ซุนกวนวางอุบาย หลอกเตงจี๋

กระทู้คำถาม
ขงเบ้งรู้อยู่เต็มอกว่าการทูตครั้งนี้ไม่ใช่งานหมูๆ เพราะเป็นการปรับนโยบายการเมืองระหว่างเส ฉวนกับกังตั๋ง
เป็นการฟื้นฟูสัมพันธภาพใหม่ ภายหลังจากที่ซุนกวนสั่งฆ่ากวนอู เล่าปี่แค้นประกาศไม่ขออยู่ร่วมโลกกับซุนกวน
ขงเบ้งโชคดีที่พระเจ้าเล่าเสี้ยนยังทรงพระเยาว์ ขงเบ้งในฐานะเสินเสี้ยงสมุหนายก จึงมีอำนาจในการกำหนดน
โยบายของประเทศได้อย่างเต็มที่ วันรุ่งขึ้นในที่ออกขุนนาง ขงเบ้งจึงทูลพระเจ้าเล่าเสี้ยนให้แต่งตั้งเตงจี๋เป็นทูต
พิเศษเดินทางไปเจรจาความสำคัญกับกังตั๋ง ฝ่ายพระเจ้าซุนกวนกำลังฟังกองสอดแนมรายงานข่าวการปราชัยของ
พระเจ้าโจผี ที่ถูกเสฉวนตีแตกทั้ง 4 ทัพ รับสั่งชมลกซุนคาดคะเนเหตุการณ์ได้แม่นยำนัก ถ้าเรารีบนำทัพไปตีเสฉวน
ขงเบ้งคงจะพยาบาทกังตั๋งอย่างมิรู้หายเลยทีเดียว พระเจ้าซุนกวนรับสั่งยังมิทันสิ้นความ
   
    ทหารเข้ามารายงานว่า ขงเบ้งส่งเตงจี๋เป็นทูตมาขอเฝ้า เตียวเจียวหัวหน้าที่ปรึกษาอ่านเกมออกจึงว่า ขงเบ้งวางอุบาย
จะป้องปรามมิให้เราร่วมมือกับโจผีต่อไป ท่านควรระงับปากเตงจี๋เสีย อย่าให้มีโอกาสเอ่ยคำตามที่คิดวางแผนมาให้ได้
พระเจ้าซุนกวนจึงถามเตียวเจียวว่า แล้วเราจะทำอย่างไรดีให้มันหยุดพูด เตียวเจียวทูลแนะนำว่า เราควรตั้งกระทะใบ
ใหญ่เคี่ยวน้ำมันให้เดือดปุดๆ ไว้หน้าห้องพระโรงทาน จัดทหารที่มีรูปร่างใหญ่โตกำยำสูงใหญ่ถืออาวุธเรียงรายสองข้างทาง
เข้าดูทีหรือว่าทูตขงเบ้งชื่อเตงจี๋ผู้นี้ เห็นแล้วจะอกสั่นขวัญเสียจนมิกล้าที่จะเอ่ยปากพูดอะไรออกมา




   เตงจี๋เดินเข้ามาเห็นเจ้าภาพเตรียมการไว้อย่างน่ากลัวดังนั้น ก็มิได้สะดุ้งตกใจกลัวแต่ประการใด หัวเราะร่าเดินเข้าไปหาพระเจ้า
ซุนกวนด้วยท่าทีองอาจ เมื่อเผชิญหน้ากันแล้ว เตงจี๋มิได้ก้มลงกราบตามธรรมเนียม เพียงแต่ยกมือคำนับแบบธรรมดา พระเจ้า
ซุนกวนเห็นดังนั้นก็พิโรธรับสั่งเสียงเข้มว่า เหตุใดท่านจึงดูหมิ่นเรามิได้กราบตามธรรมเนียม  เตงจี๋ตอบว่า ข้าพเจ้าเป็นขุนนางมา
แต่เมืองใหญ่ เป็นทูตของประเทศใหญ่ ไม่จำเป็นต้องกราบผู้ครองประเทศเล็ก
พระเจ้าซุนกวนทรงกริ้วตวาดว่า ถ้าเจ้าขืนพูดมาก
วาจาโอหัง ข้าจะสั่งให้จับเจ้าโยนลงกระทะทองแดงน้ำมันเดือดเสียเดี๋ยวนี้ เตงจี๋หัวเราะลั่นมิได้มีอาการสะทกสะท้านกลับเย้ยว่า

    คนข้างนอกเขาเล่าลือกันนักว่า กังตั๋งอุดมด้วยนักปราชญ์ราชบัณฑิตมากมาย แต่คงไม่มีใครเชื่อว่านักปราชญ์เหล่านี้ เพียงเห็น
ปราชญ์อย่างข้าพ เจ้า ก็พากันขวัญหนีดีฝ่อไปหมด พระเจ้าซุนกวนจึงตวาดซ้ำว่า ในนี้มีใครกลัวไอ้หน้าโง่อย่างเจ้าที่ไหน
เตงจี๋จึงว่า ถ้าพวกเขาไม่กลัวข้าพเจ้า ทำไมไม่กล้าพูดกับข้าพเจ้าดีๆ เหตุใดจึงต้องตั้งกระทะเคี่ยวน้ำมันเดือดไว้ขู่กันด้วย
พระเจ้า
ซุนกวนจึงตอบว่า ข้ารู้ว่าเจ้ามานี่เพื่อจะดึงกังตั๋งออกจากพันธมิตรของโจผี แล้วให้ไปเข้ากับเสฉวนจริงหรือไม่ เตงจี๋หัวเราะแล้วว่า
ข้าพเจ้ามาครั้งนี้ เพื่อชี้แจงข้อเท็จจริงของประเทศข้าพเจ้าให้ท่านได้ทราบ แต่ท่านกลับหาเรื่องปิดปากมิให้ข้าพเจ้าได้มีโอกาสพูด
พระเจ้าซุนกวนจึงสั่งให้ทหารที่ถืออาวุธทั้งหมดถอยออกไป แล้วเชิญเตงจี๋นั่งที่อันสมควร แล้วถามว่าเรื่องของโจผีกับเสฉวนเวลานี้
เป็นอย่างไร เจ้าจงบอกข้าพเจ้าตามตรงโดยมิต้องอ้อมค้อม  เตงจี๋จึงตอบคำถามด้วยคำถามว่า ท่านปรารถนาจะมีสันติภาพกับ

  พระเจ้าเล่าเสี้ยนหรือพระเจ้าโจผีเล่า พระเจ้าซุนกวนจึงว่า เราปรารถนาจะมีสันติภาพกับพระเจ้าเล่าเสี้ยน แต่พระองค์ยังเยาว์นักเจรจา
อะไรกันหาความมิได้ เตงจี๋จึงว่าพระเจ้าเล่าเสี้ยนยังเยาว์ความอยู่ก็จริง แต่ขงเบ้งสมุหนายกเป็นหลักบ้านหลักเมืองของเสฉวน ท่าน
น่าจะเจรจาความกันได้ ท่านย่อมทราบแล้วว่า ราชอาณาจักรเส ฉวนมีธรรมชาติ ป่าและเขาเป็นกำแพงเมืองป้องกันตัว เช่นเดียวกับ
อาณาจักรกังตั๋งมีแม่น้ำ 3 สายเป็นคูเมืองโดยธรรมชาติ ถ้าสองประเทศของเรามีสันติภาพต่อกันใครที่ไหนกล้าจะมารุกรานได้

   เมื่อเราร่วมมือกันแล้ว ถ้าเราอยากจะแผ่อำนาจไปยังดินแดนอื่นๆ อีกก็ย่อมทำได้โดยง่ายหรือแม้แต่จะยึดนโยบายต่างคนต่างอยู่ ก็จะ
ดำรงอยู่ได้อย่างร่มเย็นเป็นสุข ท่านอ๋องเหมือนขี่หลังเสือ รุกก็ยาก ลงก็ยาก หากเกิดพลาดพลั้งอันตรายใหญ่หลวง แล้วคิดว่าง่อก๊กไม่
น่าห่วงอย่างนั้นหรือ ปัญหาจึงมีอยู่ว่าท่านคิดสมัครใจจะขึ้นอยู่กับพระเจ้าโจผีหรือไม่ ถ้าท่านขึ้นนอยู่กับเขา ท่านต้องไปอ่อนน้อมเขาถึง
ราชสำนัก ลูกหลานของท่านก็จะต้องตกเป็นขี้ข้าของโจผีอยู่ในราชสำนักตลอดไป หากท่านไม่ยอมอ่อนน้อมต่อเขาและไม่ยอมเป็นมิตร
กับพระเจ้าเล่าเสี้ยนด้วย พระเจ้าโจผีก็จะส่งกองทัพมาตีท่าน พระเจ้าเล่าเสี้ยนก็จะส่งทัพมาด้วย แล้วท่านจะอยู่กังตั๋งอย่างสุขสบายได้
อย่างไร

           
     ข้าพเจ้าขอให้ท่านไตร่ตรองให้ดี ทั้งหมดที่ข้าพเจ้าว่ามานี้เป็นความสัตย์จริงทุกอย่าง หากท่านยังแคลงใจอยู่ข้าพเจ้าจะโจนลงกระทะ
น้ำมันเดือด พิสูจน์ตัวให้เห็นเท็จแลจริง ว่าแล้วเตงจี๋ก็ลุกเดินรี่เข้าไปที่ตั้งกระทะน้ำมันเดือดโดยไม่รั้งรอ พระเจ้าซุนกวนคิดว่าเตงจี๋จะกระโดด
ลงกระทะน้ำมันจริง ตกใจรีบวิ่งเข้าไปยึดแขนไว้ ร้องย้ำว่าข้าพเจ้าเชื่อท่านแล้ว ซุนกวนจูงมือเตงจี๋กลับมานั่งในห้องข้างใน ให้การต้อนรับอย่าง
สมเกียรติแล้วว่า ข้าพเจ้าจับใจคำพูดของท่าน เนื้อความที่ท่านว่า ตรงกับน้ำใจที่เราคิดไว้เหมือนกัน บัดนี้ข้าพเจ้ามีทางออกแล้ว ตกลงใจผูก
มิตรกับเสฉวน ขอให้ท่านช่วยเป็นคนกลางติดต่อได้หรือไม่
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่