สงคราม Financial Fair Play
ดูเหมือนความพยายามของ ยูฟ่า ในการที่จะควบคุมระบบการเงินของสโมสรฟุตบอลในยุโรปในกฏการเงิน Financial Fair Play ในขั้นที่ 2 จะไม่ง่ายอย่างที่คิด
เดิมยูฟ่า มีแผนการที่จะทำการแก้ไขกฏระเบียบ FFP ให้มีความ “ยืดหยุ่น" มากขึ้น
แม้ในเบื้องหลังแล้วจะเป็นการกระทำเพื่อหวังลดแรงต้านจากฝ่ายที่เสียหายจากกฏนี้ที่มีการดำเนินคดีมากกว่า 10 คดี
ซึ่งคาดว่าทุกอย่างน่าจะได้ข้อสรุปในการประชุมใหญ่ของยูฟ่า ที่กรุงปรากในสัปดาห์หน้า
สิ่งที่จะเปลี่ยนแปลง อาทิ เช่น การที่สโมสรจะสามารถลงทุนด้วยเงินของตัวเองได้มากขึ้นในช่วงระยะเวลา 3-5 ปี
ตราบที่สามารถแจงที่มาของรายได้ของสโมสร ที่จะทำให้บัญชีเดินสะพัดของสโมสรไม่ติดลบ

แต่ล่าสุด ศาลในกรุงบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยี่ยมได้มีการตัดสินให้ฝ่ายโจทก์ที่ร้องเรียนเรื่องความไม่เป็นธรรมของกฏ FFP
ซึ่งประกอบไปด้วยกองเชียร์ของทีม แมนเชสเตอร์ ซิตี้ และ ปารีส แซงต์-แชร์แมง สองสโมสรที่เสียหายมากจากการลงโทษของยูฟ่า
ซึ่งโดนทั้งปรับเงินมหาศาล 49 ล้านปอนด์ และตัดรายชื่อผู้เล่นในรายการยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก - เป็นฝ่ายชนะในชั้นต้น!
ชัยชนะที่ "ฌอง-หลุยส์ ดูปองต์" นักกฏหมายที่เป็นหัวแรงสำคัญในการต่อสู้เรื่องนี้กับยูฟ่า เชื่อว่าจะเป็น "ก้าวแรก" ที่ยิ่งใหญ่ในศึกครั้งนี้
โดยเป้าหมายสูงสุดคือการให้ศาลสูงยุโรปเป็นผู้ชี้ขาดในกรณีนี้ ว่าใครถูก-ผิด และ แนวทางที่ควรจะเกิดขึ้นต่อไป
สำหรับยูฟ่า ความพ่ายแพ้ครั้งนี้ไม่เพียงแค่เป็นการ "เสียหน้า" ในฐานะผู้ที่หวังจะสกัดกั้นกลุ่มทุน ที่เข้ามาเป็นมหาอำนาจลูกหนัง
แต่จะถึงขั้น “เสียหลัก” หรือไม่ ยังต้องติดตามกัน

by ลูกแม่กิ่ง
ที่มาของข่าว http://sport.sanook.com/155811/
....................................................................................................................................................................................

แม้จะเป็นแค่เพียงการแพ้ในศาลชั้นต้น ยังต้องรอดูยาวๆว่าจะลงเอยยังไง แต่ก็ถือว่าได้เห็นแนวโน้มที่ดี
แฟนแมนซิแบบผมดีใจที่ได้เห็นอะไรแบบนี้ มีที่ไหนห่วงเขากลัวเขาล้มละลาย แต่ดันไปลงโทษโดยการปรับเงิน
แบบนี้มันเหมือนซ้ำเติมเขาด้านการเงินไปอีกไม่ใช่หรือไง

เจตนาของกฏนี้มันไม่ได้ออกขึ้นมาเพราะห่วงทีมกลัวว่าพอเจ้าของหนีไปแล้วจะล้มละลายหรอก แต่มันออกมาเพื่อตัดแข้งตัดขากีดกันทีมเศรษฐีมากกว่า
เพราะการมีอยู่ของทีมเศรษฐีทำให้ทีมใหญ่(เก่าแก่)หลายๆทีมซื้อนักเตะยากขึ้น ต้องจ่ายค่าเหนื่อยมากขึ้น นักเตะเกรดAกระจายไปหลายทีมมากขึ้น
ทั้งๆที่ค่าตัวหรือค่าเหนื่อยมันไม่ใช่เรื่องที่ให้ใครคนไหนมาเที่ยวกำหนดได้ว่าแบบนี้มากไปนะ ไม่ดี ทำตลาดเสีย บลาๆๆ โน่นนี่

เท่าที่ผ่านมายังไม่เห็นทีมเศรษฐีทีมไหนไปจำกัดสิทธิใครหรือละเมิดสิทธิทีมอื่นเลย
มีก็แต่ใครหน้าไหนก็ไม่รู้เที่ยวมาจำกัดสิทธิต่างๆของทีมเศรษฐีหน้าใหม่ อ้างหวังดีบ้าง อ้างไม่ยุติธรรมบ้าง(เพราะแค่รวยกว่า)
เอาแต่สิ่งดีๆมาบังหน้า แต่เบื้องหลังในจิตใจคือเพื่อผลประโยชน์ล้วนๆ