การเลือกตั้งไม่ใช่ การแก้ปัญหา เศรษฐกิจ ครับ...!!!

แต่ การเลือกตั้ง เป็นการ เริ่มต้น สตาร์ทหาวิธีการแก้ไข ปัญหา เศรษฐกิจที่ถูกต้องที่สุด..
เพราะระบอบที่เราใช้ในการปกครองอยู่ทุกวันนี้.. ไม่ได้รับการยอมรับ จากนานาชาติ ที่เรา ติดต่อค้าขายด้วย..โดยเฉพาะบางประเทศมีนโยบายไม่ลงทุนในประเทศที่มี การ รัฐประหาร..เป็นกฏหมาย.

จริงอยู่..ประเทศคุ่ค้าเรา ไม่ได้ยกเลิกการค้ากับเราในทันที...แต่การดีล การค้า ยากขึ้น..การต่อรองทางการค้าเสียเปรียบมากขึ้น.. ประเทศที่เป้นยักษ์ใหญ่ ที่เราเป้นคู่ค้าที่ดีล ด้วย..เริ่มตั้งกำแพง และใช้กฏเกณท์ที่เข้มข้น ขึ้น โดยเราไม่สามารถต่อรองได้เลย..  เค้าไม่ทำตรงๆ หรอกครับ..เหมือนกับที่เราไม่กล้ารับตรงๆ ว่า เรา.ปกครองโดยระบบเผด็จการ.. เค้าก็ใช้ระบบเดียวกัน.. คือ ไม่อัดเราตรงๆ แต่กฏเกณท์ต่างๆเข้มขึ้น จนการทำการด้า ยากขึ้นมาก

ถ้าเรามีรัฐบาลที่มาจาก ระบอบ ที่เราประกาศว่าเราใช้ปกครองประเทศ อยู่เนี่ยะ ว่าเป้นประชาธิปไตย..แล้วคนส่วนมากของประเทศ เลือกมาจริง. แล้วถึงจะค่อยมาหามาตรการ..หานโยบาย. และ ทีม ที่ต้องทำงานหนัก จริงๆ ก็คือ กต..กับพาณิชย์ ที่ต้องบินว่อนไป เจรจา การค้า แบบถูกต้องตามกฏเกณท์ เค้า..

โครงการต่างๆ ที่ดีล ไว้ว่า จะทำ ก็น่าจะเริ่มขับเคลื่อนได้.. ทีละเล็ก ละน้อย..
รัฐประหารคราวนี้.. ทำประเทศ เสียโอกาส..และเสียเวลาในการพัฒนา ไปอย่างน้อย ห้าปี..
ไม่นับรวมความสูญเสียทางเศรษฐกิจ ที่เสียหายไป.. มูลค่า อีกนับไม่ถ้วน..

ถ้าเลือกตั้งได้แล้ว.. แล้ว เราได้รัฐบาลที่มีฝีมือ พอ.. อาจจะใช้เวลา ฟื้นฟุ 3-5 ปี..กว่า ทุกอย่างจะเข้ารูปเข้ารอย.. ซึ่งทั้งหมด ยังต้องดู ปัจจัย จากภายในและภายนอกประเทศ อีก.. เป็นส่วนประกอบ