ข้าบดินทร์ ครบรสดีนะ

ปกติเป็นคนที่นิยมดูละครที่เจืออารมณ์ขันอย่างชาญฉลาดอยู่แล้ว แต่ละครพีเรียด (ซึ่งเพิ่งเริ่มมาดูจริงจังตอนลูกทาส) โดยเฉพาะประเภทอิงประวัติศาสตร์รักชาติ โทนจะค่อนข้างซีเรียสจริงจัง ในความรู้สึกน่ะนะ แต่เราก็ดูละครประเภทนี้เพื่อประเทืองปัญญาอยู่แล้วเลยไม่ได้คิดหาอารมณ์ขันอยู่แล้ว ก็เลยไม่ได้ติดขัดอะไร

สิ่งที่ดึงดูดให้มาดูละครเรื่องข้าบดินทร์ในตอนแรกจริงๆคือ ช้าง เนื่องจากหนังพระเนศวรเราก็ไม่เคยดู เราเลยอยากเห็นฉากรบช้างในละคร แล้วก็สมใจและออกจะเกินคาดไปด้วยซ้ำ ที่ละครเสนอแง่มุมความผูกพันของคนกับช้างเข้าไปอีก มิใช่เพียงแค่ล่าเขามา (ซึ่งก็เพิ่งเคยเห็นวิธีการล่าช้างที่นี่อีก) พาไปศึกจบก็แยกย้ายกลับบ้านคนก็รับตำแหน่งไป แต่นี่พระเอกต้องเสี่ยงไปเอายามาปรุงรักษาช้าง จนกระทั่งดีใจช้างจะมีลูกเลยทีเดียว

นี่คือรสชาดที่หนึ่งที่หวังจะได้จากเรื่องนี้ และก็ได้มาเต็มๆอิ่มปลื้มปริ่มใจ

รสชาดที่สอง การต่อสู้ที่แปลกตา ออกตัวก่อนนะว่าไม่ได้ดูละครแบบนี้เยอะ คนอื่นอาจจะเคยเห็นแต่เราไม่เคย เช่น ดาบอาทมาฎ การสู้กับญวน ปกติเห็นแต่พม่า ตอนที่พวกญวนเปลี่ยนจากดาบที่ฟันพ่อเหมไม่เข้าเป็นลูกตุ้มเหล็กอีก อันนั้นก็ไม่เคยเห็น นึกว่าจะมีแค่หอก ดาบ ธนู เสียอีก และที่แปลกตาคือ ภาพในสนามรบที่ดูยิ่งใหญ่ในสเกลละคร ด้วยมุมกล้องและเทคนิคสโลว์โมชั่น ชอบมาดขี่ม้าของเจ้าพระยาบดินทร์ที่ฟันดาบไปด้วยมาก สวยสมการสโลว์

รดชาดที่สาม ความรัก ความเกลียด ที่แสดงออกน้อยแต่ได้มาก ต้องยกนิ้วให้นักแสดงทุกคนที่เข้าถึงบทบาท อาจเพราะคนสมัยก่อนมักจะเก็บความรู้สึกไว้ไม่ได้แสดงออกทางกายมากนัก เราจึงนักแสดงทุกคนส่งผ่านความรู้สึกทางสายตาได้อย่างกินใจ พระยาบริรักษ์ที่รักแบบไม่สปอยล์ลูกก็จะมีสายตาแบบหนึ่ง เข้มดุแต่แลดูอ่อนโยน พ่อเหมตอนตกต่ำแอบประทับใจเจ้าลำดวนอยู่เงียบๆ เราแอบรู้สึกเหมือนมีไฟอุ่นๆมาลามเลีย ๕๕ สายตาเทอดทูนของเจ้าลำดวนต่อพ่อเหมดูช่างบริสุทธิ์นัก และที่กำลังมาแรง สายตาของแม่บัว ยิ้มหวานๆคำพูดเพราะๆแต่ตาแอบบอกทุกความรู้สึกข้างในถึงความไม่จริงใจ ชอบตัวร้ายแบบทีวีซีนที่ไม่ดูร้ายโจ่งแจ้ง คนแบบนี้แหละยิ่งดูแล้วยิ่งไม่ชอบเพราะทำเหมือนไม่รู้ตัวว่าตัวเองร้าย

รสชาดสุดท้ายที่ทำให้ละครเรื่องนี้ครบรส สำหรับเรา คือ อารมณ์ขันของบทที่มาพร้อมคาแรกเตอร์ของตัวละคร แม้แต่ตอนที่เจ้าพระยาบดินทร์สั่งลงโทษพระยาปลัด เราก็ยังขำได้ ด้วยเพราะนักแสดงเจ้าพระยาท่านยิ้มพร้อมพูดว่า ได้ ข้าจะลดโทษให้ แต่แล้วก็เปลี่ยนสีหน้าออกคำสั่งเอาไปตัดหัว ๕๕ ตัวละครที่ทำให้เราขำได้ตลอดคือ ท่านขุนนาฎโกศลยิ่งผสมโรงกับแม่ปิ่นตอนที่มีหมื่นพิชิตด้วยแล้วยิ่งไปกันใหญ่ เวลาหมื่นมาเยี่ยมแล้วก็พรวดพราดออกไป สองคนนี้ก็จะทำหน้างงพร้อมเหน็บให้เป็นที่น่าขันยิ่ง "นี่บ้านมันหรือบ้านฉัน" หรือเวลาหมื่นมาคุยแล้วทุกคนทำหน้าแบบว่า ไม่รู้ตัวเองอีกว่าเขารำคาญ ๕๕ แม่หุ่นก็ไม่ใช่แค่ตามนางเอกต้อยๆนางก็มีบทพูดขำขันเยอะ ยิ่งเวลาเถียงกับหมื่นยังกะเป็นอีกคู่จิ้นหนึ่ง ไหนจะควาญช้างสองคนที่ตาฟางกะหูตึงนั่นอีกเข้าขากันดีแท้

จบละ ว่าจะเขียนเกี่ยวกับอารมณ์ขันของเรื่องนี้ ทำไมร่ายยาวมาถึงนี่ ป๊าาาดดด จะมีใครอ่านถึงบรรทัดนี้ไหม
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่