[CR] แบกเป้ตลุยญี่ปุ่น ลัดเลาะเกาหลีใต้ ชมซากุระ

กระเป๋าใบเดียว เที่ยวทั่วโลก
ตลุยญี่ปุ่น ลัดเลาะเกาหลีใต้ ชมซากุระ
ตอนที่ 1 Kyoto – Nara – Osaka
กว่าจะได้มีเวลาและโอกาสที่ว่างมารีวิวกับการแบกเป้เที่ยวครั้งนี้ ออกตัวก่อนเลยว่าเป็นการรีวิวเที่ยวครั้งแรกอาจจะไม่ได้ลงรายละเอียดมาก แต่น่าจะพอเป็นแนวทางและการวางแผนเที่ยวได้เล็กน้อย ด้วยความคิดว่าครั้งหนี่งต้องไปเที่ยวญี่ปุ่น เห็นดอกซากุระกับตาตัวเองให้ได้สักครั้ง แต่เป็นครั้งแรกที่ไปเที่ยวญี่ปุ่น-เกาหลี ก็ได้วางแผนไว้ทั้งหมด 12 วัน วันที่ 25 มีนาคม – 5 เมษายน 2558 พร้อมแล้วเราก็ออกเดินทางกันได้เลย

วันที่ 1 ออกเดินทางจากสนามบินดอนเมืองมุ่งตรงสู่สนามบินคันไซ เมืองโอซาก้า

ครั้งนี้เราใช้บริการหางแดง Air-Asia X

เครื่องใหญ่ นั่งสบายมาก

ลงเครื่องมาดึก นอนสนามบินกันเลยครับ
วันที่ 2 เริ่มต้นกับการซื้อ Kansai Thru Pass 2 day ราคา 5400 เยน ใช้ได้ในเขตภูมิภาคคันไซ (โอซาก้า โกเบ เกียวโต วากายาม่าบางส่วน) ครบคลุมรถไฟทั้งหมด ยกเว้น JR รถบัสในเกียวโตด้วยนะครับ ซึ่งมีรายละเอียดแจ้งไว้ในไกด์บุ๊ค

หนาวครับหนาว 3 องศา รอขึ้นรถไฟ

ไหนๆก็ลงผิดสถานี ถ่ายรูปกันสักหน่อย

มาถูกแล้วทางไปที่พัก

ถึงแล้วที่พัก กว่าจะหาเจอ
ฝากของไว้ที่พักเรียบร้อยก็ลุยเลยครับ เดินหาทางลง subway


ขึ้นจาก subway ก็เดินมาขึ้นสถานีรถไฟท้องถิ่นครับ

หน้าตารถไฟท้องถิ่น

ถึงแล้ว อาราชิยามา หาไรอุ่นกินสักหน่อย

       เสร็จแล้วก็ถามข้อมูลจาก information ได้เลย  พร้อมแผนที่ครับ จากนั้นก็เดินๆๆ ครับเดิน ตามทิศทางของผู้คนเยอะๆ คนเยอะๆคือเราไปถูกทาง มันต้องมีสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญๆ คนถึงเดินไปกัน เดินมาสักกิโลกว่าๆ ครับผ่านวัดผ่านศาลเจ้ามาก็ถึงป่าไผ่ที่งดงามสมคำล้ำลือจริง ๆ

บรรยากาศระหว่างทางเดินไปป่าไผ่

ถึงแล้วป่าไผ่

ที่ระลีกสักหน่อย
จากนั้นก็เดินทางย้อนกลับเดิม ผ่านวัดTenryo-ji

ภายในวัดครับ เสียดายดอกซากุระยังไม่บาน

ภายในวัด

การเล่นไปเรื่อยๆ สวยงามมาก
เดินผ่านทะลุจนถึงหน้าวัดก็เจอถนน เดินต่อจนถึงสะพาน Togetsukyo น้ำใสเห็นตัวปลา อากาศสบายแบบสุด สถานที่แห่งนี้นิยมมาชมใบไม้เปลี่ยนสีกันเค้าว่าสวยมากๆ

สะพาน Togestsukyo

ขอรูปตัวเองหน่อยนะครับ
         จุดหมายต่อไปคือวัด Kinkaku-ji (วัดทอง)  นั่งรถไฟย้อนกลับไปครับ อย่าลืมถามนะเพราะต้องเปลี่ยนสายรถไฟ เปลี่ยนเสร็จนั่งสุดสายเลยครับ จากนั้นจะเดินหรือนั่งรถบัสก็ได้ เราเลือกเดิน 2 กิโลเอง

ทางเดินไปวัดทองครับ

ถึงแล้วหน้าวัด จ่ายค่าเข้า 400 เยน

สวยงามมากครับ

ภายในวัด เดินทางเดียวจนวนมาทางเข้านะครับ
    แต่ตอนกลับเดินไม่ไหวครับ รอขึ้นรถบัส ใช้พาสที่ซื้อมาได้เลย  เพื่อไปจุดปลายต่อไปคือย่านกิอน (Gion) ศาลเจ้า Heian วัดน้ำใส (Kiyomizudera)   ออกจาก subway เดินไปเรื่อยๆ จนถึงศาลเจ้า Heiam  แวะขอพร แล้วเดินทางต่อออกหลังศาลเจ้าตามคำแนะนำของคนญี่ปุ่น

ข้างหน้าศาลเจ้า

ภายในศาลเจ้า ปิดปรับปรุงบางส่วน เดินทะลุผ่านสวน Maruyama (สวนสาธารณะมารุยามา) สถานที่ชมซากุระที่สวยงามอีกแห่งหนึ่งของเมืองเกียวโต
ช่วงที่ไปดอกซากุระยังไม่บาน เป็นไงละหลงครับ ซ้าย ขวา เริ่มมีปัญหา เลยจนถึงวัดอารายไม่รู้ แต่สวยครับ

หลงมาแต่อย่าให้เสียเที่ยว

สักรูปกับการหลงทาง
ถามทางจากแท็กซี่ เดินไปเรื่อยๆ จนถึงย่านเมืองเก่า Higashiyama สวยมากๆ คนแน่ แต่ก็เริ่มบ่ายแก่ๆ

ย่านเมืองเก่า อนุรักษ์ไว้เป็นอย่างดี

เดินไปเรื่อยๆ

คนเยอะมาก

ชิวไปเรื่อยๆ



ย่านกิอน
ในที่สุดก็ถึงวัดKiyomizudera วัดน้ำใสครับ  แต่ครับแต่ บางส่วนปิดปรับปรุง อดได้รูปสวยๆ เลย แต่ไม่เสียค่าเข้าชม

ทางเข้าวัดครับ

อีกมุม

เสียดายมากซากุระไม่บาน

ย้อนแสงกันหน่อย
เหนื่อยแล้ว นั่ง subway กลับที่พักครับ ถึงที่พักก็เกือบๆสองทุ่ม เป็นไงละเหนื่อยมากๆ กับเกียวโตวันแรก อาบน้ำพักผ่อนนอน เก็บแรงพรุ่งนี้

ระหว่างเดินกลับ
วันที่ 3 เก็บของ  check out   ฝากกระเป๋าไว้ที่พักแล้วก็ออกเดินทางต่อ สถานที่แรกของวันนี้คือศาลเจ้า Fushimi Inari กับ อุโมงค์  Torii  เดินทางด้วย  subway จำสถานีลงไม่ได้ ถามจากเจ้าหน้าที่เช่นเคยครับ

เดินกันไป

เสาใหญ่มาก

เดินย้อนครับตอนกลับ

หน้าศาลเจ้า ตอนมาเข้าด้านข้าง

อีกมุมละกัน
ระหว่างเดินกลับของกินเพียบก็รองท้องระหว่างทางเดินกลับไปขึ้นรถไฟครับ อิ่มมาก

อร่อยมาก
จากนั้นก็นั่งเปลี่ยนสายมาจนถึงสถานีที่ใหญ่ที่สุดคือ kyoto station เดินออกมาก็เจอ เกียวโตทาว์เวอร์ เดินเล่นชิวๆ ในเมืองเกียวโตสักหน่อยหลังจากเข้าวัด มานาน

Kyoto Station

Kyoto Tower

ข้ามถนนไปเที่ยวกัน
  ก็เกือบบ่ายสองครับ จากนั้นก็เดินทางไปยังเมืองนารา ใช้เวลาเดินทางก็ชั่วโมงกว่า เปลี่ยนสายรถไปเรื่อยๆ ที่เปลี่ยนถูกก็ถามจากเจ้าหน้าที่ประจำขบวนรถไฟนั้นครับ เขาก็จะบอกว่าจะลงไหนต่อรถไฟสายไหน สนุกครับ  

กว่าจะถึงนาราก็เกือบสี่โมงเย็นครับ ก็แค่ก็เที่ยวใกล้ ๆ เพราะที่เช่าจักรยานก็ปิดแล้ว อีกอย่างก็กลัวรถไฟเข้าไปโอซาก้าหมด เดินเที่ยวสวนกวาง
สวนกวาง

อีกมุมตอนเดินเล่น
ถ่ายรูปสักพักก็นั่งรถไฟเดินทางต่อมาเมืองโอซาก้าครับ มาถึงเกือบ 2 ทุ่ม หิวมาก ใช้ pass ให้คุ้มที่สุด นั่งไปนัมบะที่ท่องราตรี เดินถ่ายรูป กินข้าว  

ย่าน dotomaari กินข้าวดีกว่า

ย่าน dotomaari

ห้ามพลากกันเลยทีเดียว

ย่าน dotomaari


แล้วโรงแรมนอนกันครับ
ถึงโรงแรมอาบน้ำพักผ่อน เก็บแรงตลุยโอซาก้าอีกหนึ่งวัน สิ้นสุด กับ Kansai true pass  สำหรับสองวันเต็มๆ  
วันที่4 เริ่มต้นกับการใช้ Osaka Amazing Pass สำหรับ 1 วันราคา 2400 เย็น สามารถใช้เข้าชมสถานที่ต่างในโอซาก้าได้มากมายที่ระบุไว้ในไกด์บุ๊คครับ
ที่แรกปราสาทโอซาก้า

เดินกันครับ

ข้ามสะพานเห็นยอดปราสาทไกลๆ

คูน้ำรอบปราสาท

อีกนิดเดียว

ถึงแล้ว

ก่อนกลับ

หอคอย

มุมสูง

บนชิงช้า

มุมสูงอีกมุม

เหงาเลย
Bay Area
ค่ำแล้ว
ยามค่ำคืนบนดึก สูง 150 เมตร
Umeda sky building

ดึกแล้วเราต้องเดินทางไปยังสนามบินเพื่อจะเดินทางต่อไปยังกรุงโตเกียว ติดตามกันได้กระทู้ต่อไป ตอนที่ 2 ครับ
ไม่ได้ลงรายละเอียดสอบถามเพิ่มเติมได้นะครับ ค่าใช้จ่ายสรูปก
ชื่อสินค้า:   ตอนที่ 1 เกียวโต นารา โอซาก้า
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่