เข้าทรงเรียกผี...อึ้งย้ง..องเหม่ยหลิง...(อยู่ในนรก)

แหล่งข้อมูลอ้างอิง : จาก นิตยสารรีวิวทีวี (ขอบคุณสำหรับข้อมูลค่ะ)

เรื่องของอึ้งย้ง...เข้าทรงเยี่ยมอุงเหม่ยหลิง

เรื่องราวของอุงเหม่ยหลิง อึ้งย้งผู้โด่งดังที่สุดแห่งมังกรหยก แสดงได้ประทับใจผู้ชมมากที่สุด เป็นข่าวฮือฮาอย่างสุด ๆ กับการจากไปอย่างไม่มีวันกลับ น้ำตาของเพื่อนดาราในวงการ รวมทั้งญาติสนิทมิตรสหาย ของคุณแม่ ของแฟน ๆ เรียกได้ว่าไหลท่วมกันอย่างสุดซึ้ง ทั้งตกใจ ทั้งใจหาย ทั้งเสียดาย และเครื่องหมายคำถามที่มีขึ้นอย่างมากมาย แทบจะพูดกันไปทั่วทั้งเมืองเลย

เธอเคยพูดไว้ประโยคหนึ่งก่อนเธอจะเสียชีวิตว่า  "ดิฉันยอมรับว่าดิฉันโชคดีในด้านงานแสดงมาก แต่ใครจะไปรู้ เบื้องหลังความสำเร็จ ดิฉันต้องใช้อดทนและความพยายามมากแค่ไหน" นั้นคือประโยคหนึ่งที่เธอเคยกล่าวไว้และนักข่าวไม่เคยลืม
ตอนที่อุงเหม่ยหลิงยังมีชีวิตอยู่ เธอได้รับคำชมว่าเป็นนักแสดงที่ดังที่สุดในรอบปี เคียงคู่กับ จางมั่นอวี้ อยากรู้จริงหากว่าอุงเหม่ยหลิงยังอยู่ เธอจะโด่งดังและยังมีหนังทั้งจอแก้วจอเงินให้เราได้ชมอย่างมากมายหรือไม่ ?

นับจากวันที่ 14 พค. 2528 วันที่องเหม่ยหลิงเสียชีวิต จนกระทั่งพศ.นี้ก็เป็นเวลากว่า 30 ปีแล้ว และถ้าเธอยังมีชีวิตอยู่เธอก็อายุ 56 ปีแล้ว และอาจจะกลายเป็นคุณแม่ลูกชาย 1 ลูกสาว 1 พร้อมด้วยสามีที่รักเธอเป็นครอบครัวที่อบอุ่นก็เป็นได้ แต่เธอกลับไม่มีวาสนาได้พานพบชีวิตที่สมบูรณ์เช่นนั้นเลย ความรักเป็นพิษทำให้เธอจากไป นับเป็นการสูญเสียนางเอกที่เป็นดั่งเพชรเม็ดงาม เรื่องราวหลังการเสียชีวิตของเหม่ยหลิงมีบันทึกเขียนถึงอย่างมากมาย และนี่ก็เป็นเรื่องราวตอนหนึ่งที่เป็นบทความเกี่ยวกับการเข้าทรงเยี่ยมอุงเหม่ยหลิงที่ตกนรกเพราะตายก่อนสิ้นอายุขัย

เข้าทรงเยี่ยมอุงเหม่ยหลิง

แฟน ๆ หรือเพื่อน(ของเหม่ยหลิง)ที่ยังคิดถึงเธออยากรู้ว่าเธอเป็นอย่างไรบ้างในใต้พื้นพิภพ ก็ลองอดใจอ่านซักนิดว่าเท็จจริงแค่ไหน ? เชื่อหรือไม่ก็ตามแต่นะคะ ซึ่งผู้เขียน(ไม่ใช่เราค่ะ)ได้เดินทางไปบ้านคนทรงชื่อดังท่านหนึ่ง พอกดกริ่งมีหญิงสาวโผล่ศีรษะออกมา ถามว่าต้องการหาใครค่ะ พอเธอบอกว่าจะขอพบคุณหลี่ ซึ่งเป็นคนเข้าทรงและได้นัดเวลาไว้ทางโทรศัพท์แล้ว ก็มีหญิงแก่ผมขาวพูดแผ่วเบาว่า เชิญค่ะ ดิฉันทราบแล้วว่าพวกคุณจะมา อย่าส่งเสียงดังน่ะ ตามดิฉันมาเถิด พูดแล้วประตูก็เปิดออกมองเห็นสภาพในห้องไม่ชัดเพราะมืดไปหมด ทำให้จิตใจก็พลอยเกิดความกลัวด้วย หัวใจก็เต้นแรงตาม เสียงเปิดไฟนีออนดังขึ้นทันใดก็สามารถมองเห็นสภาพห้องที่วางของระเกะระกะ มีเตียง 2 ชั้น บนเตียงวางของเต็มไปหมด มีเด็กหญิงกำลังอุ้มสุนัขนอนเล่นบนเตียง ที่หัวเตียงมีตู้เสื้อผ้า 1 ตู้ บนตู้มีกระถางธูป ที่ฝาผนังมีผ้ายันต์ติดไว้เต็มไปหมด ถัดจากตู้เสื้อผ้าน่าจะเป็นห้องครัว แต่ไม่ได้เปิดไฟจึงมองอะไรไม่เห็น คุณหลี่เชิญให้พวกเรานั่งรอ แล้วเธอก็เข้าไปจุดธูปที่ห้องครัว ขณะจุดไปก็เตื่อนว่า ประเดี๋ยวมี 3 คำที่ห้ามเอ่ย จำไว้น่ะ มีอะไรจะถามก็รีบถาม มีเวลานานเท่าไรดิฉันไม่ทราบและเดาไม่ได้ ผู้ที่เข้าทรงเป็นน้องสาวของดิฉัน ต้องการจะเรียกใครให้บอกเธอ มือของคุณหลี่ ถือธูป 4 ดอก ยกมือไหว้ที่กระถางธูป ปักธูป 3 ดอกที่กระถาง อีกดอกทัดไว้ข้างหู แล้วนั่งบนเก้าอี้ฟุบศีรษะลงบนโต๊ะ พิธีก็เริ่มขึ้น

คุณหลี่ สวดพึมพำ ๆ ฟังแล้วเหมือนสวดมนต์และก็เหมือนร้องเพลง ฟังดูคล้าย ๆ กำลังเดินทางไปนรก เธอสวมเสื้อแขนสั้น กางเกงยาวสีน้ำเงิน แต่เนื่องจากเธอรูปร่างเล็ก ฟุปอยู่บนโต๊ะไม่ค่อยถนัด ไม่นานขาเริ่มค่อย ๆ สั่น ก่อนมาคงเพราะดูหนังมากและยังคิดว่าเธอคงจะต้องหยิบข้าวสารและโยนไปบนโต๊ะ แต่ความจริงกลับไม่เห็นมีข้าวสาร คุณหลี่ไม่เห็นจะใช้อะไรเลย เพียงแต่ตัวเริ่มสั่นเหมือนเจ้าเข้า ทันใดนั้น ร่างของเธอหยุดทันทีและพูดด้วยเสียงใสแจ๋วจากหญิงสาวที่ฟังดูผิดกับคนเดิม .............

ร่างทรง ...พวกคุณจะหาใครหรือคะ
เพื่อน....      จะหาหญิงสาวคนหนึ่งแซ่อุง ชื่อเหม่ยหลิง ตอนเสียชีวิตอายุ 26 ปี ด้วยเพราะฆ่าตัวตาย
ร่างทรง...   พวกคุณเป็นอะไรกับเธอ ญาติหรือเพื่อน
เพื่อน....   เพื่อนค่ะ เราต้องการรู้ว่าตอนนี้เธอเป็นอย่างไรบ้าง
ร่างทรง .... เดี๋ยวค่ะ ดิฉันจะไปตามมา
(เสียงพึมพำดังอีก ฟังแล้วน่าสะพรึงกลัว ไม่นานธูปที่ทัดไว้มีควันขาวลอยขึ้นและมีเสียงพูดจากหญิงสาวบอกว่า)
ร่างทรง...เพื่อนของพวกคุณขึ้นมาไม่ได้ค่ะ ไม่มีญาติผู้ใหญ่ ไม่มีลูก ถูกคุมขังที่นรกชั้นที่ 5 ถูกขังในกรง แช่น้ำตลอดเวลา น่าเศร้ามาก เสื้อผ้าก็มีแค่ชุดเดียว และเนื่องจากฆ่าตัวตายจะเชิญขึ้นมาเหมือนผู้อื่นที่ตายปกติไม่ได้ ต้องทำพิธีนำทางสู่สวรรค์ก่อน
เพื่อน.....ทำอย่างไร ช่วยบอกด้วยค่ะ
ร่างทรง....เธอกำลังจะมาแล้ว....เตรียมตัว
เพื่อน...ทำอย่างไร ช่วยบอกด้วยค่ะ..............................
ร่างทรง........2 เหรียญต่อ 1 แผ่น เข้าใจไหม
เพื่อน....ตกลงค่ะ พวกเราตอบตกลงตามคำแนะนำ
ร่างทรง....จะนำทางให้เดี๋ยวนี้ พวกท่านไม่สามารถมองเห็นได้ แต่คุณต้องเป็นเพื่อนสนิทของเธอ ตอนนี้จวนใกล้เวลาแล้ว ต้องคุยกับเธอดี ๆ น่ะ เพราะเธอลำบากมาก

(ธูปค่อย ๆ เผาเหลือหนึ่งส่วนสาม พัดลมปรับอากาศในห้องครัวหมุนพัดไปเรื่อย มีเสียงประหลาด คล้ายจะมีเรื่องแปลกเกิดขึ้น ในที่สุด อุงเหม่ยหลิง เธอก็มา)

ผีองเหม่ยหลิง.....ลำบากจริง ๆ ค่ะ
(คราวนี้ร่างทรงเสียงเปลี่ยนอีก มีสำเนียงพื้นเมืองปนเสียงร้องไห้เหมือนเสียงของ อุงเหม่ยหลิงตอนมีชีวิตอยู่จริง ๆ)
เพื่อน...ปัจจุบันเป็นอย่างไรบ้าง
ผีองเหม่ยหลิง....ดิฉันเสียใจที่ฆ่าตัวตาย เพราะเรื่องความรัก ดิฉันมีเสื้อผ้าแค่ชุดเดียว ไม่มีผลัดเปลี่ยน แช่น้ำตลอดวัน
เพื่อน...เมื่อไรจึงพ้นทุกข์
ผีองเหม่ยหลิง...ไม่ทราบ ญาติไม่ค่อยทำบุญมาให้ ดิฉันพยายามปรากฎตัว แต่พวกเขาไม่รู้ จะหายใจสักหน่อยยังไม่ได้ ขอบคุณมากนะค่ะที่พวกคุณเรียก จึงมีโอกาสสูดอากาศสดชื่นหน่อย
เพื่อน...คุณคิดถึงญาติหรือไม่ แล้วอาทัง (ทังเจิ้นเยี่ย) ไปไหว้คุณหรือเปล่า
ผีองเหม่ยหลิง...คิดถึงเสมอคะ และ ทั้งเจิ้นเยี่ย ก็ไม่เคยมาเยี่ยมหลุมศพเลย
เพื่อน...มีคำพูดอะไรจะฝากบอกใครไหม
ผีองเหม่ยหลิง...ฝากบอกแม่ด้วยคะว่าดิฉันคิดถึง และช่วยบอกเขา(ทั้งเจิ้นเยี่ย) ด้วยว่า อย่าลืมดิฉัน ต้องคิดถึงเสมอแม้แต่งงานใหม่ ก็ต้องวางรูปดิฉันไว้ในห้อง   ดิฉันปรากฏตัวหลายครั้ง เขาไม่รู้สึกเลย ช่วยบอกเขาต้องคิดถึงดิฉัน อย่าตำหนิเขาน่ะค่ะ เพราะตอนมีชีวิตอยู่ดิฉันก็ทำทุกอย่างก็เพื่อเขา
เพื่อน...ตอนนี้คุณต้องการเงินหรือเปล่า
ผีองเหม่ยหลิง...ในนรก มีเงินก็ไม่มีประโยชน์ (วันไหว้บรรพบุรุษ) ให้เขาเผาเสื้อผ้าให้ดิฉันด้วยขอบคุณค่ะ ดิฉันต้องไปแล้ว

มาตอนนี้เสียงเปลี่ยนเป็นสาวคนเดิมบอกว่า

ร่างทรง...เธอกลับไปแล้วต้องทำตามที่เธอบอกนะ อย่าลืมช่วยเธอทำพิธีรายงานยมบาลด้วย
(ตามคำกล่าวว่า การรายงานยมบาลก็คือ เป็นการช่วยให้เธอเกิดใหม่โดยเร็ว เพราะใครที่ฆ่าตัวตายแสดงว่ายังไม่ถึงคราวตาย จึงต้องถูกทรมานในนรก จนถึงอายุขัยที่แท้จริง)
เพื่อน...แต่เธอนับถือศาสนาคริสต์ ทำพิธีนี้ได้หรือ
ร่างทรง...ไม่เป็นไร ขอให้วันเดือนปีเกิดก็พอ
เพื่อน....พวกเรารู้แต่วันเดือนปีเกิดทางสุริยคติของเธอ
ร่างทรง...ไม่ได้ ต้องจันทรคติ (แบบจีน) จำไว้ให้ดีนะ
(พูดถึงคำนี้ คนที่นำทางก็กลับไปแล้ว คุณหลี่ ค่อย ๆ ลืมตาขึ้นมา เหมือนเพิ่งตื่นและถามว่า)
ร่างทรง..พวกคุณได้เจรจาเรียบร้อยแล้วใช่ไหม เธอสั่งให้ทำอะไรหรือเปล่า
เพื่อน...บอกว่าให้รายงานนรกด้วย
ร่างทรง...งั้นก็ถูกต้องแล้ว
  
หลังจากนั้นรู้สึกว่าในห้องสว่างขึ้น ค่อยเหมือนชีวิตในเมืองมนุษย์ขึ้นหน่อย แต่ตอนออกมาแล้ว ในสมองวนเวียนอยู่แต่คำพูดของเธอที่ว่า

อย่าตำหนิเขาน่ะ

แสดงว่าเธอยังรักและห่วงใยเขามาก

ปล.บทความนี้ได้เขียนขึ้นหลังจากที่อุงเหม่ยหลิงเสียชีวิตไปแล้วหลายปี โปรดใช้วิจารญาณในการอ่าน
แก้ไขข้อความเมื่อ
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 5
เราจำได้ค่ะ ซื้อหนังสือพิมพ์กับนิตยสารที่ลงข่าว
เกี่ยวกับองเหม่ยหลิงมาเพียบ ชอบเธอมาก เพิ่งโละทิ้งเมื่อวานเอง
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่