เรารักษาเกี่ยวกับการมีบุตรยากมาระยะเวลานึงค่ะ
รอบล่าสุด หมอ Ultrasound เห็นว่าเรามี
ถุงน้ำอุดตันที่ท่อนำไข่ (ที่อาจเป็นสาเหตุทำให้ไม่ท้อง)
และบอกว่าสามารถทำการรักษาได้โดย 1.ฉีดสี (ผลบอกได้ 70-80%) 2.ผ่าตัดส่องกล้อง
คุณหมอบอกว่า หากการฉีดสี ไม่สามารถบอกได้ชัดเจน ก็ต้อง
ผ่าตัดส่องกล้อง (ซึ่งเราจะเจ็บ 2 ต่อในเคสนี้)
การผ่าตัดส่องกล้องนี่ ถือว่าเป็นการผ่าตัดใหญ่
เราเลยตัดสินใจไปหา Second Opinion ที่ รพ.อีกแห่งนึง
พอไปหา คุณหมอคนที่ 2 ก็ตรวจร่างกายโดยการ Ultrasound แล้วบอกวินิจฉัยว่า เราเป็น
โรคเยื่อบุมดลูกเจริญผิดที่
ให้ทำการรักษาโดยการ
ผ่าตัดส่องกล้อง เลาะพังผืด
การผ่าตัดจะต้องพักฟื้น 30 วัน ซึ่งเราต้องลางานยาว เราเลยอยากคิดให้มันถ้วนถี่ค่ะ
ซึ่งหากผ่าตัดเสร็จ จะมียาฉีด เดือนละ 1 เข็ม เป็นเวลา 6 เดือน เพื่อให้ประจำเดือนไม่มา
(ยาฉีดที่เป็นยาคุมเหมือนเป็นการลดการสร้างพังผืด)
และประจำเดือนจะมาหลังจากนั้นอีก 2 เดือน
ซึ่งเท่ากับว่าเราจะเสียเวลา 8 เดือนใน Process นี้ ถึงจะเริ่มมีประจำเดือน (มันนานมากๆ สำหรับคนรออยากมีบุตร)
แล้วคุณหมอยังแนะนำอีกว่า ควรมีลูกให้ได้ในเดือนที่ 9 - 12 เพราะถ้าหลังจากการผ่าตัด 1 ปี มีสิทธิ์กลับมาเป็นอีกได้
คำถามค่ะ
1.การวินิจฉัยไม่ตรงกัน เราควรหา Third Opinion อีกไหมคะ
2. เราสามารถไปพบหมอคนแรก และเล่าว่าเราไปหาหมอคนที่ 2 แล้วเค้าวินิจฉัยมาแบบนี้ และขอความคิดเห็นของหมอคนแรกได้ไหมคะ?
(เกรงใจคุณหมอมาก มันเหมือนกับเราไม่มั่นใจในตัวหมอไหมคะ)
3.ข้อแนะนำอื่นๆ
ตอนนี้กลุ้มใจมากๆค่ะ รบกวนแนะนำด้วยค่ะ
ไปพบแพทย์มา 2 ท่าน วินิจฉัยโรคไม่เหมือนกัน ควรเชื่อใครดี??
รอบล่าสุด หมอ Ultrasound เห็นว่าเรามีถุงน้ำอุดตันที่ท่อนำไข่ (ที่อาจเป็นสาเหตุทำให้ไม่ท้อง)
และบอกว่าสามารถทำการรักษาได้โดย 1.ฉีดสี (ผลบอกได้ 70-80%) 2.ผ่าตัดส่องกล้อง
คุณหมอบอกว่า หากการฉีดสี ไม่สามารถบอกได้ชัดเจน ก็ต้องผ่าตัดส่องกล้อง (ซึ่งเราจะเจ็บ 2 ต่อในเคสนี้)
การผ่าตัดส่องกล้องนี่ ถือว่าเป็นการผ่าตัดใหญ่
เราเลยตัดสินใจไปหา Second Opinion ที่ รพ.อีกแห่งนึง
พอไปหา คุณหมอคนที่ 2 ก็ตรวจร่างกายโดยการ Ultrasound แล้วบอกวินิจฉัยว่า เราเป็นโรคเยื่อบุมดลูกเจริญผิดที่
ให้ทำการรักษาโดยการผ่าตัดส่องกล้อง เลาะพังผืด
การผ่าตัดจะต้องพักฟื้น 30 วัน ซึ่งเราต้องลางานยาว เราเลยอยากคิดให้มันถ้วนถี่ค่ะ
ซึ่งหากผ่าตัดเสร็จ จะมียาฉีด เดือนละ 1 เข็ม เป็นเวลา 6 เดือน เพื่อให้ประจำเดือนไม่มา
(ยาฉีดที่เป็นยาคุมเหมือนเป็นการลดการสร้างพังผืด)
และประจำเดือนจะมาหลังจากนั้นอีก 2 เดือน
ซึ่งเท่ากับว่าเราจะเสียเวลา 8 เดือนใน Process นี้ ถึงจะเริ่มมีประจำเดือน (มันนานมากๆ สำหรับคนรออยากมีบุตร)
แล้วคุณหมอยังแนะนำอีกว่า ควรมีลูกให้ได้ในเดือนที่ 9 - 12 เพราะถ้าหลังจากการผ่าตัด 1 ปี มีสิทธิ์กลับมาเป็นอีกได้
คำถามค่ะ
1.การวินิจฉัยไม่ตรงกัน เราควรหา Third Opinion อีกไหมคะ
2. เราสามารถไปพบหมอคนแรก และเล่าว่าเราไปหาหมอคนที่ 2 แล้วเค้าวินิจฉัยมาแบบนี้ และขอความคิดเห็นของหมอคนแรกได้ไหมคะ?
(เกรงใจคุณหมอมาก มันเหมือนกับเราไม่มั่นใจในตัวหมอไหมคะ)
3.ข้อแนะนำอื่นๆ
ตอนนี้กลุ้มใจมากๆค่ะ รบกวนแนะนำด้วยค่ะ