ส่องดาว เป็นอำเภอหนึ่งของจังหวัดสกลนคร มีอาณาเขตติดต่อกับเขตการปกครองข้างเคียงดังต่อไปนี้

ทิศเหนือ ติดต่อกับอำเภอสว่างแดนดิน
ทิศตะวันออก ติดต่อกับอำเภอสว่างแดนดินและอำเภอวาริชภูมิ
ทิศใต้ ติดต่อกับอำเภอวังสามหมอและอำเภอไชยวาน (จังหวัดอุดรธานี)
ทิศตะวันตก ติดต่อกับอำเภอสว่างแดนดิน



การปกครองส่วนท้องถิ่น
ท้องที่อำเภอส่องดาวประกอบด้วยองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น 5 แห่ง ได้แก่

เทศบาลตำบลส่องดาว ครอบคลุมพื้นที่บางส่วนของตำบลส่องดาวและบางส่วนของตำบลปทุมวาปี
เทศบาลตำบลท่าศิลา ครอบคลุมพื้นที่ตำบลท่าศิลาทั้งตำบล
เทศบาลตำบลส่องดาวหนองแดง ครอบคลุมพื้นที่ตำบลส่องดาว (นอกเขตเทศบาลตำบลส่องดาว)
เทศบาลตำบลปทุมวาปี ครอบคลุมพื้นที่ตำบลปทุมวาปี (นอกเขตเทศบาลตำบลส่องดาว)
เทศบาลตำบลวัฒนา ครอบคลุมพื้นที่ตำบลวัฒนาทั้งตำบล

อำเภอส่องดาว เป็นพื้นที่ที่มีเทือกเขาภูพานพาดผ่าน ทำให้มีลักษณะภูมิทัศน์ที่สวยงาม และมีความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติอยู่มาก
เทือกเขาภูพานที่พาดผ่านบริเวณนี้อยู่ภายใต้การดูแลของอุทยานแห่งชาติภูผาเหล็ก เป็นอำเภอที่อยู่ภายใต้ใบบุญของหลวงพ่อพระอาจารย์วัน อุตตโม พระเกจิกรรมฐานสายหลวงปู่มั่น ที่ก่อนเคยจำพรรษาที่วัดถ้ำพวง(วัดถ้ำอภัยดำรงธรรม) เป็นที่เคารพนับถือ เป็นเป็นองค์ศรัทธาของชาวส่องดาว นอกจากนี้ยังเป็นพื้นที่ภายใต้ร่มพระบรมโพธิสมภาณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระราชินี ที่ได้เสด็จเยี่ยมเยียนประชาชนในพื้นที่บ่อยครั้ง และยังได้มีการจัดตั้งศูนย์ศิลปาชีพบ้านทรายทองขึ้น เพื่อถวายงานแด่องค์พระราชินีอีกด้วย เป็นความตื้นตันใจของประชาชนชาวส่องดาวเสมอมา นอกจากนี้ยังเป็นพื้นที่ที่พระเกจิอาจารย์สายวัดป่าหลายท่านได้มาพำนักจำพรรษา
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้สามารถเข้าไปหาข้อมูลอุทยานได้ที่นี่นะครับ
http://www.dnp.go.th/parkreserve/asp/style2/default.asp?npid=29&lg=1

ในอดีตอำเภอส่องดาวเคยเป็นพื้นที่สีแดง คือพื้นที่ของกลุ่มคอมมิวนิส ที่ได้มาอาศัยอยู่ในป่าเขาบริเวณนี้ จึงมีชื่อเรียกว่า "ซ่องดาวโจร" และได้เปลี่ยนมาเป็น"ส่องดาว"ภายหลังจากพระอัมราราชรินทร ได้เดินทางเข้ามาปราบปรามโจรในพื้นที่ จนมีการตั้งถิ่นฐานมาจนถึงปัจจุบัน

การเดินทาง เนื่องจากส่องดาวไม่ใช่พื้นที่ทางผ่านของถนนเส้นหลัก จึงไม่มีรถโดยสารผ่าน
จะมีก็เพียงแต่รถนักเรียน ที่รับส่งเพียงไปเช้า เย็นกลับ จากอำเภอสว่างแดนดินเท่านั้น
การเดินทางส่วนมากจึงเป็นการใช้รถส่วนตัว จะสะดวกที่สุดในการเดินทาง
อำเภอส่องดาวแยกจากอำเภอสว่างแดนดิน ระยะทาง19 กิโลเมตร

ก่อนอื่นให้ท่านฟังเพลงนี้ก่อนนะครับ เพลงส่องดาวที่รัก ร้องโดยคุณเฉลิมพลมาลาคำ ฟังไปด้วยอ่านรีวิวไปด้วยก็น่าจะเพลินดีนะครับ


สถานที่ท่องเที่ยวที่จะรีวิวในที่นี้คือ บริเวณภูผาเหล็ก และวัดถ้ำพวง ซึ่งจะเป็นการรีวิวคร่าวๆเพื่อเปิดโอกาสให้นักท่องเที่ยวได้เข้ามาเยี่ยมชม
และประกอบการตัดสินใจในการมาเยือนอำเภอส่องดาว

จากตัวอำเภอส่องดาวมาทางตำบลปทุมวาปี เพื่อที่จะไปยังวัดถ้ำพวง ระยะทางประมาณ10กิโลเมตร

เมื่อมาถึงทางขึ้นจะพบกับ วงเวียนพระเวสฯ


และหลังจากนั้นจะเป็นทางขึ้นเขา เส้นทางค่อนข้างแคบ แต่รถยนต์สามารถสวนกันได้ ความชันไม่มากนัก

ขับขึ้นไปซักพัก จะเจอกับที่ทำการอุทยานฯ ซึ่งมีจุดชมวิว ที่จะเห็นวิวฝั่งตำบลปทุมวาปีได้



หลังจากชมวิวที่อุทยานฯซักพัก เราก็จะขึ้นไปที่"หอส่องดาว" ซึ่งเป็นอีกจุดชมวิวหนึ่งที่สวยงามมาก
บริเวณที่หอดูดาว(หอส่องดาว)ตั้งอยู่ จะเป็นหน้าผาเรียกว่า "ผาดงก่อ"



วิวที่นี่สวยไม่แพ้เชียงใหม่เลยนะ เพียงแต่ไม่มีทะเลหมอกเท่านั้นแหละ


ผมเป็นคนส่องดาวโดยกำเนินครับแต่ไปเรียนมหาลัยที่เชียงใหม่ ผมเป็นคนชอบเที่ยว ก็เลยได้ไปเห็นสถานที่ท่องเที่ยวหลายที่มากๆ ก็เลยมีความคิดว่า บ้านเราก็สวยไม่แพ้กัน ถ้าได้รับการส่งเสริมการท่องเที่ยวดีๆ และชาวบ้านรู้จักการทำธุรกิจการท่องเที่ยว ส่องดาวนี่จะสวยกว่าหลายๆที่ซะอีก

นี่ครับ คู่หู ถึงจะเป็นรถเก๋ง แต่ขึ้นเขาลงห้วยมานับไม่ถ้วนนะคร้าบ

หลังจากหอส่องดาว เราจะเข้าสู่เขตวัดถ้าพวง หรือวัดถ้ำอภัยดำรงธรรม
ที่นี่มีพิพิธภัณฑ์อัฐบริขารของหลวงพ่อพระอาจารย์วัน อุตตโม องค์ศรัทธาของชาวส่องดาว


ในบริเวณเดียวกัน ทางทิศเหนือของพิพิธภัณฑ์ จะมีวิหารกลางน้ำ ที่ภายในประดิษฐานหลวงพ่อพระมุจลินทร์องค์ใหญ่
ในวิหารนี้มีอากาศเย็นมาก เหมือนกับว่าติดแอร์ ถ้าหากท่านเดินเที่ยวแล้วร้อนก็สามารถมาพักที่วิหารนี้ได้
ภายในวิหารในช่วงที่มีงานบุญบั้งไฟ หรืองานบุญใหญ่ๆ จะมีการจัดปฏิบัติธรรมภายในวิหารนี้ด้วย


หลังจากกการสักการะหลวงพ่อพระอาจารย์วันและหลวงพ่อพระมุจลินทร์แล้ว ก็จะไปสักการะ"สังเวชนียสถาน4ตำบล"ต่อ
ซึ่งสังเวชนียสถานทั้ง4ตำบลนี้ ท่านพระอาจารย์วันและพระอารย์หลอ(เจ้าอาวาสองค์ปัจจุบัน)ได้ทำการจำลองมาจากอินเดีย

เจดีย์ประสูติ สิริมหามายา


เจดีตรัสรู้ มหาโพธิเจดีย์


เจดีย์ปฐมเทศนา


เจดีย์ปรินิพพาน


นอกจากนี้ในบริเวณสังเวชนียสถานยังมีวิหารที่เกี่ยวข้องกับพุทธประวัติอยู่อีกด้วย แล้วยังมีผาน้ำโจ้กซึ่งเป็นผานี่มีน้ำไหลออกมาจากซอกหินตลอดเวลา มีการรองน้ำที่ออกมานี้ไปใช้เป็นน้ำประปาภายในวัด สามารถใช้ได้ทั้งอุปโภค บริโภค และยังส่งลงมาใช้ในพื้นที่ตำบลปทุมวาปีด้วย อีกทั้งบริเวณนี้ยังสามารถชมวิวตะวันตกฝั่งตำบลท่าศิลาได้อย่างสวยงามอีกด้วย

หลังจากนั้นเราจะกลับลงมาข้างล่าง จะพบกับน้ำตกเก้าชั้น ซึ่งเป็นน้ำตกที่มีน้ำไหลเฉพาะหน้าฝนเท่านั้น
ในปัจจุบันไม่ได้รับการฟื้นฟู ทำให้เป็นพื้นที่เสื่อมโทรม

รูปนี้เป็นรูปเก่า ที่ผมและเพื่อนๆมัธยมได้มาทำกิจกรรมบำเพ็ญประโยชน์ เก็บกวาดบริเวณน้ำตก

ถัดไปอีกไม่ไกล จะมีเจดีย์สถูปหลวงพ่อพระอาจารย์วัน อุตตโม ซึ่งเป็นเจดีย์หินอ่อนที่สร้างขึ้นเพื่อระลึกถึงหลวงพ่อพระอาจารย์วัน
ในพื้นที่ที่ในอดีต พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและพระบรมวงศานุวงศ์เสด็จพระราชทานเพลิงสรีระหลวงพ่อพระอาจารย์วัน อุตตโม




ในการรีวิวครั้งนี้เป็นเพียงการรีวิวคร่าวๆ แต่ในความจริงส่องดาวยังมีที่เที่ยวอีกหลายที่ เช่นด่านหินมันปลา ที่เป็นลานหินที่เกิดจากการกัดเซาะทางธรรมชาติ เกิดเป็นก้อนหินรูปร่างต่างๆตามแต่จินตนาการ ภาพเขียนประวัติศาสตร์ที่มีอายุกว่าพันปี และธรรมชาติของป่า กิจกรรมเดินป่า ในส่วนนี้ต้องติดต่อเจ้าหน้าที่อุทยานให้นำทาง และมีพื้นที่สวยๆที่ซ่อนอยู่มากมายภายในป่าอุทยานภูผาเหล็กแห่งนี้

หวังว่าในการรีวิวครั้งนี้จะได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวที่จะมาเยือน ชาวส่องดาวยินดีต้อนรับทุกท่าน ขอบคุณทุกท่านที่เยี่ยมชมรีวิว