Little Forest : Winter & Spring เป็นตอนต่อจาก Summer & Autumn การดำเนินเรื่องยังคงเล่าผ่านอาหารและวัตถุดิบที่ทำเอาน้ำหลายสอเหมือนในตอนก่อน เพียงแต่ตอนนี้อาจมีความแตกต่างไปบ้างเล็กน้อย
สำหรับ Winter & Spring แม้จะเล่าเรื่องผ่านเมนูอาหารเหมือนเดิมแต่ดูเหมือนหนังจะโฟกัสไปที่การเติบโตของตัวเอกอย่างอิชิโกะมากขึ้นและสอดแทรกมุกตลกที่ทำให้มีชีวิตชีวามากขึ้น อาหารในตอนนี้จึงไม่ทำให้น้ำลายสอเท่าตอนแรก (แต่ก็สออยู่ดี) หนังพยายามคลี่คลายปมในใจอิชิโกะและวิถีชีวิตแบบชนบท (หรือเราอาจจะคุ้นเคยมากกว่าถ้าเรียกว่า Slow life) ว่ามันสามารถแก้ปัญหาชีวิตได้จริงๆ หรือ?
อิชิโกะมาอยู่ชนบทเพราะ "หนี" ปัญหาจากในเมือง โดยหวังว่าบ้านเกิดในชนบทจะช่วยเยี่ยวยาจิตใจ เพียงแต่ปัญหาที่อยู่ในใจใช่ว่าแค่เปลี่ยนที่อยู่แล้วจะคลี่คลาย นั่นเลยอาจทำให้อิชิโกะเริ่มรู้สึกว่าแม้จะใช้ชีวิตได้อย่างสบายๆ ไม่ต้องเร่งรีบ ผู้คนเป็นมิตร แต่นั้นก็เป็นคนละเรื่องกับความสุข เพราะต่อให้กายสุขสบายเพียงใด หัวใจที่ยังกลวงปล่าว ไร้คำตอบและจุดหมายนั่นต่างหากที่ทำให้แปลกแยกและไม่ได้รับการเติมเต็ม หรือจะกล่าวโดยสรุปก็คืออิชิโกะไม่ได้เต็มใจมาอยู่ที่บ้านเกิด เพียงแต่ถูกบังคับให้หนีมาด้วยปัญหาบางอย่าง ด้วยเหตุนี้ไม่ว่าจะอยู่แห่งไหนก็คงไม่เป็นสุข จนสุดท้ายอิชิโกะจึงตัดสินใจที่จะคลี่คลายความเว้าแหว่งในหัวใจ และกลายเป็นคนใหม่ หนังในตอนนี้จึงเป็น Coming of Age ของตัวละครอย่างอิชิโกะและคงเป็นชีวิตจริงของอีกหลายๆ คนให้กลับมาพิจารณาว่าตัวเองชอบวิถีชีวิตที่ตัวเองทำอยู่จริงๆ หรือเพราะหนีมาจากอีกวิถีชีวิตหนึ่งกันแน่
ดูจนจบครบทั้ง 4 ฤดูกาล ถึงเพิ่งรู้สึกตัวว่านี่คือหนังปรัชญาชีวิต
ชีวิตมนุษย์หมุนเวียนผ่านฤดูกาลทั้งสี่ Summer-Autumn-Winter-Spring อย่างซ้ำแล้วซ้ำเล่า ในทุกๆ ปี หากดูอย่างผิวเผินจากด้านบนคงคล้ายมนุษย์เดินหมุนเป็นวงกลมอยู่ในวัฏจักรแห่งชีวิตนี้อย่างไม่รู้จบ แต่หากมองให้ละเอียดขึ้นจะพบว่า แท้จริงแล้วไมใช่แบบนั้น มนุษย์หมุนวนก็จริง แต่หมุนอย่างเกลียว เพราะทุกครั้งที่หมุนวน ในระหว่างที่สะดุดหกล้ม พวกเราต่างเรียนรู้และเติบโตขึ้น
"เราอาจหมุนวนเช่นเดิมแต่ไม่ใช่เราคนเดิมที่เดินอยู่ในวัฏจักรแห่งชีวิตนั้น"
Little Forest : Winter & Spring ,ฤดูกาลแห่งการเติบโต
สำหรับ Winter & Spring แม้จะเล่าเรื่องผ่านเมนูอาหารเหมือนเดิมแต่ดูเหมือนหนังจะโฟกัสไปที่การเติบโตของตัวเอกอย่างอิชิโกะมากขึ้นและสอดแทรกมุกตลกที่ทำให้มีชีวิตชีวามากขึ้น อาหารในตอนนี้จึงไม่ทำให้น้ำลายสอเท่าตอนแรก (แต่ก็สออยู่ดี) หนังพยายามคลี่คลายปมในใจอิชิโกะและวิถีชีวิตแบบชนบท (หรือเราอาจจะคุ้นเคยมากกว่าถ้าเรียกว่า Slow life) ว่ามันสามารถแก้ปัญหาชีวิตได้จริงๆ หรือ?
อิชิโกะมาอยู่ชนบทเพราะ "หนี" ปัญหาจากในเมือง โดยหวังว่าบ้านเกิดในชนบทจะช่วยเยี่ยวยาจิตใจ เพียงแต่ปัญหาที่อยู่ในใจใช่ว่าแค่เปลี่ยนที่อยู่แล้วจะคลี่คลาย นั่นเลยอาจทำให้อิชิโกะเริ่มรู้สึกว่าแม้จะใช้ชีวิตได้อย่างสบายๆ ไม่ต้องเร่งรีบ ผู้คนเป็นมิตร แต่นั้นก็เป็นคนละเรื่องกับความสุข เพราะต่อให้กายสุขสบายเพียงใด หัวใจที่ยังกลวงปล่าว ไร้คำตอบและจุดหมายนั่นต่างหากที่ทำให้แปลกแยกและไม่ได้รับการเติมเต็ม หรือจะกล่าวโดยสรุปก็คืออิชิโกะไม่ได้เต็มใจมาอยู่ที่บ้านเกิด เพียงแต่ถูกบังคับให้หนีมาด้วยปัญหาบางอย่าง ด้วยเหตุนี้ไม่ว่าจะอยู่แห่งไหนก็คงไม่เป็นสุข จนสุดท้ายอิชิโกะจึงตัดสินใจที่จะคลี่คลายความเว้าแหว่งในหัวใจ และกลายเป็นคนใหม่ หนังในตอนนี้จึงเป็น Coming of Age ของตัวละครอย่างอิชิโกะและคงเป็นชีวิตจริงของอีกหลายๆ คนให้กลับมาพิจารณาว่าตัวเองชอบวิถีชีวิตที่ตัวเองทำอยู่จริงๆ หรือเพราะหนีมาจากอีกวิถีชีวิตหนึ่งกันแน่
ดูจนจบครบทั้ง 4 ฤดูกาล ถึงเพิ่งรู้สึกตัวว่านี่คือหนังปรัชญาชีวิต
ชีวิตมนุษย์หมุนเวียนผ่านฤดูกาลทั้งสี่ Summer-Autumn-Winter-Spring อย่างซ้ำแล้วซ้ำเล่า ในทุกๆ ปี หากดูอย่างผิวเผินจากด้านบนคงคล้ายมนุษย์เดินหมุนเป็นวงกลมอยู่ในวัฏจักรแห่งชีวิตนี้อย่างไม่รู้จบ แต่หากมองให้ละเอียดขึ้นจะพบว่า แท้จริงแล้วไมใช่แบบนั้น มนุษย์หมุนวนก็จริง แต่หมุนอย่างเกลียว เพราะทุกครั้งที่หมุนวน ในระหว่างที่สะดุดหกล้ม พวกเราต่างเรียนรู้และเติบโตขึ้น
"เราอาจหมุนวนเช่นเดิมแต่ไม่ใช่เราคนเดิมที่เดินอยู่ในวัฏจักรแห่งชีวิตนั้น"