ขอเถอะค่ะ หยุดดดดดทำแบบนี้!! ถ้าคุณอยากได้งาน

สวัสดีค่ะ ดิฉันเองทำงานเป็น Recruiter มาได้สักระยะนึงแล้ว สัมภาษณ์ผู้สมัครมาหลากหลายตำแหน่ง หลากหลายเงินเดือน หลากหลายเรื่องราว ทั้งร้ายและดี ผ่านมาหมดแล้ว จากที่เมื่อก่อนจะพิจารณาใบสมัครแต่ละใบนี่ใช้เวลาน้านนนน นานนนนน ในการสแกน เพราะคิดไม่ตก คนนี้เหมาะไหมน้า คนนี้เรียกเงินเดือนสมเหตุสมผลไหมน้า คนนี้ตรงกับ Requirement ของลูกค้าเปล่าวะเนี่ย ฯลฯ คิดสะระตะค่ะ กว่าจะได้ผู้สมัครที่ตรงใจสักคนเรียกได้ว่าดิฉันแทบลมจับ!

จนตอนนี้ ดิฉันเพียงแค่สแกนดูใบสมัครเพียงสิบวินาที (บางทีไม่ถึงด้วย) ดิฉันก็ตัดสินใจได้เลยว่าคนไหนควรดีลีทลง Junk-Mail คนไหนเราควรโทรเชิญให้เข้ามาพูดคุยเพื่อสัมภาษณ์ นี่ไม่ได้โม้นะคะ ดิชั้นสัมผัสได้จริงๆ!
ช่วงนี้เป็นช่วงที่น้องๆจบใหม่หลายคนเริ่มมองหางาน และเริ่มหว่านใบสมัครกันหลายๆที่ หลายๆเว็บไซต์ (ก็หลายๆเว็บที่เรารู้จักกันดีน่ะแหละค่ะ) เคยสงสัยมั้ยคะว่าทำไมเราส่งไปหลายที่ ไม่มีที่ไหนเรียกเราสักที่เลย ทั้งๆที่เราก็โปรไฟล์ไม่ได้ขี้ริ้วขี้เหร่ ประวัติการฝึกงานก็มี บลาบลาบลา วันนี้พี่จะมาบอกให้ค่ะว่ามีอะไรบ้างที่คุณโปรด อย่า! ทำ หากอยากได้งาน

1.รูปในเรซูเม่ – สำคัญมากกกกกกกกกกกก ช่วยหารูปที่สุภาพมาใช้เถอะค่ะ รูปเซลฟี่ในห้องพัก แบ็คกราวน์ข้างหลังเป็นกองเสื้อผ้า ผ้าห่ม หมอน มุ้ง แมวเดินผ่าน ฯลฯ เอาไว้โพสต์ในเฟสบุ๊ค ไอจี ทวิตเตอร์แทนนะคะ บางคนเป็นทอม (ไม่ได้เหยียดเพศนะคะ พอดีเพิ่งเจอมาวันนี้สดๆร้อนๆ) รูปในเรซูเม่คือรูปเซลฟี่ พร้อมมือข้างหนึ่งเสยผมค่ะ OMG!!!!!! น้องคิดว่าน้องกำลังทำอะไรอยู่คะ น้องเพิ่งจบสดๆร้อนๆ ประวัติการทำงานอะไรก็ไม่มี สิ่งที่จะทำให้บริษัทสนใจน้องได้คือ บุคลิกภาพและก็ความโดดเด่นของเรซูเม่นะคะ แค่รูปถ่ายน้องยังทำเหมือนเล่นขายของ หรือโพสต์เอาฮากับเพื่อนในเฟสแบบนี้ ดีลีททิ้งรัวๆค่ะ อ้อ! พี่เคยเจอแบบ ถ่ายในรถ ถ่ายในห้องน้ำ ถ่ายที่โต๊ะอาหารแบบเซลฟี่ เอิ่มมม …. เจอกันโอกาสหน้าละกันนะคะ

2.ภาษาในเรซูเม่ – ควรทำเรซูเม่เป็นภาษาอังกฤษนะคะ เพราะถึงน้องส่งเรซูเม่ภาษาไทยมา พี่ก็ต้องขอฉบับภาษาอังกฤษอยู่ดี และก็ควรตรวจสอบคำผิดในจดหมายสมัครงานของน้องด้วย บางคนเขียนคำว่า ‘ชุดครุย’ เป็น ‘ชุดคลุย’ ในไฟล์รูปที่แนบมาด้วยในอีเมล์ พี่บอกตามตรง ดีลีททิ้งทันทีค่ะ พี่ว่ามันเป็นคำที่ไม่ควรจะเขียนผิดเลยนะ มันแสดงให้เห็นถึงอะไรบางอย่างในตัวน้อง อย่างน้อยก็ความรอบคอบในการตรวจตราเรซูเม่ของตัวเองค่ะ ยังไม่นับพวก นะคะ… นะค่ะ… นะคับ อันหลังนี่รับไม่ได้ค่ะ HR ไม่ใช่เพื่อนเล่นหรือเพื่อนแชทในเฟสนะคะ จะมานะค้งนะคับ เด็ดกว่านั้นคือ นะครัฟ!!! ไปค่ะ เชิญสถานีถัดไปค่ะ

3.การตั้งชื่อไฟล์เรซูเม่ – ที่เจอมาก็มี ResumeofJacky.pdf, Nannyresume.pdf ฯลฯ คือช่วยตั้งชื่อจริงที่ดูเป็นทางการ ที่ดูเหมือนคนอยากจะสมัครงานหน่อยจะดีมากเลยค่ะ มันเป็นเรื่องเล็ก แต่มันก็ละเอียดอ่อนนะคะ มันแสดงให้เห็นถึงความเป็นมืออาชีพของน้อง

4.กดสมัครเข้ามารัวๆ ในตำแหน่งเดิมๆ – เลิกเลยค่ะพฤติกรรมแบบนี้ บางทีพี่เองต้อง Block อีเมล์น้องเลย เพราะบางคนส่งมาทุกวัน วันละสามสี่ครั้ง คือเอาง่ายๆ ถ้าคุณตรงกับที่เขากำลังตามหา เขาจะติดต่อไปหาคุณแน่นอนค่ะ การส่งย้ำๆๆ ไม่ได้ช่วยให้เราได้งานแน่นอน แถมยังทำให้อาจจะโดนแบล็กลิสต์อีเมล์ด้วยน้า

5.ส่งใบสมัครแบบไม่ดูตาม้าตาเรือ กูอยากส่งกูกดส่งทันที – บางคนทำธุรการมา กดสมัครตำแหน่ง Production Engineer จ้า คือร่ะ???? บางครั้งเด็กจบใหม่ ส่งโปรไฟล์เข้ามาในตำแหน่ง Supervisor เงี้ย Director เงี้ย น้องเอาจริงดิ จะสมัครจริงๆเหรอคะ ได้ข่าวพี่เขียนไว้ว่า At least 5 years experiences in…….. ก็ยังจะกดส่งกันเข้ามา เฮ้ออออออออ คือยิ่งเราทำแบบนี้ ทางผู้คัดเลือกเค้าจะยิ่งมองว่าน้องไม่อ่านเนื้องานให้ละเอียด มันทำให้เราดูติดลบไปเลยนะ
6.ส่ง profile เข้ามา แต่พอโทรไปหา บอกไม่สะดวก Location – อ้าวน้องมีปัญหาอะไรกับการอ่านเปล่าคะเนี่ย บางทีเราลงสถานที่ๆต้องทำงานไว้ชัดเจน แล้วยูคือคนสมัครเข้ามา แต่พอโทรไปเพราะสนใจ Profile กลับบอกว่า “เอ่อ…. ผมว่าไกลไปอ่ะครับ น่าจะไม่สะดวกครับพี่” T-T  บายค่ะ หวังว่าไม่ต้องเจอกันอีก เข้าใจแหละว่าคงจะกดส่งแบบไม่อ่านอะไรทั้งนั้น

7.  เรียกเงินเดือน OVERRRRRRRRRRR – เด็กจบใหม่บางคน ไม่มีประสบการณ์อะไรทั้งสิ้น ไม่ได้มีผล TOEIC/TOEFL ฯลฯ เรียกเงินเดือน 30,000 ค่า ฮัลโหลววววว น้องจบ Oxford, Cambridge มาเปล่าคะ เรียกเงินเดือนแบบนี้คือกะรวยทันทีในปีแรกเลยป่าวคะ เราควรคำนึงถึงความสามารถของเราเองด้วยนะ ถ้ามีประสบการณ์แล้วอยากเรียกเท่านี้ เชิญเรียกเลยค่ะ แต่ถ้า Low profile แต่อยากได้ High Salary นี่ก็คงต้องอยู่กับเหย้าเฝ้ากับเรือน หรือไม่ก็ทำธุรกิจของตัวเองดีกว่านะคะ
8. นัดแล้วไม่มา ไม่ยอมโทรยกเลิก – Blacklist เท่านั้นค่ะ ใครอยากยกเลิกก็ช่วยโทรบอกบริษัทเค้าด้วยนะคะ เราโตแล้ว ทำงานกันแบบมืออาชีพดีกว่าไหม??? น้องจะรู้ได้ไงว่าน้องอาจจะอยากทำงานในบริษัทนั้นอีกก็ได้นะในอนาคต เราปฏิบัติกับเขาดี เขาก็ให้เกียรติน้องเช่นกันค่ะ พี่เจอมาเยอะมาก พวกนัดแล้วไม่มาตามนัด ไม่โทรไม่หือไม่อือ โทรไปก็ปิดเครื่องหนี ฯลฯ แบล็กลิสต์ลงฐานข้อมูลบริษัทไปแบบไม่เสียดายเลยค่ะ

วันนี้เขียนแค่นี้ก่อนค่ะ ไว้ถ้าหาเวลาว่างจากการสัมภาษณ์แคนดิเดทได้ จะมาเขียนเคล็ดลับสำหรับการเตรียมสัมภาษณ์งานให้ทราบกันค่ะ หากใครอ่านบทความนี้แล้วไม่พอใจ อยากให้ถือซะว่าเป็นเรื่องราวดีๆเรื่องหนึ่งละกันนะคะ แค่อยากเล่าสู่กันฟังค่า ขอบคุณค่ะ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่