ตุ๊ดไทยในต่างแดน : ตอนที่ 1 ฟ้าจะบิน ! ฟ้าเสียตังค์แล้วฟ้าต้องได้บิน
เมื่อตุ๊ดไทยก้าวไกลสู่ต่างแดน
ตุ๊ดไทยจะเอาตัวรอดได้ไหม?
จะถูกคนที่นู่นกลั่นแกล้งหรือเปล่า?
จะได้หิ้วผัว ฝ กลับมาบ้านไหม?
กระทู้นี้มีคำตอบค่ะ
นี่เป็นเรื่องราวที่อิฉันประสบพบพานมากับตัวเองและผองเพื่อนและอยากจะนำมาแชร์ต่อถึงความมโนของ Work & Travel ที่ใครต่อใครอวยว่าดีนักดีหนา และการตบตีเอาตัวรอดจากฝรั่งต่างแดนอย่างไฟแลบด้วยภาษาอังกฤษสำเนียงไทย และความอัดอั้นตันใจกับความวัลลาบีของตัวอิฉันเอง
ปล. 1 ลำดับเรื่องจะงงหน่อยนะคะ บางเรื่องเรียงตามชื่อตอน แต่จะพยายามเรียงตามลำดับเวลาก่อนหลัง
ปล. 2 จะมีคำแสลง และคำก้าวร้าวๆ นิดๆ หน่อยๆ เพื่ออรรถรสในการอ่าน อันไหนงง อันไหนแรงไปบอกได้นะเจ้าคะ
ปล.3 เรื่องไหนที่อิฉันทำไม่ถูก แต่อิฉันมั่นหน้าว่าอิฉันถูกก็โปรดตักเตือนด้วยค่ะ อิฉันยังเด็กนัก
เริ่มค่ะ !!!
Work and Travel ทุกคนเคยได้ยินกันใช่ไหมคะ ? จะผ่านหูจากเพื่อน จากลูกหลานตัวเอง วงศาคณาญาติโกโหติกา สรรพชีวิตในกงสีที่ล้วนแต่มาโพนทะนาให้ฟังว่ามันดีอย่างนั้น อย่างนี้ ลูกบ้านนั้นไปทำมาได้เงินเก็บกลับมาบ้านเป็นแสนโน่นนี่ก็ว่ากันไป อะไรดีบุ๋มก็ว่าดีค่ะ อิฉันเองก็เป็นคนหนึ่งที่สนใจ แต่ก็ไม่คิดจะหาเรื่องใส่ตัว เพราะขี้เกียจแพคกระเป๋าไปปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อมที่นู่น จนกระทั่งเพื่อนมาชวนไป แล้วให้สมัครจ่ายเงินจองเลยเพื่อส่วนลดพิเศษของค่าโครงการ
เราก็ถามนะ เดินทางเดือนไหน...
"ปีหน้าอะยูว" เพื่อนสาวตอบดิฉัน
ดีออก!!! ปีหน้า Eหอยหลอด จองวันนี้เดินทางปีหน้า ขอบคุณค่ะ!
คือประเด็นอะ เพื่อนสาวคนนี้ ติ๊ต่างว่านางชื่อบีละกัน (นางเป็นตุ๊ดเหมือนกัน) นางหาคนไปด้วยเพราะนางไม่ค่อยคล่องภาษาปะกิดแถมเอาตัวรอดไม่ค่อยได้ แล้วคืออิฉันเป็นเพื่อนสนิทนางมาตั้งแต่ ป.5 จนปี 4 มหา'ลัยเรียนอินเตอร์มาด้วยกัน นางฟังออก แต่นางไม่กล้าพูด ขณะที่อิฉันมีจริตเวเนฯ (บุคลิกแรดเบอร์สิบ) ค่อนข้างจะกล้าพูดกับ ฝ ได้ เราก็เออแบบ ไปก็ไปวะ โอนเงิน สัมภาษณ์กับเอเจนซี่ สัมภาษณ์วีซ่า จากงวดแรกโอนจองแค่ 3 พัน จ่ายไปเรื่อยๆ รอบสองสี่หมื่นกว่า รอบสาม 9,500 ค่าตั๋วเครื่องบินไปกลับอีก 45,000 โอ้ยยยย จะบ้า!!! เก้วสติมาก รวมๆ กันก็แสนนิดๆ ละนะ ขนาดยังไม่รวมค่าบ้านพักที่นู่นนะ
ในใจ คีบับ...
เฮลโหลยูว จะคุ้มไหมอะ ?
ถามเพื่อนที่เคยไปกับเอเจนซี่นี้ นางบอกว่า คุ้มนะ ถ้าใช้ไม่เปลืองหักลบทั้งหมดแล้วก็กำไรประมาณ 7 หมื่นอะ แต่ต้องทำ Second Job (ทำงานที่สองนอกเหนือจากที่เอเจนซี่จัดหาให้) นะ ไม่งั้นไม่น่ามีกำไรกลับ
เอาล้าวววววววววว ดีออก เอาล้าวววววววววว แค่ฟังก็ดูจะครึ้มฟ้าครึ้มฝนละ จ่ายเป็นแสน ทำงานจะได้มาสักกี่หมื่น
ปัญหาต่อไปคือ "ยังไม่มีบ้านอยู่!!!"
อีกล้าววววววว E บี นางไม่อยากอยู่บ้านของที่เอเขนซี่จัดให้ เพราะแพงมาก คิดราคา 440 เหรียญต่อเดือน ค่าน้ำไฟแยก มีค่าประกันอีกสองหมื่นกว่าบาทซึ่งไม่คืนให้ แถมห้องนึงอยู่กันแบบ เหมือนคอนโดหนึ่งห้อง แต่อยู่กันสิบคนเง้ เอาเปรียบกันมากอะ !!! นี่จะไม่ทน เลยตกลงกันว่าจะหาที่อยู่เอง ทุลักทุเล หาที่อยู่บ้าน โทรทางไกลไปถาม จนแล้วจนรอด เพื่อนที่เคยไปก็บอกว่าเมืองที่ไปมีป้าคนไทยอยู่คนนึง ลองติดต่อนางดู เผื่อนางจะรู้จักบ้านเช่า ติดต่อปุ๊บ ฟ้ามาโปรดค่ะ
"มาอยู่บ้านป้าก็ได้ลูก ป้าคิดไม่แพงหรอก"
ได้ที่พัก 5 วันก่อนเดินทาง นึกว่าต้องไปเป็นตุ๊ดเร่ร่อนซะละ จนแล้วจนรอดถึงวันเดินทางทุกอย่างดูราบรื่นดี ยกเว้น ตม. นางลำไยมากกกกก เปิดกระเป๋า ถอดเข้าถอดออก คือนี่เอาโน้ตบุ้คไปง้ะ จบ Graphic Design มา กะยังรับงานอื่นอยู่ แล้วก็ไม่ไว้ใจให้โหลดลงใต้เครื่อง กลัวออกมาเป็นเศษเหล็กพร้อมส่งเชียงกง ก็หิ้วขึ้นเครื่องไป หนักก็หนัก ใส่กระเป๋าก็ยาก แถมมีเปลี่ยนเครื่องตั้งสามรอบ จากกรุงเทพ ไป ฮ่องกง จากฮ่องกง ไปดาลลัส จากดาลลัส ไปฟลอริดา เพลียใจค่ะ !
ตอนนั่งบนเครื่องรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นห่านทำฟัวกราส์ ถูกล็อคกับที่นั่งชั้นประหยัด นั่งดูหนังมั่ง นอนมั่ง ถึงเวลาก็มีแอร์ฯ เดินเข็นรถต๊อกแต๊กมาให้น้ำ ให้อาหาร เป็นแบบนี้ถึง 24 ชั่วโมงเต็มๆ
ระหว่างรอเปลี่ยนเครื่องที่สนามบิน ก็หิวโนะ เลยหาไรกินก่อน มีให้เลือกเยอะมากกกก ไม่รู้จักสักร้าน เดินไปเดินมาก็จบที่แมคโดนัลด์ คือมาไกลมาก อยากหาอะไรที่มันดูเป็นเทรดิชั่นนอลเข้าท้อง จบมื้อแรกที่แมคโดนัลด์ ขอบคุณค่ะ
มีเรื่องจะมอยส่งท้ายตอนแรกคือ นั่งคู่เพื่อนสาวบนเครื่องบิน ฟีลแบบปรับเอนเบาะนอนทั้งคู่ พอเครื่องจะ Landing ป้าแอร์แหม่มก็เดินมาปลุกบอกให้ปรับเบาะตั้งขึ้น (แอร์ฝั่งนี้ส่วนมากจะเป็นป้าๆ ไม่ได้สาวๆ เหมือนฝั่งเรา)
นางยิ้มสรวล อุทานอย่างมั่นใจว่า
"Oh! You are couple." (ว้าว! คุณเป็นแฟนกันสินะ)
.
.
.
couple พ่อng !!!
คือก็เข้าใจนะว่า E บี นางเคยเป็นตุ๊ดเด็กเทคยาคุมมาตั้งแต่สมัยหัวโปก นมก็พุ่ง หน้าก็หวาน แต่นางแต่งตัวปกตินะ ไม่แต่งหญิง แต่หน้านี่ค่อนข้างแมน เดินก็แมน แต่อินเนอร์เซเลอร์มูนน้อยเว่อ ป้าแหม่มนางก็คงเข้าใจว่านี่เป็นผัว E บี
เฮ้อออออออออออออออออ !!! ถอนใจยาว กลอกตาบน
ตุ๊ดไทยในต่างแดน : ชีวิตเลิศๆ เชิดๆ ใน'เมกา
ตุ๊ดไทยจะเอาตัวรอดได้ไหม?
จะถูกคนที่นู่นกลั่นแกล้งหรือเปล่า?
จะได้หิ้วผัว ฝ กลับมาบ้านไหม?
กระทู้นี้มีคำตอบค่ะ
ปล. 1 ลำดับเรื่องจะงงหน่อยนะคะ บางเรื่องเรียงตามชื่อตอน แต่จะพยายามเรียงตามลำดับเวลาก่อนหลัง
ปล. 2 จะมีคำแสลง และคำก้าวร้าวๆ นิดๆ หน่อยๆ เพื่ออรรถรสในการอ่าน อันไหนงง อันไหนแรงไปบอกได้นะเจ้าคะ
ปล.3 เรื่องไหนที่อิฉันทำไม่ถูก แต่อิฉันมั่นหน้าว่าอิฉันถูกก็โปรดตักเตือนด้วยค่ะ อิฉันยังเด็กนัก
เริ่มค่ะ !!!
Work and Travel ทุกคนเคยได้ยินกันใช่ไหมคะ ? จะผ่านหูจากเพื่อน จากลูกหลานตัวเอง วงศาคณาญาติโกโหติกา สรรพชีวิตในกงสีที่ล้วนแต่มาโพนทะนาให้ฟังว่ามันดีอย่างนั้น อย่างนี้ ลูกบ้านนั้นไปทำมาได้เงินเก็บกลับมาบ้านเป็นแสนโน่นนี่ก็ว่ากันไป อะไรดีบุ๋มก็ว่าดีค่ะ อิฉันเองก็เป็นคนหนึ่งที่สนใจ แต่ก็ไม่คิดจะหาเรื่องใส่ตัว เพราะขี้เกียจแพคกระเป๋าไปปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อมที่นู่น จนกระทั่งเพื่อนมาชวนไป แล้วให้สมัครจ่ายเงินจองเลยเพื่อส่วนลดพิเศษของค่าโครงการ
เราก็ถามนะ เดินทางเดือนไหน...
"ปีหน้าอะยูว" เพื่อนสาวตอบดิฉัน
ดีออก!!! ปีหน้า Eหอยหลอด จองวันนี้เดินทางปีหน้า ขอบคุณค่ะ!
คือประเด็นอะ เพื่อนสาวคนนี้ ติ๊ต่างว่านางชื่อบีละกัน (นางเป็นตุ๊ดเหมือนกัน) นางหาคนไปด้วยเพราะนางไม่ค่อยคล่องภาษาปะกิดแถมเอาตัวรอดไม่ค่อยได้ แล้วคืออิฉันเป็นเพื่อนสนิทนางมาตั้งแต่ ป.5 จนปี 4 มหา'ลัยเรียนอินเตอร์มาด้วยกัน นางฟังออก แต่นางไม่กล้าพูด ขณะที่อิฉันมีจริตเวเนฯ (บุคลิกแรดเบอร์สิบ) ค่อนข้างจะกล้าพูดกับ ฝ ได้ เราก็เออแบบ ไปก็ไปวะ โอนเงิน สัมภาษณ์กับเอเจนซี่ สัมภาษณ์วีซ่า จากงวดแรกโอนจองแค่ 3 พัน จ่ายไปเรื่อยๆ รอบสองสี่หมื่นกว่า รอบสาม 9,500 ค่าตั๋วเครื่องบินไปกลับอีก 45,000 โอ้ยยยย จะบ้า!!! เก้วสติมาก รวมๆ กันก็แสนนิดๆ ละนะ ขนาดยังไม่รวมค่าบ้านพักที่นู่นนะ
ในใจ คีบับ...
เฮลโหลยูว จะคุ้มไหมอะ ?
ถามเพื่อนที่เคยไปกับเอเจนซี่นี้ นางบอกว่า คุ้มนะ ถ้าใช้ไม่เปลืองหักลบทั้งหมดแล้วก็กำไรประมาณ 7 หมื่นอะ แต่ต้องทำ Second Job (ทำงานที่สองนอกเหนือจากที่เอเจนซี่จัดหาให้) นะ ไม่งั้นไม่น่ามีกำไรกลับ
เอาล้าวววววววววว ดีออก เอาล้าวววววววววว แค่ฟังก็ดูจะครึ้มฟ้าครึ้มฝนละ จ่ายเป็นแสน ทำงานจะได้มาสักกี่หมื่น
ปัญหาต่อไปคือ "ยังไม่มีบ้านอยู่!!!"
อีกล้าววววววว E บี นางไม่อยากอยู่บ้านของที่เอเขนซี่จัดให้ เพราะแพงมาก คิดราคา 440 เหรียญต่อเดือน ค่าน้ำไฟแยก มีค่าประกันอีกสองหมื่นกว่าบาทซึ่งไม่คืนให้ แถมห้องนึงอยู่กันแบบ เหมือนคอนโดหนึ่งห้อง แต่อยู่กันสิบคนเง้ เอาเปรียบกันมากอะ !!! นี่จะไม่ทน เลยตกลงกันว่าจะหาที่อยู่เอง ทุลักทุเล หาที่อยู่บ้าน โทรทางไกลไปถาม จนแล้วจนรอด เพื่อนที่เคยไปก็บอกว่าเมืองที่ไปมีป้าคนไทยอยู่คนนึง ลองติดต่อนางดู เผื่อนางจะรู้จักบ้านเช่า ติดต่อปุ๊บ ฟ้ามาโปรดค่ะ
"มาอยู่บ้านป้าก็ได้ลูก ป้าคิดไม่แพงหรอก"
ได้ที่พัก 5 วันก่อนเดินทาง นึกว่าต้องไปเป็นตุ๊ดเร่ร่อนซะละ จนแล้วจนรอดถึงวันเดินทางทุกอย่างดูราบรื่นดี ยกเว้น ตม. นางลำไยมากกกกก เปิดกระเป๋า ถอดเข้าถอดออก คือนี่เอาโน้ตบุ้คไปง้ะ จบ Graphic Design มา กะยังรับงานอื่นอยู่ แล้วก็ไม่ไว้ใจให้โหลดลงใต้เครื่อง กลัวออกมาเป็นเศษเหล็กพร้อมส่งเชียงกง ก็หิ้วขึ้นเครื่องไป หนักก็หนัก ใส่กระเป๋าก็ยาก แถมมีเปลี่ยนเครื่องตั้งสามรอบ จากกรุงเทพ ไป ฮ่องกง จากฮ่องกง ไปดาลลัส จากดาลลัส ไปฟลอริดา เพลียใจค่ะ !
ตอนนั่งบนเครื่องรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นห่านทำฟัวกราส์ ถูกล็อคกับที่นั่งชั้นประหยัด นั่งดูหนังมั่ง นอนมั่ง ถึงเวลาก็มีแอร์ฯ เดินเข็นรถต๊อกแต๊กมาให้น้ำ ให้อาหาร เป็นแบบนี้ถึง 24 ชั่วโมงเต็มๆ
ระหว่างรอเปลี่ยนเครื่องที่สนามบิน ก็หิวโนะ เลยหาไรกินก่อน มีให้เลือกเยอะมากกกก ไม่รู้จักสักร้าน เดินไปเดินมาก็จบที่แมคโดนัลด์ คือมาไกลมาก อยากหาอะไรที่มันดูเป็นเทรดิชั่นนอลเข้าท้อง จบมื้อแรกที่แมคโดนัลด์ ขอบคุณค่ะ
มีเรื่องจะมอยส่งท้ายตอนแรกคือ นั่งคู่เพื่อนสาวบนเครื่องบิน ฟีลแบบปรับเอนเบาะนอนทั้งคู่ พอเครื่องจะ Landing ป้าแอร์แหม่มก็เดินมาปลุกบอกให้ปรับเบาะตั้งขึ้น (แอร์ฝั่งนี้ส่วนมากจะเป็นป้าๆ ไม่ได้สาวๆ เหมือนฝั่งเรา)
นางยิ้มสรวล อุทานอย่างมั่นใจว่า
"Oh! You are couple." (ว้าว! คุณเป็นแฟนกันสินะ)
.
.
.
couple พ่อng !!!
คือก็เข้าใจนะว่า E บี นางเคยเป็นตุ๊ดเด็กเทคยาคุมมาตั้งแต่สมัยหัวโปก นมก็พุ่ง หน้าก็หวาน แต่นางแต่งตัวปกตินะ ไม่แต่งหญิง แต่หน้านี่ค่อนข้างแมน เดินก็แมน แต่อินเนอร์เซเลอร์มูนน้อยเว่อ ป้าแหม่มนางก็คงเข้าใจว่านี่เป็นผัว E บี
เฮ้อออออออออออออออออ !!! ถอนใจยาว กลอกตาบน