เตือนสาวๆที่กำลังมองหาโรงแรมจัดงานแต่ง

เกริ่นก่อนว่า เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องของเรา แต่เป็นเรื่องของเพื่อน
ที่ขอให้เรามาแชร์ให้ในพันทิป เรื่องเพิ่งเกิดสดๆร้อนๆเมื่อตอนบ่าย 3 วันนี้
และเพื่อนเราเพิ่งวางสายไป

ต้นเรื่อง คือ เพื่อนเราเคยไปเรียนเมืองนอก ที่นี้ก็มีตอนเรียนก็ไปรู้จักและสนิทสนม
กะพี่คนไทยที่นู่น แต่เพื่อนเรากลับมาก่อน ทีนี้พอพี่คนนั้นจะกลับมาแต่งงานที่ไทย
เลยไหว้วานให้เพื่อนติดต่อเซลส์โรงแรมขอดูห้องจัดเลี้ยง ซึ่งหนึ่งในโรงแรมที่ไปดู
ก็คือ โรงแรม A_T_S อยู่แถวลุมพินี เพื่อนเราก็ติดต่อให้ ขอราคา แล้วก็แจ้งเซลส์ A
ว่าจะขอไปชมห้องจัดเลี้ยง และโรงแรม เซลส์ A บอกให้เข้ามาดูวันเสาร์
เพราะวันอาทิตย์เค้าหยุด แต่พี่ที่จะแต่งว่างวันอาทิตย์วันเดียว ตอนที่บอกเพื่อนเรา
เพื่อนเราก็เลยบอกว่า ไม่เป็นไร ให้คนอื่นดูแลแทนก็ได้ ตัวเซลส์ A ก็บอกว่า
เดี๋ยวจะฝากเรื่องให้เซลส์คนอื่นดูแล แต่ถ้าจะคุยเรื่องราคา
ให้มาคุยกับเค้า เพื่อนเราก็รับทราบ แล้วเซลส์ A ก็ส่งรูปเยอะมาก พร้อมกับราคา
และเมนูมาให้ครบ แต่ที่ขาดคือ ราคาพิธีสงฆ์ เพราะพี่ที่จะแต่งเค้าไม่เอาพิธีสงฆ์
เพื่อนเราก็ฟอร์เวิร์ดต่อให้พี่ที่จะแต่งดู ก่อนมาชมสถานที่จริง

พอถึงวันจริง คือ วันนี้ เพื่อนเราก็บอกพี่ที่จะแต่งและแม่พี่เค้าว่า จะมีเซลส์มา
แต่เพื่อนเราก็ลืมบอกว่า แต่ถ้าจะคุยเรื่องราคาให้คุยกะเซลส์อีกคน ซึ่งเซลส์ B
คนที่พาดู ก็ดูแลดี บริการดีทุกอย่าง แต่ทีนี้ พอพี่ที่จะแต่ง ถามเรื่องราคาพิธีสงฆ์ขึ้นมา
เพราะตอนหลัง แม่พี่เค้าอยากให้จัดพิธีสงฆ์ด้วย เซลส์ B ก็บอกว่า ต้องไปถามเซลส์A
พอถามรายละเอียดอื่นๆ ว่ามีนั่นนี่ไหม เค้าก็บอกให้ถามเซลส์A ซึ่งทางเพื่อนเราทุกคนก็
ไม่ได้อะไร ทีนี้พี่ที่จะแต่ง กับแม่เค้าก็เลยจะขอนัดคุยกับเซลส์ A วันจันทร์ไม่ก็อังคาร
เพราะเค้าลางานได้แค่นั้น ก็อยากคุย อยากจัดการงานให้เสร็จทีเดียว ก่อนกลับเมืองนอก
เซลส์ B ก็บอกว่า เซลส์ A ต้องไปออกบูธวันพรุ่งนี้ และวันอังคารก็ลาหยุด คงมาคุยด้วยไม่ได้
แต่จะบอกให้เซลส์ A โทรหาทันที ทุกคนก็รับทราบ แต่ก็แค่รู้สึกว่า เค้าทำเหมือนลูกค้า
เป็น second priority ดูไม่ได้กระตือรือร้นที่จะขาย เพราะบอกปัดเวลาที่ลูกค้าขอนัด
แต่ก็พอเข้าใจว่า เซลส์ A คงอยากพักผ่อนบ้าง

เรื่องเหมือนจะจบลงด้วยดี... แต่...

หลังจากนั้น พอเพื่อนเราเตรียมจะขับรถออกจากโรงแรม พร้อมพี่ที่จะแต่งงานและแม่
ก็มีโทรศัพท์โทรเข้ามาจากเซลส์ A ตอนนั้นทุกคนก็คิดว่า ดีเนอะ อย่างน้อยเค้าก็ดูกระตือรือร้น
แต่พอเซลส์ A พูดเท่านั้นแหละ ทุกอย่างเปลี่ยนเลย

เซลส์ A ถามพี่ที่จะแต่ง ซึ่งนั่งอยู่ข้างเพื่อนเราที่กำลังจะขับรถ ด้วยเสียงดังพอสมควร
จนเพื่อนเราได้ยินลอดมือถือมา จับประเด็นได้ว่า

เซลส์ A    :    คนที่โทรมาจองขอชมโรงแรมเป็นใครค่ะ
พี่ที่จะแต่ง :    เป็นรุ่นน้อง

พอเซลส์ Aรู้ว่าเป็นรุ่นน้องเท่านั้นแหละ เริ่มด่าเพื่อนเราให้พี่ที่จะแแต่งฟังเลย
เพื่อนบอกน้ำเสียงเลวร้ายมาก และมันดังออกมาจนเพื่อนเราได้ยินชัดเจน

เซลส์ A   :     ตอนที่คุยกับคนที่มาติดต่อ ก็แจ้งเค้าไปแล้วว่า ให้มาวันเสาร์
                   เพราะวันเสาร์มีงานแต่ง จะมาทำงานอยู่แล้ว แต่วันอาทิตย์หยุด
                   เค้าก็บอกว่า ได้ค่ะ ไม่เป็นไร ก็บอกเค้าไปแล้ว บลาๆ

เพื่อนเราก็จำคำพูดเค้าได้ไม่หมด แต่สรุปได้ว่า โทรมาด่าเพื่อนเราเต็มๆ
แล้วก็โยนความผิดให้เพื่อนเรา  ซึ่งเซลส์ไม่รู้ว่านั่งอยู่ข้างๆ พี่ที่จะแต่งงาน
เลยพูดแต่ว่า "สงสัยสื่อสารกันผิดพลาดมั้งค่ะ"

แต่เพื่อนเราก็เป็นคนไม่ยอมคนอยู่แล้ว ก็เลยขอคุยด้วย แล้วสวนกลับเลย

เพื่อน:    นี่เป็นคนที่ติดต่อกับคุณวันนั้นนะค่ะ ขอชี้แจงหน่อยนะค่ะว่า
ไม่ได้ว่าอะไรเลยเรื่องที่คุณไม่มาวันนี้ เพราะรู้อยู่แล้วว่า คุณจะไม่มาวันนี้
ทราบตั้งแต่ต้น ไม่ได้ว่าอะไรเลยด้วยซ้ำ และไม่ได้ไม่พอใจด้วยที่
คุณไม่มาวันนี้ ไม่ได้มีใครมีปัญหาอะไรทั้งนั้น  

ซึ่งเซลส์A นางก็ขอโทษเพื่อนเรานะ แล้วเพื่อนเราก็วางสายไป
แบบเซ็งจิตมากว่า ด่าชั้นทำไม แต่สรุปว่า จากการกระทำของเซลส์ A ครั้งนี้
ทำให้ทุกคนยกเลิกที่จะแต่งงานโรงแรมนี้ แต่ไปเลือกโรงแรมที่แพงกว่า
แต่ไม่โทรกลับมาด่าลูกค้าแบบนี้ และจริงๆโรงแรมนี้ เป็นโรงแรมที่เพื่อนเรา
คนที่โดนด่า กำลังเล็งว่าถ้าเค้าบริการดี อาจจะเสนอให้บริษัทจัดให้พนักงาน
จากบริษัทแม่ที่ต่างประเทศมาพัก เวลาที่มาทำงานที่เมืองไทย
แต่พอเจอแบบนี้ เพื่อนเราก็ไม่เอาแล้ว แล้วบริษัทอื่นๆในเครือบริษัทเพื่อเรา
ก็คงไม่ใช้บริการด้วย เพราะเครือข่ายเค้าก็ถึงกัน แม้แต่ตัวเราเอง เราก็คงไม่กล้า
ใช้บริการเหมือนกัน เพราะพนักงานไม่ได้บริการแย่นะ แต่คุณธรรมอ่ะแย่
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่