เรื่องสั้นหน้าเดียว : แม่ซื้อ

กระทู้สนทนา
ด้วยโมต้องฝึกซ้อมกีฬาอยู่จนค่ำมืดแทบทุกวัน เขาจึงขอพ่อและแม่เพื่ออยู่บ้านเก่าเพียงคนเดียวสักพักก่อนปิดเทอม ยังไม่อยากย้ายตามพ่อแม่และน้องไปอยู่บ้านหลังใหม่ที่ใกล้รถโดยสารประจำทางซึ่งอยู่ถัดไปอีกซอยหนึ่ง บ้านครึ่งไม้ครึ่งปูนยิ่งดูเงียบเหงาเมื่อขาดหายสมาชิกไปเกือบหมด มันทรุดโทรมลงตามวันเวลาที่ผ่านมากว่ายี่สิบปี เมื่อเข้าหน้าฝนน้ำจะหลากท่วมเกือบเข้าธรณีประตูบ้าน แต่จะอย่างไรในความรู้สึกของโมบ้านหลังนี้คือที่ก่อกำเนิดชีวิตของเขา
โมชอบบอกกับเพื่อน ๆ ว่าเขาเป็นเด็กหลงยุคที่เกิดมาพร้อมโรคหอบ เป็นเด็กผู้ชายที่เกิดในยุคที่การแพทย์เจริญก้าวหน้าแล้วแต่เขายังเกิดด้วยมือของหมอตำแยในห้องชั้นล่างของบ้านตัวเอง เพื่อนร่วมชั้นเรียนมัธยมห้าของเขามีแต่คนเกิดที่โรงพยาบาลทั้งนั้น แม้แต่คลอดที่สุขศาลาหรือสถานีอนามัยก็ไม่มีสักคน
บางคืนที่ไม่เหน็ดเหนื่อยจากการซ้อมกีฬา เด็กหนุ่มนั่งทำการบ้านโดยมีวิทยุสเตอริโอเครื่องใหญ่ที่ส่งเสียงผ่านลำโพงไม้ตั้งพื้นหนึ่งคู่ บางคืนเสียงเพลงจากวงดนตรีขวัญใจวัยรุ่นกล่อมเขาผล็อยหลับไปทั้งชุดกีฬา น้ำท่าไม่ได้อาบและหลายหนที่หลับไปด้วยการนุ่งกางเกงในนอนเพียงตัวเดียว ข้างหัวเตียงเป็นเสาไม้กลางบ้าน มีตะปูตัวโตตอกอยู่ตัวหนึ่ง พ่อของโมจะใช้มันผูกสายมุ้งในตอนกลางคืนและพ่อจะแขวนสร้อยพระไว้ที่นั่น ใกล้วันพระโมเคยเห็นยางไม้ไหลออกมาให้พอเห็นได้แต่ไม่มากนักและคืนนั้นเองจะมีกลิ่นหอมเย็นลอยมาให้ได้กลิ่นชัดเจน แม้เปิดหน้าต่างไว้แต่กลิ่นหอมก็อบอวลอยู่ไม่รู้จางหาย ทุกคืนไฟห้องและวิทยุถูกปิดลงทุกครั้งที่โมลืมปิดและผ้าห่มผืนหนาจะคลุมอกแห้งนั้นเสมอ
คืนหนึ่งฝนตกหนักไม่ลืมหูลืมตา เสื้อชุดนักเรียนที่เด็กหนุ่มซักตากเอาไว้เปียกหมด เขาผึ่งเสื้อผ้าเปียกเต็มพื้น เปิดพัดลมเป่า บ่นด่าทอฝนฟ้าไปตามประสาวัยรุ่น เขาแขวนกางเกงนักเรียนและกางเกงในที่ใส่อยู่กับตะปูเก่าตัวนั้นด้วยหวังจะใช้มันซ้ำเพราะที่ซักไว้มันหนาจนยากจะแห้งได้ทัน ค่ำคืนนั้นโมตั้งใจเข้านอนเร็ว คิดถึงการไปอยู่บ้านใหม่ในช่วงหน้าฝนที่จะสะดวกสบายมากกว่า โมปิดไฟ ปิดวิทยุ วูบหนึ่งเขาครุ่นคิดและพะวงสงสัยในเหตุการณ์แปลก ๆ ที่เกิดกับเขาในหลายคืนที่ผ่านมา ใครปิดไฟให้ ใครมาปิดวิทยุให้และใครคนนั้นเข้ามาในห้องนี้ได้อย่างไร
บางสิ่งทำให้โมรู้สึกว่าเขาไม่ได้อยู่ที่บ้านหลังนี้เพียงลำพัง ก่อนหลับเตียงฟองน้ำยวบตัวลงช้า ๆ เหมือนมีคนนั่งลงและเอนตัวลงนอนข้าง ๆ  โมลองเหยียดแขนขวาออกไปข้างลำตัวคลำดู เขาก็สัมผัสถึงผ้าแพรนุ่มมือ แน่ใจว่าเตียงมันยุบตัวลงด้วยน้ำหนักของอะไรบางอย่าง รู้สึกถึงไหล่ที่โดนจับเขย่าเบา ๆ กลิ่นหอมเย็นนั้นก็ยิ่งหอมขึ้น เหมือนจะจูงเขาเข้าสู่ความฝัน
...

“พ่อครับ เมื่อคืนก่อนผมฝันว่ามีผู้หญิงออกจากเสาบ้านมานั่งร้องไห้บนเตียงที่ผมนอน”
“เสาต้นที่พ่อแขวนสร้อยพระใช่ไหม”
“ครับ”
“ตอนมาไม่ได้บอกแม่เขาล่ะสิ” พ่อโมพูดด้วยน้ำเสียงปกติ
“ไปจุดธูปดอกหนึ่ง บอกแม่เขาซะว่าเอ็งมาอยู่บ้านใหม่แล้ว ขอบคุณแม่เขาที่ช่วยดูแลเอ็ง” โมรู้ว่าพ่อเข้าใจแต่เขาเองไม่เข้าใจสิ่งที่พ่อพูด แต่ก็ยังถามต่อ
“ตอนนี้เลยไหมพ่อ” โมหันไปเห็นพ่อพยักหน้า
โมเดินไปหยิบธูปมาจุดและทำตามที่พ่อว่า
“ผมย้ายมาอยู่บ้านใหม่แล้วครับ ขอบคุณที่ช่วยดูแลผม” เขาปักธูปลงที่พื้นสนามกลางบ้านใหม่ ควันธูปลอยฟุ้งกลิ่นหอมเหมือนกลิ่นดอกไม้ที่โมคุ้นเคยในยามค่ำคืน เขาได้ยินเสียงผู้หญิงร้องไห้เบา ๆ


CR ภาพจาก ghostwiki.blogspot.com
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่