สวัสดีค่ะ ขอแนะนำตัวก่อนนะคะ เป็นมือใหม่หัดปั่นมาได้ 1 ปี กับอีก 5 เดือนแล้วค่ะ ทำงานเป็นอาจารย์เพราะฉะนั้นวันว่างไม่ค่อยมี เลิกงานค่ำ ชีวิตไม่ค่อยได้ออกกำลังกาย การออกกำลังกายที่เคยทำได้ดีที่สุดคงเป็นการกระโดดยาง (เอ่อ...เรียกว่าการเล่นแทนจะดีกว่าเนอะ แล้วก็ผ่านมานานมากกกกก) นอกนั้นไม่ได้เลย ทักษะทางกีฬาจัดว่าแย่
เริ่มเข้าสู่การปั่นจากการคนที่บ้านปั่นก่อน โดนกระตุ้นมาหลายทียังไม่ใจอ่อน แล้วก็เริ่มยินยอมไปลองคร่อมจักรยานดู ใจอยากได้สีส้มดำ (ไม่เคยทำความรู้จักยี่ห้อใดๆ มาก่อน ตอนให้เลือก ก็พยายามส่องหาสีส้มดำราคาไม่แรง...ยังงกอยู่ เพราะคิดว่าเดี๋ยวก็คงต้องเอาไว้ตากผ้า) สุดท้ายได้ JAVA มาครอง และเริ่มมีแรงจูงใจตอนได้ไปส่งคนที่บ้านที่งานปั่นใจเกินร้อย ตื่นตาตื่นใจ คนเยอะมาก คุณลุงคุณป้า คุณตาคุณยาย อายุไม่เป็นปัญหา ยังสามารถปั่นได้ แล้วเราหล่ะ...ต้องกลับมาคิดใหม่แล้ว
เริ่มปั่นในมหาวิทยาลัยที่ทำงาน วนอยู่อย่างนั้น (มอไม่ใหญ่ปั่นแป๊บเดียวครบรอบแล้วค่ะ) ปั่นได้เกิน 10 กิโลดีใจมากมาย ตั้งเป้าหมายไว้ว่า ปั่นได้ครบพันกิโล คนที่บ้านต้องซื้อทองให้ ..ขอบอกว่ากำลังใจมาเต็มค่ะ
เริ่มปั่นออกสู่ถนนใหญ่ 20 กว่ากิโล ก็พอได้ แต่อากาศร้อนไม่ปั่น ขอเย็นๆถึงพลบค่ำพอได้ เวลาผ่านไป (ทองก็ยังไม่ได้ค่ะ เพราะโดนเปลี่ยนยางไปรอบ ปลดไมล์ออก เริ่มต้นใหม่...จุดนี้เสียใจมาก) เกือบครบปีมีงานปั่นขึ้นพระธาตุภูเพ็ก สอบถามเพื่อนๆ เพื่อนบอกว่าไม่ไกล 20 กว่ากิโล เราก็ดีใจไปกลับ 40 กว่ากิโล ได้พักครึ่งด้วย ไหวๆ ...แต่ความจริงคือรอบนี้ไปกลับได้ระยะปั่น 60 กว่ากิโลค่ะ....เหนื่อยแทบขาดใจ ปล่อยขาฟรีเรื่อยๆ av แค่ 16-17 แซงได้เฉพาะจักรยานแม่บ้าน นักปั่นยางแตก และนักปั่นเป็นตะคริว รอบนี้เรียนรู้ถึงการวางเท้าบนบันได พยายามจะทำให้ถูก
ถัดมาอีกเดือนมีงานใจเกินร้อยเวียนมาบรรจบ รอบปกติ 80 กว่ากิโล VIP 45กิโล ไม่สนค่ะ คิดว่าไม่ไหว กลัวเข้าทีหลังแล้วจะอาย แต่...(ชีวิตต้องมีจุดเปลี่ยนค่ะ).....ไปส่งคนที่บ้านสมัครเจอคุณลุงหลายๆ ท่าน ชวนให้มาปั่น ได้คุยกับคุณลุงคนนึงชื่อลุงตึ๋ง คุณลุงบอกว่า ไปภูเพ็กไหว ลง VIP ก็ปั่นได้อยู่แล้ว ลองมาดู ....(คิดในใจว่า...ครั้งนั้นหนูได้พักตั้งหลายรอบนะคะ...) ...ตัดสินใจ แล้วก็หาเพื่อนผู้หญิงด้วยกันอีกคนไปลงสมัครแบบ VIP
วันแข่งมาถึง ตื่นสนามมาก (ไม่รู้ว่าจะตื่นทำไม ทั้งๆ ที่ลง VIP) ตลอดทางเหนื่อย แต่ไม่เคยหยุด เพราะไม่มีใครหยุด และเป็นครั้งแรกที่ได้ลองรับขวดน้ำขณะปั่น ตื่นเต้นนะ กลัวรับพลาดแล้วอดค่ะ...พอเลยกิโลเมตรที่ 40 อากาศเริ่มร้อน เหนื่อย ขาไม่มีแรง สักพักเห็นเส้นชัย ....โห เป็นเนินด้วย ปั่นแล้วก็ปล่อยฟรี ปั่นแล้วก็ปล่อยฟรี คือแรงหมดจริงๆ สุดท้ายก็เข้าเส้นชัย av ประมาณ 18
จบงานนี้ติดครีตแล้วค่ะ หวังว่าจะสนุกกับการปั่นมากขึ้น ยังไม่ล้มนะคะ เพราะเตรียมตัวโดยการเลียนแบบคนที่บ้านเวลาที่เค้าปลดครีต เราปั่นตามหลังก็จะลองทำตาม ให้รู้ตัวอยู่เสมอเวลาเจอแยก เจอรถติด ช่วยได้ค่ะ แอบทำตามมาสักพัก เลยไม่ตื่นครีต ...^^
หลังจากนั้นเริ่มมีกำลังใจมองหาทริปปั่นเรื่อยๆ ได้ไปปั่นที่นครพนม อันนี้ไม่ได้แข่ง ปั่นท่องเที่ยว สนุกดีค่ะ จบงานนี้เปลี่ยนดุมล้อกับล้อใหม่ค่ะ เพราะตอนปั่นรถคันอื่นฟรีล้อเสียงดังขู่ ติดใจ อยากมีบ้าง ขาไม่แรงเอาเสียงสู้ (ทองไม่ได้อีกแล้วค่ะ เริ่มนับใหม่...จุดนี้เสียใจกว่าครั้งที่แล้วอีก)
และอีกครั้ง หนองกอมเกาะ ครอสคันทรี หนองคาย (แหน่ะ..เริ่มติดใจ หาที่ปั่นข้ามจังหวัดแล้วค่ะ) งานนี้เป็นงานแข่ง ผู้หญิงมีไม่กี่คน แต่ไม่หวังถ้วยเพราะรู้ตัวว่าขาอ่อน เริ่มออกสตาร์ท ป๊าดดดด...โท๊ะ......ไปลิ่วๆ กันเลย เราก็ไปของเราเรื่อยๆ ได้แซงบ้าง ระหว่างทางนับแต่สาวๆ ที่ปั่นด้วยกัน ว่าแซงมากี่คนแล้ว (กลัวรั้งท้ายในรุ่น 5555) เส้นทางขรุขระบ้าง หลุมบ่อบ้าง ที่สำคัญคือไม่รู้เส้นทาง ป้ายบอกทางโดนฝนซัดหาย เลยต้องเกาะกับคุณลุง (ไม่รู้ชื่อ...ขอโทษด้วยค่ะ) ไปกันสองคน ปั่นไปเกินครึ่งทางสักพัก ก็ปั่นจนทันคุณลุงเจ้าถิ่นคนนึง มีกลุ่มแล้ว 3 คนดีใจมาก แล้วมีรถบริการบอกว่า พอมั้ย รุ่นผู้หญิงเข้าไป 3 คนแล้ว ถ้วยไปหมดแล้ว เราก็ตอบว่า ไม่เป็นไรค่ะ จะปั่นจนเข้าเส้นชัย สักพัก คุณลุงเจ้าถิ่นบอกว่าลุงพอแล้วนะ ปั่นไปเองได้มั้ย รีบบอกเลยว่า คุณลุงขาหนูไม่รู้ทาง ลุงปั่นเป็นเพื่อนหนูหน่อย 5555 สุดท้ายก็จบการปั่นแบบได้ av 18.4 คุณลุงมาชมด้วยค่ะ ว่ามีใจปั่นจริงๆ (ไม่ได้ที่สุดท้ายนะคะ ขอบอก)
จบงานนี้ได้เปลี่ยนเบาะใหม่ค่ะ ไม่เจ็บก้นเลย แนะนำ
เมื่อมือใหม่ พยายามสร้างแรงจูงใจและแรงบันดาลในการปั่นจักรยาน ....ผู้หญิงอยากเล่า
เริ่มเข้าสู่การปั่นจากการคนที่บ้านปั่นก่อน โดนกระตุ้นมาหลายทียังไม่ใจอ่อน แล้วก็เริ่มยินยอมไปลองคร่อมจักรยานดู ใจอยากได้สีส้มดำ (ไม่เคยทำความรู้จักยี่ห้อใดๆ มาก่อน ตอนให้เลือก ก็พยายามส่องหาสีส้มดำราคาไม่แรง...ยังงกอยู่ เพราะคิดว่าเดี๋ยวก็คงต้องเอาไว้ตากผ้า) สุดท้ายได้ JAVA มาครอง และเริ่มมีแรงจูงใจตอนได้ไปส่งคนที่บ้านที่งานปั่นใจเกินร้อย ตื่นตาตื่นใจ คนเยอะมาก คุณลุงคุณป้า คุณตาคุณยาย อายุไม่เป็นปัญหา ยังสามารถปั่นได้ แล้วเราหล่ะ...ต้องกลับมาคิดใหม่แล้ว
เริ่มปั่นในมหาวิทยาลัยที่ทำงาน วนอยู่อย่างนั้น (มอไม่ใหญ่ปั่นแป๊บเดียวครบรอบแล้วค่ะ) ปั่นได้เกิน 10 กิโลดีใจมากมาย ตั้งเป้าหมายไว้ว่า ปั่นได้ครบพันกิโล คนที่บ้านต้องซื้อทองให้ ..ขอบอกว่ากำลังใจมาเต็มค่ะ
เริ่มปั่นออกสู่ถนนใหญ่ 20 กว่ากิโล ก็พอได้ แต่อากาศร้อนไม่ปั่น ขอเย็นๆถึงพลบค่ำพอได้ เวลาผ่านไป (ทองก็ยังไม่ได้ค่ะ เพราะโดนเปลี่ยนยางไปรอบ ปลดไมล์ออก เริ่มต้นใหม่...จุดนี้เสียใจมาก) เกือบครบปีมีงานปั่นขึ้นพระธาตุภูเพ็ก สอบถามเพื่อนๆ เพื่อนบอกว่าไม่ไกล 20 กว่ากิโล เราก็ดีใจไปกลับ 40 กว่ากิโล ได้พักครึ่งด้วย ไหวๆ ...แต่ความจริงคือรอบนี้ไปกลับได้ระยะปั่น 60 กว่ากิโลค่ะ....เหนื่อยแทบขาดใจ ปล่อยขาฟรีเรื่อยๆ av แค่ 16-17 แซงได้เฉพาะจักรยานแม่บ้าน นักปั่นยางแตก และนักปั่นเป็นตะคริว รอบนี้เรียนรู้ถึงการวางเท้าบนบันได พยายามจะทำให้ถูก
ถัดมาอีกเดือนมีงานใจเกินร้อยเวียนมาบรรจบ รอบปกติ 80 กว่ากิโล VIP 45กิโล ไม่สนค่ะ คิดว่าไม่ไหว กลัวเข้าทีหลังแล้วจะอาย แต่...(ชีวิตต้องมีจุดเปลี่ยนค่ะ).....ไปส่งคนที่บ้านสมัครเจอคุณลุงหลายๆ ท่าน ชวนให้มาปั่น ได้คุยกับคุณลุงคนนึงชื่อลุงตึ๋ง คุณลุงบอกว่า ไปภูเพ็กไหว ลง VIP ก็ปั่นได้อยู่แล้ว ลองมาดู ....(คิดในใจว่า...ครั้งนั้นหนูได้พักตั้งหลายรอบนะคะ...) ...ตัดสินใจ แล้วก็หาเพื่อนผู้หญิงด้วยกันอีกคนไปลงสมัครแบบ VIP
วันแข่งมาถึง ตื่นสนามมาก (ไม่รู้ว่าจะตื่นทำไม ทั้งๆ ที่ลง VIP) ตลอดทางเหนื่อย แต่ไม่เคยหยุด เพราะไม่มีใครหยุด และเป็นครั้งแรกที่ได้ลองรับขวดน้ำขณะปั่น ตื่นเต้นนะ กลัวรับพลาดแล้วอดค่ะ...พอเลยกิโลเมตรที่ 40 อากาศเริ่มร้อน เหนื่อย ขาไม่มีแรง สักพักเห็นเส้นชัย ....โห เป็นเนินด้วย ปั่นแล้วก็ปล่อยฟรี ปั่นแล้วก็ปล่อยฟรี คือแรงหมดจริงๆ สุดท้ายก็เข้าเส้นชัย av ประมาณ 18
จบงานนี้ติดครีตแล้วค่ะ หวังว่าจะสนุกกับการปั่นมากขึ้น ยังไม่ล้มนะคะ เพราะเตรียมตัวโดยการเลียนแบบคนที่บ้านเวลาที่เค้าปลดครีต เราปั่นตามหลังก็จะลองทำตาม ให้รู้ตัวอยู่เสมอเวลาเจอแยก เจอรถติด ช่วยได้ค่ะ แอบทำตามมาสักพัก เลยไม่ตื่นครีต ...^^
หลังจากนั้นเริ่มมีกำลังใจมองหาทริปปั่นเรื่อยๆ ได้ไปปั่นที่นครพนม อันนี้ไม่ได้แข่ง ปั่นท่องเที่ยว สนุกดีค่ะ จบงานนี้เปลี่ยนดุมล้อกับล้อใหม่ค่ะ เพราะตอนปั่นรถคันอื่นฟรีล้อเสียงดังขู่ ติดใจ อยากมีบ้าง ขาไม่แรงเอาเสียงสู้ (ทองไม่ได้อีกแล้วค่ะ เริ่มนับใหม่...จุดนี้เสียใจกว่าครั้งที่แล้วอีก)
และอีกครั้ง หนองกอมเกาะ ครอสคันทรี หนองคาย (แหน่ะ..เริ่มติดใจ หาที่ปั่นข้ามจังหวัดแล้วค่ะ) งานนี้เป็นงานแข่ง ผู้หญิงมีไม่กี่คน แต่ไม่หวังถ้วยเพราะรู้ตัวว่าขาอ่อน เริ่มออกสตาร์ท ป๊าดดดด...โท๊ะ......ไปลิ่วๆ กันเลย เราก็ไปของเราเรื่อยๆ ได้แซงบ้าง ระหว่างทางนับแต่สาวๆ ที่ปั่นด้วยกัน ว่าแซงมากี่คนแล้ว (กลัวรั้งท้ายในรุ่น 5555) เส้นทางขรุขระบ้าง หลุมบ่อบ้าง ที่สำคัญคือไม่รู้เส้นทาง ป้ายบอกทางโดนฝนซัดหาย เลยต้องเกาะกับคุณลุง (ไม่รู้ชื่อ...ขอโทษด้วยค่ะ) ไปกันสองคน ปั่นไปเกินครึ่งทางสักพัก ก็ปั่นจนทันคุณลุงเจ้าถิ่นคนนึง มีกลุ่มแล้ว 3 คนดีใจมาก แล้วมีรถบริการบอกว่า พอมั้ย รุ่นผู้หญิงเข้าไป 3 คนแล้ว ถ้วยไปหมดแล้ว เราก็ตอบว่า ไม่เป็นไรค่ะ จะปั่นจนเข้าเส้นชัย สักพัก คุณลุงเจ้าถิ่นบอกว่าลุงพอแล้วนะ ปั่นไปเองได้มั้ย รีบบอกเลยว่า คุณลุงขาหนูไม่รู้ทาง ลุงปั่นเป็นเพื่อนหนูหน่อย 5555 สุดท้ายก็จบการปั่นแบบได้ av 18.4 คุณลุงมาชมด้วยค่ะ ว่ามีใจปั่นจริงๆ (ไม่ได้ที่สุดท้ายนะคะ ขอบอก)
จบงานนี้ได้เปลี่ยนเบาะใหม่ค่ะ ไม่เจ็บก้นเลย แนะนำ