สวัสดีครับ วันนี้ผมมีเรื่องจะมาเล่าให้ทุกคนฟังครับ มันเป็นเรื่องราว ความรู้สึกที่ไม่ควรเกิดขึ้น เป็นสิ่งที่แค่คิดก็ผิดแล้ว ผิดต่อหลายๆสิ่ง ผิดต่อตนเอง ต่อตัวเค้าเอง ผิดต่อวิชาชีพครูที่ผมกำลังทำอยู่มาก ตนนี้ผมกลุ้มใจมาก เป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นกับผม ซึ่งเป็นครู(ปฐมวัย)จบใหม่กับเด็กนักเรียนชายชั้น ป.6 บ้านของผมกับเด็กคนนี้อยู้ใกล้กัน เยื้องกัน ผมเห็นเค้ามาตั้งแต่เด็ก รัก เอ็นดูมานาน เค้าอาศัยอยู่กับตายาย น้องชาย ลุงป้า และลูกของลุง พ่อแม่แยกทางกัน แม่ไปทำงานกรุงเทพ พ่อไม่ได้ติดต่อกัน ตอนนี้เค้าย้ายออกไปอยู่ที่บ้านอีกหลังซึ่งอยู่ที่นากับตายายกับน้องของเค้า
เรื่องเริ่มต้นขึ้นเมื่อปีที่แล้ว ผมเรียนปีสุดท้ายและได้เข้ามาฝึกสอนที่โรงเรียนแห่งนี้ซึ่งเป็นโรงเรียนในชุมชนของผมเองและเป็นโรงเรียนเก่าสมัยประถมศึกษาของผมด้วย ตอนนั้นเด็กคนนี้เค้าอยู่ ป.5 ในเทอมแรก เรื่องราวทุกอย่างก็ปกติดี ผมกับเค้ายังไม่ได้สนิทกันมาก เค้าก็มีแฟนเป็นผู้หญิงห้องของเค้าและเหมือนรักกันมาก
พอเริ่มเทอมที่สองผมกับเค้าก็เริ่มสนิทกันมากขึ้น เริ่มเล่นกัน เดินผ่านก็ต้องหยอก พูดกัน เริ่มถึงเนื้อถึงตัว ผมเริ่มซื้อของต่างๆให้ แต่ไม่ได้มากมายอะไรนะครับ เป็นของราคาไม่กี่บาท ให้เงินใช้บ้างนานๆครั้ง เค้าเริ่มชอบไปเล่นกับผมที่บ้านบ่อยๆ ในเวลาหลังเลิกเรียนหรือเสาร์อาทิตย์ เข้าไปอยู่กับผมในห้องนอน ด้วยอะไรหลายๆอย่างผมกับเค้าเกือบที่จะเกินเลยกัน ดีที่ผมหยุดตัวเองได้ก่อน ผมเป็นครู ส่วนเค้าเป็นนักเรียน ยังเด็ก พึ่ง ป.5 เอง วันต่อมาเค้าก็เงียบไป หลบหน้าผม ไม่กล้าสู้หน้า ผ่านไปเกือบหนึ่งสัปดาห์เค้าก็ค่อยๆเริ่มกลับมาเป็นเหมือนเดิม มาเล่นมาอยู่กับผมที่บ้านหลังเลิกเรียนเหมือนเดิม จากนั้นผมก็เริ่มที่จะวางตัวให้อยู่ในขอบเขต เวลาอยู่ที่โรงเรียนผมก็จะทำตัวไม่สนิทกับเค้ามาเกินไป ไม่เล่นเหมือนเดิมแล้ว วางตัวให้สมกับเป็นครู เค้าก็ทำตัวปกติ ก็ยังเหมือนเดิม เพียงแต่ว่าที่โรงเรียนเราอาจจะคุยจะเล่นกันน้อยลง แต่พอเลิกเรียนเค้ามาหาที่บ้านผมก็เล่นก็คุยกับเค้าตามปกติ ยังซื้อของให้ยังให้เงินใช้เหมือนเดิม เรื่องราวความสัมพันธ์ของเราสองคนก็เป็นแบบนี้มาเรื่อย
ปิดเทอมเค้าก็ไม่ได้ไปไหน ผมก็ไม่ได้ไปไหน ผมอยู่บ้าน เค้าอยู่นา เราก็เจอกันเสมอ เค้าก็เข้ามาหาผมที่บ้านเสมอ เราโทรคุยกันตลอด ถึงไม่ทุกวันแต่ก็บ่อยๆ ส่วนเค้ากับแฟนของเค้าก็ยังรักกันดี เค้าโทรคุยกันทุกวัน ซึ่งบ่อยกว่าโทรคุยกับผมอยู่แล้ว คุยเฟส คุยไลน์กันตลอด ที่ผมรู้ก็เพราะผมดูโทรศัพท์เค้าตลอด และเห็นทุกสิ่ง ประวิติการโทร แชตเฟส แชตไลน์ ช่วงนี้แหละที่ผมเริ่มที่จะไม่ชอบใจเค้าที่คุยกับแฟนเค้าบ่อย บางครั้งอยู่กับผมแฟนเค้าโทรมา เค้าก็คุยกัน แต่ผมก็ไม่ได้แสดงออกว่าไม่ชอบใจ ทำตัวเฉยๆ เวลาเค้าคุยโทรศัพท์ผมก็ทำเป็นเหมือนไม่สนใจ แต่ก็ฟังเค้าคุยกันทุกคำพูด ฟังแล้วเจ็บจี๊ดๆที่ใจ แฟนเค้าเริ่มที่จะชอบพูดกระทบผม เวลาเค้าคุยกันเริ่มที่จะมีชื่อผมอยู่ในบทสนทนามากขึ้นเรื่อยๆ เริ่มมีโพสเฟสกระทบ โพสไลน์กระทบ ถึงเป็นการโพสลอยๆ แต่ผมก็รู้ว่าเค้าว่าให้ผม แต่ผมก็ทำตัวเฉยๆ พยายามไม่สนใจ คิดเสมอว่าผมเป็นครู เค้าเป็นเด็ก แต่มันก็เริ่มหนักขึ้นเรื่อย ผมก็มีโพสโต้ตอบบ้าง ไปแสดงความคิดเห็นในโพสของเค้าบ้าง ให้เค้ารู้ว่าผมเห็น ผมกับแฟนเค้าเริ่มไม่มองหน้า ไม่คุยกัน เค้าคงจะคิดว่าผมฝึกสอนเสร็จแล้ว ไม่จำเป็นที่ต้องสนใจ ต้องเคารพ
เปิดเทอมปีการศึกษา 2558 สมสอบบรรจุไม่ได้ ทางโรงเรียนขาดครู จึงได้จ้างผมเป็นอัตตราจ้างสอนต่อที่โรงเรียน แฟนของเค้าก็เข้ามาขอโทษในสิ่งที่ทำไม่ดีกับผมไว้ ผมก็ให้อภัย ไม่ถือสา ส่วนผมกับเด็กชายคนนั้นความสัมพันธ์ ความสนิท เริ่มที่จะมากขึ้นเรื่อยๆ แต่ก็เวลาอยู่นอกโรงเรียน เวลาอยู่ในโรงเรียนผมกับเค้าก็ยังรักษาระยะห่างกันเหมือนเดิม เราเริ่มถึงเนื้อถึงตัวกันมากขึ้น เค้าชอบที่จะจับมือผม เวลานั่งกับผมก็ชอบที่จะนั่งเล่นมือผม ชอบบีบมือผม หรือไม่ก็จับไว้ หรือไม่ก็เอาขามาก่ายผม กล่าวคือ ขอให้มีส่วนใดส่วนหนึ่งให้โดนกัน แต่ก่อนมาบ้านผมเย็นๆก็จะกลับ แต่เดี๋ยวนี้อยู่ถึงดึกๆดื่น ผมเคยคุยกับเค้าว่าที่ทำแบบนี้รู้ไหมครูคิดไปไกล ครูคิดมากนะ เค้าก็หัวเราะแล้วก็เฉไฉไปเรื่องอื่นอยู่เสมอ เค้าเริ่มรู้ว่าผมไม่ชอบแฟนเค้า เค้าจะไม่พูดถึง ถ้าแฟนเค้าโทรมาเวลาที่อยู่กับผมเค้าจะไม่รับ หรือบางครั้งก็ให้ผมรับแทนแล้วให้บอกว่าเค้าไม่อยู่(อันนี้ผมก็ไม่เข้าใจในสิ่งที่เค้าทำเหมือนกัน) เค้าเริ่มเป็นผู้ใหญ่ขึ้น มีความคิด การวางตัว เป็นผู้ใหญ่ ซึ่งรวมทั้งร่างกายของเค้าด้วย เป็นหนุ่มหล่อ มาสาวๆมาชอบหลายคน แค่สองเดือนกว่า เค้าสูงขึ้น 14 ซม. ตอนนี้เค้าก็เกือบจะเท่าผมแล้ว(ผมเป็นคนตัวเล็ก)
เรื่องล่าสุดที่เกิดขึ้นและมันก็เป็นเรื่องที่ทำให้ผมกลุ้มใจในขณะนี้คือ เมื่อสัปดาห์ที่แล้วทางโรงเรียนได้พาเด็กชั้น ป.4-5-6 ไปเข้าค่ายนอกสถานที่ สองวันหนึ่งคืน (พฤหัส-ศุกร์) วันแรกเค้ากับแฟนของเค้ายังไม่ค่อยได้ใกล้ชิดกันเพราะอยู่คนละกลุ่ม กิจกรรมส่วนมาจะเป็นแบบกลุ่ม กลางคืน ผอ.ให้ผมมานอนกับเด็ก นอนเฝ้าเด็ก ตอนแรกผมก็ห่วงว่าผมจะนอนยังไง แต่เค้าก็บอกวาไม่ต้องห่วง มานอนข้างๆเค้า ให้เพื่อนเค้าไปนอนที่อื่น ผมก็โอเค คืนนั้นด้วยความใกล้ชิด เราอนอนข้างๆกัน บรรยากาศ และหลายๆสิ่งทำให้เราเกินเลยกันอีกครั้ง ตอนแรกผมก็ขัดขืนบอกว่าไม่เอาไม่ทำ แต่เค้าก็บอกว่าทำให้หน่อย ผมก็เลยบอกว่าถ้าทำแล้ว รู้ใช่ไหมว่าครูคิดยังไงกับเรา ความรู้สึกที่ครูมีให้เราจะไม่เหมือนเดิมนะ มันจะมากขึ้น ครูจะไม่อยู่เฉยๆเหมือนที่ผ่านมาแน่ เค้าก็ไม่ได้ว่าอะไร ผมก็เลยทำให้เค้า แต่ไม่ได้มีอะไรกันนะครับ แค่ช่วยเค้าให้เสร็จเฉยๆ วันต่อมาเค้ากลับทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น เค้าเริ่มชอบเข้าไปคุยกับแฟนเค้า ผมเริ่มหงุดหงิด แต่เค้าก็ชอบหันมามองผมบ่อยๆเวลาที่เค้าทำกิจกรรมอยู่ ซึ่งผมจะนั่งอยู่ที่เก้าอี้ข้างๆลานกิจกรรม ขากลับเรานั่งรถ(รถทัวร์) ตอนแรกเค้านั่งกับผม สักพักแฟนเค้าเดินมาหา เค้าก็ลุกขึ้นไปนั่งเก้าอี้อีกอันเยื้องขึ้นไปหนึ่งแถวตรงข้าม เค้านั้งติดทางเดิน แฟนเค้าจะยืนเฝ้าข้างๆเลย มีที่นั่งแต่ไม่นั่ง มีหยอกล้อกัน จับมือกันบ้างเวลาที่หยอกกัน แต่เค้าก็มองมาที่ผมบ่อยๆ ผมก็ทำเป็นไม่สนใจ มองออกนอกหน้าต่าง ในตอนนั้นความรู้สึกน้อยใจ ไม่พอใจเริ่มตีรวนขึ้นมา จนผมทนไม่ไหว ร้องไห้ออกมา แต่ผมก็ไม่ได้ทำให้ใครเห็นนะครับ ถ้าไม่สังเกต ซึ่งตอนนั้นบนรถเปิดเพลงเสียงดัง เเละนักเรียนก็กำลังสนุกสนานกันอยู่ แต่เค้าก็คงสังเกตเห็น เพราะมองดูผมตลอด เค้าเริ่มอยู่ไม่สุข เดินไปเดินมา ไปนั่งข้างหลังบ้าง กลับมาที่เดิมบ้าง มายืนอยู่ข้างๆผมบ้าง ตอนนั้นผมใส่หมวก สวมเสื้อแขนยาว ใส่ฮู้ด คือปิดหน้าทั้งหมด และหันหน้าออกนอกหน้าต่างตลอด ร้องไห้เงียบๆคนเดียว จนรถแวะจอดปั้มน้ำมันให้เด็กเข้าห้องน้ำ ผมเลยลงไปล้างหน้า เจอเค้ากับเพื่อนของเค้ายืนอยู่หน้าห้องน้ำ ผมก็เดินก้มหน้าไปที่อ่างล้างหน้า กำลังล้างหน้าอยู้ เค้าก็ก้มมาดูหน้าผม และถามว่าร้องไห้ทำไม ผมไม่ได้ตอบ ล้างหน้าเสร็จก็ขึ้นรถเลย เค้าพยายามจะมานั่งข้างๆผม แต่เพื่อนของเค้า ซึ่งก็คงรู้ว่าผมร้องไห้ ไม่ยอมให้เค้านั่ง บอกวาให้ครูนั่งคนเดียวดีแล้ว เค้าก็เลยย้ายไปนั่งที่เบาะเดิมแต่เข้าไปนั่งในสุดริมหน้าต่าง ซึ่งมีเด็กอีกสองคนนั่งด้วย(เบาะนั้นนั่งสามคน) เค้าไม่คุยกับใครเลย รวมทั้งแฟนเค้าด้วย ถึงโรงเรียนเกือบหนึ่งทุ่ม ผมลงมาจากรถเกือบสุดท้าย ลงมาเห็นเค้ายืนรอผมอยู่พร้อมกับกระเป๋าของผม เค้าถามว่าจะเดินกลับพร้อมกันไหม ผมปฏิเสธไป เพราะต้องช่วยครูเอาของเข้าไปเก็บในโรงเรียนอีก เค้าเดินกลับไปกับเพื่อนของเค้า คืนนั้นผมนอนร้องไห้ทั้งคืน เพราะน้อยใจเค้า วันเสาร์เค้ามาหาที่บ้านตอนบ่าย เจอหน้าผมครั้งแรกเค้าถามว่าเมื่อคืนไม่ได้นอนเลยหรอ ผมก็บอกว่าไม่ มีเรื่องไห้คิดเยอะ เค้าถามเรื่องอะไร ผมบอกหลายอย่าง เค้ามาชวนไปเล่นที่บ้านเค้า เพราะมีเพื่อน มีป้า มีพี่ชายลูกป้าเค้าอยู่บ้าน ผมก็บอกว่าไม่ไปหรอก เค้าเลยขอโทรศัพท์ผมไปฟังเพลง ผมก็ให้ไป เย็นผมถึงเดินไปหาที่บ้านเค้าเพื่อจะเอาโทรศัพท์ แต่ลุงกับป้าเค้าก็ชวนผมไปกินหมูกระทะ ตอนแรกว่าจะไม่ไปแต่ผู้ใหญ่ชวนผมเกรงใจก็เลยไป เรานั่งทานข้างๆกันแต่แทบไม่คุยกันเลย เค้าจะคอยตักนั่นตักนี่ให้ผมตลอด เพราะผมเอาแต่เงียบนั่งฟังเค้าคุยกัน ไม่ค่อยตักอะไรทาน วันอาทิตย์เราไม่ได้เจอไม่ได้คุยกันเลย
วันจันทร์ ผมก็แทบจะไม่คุยกับเค้า เวลาเค้าและเพื่อนๆเดินมาหาผม(ผมสนิทกับนักเรัยน ป.6 มาก)ผมก็คุย ก็เล่นกับทุกคนเหมือนเดิม ยกเว้นเค้าที่ผมไม่ได้เหมือนเดิม ผมว่าเราสองคนมันเป็นความรู้สึกที่เปลี่ยนไปแล้ว เค้าอาจจะไม่ได้คิดอะไรเรื่องคืนน้น แต่ผมคิด มันอยู่ในหัวผมตลอดเวลา ผมจึงขอเวลาทำใจสักพักดีกว่า ผมยิ้มในขณะที่ข้างในผมร้อไห้ ผมไม่มีสมาธิจะอะไรเลย วันอังคาร ผมเริ่งที่จะคุยกับเค้า แต่ก็ยังน้อยเมื่อเทียบกับเมื่อก่อน เค้าก็พยายามที่จะเข้าหาผม เดินมาหาที่ห้องบ้าง ตอนเที่ยงมาถามว่ากินข้าวรึยังบ้าง...
ผมไม่รู้ว่าข้างในเค้านั้นคิดอะไรอยู้ เค้าจะมีผมอยู่ในความคิดของเค้าเหมือนกับที่ผมมีเข้าอยู่ในความคิดทุกขณะ เค้าจะหวง จะห่วงผมเหมือนกับที่ผม หวงห่วงเค้าไหม เค้าคิดยังไงกับผมกันแน่ วันพุธ จากที่แค่ผมไม่คุยกับเค้า กลายเป็นเค้าก็ไม่คุยกับผม เมินผม เดินหนี ไม่คุย ไม่ถาม ทำไม่สนใจ...ผมจะบ้าตายแล้ว
สุดท้ายนี้ผมขอขอบคุณทุกคนที่อ่านเรื่องราวมาตั้งแต่ต้นจนจบ ผมรู้ว่าสิ่งที่ผมทำ ผมเป็นอยู่มันผิด ผิดมาก มันไม่สมเกิดขึ้น เป็นเรื่องที่ผิดต่อจรรยาบรรณวิชาชีพอย่างยิ่ง...แต่มันก็เกิดขึ้นแล้ว ผมพูดได้เต็มปากว่าผม"รัก"เค้าคนนั้น คนที่เป็นแค่เด็กนักเรียน ป.6 เป็นลูกศิษย์ของผม อายุห่างจากผมเกือบ 11 ปี แต่ผมก็รักเค้าไปแล้ว คำว่า"รักไม่มีข้อจำกัด รักไม่มีพรมแดน" ยังจะใช้ได้กับผมอยู่หรือไม่??? ผมไม่รู้เลยจริงๆ ไม่รู้เลย ตอนนี้ผมเครียดมาก กินไม่ได้ นอนไม่หลับ!!! เวลาเจอหน้าเค้าผมจะร้องไห้ทุกทีเลยครับ
[18+] รักต้องห้าม...แค่คิดก็ผิดแล้ว!!!
เรื่องเริ่มต้นขึ้นเมื่อปีที่แล้ว ผมเรียนปีสุดท้ายและได้เข้ามาฝึกสอนที่โรงเรียนแห่งนี้ซึ่งเป็นโรงเรียนในชุมชนของผมเองและเป็นโรงเรียนเก่าสมัยประถมศึกษาของผมด้วย ตอนนั้นเด็กคนนี้เค้าอยู่ ป.5 ในเทอมแรก เรื่องราวทุกอย่างก็ปกติดี ผมกับเค้ายังไม่ได้สนิทกันมาก เค้าก็มีแฟนเป็นผู้หญิงห้องของเค้าและเหมือนรักกันมาก
พอเริ่มเทอมที่สองผมกับเค้าก็เริ่มสนิทกันมากขึ้น เริ่มเล่นกัน เดินผ่านก็ต้องหยอก พูดกัน เริ่มถึงเนื้อถึงตัว ผมเริ่มซื้อของต่างๆให้ แต่ไม่ได้มากมายอะไรนะครับ เป็นของราคาไม่กี่บาท ให้เงินใช้บ้างนานๆครั้ง เค้าเริ่มชอบไปเล่นกับผมที่บ้านบ่อยๆ ในเวลาหลังเลิกเรียนหรือเสาร์อาทิตย์ เข้าไปอยู่กับผมในห้องนอน ด้วยอะไรหลายๆอย่างผมกับเค้าเกือบที่จะเกินเลยกัน ดีที่ผมหยุดตัวเองได้ก่อน ผมเป็นครู ส่วนเค้าเป็นนักเรียน ยังเด็ก พึ่ง ป.5 เอง วันต่อมาเค้าก็เงียบไป หลบหน้าผม ไม่กล้าสู้หน้า ผ่านไปเกือบหนึ่งสัปดาห์เค้าก็ค่อยๆเริ่มกลับมาเป็นเหมือนเดิม มาเล่นมาอยู่กับผมที่บ้านหลังเลิกเรียนเหมือนเดิม จากนั้นผมก็เริ่มที่จะวางตัวให้อยู่ในขอบเขต เวลาอยู่ที่โรงเรียนผมก็จะทำตัวไม่สนิทกับเค้ามาเกินไป ไม่เล่นเหมือนเดิมแล้ว วางตัวให้สมกับเป็นครู เค้าก็ทำตัวปกติ ก็ยังเหมือนเดิม เพียงแต่ว่าที่โรงเรียนเราอาจจะคุยจะเล่นกันน้อยลง แต่พอเลิกเรียนเค้ามาหาที่บ้านผมก็เล่นก็คุยกับเค้าตามปกติ ยังซื้อของให้ยังให้เงินใช้เหมือนเดิม เรื่องราวความสัมพันธ์ของเราสองคนก็เป็นแบบนี้มาเรื่อย
ปิดเทอมเค้าก็ไม่ได้ไปไหน ผมก็ไม่ได้ไปไหน ผมอยู่บ้าน เค้าอยู่นา เราก็เจอกันเสมอ เค้าก็เข้ามาหาผมที่บ้านเสมอ เราโทรคุยกันตลอด ถึงไม่ทุกวันแต่ก็บ่อยๆ ส่วนเค้ากับแฟนของเค้าก็ยังรักกันดี เค้าโทรคุยกันทุกวัน ซึ่งบ่อยกว่าโทรคุยกับผมอยู่แล้ว คุยเฟส คุยไลน์กันตลอด ที่ผมรู้ก็เพราะผมดูโทรศัพท์เค้าตลอด และเห็นทุกสิ่ง ประวิติการโทร แชตเฟส แชตไลน์ ช่วงนี้แหละที่ผมเริ่มที่จะไม่ชอบใจเค้าที่คุยกับแฟนเค้าบ่อย บางครั้งอยู่กับผมแฟนเค้าโทรมา เค้าก็คุยกัน แต่ผมก็ไม่ได้แสดงออกว่าไม่ชอบใจ ทำตัวเฉยๆ เวลาเค้าคุยโทรศัพท์ผมก็ทำเป็นเหมือนไม่สนใจ แต่ก็ฟังเค้าคุยกันทุกคำพูด ฟังแล้วเจ็บจี๊ดๆที่ใจ แฟนเค้าเริ่มที่จะชอบพูดกระทบผม เวลาเค้าคุยกันเริ่มที่จะมีชื่อผมอยู่ในบทสนทนามากขึ้นเรื่อยๆ เริ่มมีโพสเฟสกระทบ โพสไลน์กระทบ ถึงเป็นการโพสลอยๆ แต่ผมก็รู้ว่าเค้าว่าให้ผม แต่ผมก็ทำตัวเฉยๆ พยายามไม่สนใจ คิดเสมอว่าผมเป็นครู เค้าเป็นเด็ก แต่มันก็เริ่มหนักขึ้นเรื่อย ผมก็มีโพสโต้ตอบบ้าง ไปแสดงความคิดเห็นในโพสของเค้าบ้าง ให้เค้ารู้ว่าผมเห็น ผมกับแฟนเค้าเริ่มไม่มองหน้า ไม่คุยกัน เค้าคงจะคิดว่าผมฝึกสอนเสร็จแล้ว ไม่จำเป็นที่ต้องสนใจ ต้องเคารพ
เปิดเทอมปีการศึกษา 2558 สมสอบบรรจุไม่ได้ ทางโรงเรียนขาดครู จึงได้จ้างผมเป็นอัตตราจ้างสอนต่อที่โรงเรียน แฟนของเค้าก็เข้ามาขอโทษในสิ่งที่ทำไม่ดีกับผมไว้ ผมก็ให้อภัย ไม่ถือสา ส่วนผมกับเด็กชายคนนั้นความสัมพันธ์ ความสนิท เริ่มที่จะมากขึ้นเรื่อยๆ แต่ก็เวลาอยู่นอกโรงเรียน เวลาอยู่ในโรงเรียนผมกับเค้าก็ยังรักษาระยะห่างกันเหมือนเดิม เราเริ่มถึงเนื้อถึงตัวกันมากขึ้น เค้าชอบที่จะจับมือผม เวลานั่งกับผมก็ชอบที่จะนั่งเล่นมือผม ชอบบีบมือผม หรือไม่ก็จับไว้ หรือไม่ก็เอาขามาก่ายผม กล่าวคือ ขอให้มีส่วนใดส่วนหนึ่งให้โดนกัน แต่ก่อนมาบ้านผมเย็นๆก็จะกลับ แต่เดี๋ยวนี้อยู่ถึงดึกๆดื่น ผมเคยคุยกับเค้าว่าที่ทำแบบนี้รู้ไหมครูคิดไปไกล ครูคิดมากนะ เค้าก็หัวเราะแล้วก็เฉไฉไปเรื่องอื่นอยู่เสมอ เค้าเริ่มรู้ว่าผมไม่ชอบแฟนเค้า เค้าจะไม่พูดถึง ถ้าแฟนเค้าโทรมาเวลาที่อยู่กับผมเค้าจะไม่รับ หรือบางครั้งก็ให้ผมรับแทนแล้วให้บอกว่าเค้าไม่อยู่(อันนี้ผมก็ไม่เข้าใจในสิ่งที่เค้าทำเหมือนกัน) เค้าเริ่มเป็นผู้ใหญ่ขึ้น มีความคิด การวางตัว เป็นผู้ใหญ่ ซึ่งรวมทั้งร่างกายของเค้าด้วย เป็นหนุ่มหล่อ มาสาวๆมาชอบหลายคน แค่สองเดือนกว่า เค้าสูงขึ้น 14 ซม. ตอนนี้เค้าก็เกือบจะเท่าผมแล้ว(ผมเป็นคนตัวเล็ก)
เรื่องล่าสุดที่เกิดขึ้นและมันก็เป็นเรื่องที่ทำให้ผมกลุ้มใจในขณะนี้คือ เมื่อสัปดาห์ที่แล้วทางโรงเรียนได้พาเด็กชั้น ป.4-5-6 ไปเข้าค่ายนอกสถานที่ สองวันหนึ่งคืน (พฤหัส-ศุกร์) วันแรกเค้ากับแฟนของเค้ายังไม่ค่อยได้ใกล้ชิดกันเพราะอยู่คนละกลุ่ม กิจกรรมส่วนมาจะเป็นแบบกลุ่ม กลางคืน ผอ.ให้ผมมานอนกับเด็ก นอนเฝ้าเด็ก ตอนแรกผมก็ห่วงว่าผมจะนอนยังไง แต่เค้าก็บอกวาไม่ต้องห่วง มานอนข้างๆเค้า ให้เพื่อนเค้าไปนอนที่อื่น ผมก็โอเค คืนนั้นด้วยความใกล้ชิด เราอนอนข้างๆกัน บรรยากาศ และหลายๆสิ่งทำให้เราเกินเลยกันอีกครั้ง ตอนแรกผมก็ขัดขืนบอกว่าไม่เอาไม่ทำ แต่เค้าก็บอกว่าทำให้หน่อย ผมก็เลยบอกว่าถ้าทำแล้ว รู้ใช่ไหมว่าครูคิดยังไงกับเรา ความรู้สึกที่ครูมีให้เราจะไม่เหมือนเดิมนะ มันจะมากขึ้น ครูจะไม่อยู่เฉยๆเหมือนที่ผ่านมาแน่ เค้าก็ไม่ได้ว่าอะไร ผมก็เลยทำให้เค้า แต่ไม่ได้มีอะไรกันนะครับ แค่ช่วยเค้าให้เสร็จเฉยๆ วันต่อมาเค้ากลับทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น เค้าเริ่มชอบเข้าไปคุยกับแฟนเค้า ผมเริ่มหงุดหงิด แต่เค้าก็ชอบหันมามองผมบ่อยๆเวลาที่เค้าทำกิจกรรมอยู่ ซึ่งผมจะนั่งอยู่ที่เก้าอี้ข้างๆลานกิจกรรม ขากลับเรานั่งรถ(รถทัวร์) ตอนแรกเค้านั่งกับผม สักพักแฟนเค้าเดินมาหา เค้าก็ลุกขึ้นไปนั่งเก้าอี้อีกอันเยื้องขึ้นไปหนึ่งแถวตรงข้าม เค้านั้งติดทางเดิน แฟนเค้าจะยืนเฝ้าข้างๆเลย มีที่นั่งแต่ไม่นั่ง มีหยอกล้อกัน จับมือกันบ้างเวลาที่หยอกกัน แต่เค้าก็มองมาที่ผมบ่อยๆ ผมก็ทำเป็นไม่สนใจ มองออกนอกหน้าต่าง ในตอนนั้นความรู้สึกน้อยใจ ไม่พอใจเริ่มตีรวนขึ้นมา จนผมทนไม่ไหว ร้องไห้ออกมา แต่ผมก็ไม่ได้ทำให้ใครเห็นนะครับ ถ้าไม่สังเกต ซึ่งตอนนั้นบนรถเปิดเพลงเสียงดัง เเละนักเรียนก็กำลังสนุกสนานกันอยู่ แต่เค้าก็คงสังเกตเห็น เพราะมองดูผมตลอด เค้าเริ่มอยู่ไม่สุข เดินไปเดินมา ไปนั่งข้างหลังบ้าง กลับมาที่เดิมบ้าง มายืนอยู่ข้างๆผมบ้าง ตอนนั้นผมใส่หมวก สวมเสื้อแขนยาว ใส่ฮู้ด คือปิดหน้าทั้งหมด และหันหน้าออกนอกหน้าต่างตลอด ร้องไห้เงียบๆคนเดียว จนรถแวะจอดปั้มน้ำมันให้เด็กเข้าห้องน้ำ ผมเลยลงไปล้างหน้า เจอเค้ากับเพื่อนของเค้ายืนอยู่หน้าห้องน้ำ ผมก็เดินก้มหน้าไปที่อ่างล้างหน้า กำลังล้างหน้าอยู้ เค้าก็ก้มมาดูหน้าผม และถามว่าร้องไห้ทำไม ผมไม่ได้ตอบ ล้างหน้าเสร็จก็ขึ้นรถเลย เค้าพยายามจะมานั่งข้างๆผม แต่เพื่อนของเค้า ซึ่งก็คงรู้ว่าผมร้องไห้ ไม่ยอมให้เค้านั่ง บอกวาให้ครูนั่งคนเดียวดีแล้ว เค้าก็เลยย้ายไปนั่งที่เบาะเดิมแต่เข้าไปนั่งในสุดริมหน้าต่าง ซึ่งมีเด็กอีกสองคนนั่งด้วย(เบาะนั้นนั่งสามคน) เค้าไม่คุยกับใครเลย รวมทั้งแฟนเค้าด้วย ถึงโรงเรียนเกือบหนึ่งทุ่ม ผมลงมาจากรถเกือบสุดท้าย ลงมาเห็นเค้ายืนรอผมอยู่พร้อมกับกระเป๋าของผม เค้าถามว่าจะเดินกลับพร้อมกันไหม ผมปฏิเสธไป เพราะต้องช่วยครูเอาของเข้าไปเก็บในโรงเรียนอีก เค้าเดินกลับไปกับเพื่อนของเค้า คืนนั้นผมนอนร้องไห้ทั้งคืน เพราะน้อยใจเค้า วันเสาร์เค้ามาหาที่บ้านตอนบ่าย เจอหน้าผมครั้งแรกเค้าถามว่าเมื่อคืนไม่ได้นอนเลยหรอ ผมก็บอกว่าไม่ มีเรื่องไห้คิดเยอะ เค้าถามเรื่องอะไร ผมบอกหลายอย่าง เค้ามาชวนไปเล่นที่บ้านเค้า เพราะมีเพื่อน มีป้า มีพี่ชายลูกป้าเค้าอยู่บ้าน ผมก็บอกว่าไม่ไปหรอก เค้าเลยขอโทรศัพท์ผมไปฟังเพลง ผมก็ให้ไป เย็นผมถึงเดินไปหาที่บ้านเค้าเพื่อจะเอาโทรศัพท์ แต่ลุงกับป้าเค้าก็ชวนผมไปกินหมูกระทะ ตอนแรกว่าจะไม่ไปแต่ผู้ใหญ่ชวนผมเกรงใจก็เลยไป เรานั่งทานข้างๆกันแต่แทบไม่คุยกันเลย เค้าจะคอยตักนั่นตักนี่ให้ผมตลอด เพราะผมเอาแต่เงียบนั่งฟังเค้าคุยกัน ไม่ค่อยตักอะไรทาน วันอาทิตย์เราไม่ได้เจอไม่ได้คุยกันเลย
วันจันทร์ ผมก็แทบจะไม่คุยกับเค้า เวลาเค้าและเพื่อนๆเดินมาหาผม(ผมสนิทกับนักเรัยน ป.6 มาก)ผมก็คุย ก็เล่นกับทุกคนเหมือนเดิม ยกเว้นเค้าที่ผมไม่ได้เหมือนเดิม ผมว่าเราสองคนมันเป็นความรู้สึกที่เปลี่ยนไปแล้ว เค้าอาจจะไม่ได้คิดอะไรเรื่องคืนน้น แต่ผมคิด มันอยู่ในหัวผมตลอดเวลา ผมจึงขอเวลาทำใจสักพักดีกว่า ผมยิ้มในขณะที่ข้างในผมร้อไห้ ผมไม่มีสมาธิจะอะไรเลย วันอังคาร ผมเริ่งที่จะคุยกับเค้า แต่ก็ยังน้อยเมื่อเทียบกับเมื่อก่อน เค้าก็พยายามที่จะเข้าหาผม เดินมาหาที่ห้องบ้าง ตอนเที่ยงมาถามว่ากินข้าวรึยังบ้าง...
ผมไม่รู้ว่าข้างในเค้านั้นคิดอะไรอยู้ เค้าจะมีผมอยู่ในความคิดของเค้าเหมือนกับที่ผมมีเข้าอยู่ในความคิดทุกขณะ เค้าจะหวง จะห่วงผมเหมือนกับที่ผม หวงห่วงเค้าไหม เค้าคิดยังไงกับผมกันแน่ วันพุธ จากที่แค่ผมไม่คุยกับเค้า กลายเป็นเค้าก็ไม่คุยกับผม เมินผม เดินหนี ไม่คุย ไม่ถาม ทำไม่สนใจ...ผมจะบ้าตายแล้ว
สุดท้ายนี้ผมขอขอบคุณทุกคนที่อ่านเรื่องราวมาตั้งแต่ต้นจนจบ ผมรู้ว่าสิ่งที่ผมทำ ผมเป็นอยู่มันผิด ผิดมาก มันไม่สมเกิดขึ้น เป็นเรื่องที่ผิดต่อจรรยาบรรณวิชาชีพอย่างยิ่ง...แต่มันก็เกิดขึ้นแล้ว ผมพูดได้เต็มปากว่าผม"รัก"เค้าคนนั้น คนที่เป็นแค่เด็กนักเรียน ป.6 เป็นลูกศิษย์ของผม อายุห่างจากผมเกือบ 11 ปี แต่ผมก็รักเค้าไปแล้ว คำว่า"รักไม่มีข้อจำกัด รักไม่มีพรมแดน" ยังจะใช้ได้กับผมอยู่หรือไม่??? ผมไม่รู้เลยจริงๆ ไม่รู้เลย ตอนนี้ผมเครียดมาก กินไม่ได้ นอนไม่หลับ!!! เวลาเจอหน้าเค้าผมจะร้องไห้ทุกทีเลยครับ