสตาฟฟ์ก็วางแผนไว้ว่าจะลองทาบทามโค้ชเหล่านี้เข้ามาช่วยกันทำทีมชาติชุดเยาวชนด้วยกัน แต่หากมีการแต่งตั้งผู้จัดการทีม และไม่ใช้แผนงานดังกล่าว ก็คงน่าเสียดาย อย่างไรก็ตามตนอยากให้ทางสมาคมสนับสนุนทีมชาติในหลายๆ ด้านเช่นเรื่องสนามฝึกซ้อมเก็บตัวที่เป็นของตัวเองไม่ต้องเช่า, อาหารเสริม วิตามินต่าง รวมถึงนักกายภาพของทีม ซึ่งตอนนี้มี แอนดี้ เชอร์ริงเจอร์ ชาวเยอรมันที่เข้ามาช่วยทีมชาติ ซึ่งเขาเป็นคนมีความรัความสามารถเคยทำงานในบุนเดสลีกา เยอรมัน มาแล้ว เขาสามารถเป็นครูให้คนไทยได้ เพื่อนำความรู้ของเขามาอบรมและสร้างบุคลากรให้มากขึ้น รวมไปถึงคนที่เข้ามาดูแลเรื่องฐานข้อมูลและสถิติผลงานของนักเตะ ซึ่งถือเป็นเรื่องสำคัญมาก ตอนนี้ตนต้องเก็บข้อมูลเองจากการดูและสอบถามโค้ชว่า นักเตะเยาวชนในแต่ละรุ่นอายุมีใครโดดเด่นบ้าง ถ้าเรามีคนเก็บสถิติว่า เด็กแต่ละรุ่นอายุมีใครเล่นตำแหน่งไหนบ้าง ข้อมูลตรงนี้จะช่วยได้มากในการเลือกนักเตะที่ดีที่สุดมาติดทีมชาติไทยในทุกรุ่น
นอกจากนี้ "โค้ชแม็ก" ได้กล่าว ตอนนี้ทีมชาติพยายามวางแผนเพิ่มทางเลือกในแผนการเล่นให้หลากหลายมากขึ้น จากเดิมที่เล่น 4-3-3 มาตลอด โดยลองมาใช้ระบบ 4-4-1-1 บ้าง โดยทดลองไปแล้วในเกมเยือนไต้หวัน และอาจจะลองระบบอื่นๆ อีกซึ่งต้องการแมตช์อุ่นเครื่องในการทดสอบ เพราะหากเล่นแผนเดิมตลอด คู่ต่อสู้ก็จะจับทางได้ง่าย
ขณะเดียวกันผู้ช่วยกุนซือ "ช้างศึก" ยังเผยต่อว่าทีมชาติไทยในยุคนี้ ไม่มีปัญหาเด็กเส้นเหมือนในอดีตอีกแล้ว เพราะ "ซิโก้" ยอมหักไม่ยอมงอ โดยที่ผ่านมาทีมชาติไทยแทบทุกรุ่นอายุอาจมีปัญหาเด็กฝาก การเลือกนักเตะลงแข่งแต่ละทัวร์นาเม้นต์หรือส่งชื่อลงสนาม โค้ชไม่สามารถตัดสินใจได้เอง ต้องให้ผู้จัดการทีมดูก่อน แต่ยุคนี้ "ซิโก้" และทีมงานจะตัดสินใจเองทั้งหมด โดยไม่ยอมให้ใคมารใช้อำนาจบังคับได้ ดังนั้นมั่นใจได้ว่านักเตะทุกคนที่ถูกเลือกใช้ในยุคนี้ มาจากการตัดสินใจของ "ซิโก้" และทีมงานสตาฟฟ์เท่านั้น
-------------------------
ที่มา : ฮอตสกอร์ แฟนเพจ
ตรงและโดนใจ !! จากปากของ 'โค้ชแม็คใกล้รุ่ง' เรื่องทีม u16 - u19
นอกจากนี้ในส่วนของทีมปรีโอลิมปิก ที่วางแผนจะไปเก็บตัวที่ กาตาร์ สัก 7 วันก่อนแข่งขันรอบคัดเลือกรอบสุดท้าย ซึ่ง "ซิโก้" ยืนยันว่าจะคุมทีมชุดนี้ด้วยตัวเอง ขณะที่ทีมชุดยู-16 และ ยู-19 ชิงแชมป์เอเชีย รอบคัดเลือก ที่มีคิวแข่งขันในช่วงเดือน ก.ย.-ต.ค. นั้น มีการเปิดเผยจากแหล่งข่าววงในว่า ดร.กษม ชนะวงศ์ ประธานสโมสรขอนแก่น เอฟซี จะเข้ามาเป็นผู้จัดการทีมชุด ยู-16 และ นายณัฎฐพล ทีปสุวรรณ ประธานสโมสรบางกอก เอฟซี จะเป็นผู้จัดการทีมชุดยู-19 ซึ่งผู้จัดการทีมจะเป็นผู้ตัดสินใจว่าจะตั้งใครเป็นเฮดโค้ช โดยเบื้องต้นคาดว่า ยู-19 จะเลือกใช้โค้ชต่างชาติ โดยให้ "ซิโก้" ดูภาพรวมในเรื่องสไตล์การเล่นเท่านั้น
ล่าสุดได้รับการเปิดเผยจาก "โค้ชแม็ก" ใกล้รุ่ง ตรีจักรสังข์ ผู้ช่วยของ "ซิโก้" ว่าในวันจันทร์ที่ 29 มิ.ย. นี้ ทีมงานสตาฟฟ์จะมีการประชุมกันเพื่อแบ่งหน้าที่ในการดูแลทีมชาติแต่ละชุด โดยความคิดเห็นส่วนตัว ไม่เห็นด้วยนักที่จะใช้โค้ชต่างชาติ เพราะมองว่าโค้ชไทยเข้าใจธรรมชาติของนักเตะมากกว่า เนื่องจากมีรายละเอียดปลีกย่อยเยอะที่โค้ชต่างชาติอาจรับมือไม่ไหวโดยเฉพาะในรุ่นเด็กที่อยู่ในช่วงวัยหัวเลี้ยวหัวต่อ อีกทั้งระบบการเล่นหรือแนวทางของโค้ชแต่ละคนก็ย่อมแตกต่างกัน เป็นไปได้ยากที่จะปฏิบัติตามแนวทางที่ "ซิโก้" วางให้
"บอลไทยยุคนี้สร้างศรัทธาจากแฟนบอลได้ สิ่งหนึ่งคือเรื่องการปลูกฝังความคิด เราได้เห็น สารัช อยู่เย็น หรือ อาทิตย์ ดาวสว่าง ในรูปแบบใหม่จากที่เคยเสียใบเหลืองง่ายๆ แต่เขาก็ปรับตัวขึ้นมาด้วยแนวทางความคิดและวินัยที่พี่โก้พยายามแนะนำ โค้ชต่างชาติอาจจะคิดอีกแบบว่าต้องเล่นให้เต็มที่ เข้าบอลให้หนัก ซึ่งแต่ละคนก็ย่อมมีอีโก้ มีของ มีความรู้ความสามารถ และอยากให้เล่นในแบบของตัวเอง ไม่เพียงโค้ชต่างชาติ คนไทยด้วยกันก็เป็น แต่ถ้าให้ทีมชาติทุกชุดเติบโตมาด้วยแนวทางเดียวกัน ระบบการเล่นเดียวกันได้ ผมว่าน่าจะเป็นผลดีที่สุดครับ"
ส่วนกรณีที่ "ซิโก้" เผยว่าอาจส่ง "โค้ชแม็ก" และ "โค้ชโชค" เข้าไปทำงานในทีมเยาวชนทั้งสองชุด "โค้ชแม็ก" กล่าวว่า ตอนนี้ตนได้พูดคุยกับโค้ชของโรงเรียนระดับหัวกะทิในรุ่นเยาวชนของเมืองไทย อย่างเช่น อัสสัมชัน ธนบุรี, ประเทืองทิพ วิทยา หรืออะคาเดมี่ของ ชลบุรี และ บุรีรัมย์ บ้างแล้ว ซึ่งทางทีมสตาฟฟ์ก็วางแผนไว้ว่าจะลองทาบทามโค้ชเหล่านี้เข้ามาช่วยกันทำทีมชาติชุดเยาวชนด้วยกัน แต่หากมีการแต่งตั้งผู้จัดการทีม และไม่ใช้แผนงานดังกล่าว ก็คงน่าเสียดาย อย่างไรก็ตามตนอยากให้ทางสมาคมสนับสนุนทีมชาติในหลายๆ ด้านเช่นเรื่องสนามฝึกซ้อมเก็บตัวที่เป็นของตัวเองไม่ต้องเช่า, อาหารเสริม วิตามินต่าง รวมถึงนักกายภาพของทีม ซึ่งตอนนี้มี แอนดี้ เชอร์ริงเจอร์ ชาวเยอรมันที่เข้ามาช่วยทีมชาติ ซึ่งเขาเป็นคนมีความรัความสามารถเคยทำงานในบุนเดสลีกา เยอรมัน มาแล้ว เขาสามารถเป็นครูให้คนไทยได้ เพื่อนำความรู้ของเขามาอบรมและสร้างบุคลากรให้มากขึ้น รวมไปถึงคนที่เข้ามาดูแลเรื่องฐานข้อมูลและสถิติผลงานของนักเตะ ซึ่งถือเป็นเรื่องสำคัญมาก ตอนนี้ตนต้องเก็บข้อมูลเองจากการดูและสอบถามโค้ชว่า นักเตะเยาวชนในแต่ละรุ่นอายุมีใครโดดเด่นบ้าง ถ้าเรามีคนเก็บสถิติว่า เด็กแต่ละรุ่นอายุมีใครเล่นตำแหน่งไหนบ้าง ข้อมูลตรงนี้จะช่วยได้มากในการเลือกนักเตะที่ดีที่สุดมาติดทีมชาติไทยในทุกรุ่น
นอกจากนี้ "โค้ชแม็ก" ได้กล่าว ตอนนี้ทีมชาติพยายามวางแผนเพิ่มทางเลือกในแผนการเล่นให้หลากหลายมากขึ้น จากเดิมที่เล่น 4-3-3 มาตลอด โดยลองมาใช้ระบบ 4-4-1-1 บ้าง โดยทดลองไปแล้วในเกมเยือนไต้หวัน และอาจจะลองระบบอื่นๆ อีกซึ่งต้องการแมตช์อุ่นเครื่องในการทดสอบ เพราะหากเล่นแผนเดิมตลอด คู่ต่อสู้ก็จะจับทางได้ง่าย
ขณะเดียวกันผู้ช่วยกุนซือ "ช้างศึก" ยังเผยต่อว่าทีมชาติไทยในยุคนี้ ไม่มีปัญหาเด็กเส้นเหมือนในอดีตอีกแล้ว เพราะ "ซิโก้" ยอมหักไม่ยอมงอ โดยที่ผ่านมาทีมชาติไทยแทบทุกรุ่นอายุอาจมีปัญหาเด็กฝาก การเลือกนักเตะลงแข่งแต่ละทัวร์นาเม้นต์หรือส่งชื่อลงสนาม โค้ชไม่สามารถตัดสินใจได้เอง ต้องให้ผู้จัดการทีมดูก่อน แต่ยุคนี้ "ซิโก้" และทีมงานจะตัดสินใจเองทั้งหมด โดยไม่ยอมให้ใคมารใช้อำนาจบังคับได้ ดังนั้นมั่นใจได้ว่านักเตะทุกคนที่ถูกเลือกใช้ในยุคนี้ มาจากการตัดสินใจของ "ซิโก้" และทีมงานสตาฟฟ์เท่านั้น
-------------------------
ที่มา : ฮอตสกอร์ แฟนเพจ