วันนี้รู้สึกหดหู่ และถือว่า ไอ้หน้าบากได้พ้นจากทุกภัยแล้ว ไม่ต้องทรมานอีก
เรื่องราวมีอยู่ว่า เมื่อ ปีกว่าๆ ก่อนหน้านี้
มีแมวตัวนึง เป็นตัวผู้สีขาวล้วน ตาสีเหลือง เหมือนมันจะมีเจ้าของนะเพราะมันก็ยอมให้เราจับ แต่บางทีก็ชอบวิ่งหนี เมื่อก่อนมีแม่แมวจรมาอยู่บ้านเรา เจ้าตัวนี้ก็มาติด พอเราทำหมันแม่แมว เจ้าตัวผู้ก็เลยไปๆมาๆ แวะมากินข้าวบ้าง แต่กินเยอะมาก ( เคยเอาให้ 1 ทัพพี มันกินหมดอย่างรวดเร็ว เลยให้อีก 1 ทัพพีแล้วเราก็ไปล้างจาน ปรากฏว่า มันกินอีกทัพพีที่เราเอาให้ แล้วก็มากินข้าวของแมวเราเกลี้ยงเลย ตอนนั้นจากสงสารก็เป็นโมโหมันมาก ) ตอนนั้นแมวบ้านเรามี 7 ตัว ( ตอนนี้เหลือ 5 หายตัวไป 2 ) เราก็แบ่งข้าวให้แมวจรตัวผู้กินต่างหาก เพราะแมวเรากลัวเจ้าตัวนี้ แต่พอมันกินของมันหมด ก็จะแอบมาแย่งแมวเราอีกทุกที เราก็ไล่มันนะ บางทีเห็นมันหิวจัดๆเราก็ไม่ไล่ แต่บางทีเห็นมันกินเยอะมากจนแมวเราไม่ได้กินเราก็จะไล่มัน เป็นอย่างนี้ตลอด หลังๆมา มันก็หายตัวไปนานมาก เป็นเดือนเลย พอมันกลับมาอีกทีก็มีเรื้อนเต็มหน้าเลย เราเลยเรียกมันว่า ไอ้หน้าบาก เป็นอย่างนี้ มันไปๆมาๆ ตลอด
ไอ้หน้าบากก็แอบๆมากินข้าวอีกเช่นเคย แต่เมื่อ 3 อาทิตย์ที่แล้ว แมวของเราเป็นเรื้อนดวงๆที่หน้า ย่ากับเราคิดว่า คงเพราะติดจากไอ้หน้าบากแน่ๆ เลยเห็นแล้วต้องไล่ตลอด เราจะเห็นมันอยู่บนหลังคาบ้านเราคอยมองลงมา รอเวลาเราเอาข้าวให้แมว
และแล้วไอ้หน้าบากก็หายไปอีก 1 อาทิตย์ แล้วก็กลับมาอย่างผอมโซ เราเลยเอาข้าวให้กิน 2 ทัพพี มันแค่ดมๆเลียๆ ไปครึ่งนึง เราก็ว่ามันค่อนข้างผิดสังเกต แล้วก็ชอบอยู่แต่บนหลังคา ไม่ค่อยแอบย่องมากินข้าวเหมือนแต่ก่อน
จนเรามาเจอมันที่หน้าต่างห้องครัว นอนหอบแฮ่กๆ อยู่ ดูมันผอมลงไปเยอะเลย ตัวบางลีบ เราเอาหัวปลาให้ มันก็พยายามลุกมาดมๆ แล้วก็เลียไปทีนีง แล้วก็นั่งตัวเกร็ง เหมือนปวดท้องมากๆ แล้วก็เดินหายไปในหลังบ้าน ตกเย็นพอได้เวลาให้ข้าวแมว เราก็เอาไปวางไว้ที่หลังบ้าน เจ้าหน้าบากก็เดินออกมา ดูๆดมๆ แล้วก็นั่งแหมะ อยู่ข้างๆข้าว ไม่กินเลย
2 วันก่อน เราเอาหลอดฉีดยา ใส่น้ำ แล้วป้อนน้ำมัน มันก็กินนะ เราก็พยายามป้อน มันกินแล้วก็หอบ หายใจทางปากดังมาก เรากลัวมันตาย เลยพยายามลูบมัน ปุ่มๆตรงเท้ามันซีดมากเลย มันหอบสักพัก ก็หายใจเป็นปกติ เราคิดว่ามันต้องกินอะไรบ้าง ตอนดึกๆ เลยเอาอาหารเม็ดแช่น้ำ แล้วบดๆ ใส่ไซลิง แล้วป้อนมัน ไซลิงไม่ได้อันใหญ่ ประมาณ 4 มล ฉีดไป 3 หลอด มันก็หอบแฮ่กๆ ดังมากๆ เรากลัวว่า เดี๋ยวมันจะตายเพราะเรานี่แหละ เราเลยนั่งเป็นเพื่อนมันสักพัก สักพัก พอมันหยุดหอบแล้ว มันก็ผงกหัวขึ้นมา เลียขนตามตัว เราใจชื้นขึ้น เลยปล่อยมันไว้
อีกวันต่อมา คือเมื่อวาน ( 24/6/2015 ) ตอนกลางวัน มันยังดูสดชื่นอยู่ เดินโอนเอียงมาที่กระถางดอกไม้ เราเอาน้ำให้ มันก็กินๆ เราโทรไปหาหมอ ว่า แมวมีอาการอย่างนี้ จะทำไงดี แต่หมอไปประชุมที่ตัวเมือง จะกลับวันศุกร์ ( ที่นี่เหมือนจะเจริญ มี 2 เซเว่น มี 2 ปั๊ม มี โลตัสเอกเพรส มีตลาดโลตัส มีตลาดสด 3 ที่ แต่ไม่มี คลีนิคสำหรับฟัน และสัตวแพทย์ หมอที่เราโทรหา เขาทำงานคล้ายๆปศุสัตว์ จะมีประชุมบ่อยมาก จะช่วยมาดูเวลาสัตว์เลี้ยงป่วย ) เขาแนะนำว่า อย่าเพิ่งให้ข้าวให้น้ำ เพราะถ้ามันหอบ มันอาจเกี่ยวกับปอดมีปัญหา ถ้าเราป้อนน้ำเยอะๆอาจจะไม่ดี ตกเย็นมันดูโทรมไปเลย เราตัดสินใจเอาเกลือแร่ผสมน้ำให้มันกิน มันก็กินไป 2 หลอด ก็ไม่เอาแล้ว ต่างจากเมื่อวานที่ให้ไปหลายหลอด พอตกดึกมันก็นอนซม มันพยายามลุกขึ้น แต่ก็ล้มลง มันเลยนอนไม่ลุกเลย เรานึกได้ว่า เมื่อวานให้อาหารเม็ดละลายน้ำไป มันกินไปแล้วมันก็ลุกมาเลียเนื้อตัว มีแรงขึ้น เราเลยทำแบบนั้นอีกครั้ง แต่ครั้งนี้ มันไม่ยอมกิน มันไม่กลืนเข้าไป ให้ไปสักพักก็ไหลออกปากหมด มันก็นอนนิ่งๆอย่างเดียว เรากลัวมันตาย แต่ดูสภาพแล้วมันคงต้องตายแน่ๆ เราก็เป็นส่วนนึงที่ทำให้อาการมันแย่ลงเพราะเราบังคับให้มันกินข้าว เราอุ้มมันไปตรงที่มีแสงไฟ ยุงก็เยอะ เรานั่งเป็นเพื่อนมัน บีบมือมันให้มันรู้ว่ามีคนอยู่ด้วย
ตอนนั้นเวลา 5 ทุ่มกว่าๆ จากที่ไอ้หน้าบากนอนตะแคงเฉยๆ มันก็ผงกหัวขึ้นมา แล้วหนุนแขนตัวเอง เราก็ใจชื้นขึ้นที่มันมีอัปกิริยาปกติ เราเลยเข้ามานั่งทำงานต่อ
เรานั่งทำงานไปเรื่อยๆ จนเที่ยงคืน เราได้ยินเสียงแมวร้อง เรารีบวิ่งเปิดประตูไปดูมัน มันนอนเหยียด เราเข้าไปบีบมือมันแน่น อีกมือก็ลูบตัวมัน มันชัก ตัวเหยียด ขาเหยียด เราร้องไห้ ปากก็พูดแต่ว่า ไปสู่สุขคตินะ ๆๆๆๆๆ ซ้ำๆ แล้วมันก็ไอ แค๊ก แค๊ก ดังๆสองครั้ง แล้วมันหมดลม เรานั่งนิ่ง จ้องมองมันสักพัก เราก็ไปหายเสื้อเก่าๆของเรามาห่อตัวมันไว้ หาตะกร้ามาใส่มัน แล้วเราก็รู้สึกหดหู่ทั้งคืน
จนมาวันนี้ เป็นวันที่เมฆครึ้มๆ ฝนตกเป็นละอองตลอดวัน เราหาที่จะฝังแมว หาไม่ได้เลย ที่บ้านไม่มีที่ มีแต่คนบอกให้เอาใส่ถุงดำ แล้วเอาไปทิ้งถังขยะ เราโมโหมาก เราขี่มอเตอร์ไซไปที่ทุ่งนา แล้วหาพยายามขุดหลุม บอกตรงๆว่า กลัวว่าเจ้าของที่จะมาเห็นจริงๆ เรารีบขุดๆๆๆ แต่มันเป็นดินเหนียวแดงๆ และแข็งมาก เราขุดเข้าไปไม่ค่อยลึก ถึงฟุตหรือเปล่ายังไม่รู้ ใจคิดแต่ว่า ขอแค่ให้ได้ฝัง เราไม่อยากเอาไอ้หน้าบากทิ้งถังขยะ เราใช้จอบขุดๆ จนเจ็บมือจี๊ด ปรากฏว่าหนังตรงฝ่ามือหลุดแสบมาก เราเลย เอาวะ แค่นี้ก็แค่นี้ แล้วก็เอาไอ้หน้าบากเข้าไปวาง มีพื้นที่เหลือให้เอาดินกลบเกือบคืบ เราก็เอาดินกลบๆ แต่รู้สึกว่ามันไม่แน่น เราตัดใจขึ้นไปเหยียบ เหยียบๆ บนดิน แต่ก็รู้สึกว่ามันยังไม่แน่นพอ แต่คนขี่รับผ่านทุ่งนาค่อนข้างเยอะ เรากลัวว่าเจ้าของที่จะมาเห็น เราจึงเหยียบๆให้ดินแน่นๆแล้วรีบออกมา
ตอนนี้เราก็กลัวว่า มันจะขึ้นอืดไหม ตัวมันผอมลีบมาก ตอนอืดมันจะพองบวมเยอะไหม ถ้าชาวนาแถวนั้นได้กลิ่น เขาจะขุดมันขึ้นมาไหมหรือปล่อยๆไป หรือถ้าหมามาขุดมันล่ะ หรือเราควรกลับไปขุดดินให้ลึกๆแล้วฝังไอ้หน้าบากอีกรอบ ตรงนี้ไม่ใช่ปัญหาเท่าไหร่ ปัญหาคือ เรากลัวว่าเจ้าของที่เขาจะมาเห็นแล้วไม่ให้เราฝัง หรือเราตอนเย็นๆแล้วค่อยขุด หรือว่าจะรอสักสองวันให้ไอ้หน้าบากเริ่มอืด แล้วค่อยเอาน้ำหมักไปราดดี เราอยากให้มันอยู่สงบๆ แต่เราต้องขึ้นไปเหยียบๆบนดินที่กลบมันเราก็รู้สึกแย่ แต่ต้องทำไม่งั้นดินจะไม่แน่น
ถึงไอ้หน้าบากจะเป็นแค่แมวจร แต่มันป่วยขนาดนั้นมันก็มาอยู่ที่บ้านเรา ตอนมันตาย มันก็ส่งเสียงเหมือนให้เราได้ยิน เราไม่รู้ว่ามันไม่มีแรงจะหลบไปที่อื่นหรือยังไง หรือนี่เป็นที่สุดท้ายที่มันไว้ใจ ตอนป่วยมันเลยซมซานมาที่บ้านเรา
เราหวังว่าไอ้หน้าบากจะไปสู่ภพภูมิที่ดี ไปสู่สุขคตินะ
ขอให้เจ้าหน้าบาก ไปสู่สขคติ [ แมวจร ]
เรื่องราวมีอยู่ว่า เมื่อ ปีกว่าๆ ก่อนหน้านี้
มีแมวตัวนึง เป็นตัวผู้สีขาวล้วน ตาสีเหลือง เหมือนมันจะมีเจ้าของนะเพราะมันก็ยอมให้เราจับ แต่บางทีก็ชอบวิ่งหนี เมื่อก่อนมีแม่แมวจรมาอยู่บ้านเรา เจ้าตัวนี้ก็มาติด พอเราทำหมันแม่แมว เจ้าตัวผู้ก็เลยไปๆมาๆ แวะมากินข้าวบ้าง แต่กินเยอะมาก ( เคยเอาให้ 1 ทัพพี มันกินหมดอย่างรวดเร็ว เลยให้อีก 1 ทัพพีแล้วเราก็ไปล้างจาน ปรากฏว่า มันกินอีกทัพพีที่เราเอาให้ แล้วก็มากินข้าวของแมวเราเกลี้ยงเลย ตอนนั้นจากสงสารก็เป็นโมโหมันมาก ) ตอนนั้นแมวบ้านเรามี 7 ตัว ( ตอนนี้เหลือ 5 หายตัวไป 2 ) เราก็แบ่งข้าวให้แมวจรตัวผู้กินต่างหาก เพราะแมวเรากลัวเจ้าตัวนี้ แต่พอมันกินของมันหมด ก็จะแอบมาแย่งแมวเราอีกทุกที เราก็ไล่มันนะ บางทีเห็นมันหิวจัดๆเราก็ไม่ไล่ แต่บางทีเห็นมันกินเยอะมากจนแมวเราไม่ได้กินเราก็จะไล่มัน เป็นอย่างนี้ตลอด หลังๆมา มันก็หายตัวไปนานมาก เป็นเดือนเลย พอมันกลับมาอีกทีก็มีเรื้อนเต็มหน้าเลย เราเลยเรียกมันว่า ไอ้หน้าบาก เป็นอย่างนี้ มันไปๆมาๆ ตลอด
ไอ้หน้าบากก็แอบๆมากินข้าวอีกเช่นเคย แต่เมื่อ 3 อาทิตย์ที่แล้ว แมวของเราเป็นเรื้อนดวงๆที่หน้า ย่ากับเราคิดว่า คงเพราะติดจากไอ้หน้าบากแน่ๆ เลยเห็นแล้วต้องไล่ตลอด เราจะเห็นมันอยู่บนหลังคาบ้านเราคอยมองลงมา รอเวลาเราเอาข้าวให้แมว
และแล้วไอ้หน้าบากก็หายไปอีก 1 อาทิตย์ แล้วก็กลับมาอย่างผอมโซ เราเลยเอาข้าวให้กิน 2 ทัพพี มันแค่ดมๆเลียๆ ไปครึ่งนึง เราก็ว่ามันค่อนข้างผิดสังเกต แล้วก็ชอบอยู่แต่บนหลังคา ไม่ค่อยแอบย่องมากินข้าวเหมือนแต่ก่อน
จนเรามาเจอมันที่หน้าต่างห้องครัว นอนหอบแฮ่กๆ อยู่ ดูมันผอมลงไปเยอะเลย ตัวบางลีบ เราเอาหัวปลาให้ มันก็พยายามลุกมาดมๆ แล้วก็เลียไปทีนีง แล้วก็นั่งตัวเกร็ง เหมือนปวดท้องมากๆ แล้วก็เดินหายไปในหลังบ้าน ตกเย็นพอได้เวลาให้ข้าวแมว เราก็เอาไปวางไว้ที่หลังบ้าน เจ้าหน้าบากก็เดินออกมา ดูๆดมๆ แล้วก็นั่งแหมะ อยู่ข้างๆข้าว ไม่กินเลย
2 วันก่อน เราเอาหลอดฉีดยา ใส่น้ำ แล้วป้อนน้ำมัน มันก็กินนะ เราก็พยายามป้อน มันกินแล้วก็หอบ หายใจทางปากดังมาก เรากลัวมันตาย เลยพยายามลูบมัน ปุ่มๆตรงเท้ามันซีดมากเลย มันหอบสักพัก ก็หายใจเป็นปกติ เราคิดว่ามันต้องกินอะไรบ้าง ตอนดึกๆ เลยเอาอาหารเม็ดแช่น้ำ แล้วบดๆ ใส่ไซลิง แล้วป้อนมัน ไซลิงไม่ได้อันใหญ่ ประมาณ 4 มล ฉีดไป 3 หลอด มันก็หอบแฮ่กๆ ดังมากๆ เรากลัวว่า เดี๋ยวมันจะตายเพราะเรานี่แหละ เราเลยนั่งเป็นเพื่อนมันสักพัก สักพัก พอมันหยุดหอบแล้ว มันก็ผงกหัวขึ้นมา เลียขนตามตัว เราใจชื้นขึ้น เลยปล่อยมันไว้
อีกวันต่อมา คือเมื่อวาน ( 24/6/2015 ) ตอนกลางวัน มันยังดูสดชื่นอยู่ เดินโอนเอียงมาที่กระถางดอกไม้ เราเอาน้ำให้ มันก็กินๆ เราโทรไปหาหมอ ว่า แมวมีอาการอย่างนี้ จะทำไงดี แต่หมอไปประชุมที่ตัวเมือง จะกลับวันศุกร์ ( ที่นี่เหมือนจะเจริญ มี 2 เซเว่น มี 2 ปั๊ม มี โลตัสเอกเพรส มีตลาดโลตัส มีตลาดสด 3 ที่ แต่ไม่มี คลีนิคสำหรับฟัน และสัตวแพทย์ หมอที่เราโทรหา เขาทำงานคล้ายๆปศุสัตว์ จะมีประชุมบ่อยมาก จะช่วยมาดูเวลาสัตว์เลี้ยงป่วย ) เขาแนะนำว่า อย่าเพิ่งให้ข้าวให้น้ำ เพราะถ้ามันหอบ มันอาจเกี่ยวกับปอดมีปัญหา ถ้าเราป้อนน้ำเยอะๆอาจจะไม่ดี ตกเย็นมันดูโทรมไปเลย เราตัดสินใจเอาเกลือแร่ผสมน้ำให้มันกิน มันก็กินไป 2 หลอด ก็ไม่เอาแล้ว ต่างจากเมื่อวานที่ให้ไปหลายหลอด พอตกดึกมันก็นอนซม มันพยายามลุกขึ้น แต่ก็ล้มลง มันเลยนอนไม่ลุกเลย เรานึกได้ว่า เมื่อวานให้อาหารเม็ดละลายน้ำไป มันกินไปแล้วมันก็ลุกมาเลียเนื้อตัว มีแรงขึ้น เราเลยทำแบบนั้นอีกครั้ง แต่ครั้งนี้ มันไม่ยอมกิน มันไม่กลืนเข้าไป ให้ไปสักพักก็ไหลออกปากหมด มันก็นอนนิ่งๆอย่างเดียว เรากลัวมันตาย แต่ดูสภาพแล้วมันคงต้องตายแน่ๆ เราก็เป็นส่วนนึงที่ทำให้อาการมันแย่ลงเพราะเราบังคับให้มันกินข้าว เราอุ้มมันไปตรงที่มีแสงไฟ ยุงก็เยอะ เรานั่งเป็นเพื่อนมัน บีบมือมันให้มันรู้ว่ามีคนอยู่ด้วย
ตอนนั้นเวลา 5 ทุ่มกว่าๆ จากที่ไอ้หน้าบากนอนตะแคงเฉยๆ มันก็ผงกหัวขึ้นมา แล้วหนุนแขนตัวเอง เราก็ใจชื้นขึ้นที่มันมีอัปกิริยาปกติ เราเลยเข้ามานั่งทำงานต่อ
เรานั่งทำงานไปเรื่อยๆ จนเที่ยงคืน เราได้ยินเสียงแมวร้อง เรารีบวิ่งเปิดประตูไปดูมัน มันนอนเหยียด เราเข้าไปบีบมือมันแน่น อีกมือก็ลูบตัวมัน มันชัก ตัวเหยียด ขาเหยียด เราร้องไห้ ปากก็พูดแต่ว่า ไปสู่สุขคตินะ ๆๆๆๆๆ ซ้ำๆ แล้วมันก็ไอ แค๊ก แค๊ก ดังๆสองครั้ง แล้วมันหมดลม เรานั่งนิ่ง จ้องมองมันสักพัก เราก็ไปหายเสื้อเก่าๆของเรามาห่อตัวมันไว้ หาตะกร้ามาใส่มัน แล้วเราก็รู้สึกหดหู่ทั้งคืน
จนมาวันนี้ เป็นวันที่เมฆครึ้มๆ ฝนตกเป็นละอองตลอดวัน เราหาที่จะฝังแมว หาไม่ได้เลย ที่บ้านไม่มีที่ มีแต่คนบอกให้เอาใส่ถุงดำ แล้วเอาไปทิ้งถังขยะ เราโมโหมาก เราขี่มอเตอร์ไซไปที่ทุ่งนา แล้วหาพยายามขุดหลุม บอกตรงๆว่า กลัวว่าเจ้าของที่จะมาเห็นจริงๆ เรารีบขุดๆๆๆ แต่มันเป็นดินเหนียวแดงๆ และแข็งมาก เราขุดเข้าไปไม่ค่อยลึก ถึงฟุตหรือเปล่ายังไม่รู้ ใจคิดแต่ว่า ขอแค่ให้ได้ฝัง เราไม่อยากเอาไอ้หน้าบากทิ้งถังขยะ เราใช้จอบขุดๆ จนเจ็บมือจี๊ด ปรากฏว่าหนังตรงฝ่ามือหลุดแสบมาก เราเลย เอาวะ แค่นี้ก็แค่นี้ แล้วก็เอาไอ้หน้าบากเข้าไปวาง มีพื้นที่เหลือให้เอาดินกลบเกือบคืบ เราก็เอาดินกลบๆ แต่รู้สึกว่ามันไม่แน่น เราตัดใจขึ้นไปเหยียบ เหยียบๆ บนดิน แต่ก็รู้สึกว่ามันยังไม่แน่นพอ แต่คนขี่รับผ่านทุ่งนาค่อนข้างเยอะ เรากลัวว่าเจ้าของที่จะมาเห็น เราจึงเหยียบๆให้ดินแน่นๆแล้วรีบออกมา
ตอนนี้เราก็กลัวว่า มันจะขึ้นอืดไหม ตัวมันผอมลีบมาก ตอนอืดมันจะพองบวมเยอะไหม ถ้าชาวนาแถวนั้นได้กลิ่น เขาจะขุดมันขึ้นมาไหมหรือปล่อยๆไป หรือถ้าหมามาขุดมันล่ะ หรือเราควรกลับไปขุดดินให้ลึกๆแล้วฝังไอ้หน้าบากอีกรอบ ตรงนี้ไม่ใช่ปัญหาเท่าไหร่ ปัญหาคือ เรากลัวว่าเจ้าของที่เขาจะมาเห็นแล้วไม่ให้เราฝัง หรือเราตอนเย็นๆแล้วค่อยขุด หรือว่าจะรอสักสองวันให้ไอ้หน้าบากเริ่มอืด แล้วค่อยเอาน้ำหมักไปราดดี เราอยากให้มันอยู่สงบๆ แต่เราต้องขึ้นไปเหยียบๆบนดินที่กลบมันเราก็รู้สึกแย่ แต่ต้องทำไม่งั้นดินจะไม่แน่น
ถึงไอ้หน้าบากจะเป็นแค่แมวจร แต่มันป่วยขนาดนั้นมันก็มาอยู่ที่บ้านเรา ตอนมันตาย มันก็ส่งเสียงเหมือนให้เราได้ยิน เราไม่รู้ว่ามันไม่มีแรงจะหลบไปที่อื่นหรือยังไง หรือนี่เป็นที่สุดท้ายที่มันไว้ใจ ตอนป่วยมันเลยซมซานมาที่บ้านเรา
เราหวังว่าไอ้หน้าบากจะไปสู่ภพภูมิที่ดี ไปสู่สุขคตินะ