อ่านตอนที่ 1 ได้ที่นี่นะคะ
http://ppantip.com/topic/33823247
Salzburg-Passau
"Doe, a deer, a female deer"
จขกท ทำการบ้านมาดีมาก ได้ดูหนังเรื่อง Sound of music มา วันนี้จะไปตุลุยสถานที่ถ่ายทำ The Sound Of Music หรือ มนต์รักเพลงสวรรค์ ซึ่งเป็นหนังดังในอดีต และได้นำมาทำเป็นละครเวทีอีกด้วย ปีนี้ครบรอบ 50 ปีพอดี และนางเอกของเรื่อง จูลี่ แอนดรูว์ส ได้กลับไปเยือนประเทศออสเตรียอีกครั้ง ที่สถานที่ถ่ายทำ วันนี้มาตามรอยหนังกัน
ที่เมือง ซาลส์บวร์ก เริ่มด้วย สวนวังมิราเบล (Mirabell Garden) ที่มองเห็นบนยอดเขา คือ ป้อมโฮเฮนซอลเบร์ก (Festung Hohensalzburg) เป็นสัญญาลักษณ์ของเมืองนี้ เป็นฉากที่ มาเรีย และเด็กๆ ร้องเพลง โด-เร-มี นั่นเอง
ระหว่างที่เดินข้ามแม่น้ำ Salzach ไปอีกฝั่ง เจอ love lock ที่สะพานด้วย! ไม่แพ้ หอคอยเอ็นโซล ที่ประเทศเกาหลีเลย
มาฝั่งนี้เริ่มเห็น ช๊อคโกแล็ต โมสาร์ท ขอเล็งไว้เป็นของฝากแค่เพื่อนๆที่รัก
เมืองนี้มีความน่ารัก และมีเสน่ห์เป็นเอกลักษณ์ที่ไม่เหมือนใคร อีกทั้งยังเป็น ที่กำเนิดของ คีตกวีเอก โมสาร์ท อีกด้วย เมื่อวันที่ 27 มกราคม ค.ศ.1756 เขาได้เกิดที่เมืองซอลเบิร์ก ที่พิพิธภัณฑ์โมสาร์ทเกบูร์ตสเฮาส์ Mozart Geburtshaus (Mozart Birthplace) คือบ้านที่โมสาร์ทเกิด โมสาร์ทเคยอาศัยอยู่ในบ้านหลังนี้นานกว่า 20 ปี วันนี้มีคนแหงนหน้ามองขึ้นไปยังตึกแห่งนี้เยอะมากๆ
ไม่ว่าจะเดินเหินไปซอกมุมไหนของซาลส์บวร์ก จะมีภาพโมสาร์ท คอยหลอกหลอน ไม่ว่าจะเป็น ไอติม ยังเป็นรสโมสาร์ทเลยค่ะ แม้แต่คาเฟ่ก็ยังถูกเรียกว่า "โมสาร์ทคาเฟ่"
Shopping shopping!! ถนนเกทรัยเดอกาสเซอ (Getreidegasse) เป็นแหล่ง shopping ที่มีของที่ระลึกให้เลือกมากมาย และมีของน่ารักๆทั้งนั้นเลย ที่น่าสนใจของถนนแห่งนี้ก็คือ ป้ายเหล็กที่เป็นโลโก้ของร้านและละร้าน ในสมัยก่อน คนส่วนใหญ่อ่านหนังสือไม่ออก ก็เลยทำป้ายร้านแบบนี้ เพื่อให้ลูกค้าจดจำร้านได้
สำนักสงฆ์เซนต์ปีเตอร์ (St. Peter Abbey) เป็นโบสถ์ที่เก่าแก่ที่สุดในเมืองซาลส์บวร์ก สร้างในปี ค.ศ. 1130-1143 เป็นเพียงโบสถ์เดียวที่สร้างในศิลปะโรมาเนสก์
สุสานที่เก่าแก่ที่สุดในออสเตรียอยู่ที่นี่ เป็นที่ฝังศพบุคคลสำคัญๆ มากมาย สร้างตั้งแต่ครั้งโรมัน เป็นฉากใน The Sound of Music ตอนที่ครอบครัววอนแทรปป์หนีการตามล่าของพวกนาซีเข้ามาซ่อนตัวในสุสานแห่งนี้ ต้อนเดินผ่านจริงๆนะ ไม่น่ากลัวอย่างที่คิด ว่าแต่... กลับมีความสวยงามซะอีก
ออกกำลังกายอีกแล้ว เดินขึ้น ไปยัง เป็นโบสถ์ของแม่ชีที่เก่าแก่ที่สุดในโลก ก่อตั้งขึ้นระหว่าง 713 และ 715 และเกือบจะมองเห็นได้จากทุกจุดของเมือง
ระหว่างทางสามารถเห็นวิวของเมือง ขอบอกว่าสวยงามมาก คุ้มค่าแก่การเดินเป็นอย่างยิ่ง
ได้ยินเสียงการร้องเพลง ที่มหาวิหารแห่งเมืองซาลส์บวร์ก (Salzburg Cathedral) ชาวเมืองกำลังทำพิธีศาสนากันอยู่ ภายในเป็นสถาปัตยกรรมแบบบาร็อก ครั้งนึงเคยถูกทำลาย และได้รับการบูรณะให้สดสวยเหมือนเดิม
และแล้วก็เจออนุสาวรีย์ของ Mozart คีตกวีเอกคนหนึ่งของโลก นอกจากเขาจะเกิดที่นี่แล้ว เขาเสียชีวิตเมื่อขาอายุเพียง 35 ปีเอง ร่างของโมสาร์ทถูกเก็บไว้ที่สุสานเซ็นต์มาร์คในเวียนนา
ใช้เวลาเดินเท้าในเมืองนี้ ประมาณ 4 ชั่วโมง แต่รู้สึกก็ยังไม่พอเลย ยังต้องไปต่ออีกที่หนึ่ง มีความสำคัญในฉาก The Sound of Music ก็คือ Church of Mondsee เป็นโบสถ์ของฉากแต่งงาน หรือเรียกว่า the Wedding Church ภายยอกโบสถ์นี้ มีดอกไม้สวยให้ถ่ายภาพอีกด้วย เมืองนี้เป็นเมืองเล็กๆ สวยงามมากด้วยทะเลสาป มอนด์เซ่ (Mondsee)
ทะเลสาบพระจันทร์เสี้ยว see = ทะเลสาบ; Mond = Moon
และสิ่งที่น่าตื่นเต้นก็มาถึง เรือ Avalon Vista ของ Avalon Waterway!! ออกจาก Mondsee เพื่อเดินทางไปยังเมืองพัสเซา เป็นสถานที่จอดเรือ ขนลุกจังเลย
ติดตามชม Review เรือ Avalon Waterways เร็วๆนี้นะคะ
Passau
ณ ตอนเช้า ที่เมืองพัสเซา อากาศหนาวจุง ลองเปิดปานประตูออกไปรับลมสิ แล้วเอาที่วัดออกไปวัดู อุ๊ยกรี๊ดๆๆ 10 องศา มิน่า ควันออกปาก
Ok เสื้อโค๊ต รองเท้าบูธพร้อม ขอออกไปลุยในเมืองก่อน คนแรกของเรือเลย (6 โมงกว่าๆเอง) เมืองพัสเสาเป็นเมืองสามแคว (บ้านเรามีแค่ 2 แควเอง) โดยมีแม่น้ำ 3 สายมาบรรจบที่นี่ คือ แม่น้ำดานูบ(Danube ) แม่น้ำอินน์ (Inn) และแม่น้ำอิลซ์ (Ilz) พัสเซาจึงเป็นเมืองต้นทางของเรือท่องเที่ยวที่ล่องจากเยอรมนีไปสู่กรุงเวียนนาของออสเตรีย
เรือ Avalon Vista จอดในแม่น้ำดานูบ ภาษาเยอรมันเรียกว่า ดาเนา
ฝั่งนี้คือแม่น้ำอินน์
รู้สึกหนาวเหน็บไม่น้อย ขอตัวไปรับประทานอาหารเช้ามื้อแรกของเรือก่อน
อิ่มแล้วขอเดินในเมืองต่อพร้อมๆกับไกด์สุดหล่อลุ๊คบอยแบนด์ ชื่อ Alex ลูกครึ่งเยอรมัน ผสมออสเตรีย
สถานที่ที่ต้องมาคือ มหาวิหารเซนต์สเตเฟน (St. Stephen's Cathedral) เป็นสถานที่ ที่สุดของโลก อีกที่หนึ่ง คือเป็นที่เก็บออร์แกนที่ใหญ่สุดในโลก มากถึง 17,774 ชิ้น และมีสถาปัตยกรรมที่สะดุดตาตรงหอแฝดและโดมแปดเหลี่ยมกลางโบสถ์ ภาพวาดและการตกแต่งภายในโบสถ์อ้างอิงทางศิลปะบาร็อคของอิตาลี ไม่ธรรมดากับเมืองนี้
เมืองนี้เคยโดนน้ำท่วมหนักมาก เลยทำสัญญาลักษณ์บอกระดับน้ำ สูงสุดปี ค.ศ. 1501 ถึง 40 ฟุต (ถ้าเมืองไทยก็ขึ้นชั้น 3 เลยค่ะ)
บรรยากาศในเมืองพัสเซา
หลังจากเที่ยวในเมือง ได้เวลาอาหารเที่ยงแล้ว จะเป็น buffet มีให้เลือกมากมาย อันนี้จะเป็น Roast Pork with Cumin Sauce กับ Curry Wurst and Egg
บ๊ายบาย พัสเซา ในที่สุด เรือออกจากท่าแล้ว ตื่นเต้น เรือกำลังล่องไปยังเมือง ลินซ์ (Linz) ใช้เวลาประมาณ 6 ชั่วโมง และแล้ว....ก็มาถึง lock เป็นเหมือนเขื่อนเล็กผสมกับการควบคุมการจราจรทางน้ำ กับ lock อันแรก ค่อนข้างตื่นเต้น มีนักท่องเที่ยวคนอื่นๆในเรือออกมาชมที่ดาดฟ้า (Sky Deck) ของเรือ
การล่องเรือ กลับดีกว่าที่คิด ไม่รู้สึกเมา ไม่รู้สึกว่ามีคลื่นเลย และไม่รู้สึกว่าอยู่ในน้ำด้วย เงียบสงบ ระหว่างล่องแม่น้ำ ผ่านเมืองต่างๆ ฝั่งซ้ายคือประเทศเยอรมัน ฝั่งขวาคือประเทศออสเตรีย สวยงามเหลือเกิน ให้บรรยากาศที่ relax จริงๆ จิบกาแฟ ชมแม่น้ำ ขณะอยู่ในห้องนอนของตัวเอง
ช่วงบ่าย Tour director ได้ทำ brief สำหรับการเที่ยวของพรุ่งนี้ที่ เชสกี้ ครุมลอฟ (Cesky Krumlov)
อุ๊ยเวลาผ่านไปเร็วมาก ได้เวลา Gala Dinner แล้วค่ะ จัดไปเต็มๆ ก่อนเริ่มทานอาหาร พนักงานออกมายืนต้อนรับ พร้อมรอยยิ้ม และกล่าวต้อนรับเราเข้างาน Gala Dinner รู้สึก วีไอพี สุดๆ
ระหว่างรับประทานอาหารค่ำในงาน Gala Dinner เรือก็ได้มาถึงยัง เมือง ลินซ์ (Linz)ประเทศออสเตรีย และหลังอาหาร ได้มีการแสดงพื้นเมือง โดยมีนักดนตรีท้องถิ่นขึ้นเรือมาให้ความเพลิดเพลิน สนุกมากๆ ขออวดรูปอาหารนิดนึงนะคะ
คืนนี้นอนบนเรือเช่นเคย แต่นับพิกัดคืออยู่ที่เมือง ลินซ์ (Linz) ค่ะ
ติตามชมตอน 3 ของทริปเที่ยวเรือล่องแม่น้ำสุดหรู Avalon Waterways ได้ที่นี่ค่ะ
http://ppantip.com/topic/33827168
[SR] เที่ยวเรือล่องแม่น้ำสุดหรู Avalon Waterways จากประเทศเยอรมัน สู่ ประเทศออสเตรีย 9 วัน ตอนที่ 2
http://ppantip.com/topic/33823247
Salzburg-Passau
"Doe, a deer, a female deer"
จขกท ทำการบ้านมาดีมาก ได้ดูหนังเรื่อง Sound of music มา วันนี้จะไปตุลุยสถานที่ถ่ายทำ The Sound Of Music หรือ มนต์รักเพลงสวรรค์ ซึ่งเป็นหนังดังในอดีต และได้นำมาทำเป็นละครเวทีอีกด้วย ปีนี้ครบรอบ 50 ปีพอดี และนางเอกของเรื่อง จูลี่ แอนดรูว์ส ได้กลับไปเยือนประเทศออสเตรียอีกครั้ง ที่สถานที่ถ่ายทำ วันนี้มาตามรอยหนังกัน
ที่เมือง ซาลส์บวร์ก เริ่มด้วย สวนวังมิราเบล (Mirabell Garden) ที่มองเห็นบนยอดเขา คือ ป้อมโฮเฮนซอลเบร์ก (Festung Hohensalzburg) เป็นสัญญาลักษณ์ของเมืองนี้ เป็นฉากที่ มาเรีย และเด็กๆ ร้องเพลง โด-เร-มี นั่นเอง
ระหว่างที่เดินข้ามแม่น้ำ Salzach ไปอีกฝั่ง เจอ love lock ที่สะพานด้วย! ไม่แพ้ หอคอยเอ็นโซล ที่ประเทศเกาหลีเลย
มาฝั่งนี้เริ่มเห็น ช๊อคโกแล็ต โมสาร์ท ขอเล็งไว้เป็นของฝากแค่เพื่อนๆที่รัก
เมืองนี้มีความน่ารัก และมีเสน่ห์เป็นเอกลักษณ์ที่ไม่เหมือนใคร อีกทั้งยังเป็น ที่กำเนิดของ คีตกวีเอก โมสาร์ท อีกด้วย เมื่อวันที่ 27 มกราคม ค.ศ.1756 เขาได้เกิดที่เมืองซอลเบิร์ก ที่พิพิธภัณฑ์โมสาร์ทเกบูร์ตสเฮาส์ Mozart Geburtshaus (Mozart Birthplace) คือบ้านที่โมสาร์ทเกิด โมสาร์ทเคยอาศัยอยู่ในบ้านหลังนี้นานกว่า 20 ปี วันนี้มีคนแหงนหน้ามองขึ้นไปยังตึกแห่งนี้เยอะมากๆ
ไม่ว่าจะเดินเหินไปซอกมุมไหนของซาลส์บวร์ก จะมีภาพโมสาร์ท คอยหลอกหลอน ไม่ว่าจะเป็น ไอติม ยังเป็นรสโมสาร์ทเลยค่ะ แม้แต่คาเฟ่ก็ยังถูกเรียกว่า "โมสาร์ทคาเฟ่"
Shopping shopping!! ถนนเกทรัยเดอกาสเซอ (Getreidegasse) เป็นแหล่ง shopping ที่มีของที่ระลึกให้เลือกมากมาย และมีของน่ารักๆทั้งนั้นเลย ที่น่าสนใจของถนนแห่งนี้ก็คือ ป้ายเหล็กที่เป็นโลโก้ของร้านและละร้าน ในสมัยก่อน คนส่วนใหญ่อ่านหนังสือไม่ออก ก็เลยทำป้ายร้านแบบนี้ เพื่อให้ลูกค้าจดจำร้านได้
สำนักสงฆ์เซนต์ปีเตอร์ (St. Peter Abbey) เป็นโบสถ์ที่เก่าแก่ที่สุดในเมืองซาลส์บวร์ก สร้างในปี ค.ศ. 1130-1143 เป็นเพียงโบสถ์เดียวที่สร้างในศิลปะโรมาเนสก์
สุสานที่เก่าแก่ที่สุดในออสเตรียอยู่ที่นี่ เป็นที่ฝังศพบุคคลสำคัญๆ มากมาย สร้างตั้งแต่ครั้งโรมัน เป็นฉากใน The Sound of Music ตอนที่ครอบครัววอนแทรปป์หนีการตามล่าของพวกนาซีเข้ามาซ่อนตัวในสุสานแห่งนี้ ต้อนเดินผ่านจริงๆนะ ไม่น่ากลัวอย่างที่คิด ว่าแต่... กลับมีความสวยงามซะอีก
ออกกำลังกายอีกแล้ว เดินขึ้น ไปยัง เป็นโบสถ์ของแม่ชีที่เก่าแก่ที่สุดในโลก ก่อตั้งขึ้นระหว่าง 713 และ 715 และเกือบจะมองเห็นได้จากทุกจุดของเมือง
ระหว่างทางสามารถเห็นวิวของเมือง ขอบอกว่าสวยงามมาก คุ้มค่าแก่การเดินเป็นอย่างยิ่ง
ได้ยินเสียงการร้องเพลง ที่มหาวิหารแห่งเมืองซาลส์บวร์ก (Salzburg Cathedral) ชาวเมืองกำลังทำพิธีศาสนากันอยู่ ภายในเป็นสถาปัตยกรรมแบบบาร็อก ครั้งนึงเคยถูกทำลาย และได้รับการบูรณะให้สดสวยเหมือนเดิม
และแล้วก็เจออนุสาวรีย์ของ Mozart คีตกวีเอกคนหนึ่งของโลก นอกจากเขาจะเกิดที่นี่แล้ว เขาเสียชีวิตเมื่อขาอายุเพียง 35 ปีเอง ร่างของโมสาร์ทถูกเก็บไว้ที่สุสานเซ็นต์มาร์คในเวียนนา
ใช้เวลาเดินเท้าในเมืองนี้ ประมาณ 4 ชั่วโมง แต่รู้สึกก็ยังไม่พอเลย ยังต้องไปต่ออีกที่หนึ่ง มีความสำคัญในฉาก The Sound of Music ก็คือ Church of Mondsee เป็นโบสถ์ของฉากแต่งงาน หรือเรียกว่า the Wedding Church ภายยอกโบสถ์นี้ มีดอกไม้สวยให้ถ่ายภาพอีกด้วย เมืองนี้เป็นเมืองเล็กๆ สวยงามมากด้วยทะเลสาป มอนด์เซ่ (Mondsee)
ทะเลสาบพระจันทร์เสี้ยว see = ทะเลสาบ; Mond = Moon
และสิ่งที่น่าตื่นเต้นก็มาถึง เรือ Avalon Vista ของ Avalon Waterway!! ออกจาก Mondsee เพื่อเดินทางไปยังเมืองพัสเซา เป็นสถานที่จอดเรือ ขนลุกจังเลย
ติดตามชม Review เรือ Avalon Waterways เร็วๆนี้นะคะ
Passau
ณ ตอนเช้า ที่เมืองพัสเซา อากาศหนาวจุง ลองเปิดปานประตูออกไปรับลมสิ แล้วเอาที่วัดออกไปวัดู อุ๊ยกรี๊ดๆๆ 10 องศา มิน่า ควันออกปาก
Ok เสื้อโค๊ต รองเท้าบูธพร้อม ขอออกไปลุยในเมืองก่อน คนแรกของเรือเลย (6 โมงกว่าๆเอง) เมืองพัสเสาเป็นเมืองสามแคว (บ้านเรามีแค่ 2 แควเอง) โดยมีแม่น้ำ 3 สายมาบรรจบที่นี่ คือ แม่น้ำดานูบ(Danube ) แม่น้ำอินน์ (Inn) และแม่น้ำอิลซ์ (Ilz) พัสเซาจึงเป็นเมืองต้นทางของเรือท่องเที่ยวที่ล่องจากเยอรมนีไปสู่กรุงเวียนนาของออสเตรีย
เรือ Avalon Vista จอดในแม่น้ำดานูบ ภาษาเยอรมันเรียกว่า ดาเนา
ฝั่งนี้คือแม่น้ำอินน์
รู้สึกหนาวเหน็บไม่น้อย ขอตัวไปรับประทานอาหารเช้ามื้อแรกของเรือก่อน
อิ่มแล้วขอเดินในเมืองต่อพร้อมๆกับไกด์สุดหล่อลุ๊คบอยแบนด์ ชื่อ Alex ลูกครึ่งเยอรมัน ผสมออสเตรีย
สถานที่ที่ต้องมาคือ มหาวิหารเซนต์สเตเฟน (St. Stephen's Cathedral) เป็นสถานที่ ที่สุดของโลก อีกที่หนึ่ง คือเป็นที่เก็บออร์แกนที่ใหญ่สุดในโลก มากถึง 17,774 ชิ้น และมีสถาปัตยกรรมที่สะดุดตาตรงหอแฝดและโดมแปดเหลี่ยมกลางโบสถ์ ภาพวาดและการตกแต่งภายในโบสถ์อ้างอิงทางศิลปะบาร็อคของอิตาลี ไม่ธรรมดากับเมืองนี้
เมืองนี้เคยโดนน้ำท่วมหนักมาก เลยทำสัญญาลักษณ์บอกระดับน้ำ สูงสุดปี ค.ศ. 1501 ถึง 40 ฟุต (ถ้าเมืองไทยก็ขึ้นชั้น 3 เลยค่ะ)
บรรยากาศในเมืองพัสเซา
หลังจากเที่ยวในเมือง ได้เวลาอาหารเที่ยงแล้ว จะเป็น buffet มีให้เลือกมากมาย อันนี้จะเป็น Roast Pork with Cumin Sauce กับ Curry Wurst and Egg
บ๊ายบาย พัสเซา ในที่สุด เรือออกจากท่าแล้ว ตื่นเต้น เรือกำลังล่องไปยังเมือง ลินซ์ (Linz) ใช้เวลาประมาณ 6 ชั่วโมง และแล้ว....ก็มาถึง lock เป็นเหมือนเขื่อนเล็กผสมกับการควบคุมการจราจรทางน้ำ กับ lock อันแรก ค่อนข้างตื่นเต้น มีนักท่องเที่ยวคนอื่นๆในเรือออกมาชมที่ดาดฟ้า (Sky Deck) ของเรือ
การล่องเรือ กลับดีกว่าที่คิด ไม่รู้สึกเมา ไม่รู้สึกว่ามีคลื่นเลย และไม่รู้สึกว่าอยู่ในน้ำด้วย เงียบสงบ ระหว่างล่องแม่น้ำ ผ่านเมืองต่างๆ ฝั่งซ้ายคือประเทศเยอรมัน ฝั่งขวาคือประเทศออสเตรีย สวยงามเหลือเกิน ให้บรรยากาศที่ relax จริงๆ จิบกาแฟ ชมแม่น้ำ ขณะอยู่ในห้องนอนของตัวเอง
ช่วงบ่าย Tour director ได้ทำ brief สำหรับการเที่ยวของพรุ่งนี้ที่ เชสกี้ ครุมลอฟ (Cesky Krumlov)
อุ๊ยเวลาผ่านไปเร็วมาก ได้เวลา Gala Dinner แล้วค่ะ จัดไปเต็มๆ ก่อนเริ่มทานอาหาร พนักงานออกมายืนต้อนรับ พร้อมรอยยิ้ม และกล่าวต้อนรับเราเข้างาน Gala Dinner รู้สึก วีไอพี สุดๆ
ระหว่างรับประทานอาหารค่ำในงาน Gala Dinner เรือก็ได้มาถึงยัง เมือง ลินซ์ (Linz)ประเทศออสเตรีย และหลังอาหาร ได้มีการแสดงพื้นเมือง โดยมีนักดนตรีท้องถิ่นขึ้นเรือมาให้ความเพลิดเพลิน สนุกมากๆ ขออวดรูปอาหารนิดนึงนะคะ
คืนนี้นอนบนเรือเช่นเคย แต่นับพิกัดคืออยู่ที่เมือง ลินซ์ (Linz) ค่ะ
ติตามชมตอน 3 ของทริปเที่ยวเรือล่องแม่น้ำสุดหรู Avalon Waterways ได้ที่นี่ค่ะ
http://ppantip.com/topic/33827168