สวัสดีค่ะ พอดีเพิ่งเล่น ผิดถูกไงอย่าว่ากันน๊าาาาา
คือแบบว่า ทนไม่ไหวกับหอพักที่เคยอยู่ อยากจะแชร์ประสบการณ์ให้ คนที่คิดจะเข้าไปอยู่ที่นี่ ไม่ระบุชื่อละกัน หอพักนี้อยู่ลาดพร้าว 71 นาคนิวาส 9 เป็นตึกสีชมพูสูง 5 ชั้น เริ่มระบายความอัดอั้นตันใจเลยละกันนะ
ย้อนไปเมื่อ ปี 55 เราได้งานแถวลาดพร้าว 71 แล้วต้องเริ่มงานเลย จึงไม่มีเวลาไม่มากหาหอพัก ไปหาดูก็เจอหอนี้ซึ่งอยู่ใกล้ที่ทำงาน
สามารถเดินไปทำงานได้ สภาพหอพักดูดีกว่าหออื่นในบริเวณนั้น ราคาไม่แพงมาก มีลิฟ ไม่มีค่าส่วนกลาง ต้องใช้คีการ์ด ซึ่งดูปลอดภัยกว่าหออื่น จึงตกลงปลงใจเช่าเลย
อ่อ ลืมบอกไป วันที่ไปดู มีแม่บ้านพาไปดูห้อง เราก็ถามรายละเอียดต่างๆ แกก็เหมือนตอบได้ไม่มาก ให้โทรไปคุยกับเจ้าของหอพัก อีเจ๊นั่นก็บอกเรื่องราคา เรื่องเงินว่าต้องจ่ายเท่าไร แล้วถ้าจะย้ายเข้า ให้จ่ายเงินไว้ที่แม่บ้านได้เลย แกบอกชั้นยุ่งเรื่องเปลี่ยนโอนหอพักอะไรเนี่ยแหละ แล้วก็ไม่คุยรายละเอียดกับเราอีก
สิ่งที่เราต้องจ่ายคือ ค่าห้องจ่ายก่อนอยู่ 2500 (ห้องพัดลมเล็กๆ เฟอร์ผุพังบ้าง) ค่าประกันห้อง 2500 ค่าประกันเฟอร์ 2000 ค่ากุญแจ 40 ค่าคีการ์ด 100 เบ็ดเสร็จ 7140 บาท เราก็จ่ายแม่บ้านไป และให้เราเซ็นสัญญาเช่า ซึ่งมีชุดเดียว เค้าเอาไป ทำไงดี ไม่มีใบเสร็จหรือหลักฐานอะไรเราเลย เราเลยให้แกเขียนว่ารับเงินเท่าไร ค่าอะไรบ้าง แล้วเซ็นชื่อไว้ (ตอนนั้นคิดออกแค่นี้)
พอย้ายเข้ามาอยู่ อีเจ๊นั่นก็ไม่มีการให้สัญญาเช่า หรือใบเสร็จอะไร เราเลยไปทวง แกก็ทำสีหน้าไม่พอใจ บอกเดี๋ยวเอาให้ แล้วก็หายไปอาทิตย์นึง เราก็ไปทวงอีก แกถึงถ่ายเอกสารให้ อยู่ๆไปเราเพิ่งมารู้ทีหลังว่า หอนี้เค้ามีปัญหากัน มีการเปลี่ยนแปลงเจ้าของ หรือซื้อขายกันใหม่ สรุปคือ อีเจ๊นี่เป็นเจ้าของคนใหม่
อยู่มาประมาณ 3 เดือน เราก็แนะนำลูกพี่ลูกน้อง ซึ่งทำงานใกล้กัน ให้มาเช่าหอนี้ และยังมีเพื่อนและน้องร่วมงานอีก รวมเป็น 4 ห้องที่เรารู้จัก แรกๆก็ดี
อยู่ไปเรื่อยๆ ก็มีการเขียนด่ากันระหว่างผู้เช่ากับเจ้าของหอ(อีเจ๊) เรื่องลิฟเสียไม่ยอมซ่อมบ้าง เรื่องเอาคนนอกเข้าหอบ้าง เรื่องที่จอดรถบ้าง คือบางทีก็ตลกนะ อีเจ๊ไม่พอใจอะไรก็จะเขียนด้วยเมจิก ใส่กระดาษ A4 แล้วแปะไว้หน้าลิฟบ้าง หน้าประตูหอบ้าง วันต่อมาก็จะมีคนมาเขียนด่าต่อกันบ้าง คืออารมณ์เหมือนเข้าห้องน้ำ แล้วมีคนเขียนด่ากันตามประตู ตามผนังห้องน้ำ
จนน้องเรา คนแรกที่ย้ายออก ก็เสียค่าทำความสะอาด ค่าของเสียหาย (ซึ่งมันพังอยู่แล้วมามั่วเก็บเงิน) แต่ปัญหาคือ มันไม่ยอมเคลียร์เงินให้วันนั้น มันบอกอีก 2 วันค่อยมาเคลียร์ ที่แปลกคือ มันบอกให้น้อง จ่ายเงินไว้ 1000 กันไว้เผื่อไม่มาเคลียร์เงิน (งงเลยค่ะ มีที่ไหน เงินค่าประกันเราก็อยู่ที่มัน แถมต้องจ่ายตังให้มันไว้อีก เพื่อๆๆๆๆๆ)
คนต่อไปที่ย้ายออกคือพี่ที่ทำงานด้วยกัน ประกันห้องพี่เค้าจ่ายแค่ 2000 (ซึ่งเราจ่ายค่าประกันไปทั้งหมด 4500 คือทำไมเก็บไม่เท่ากัน) พี่เค้าโดนหักไป 2700 ค่าโต๊ะคอม ค่าตู้ บลาๆๆๆๆ สรุปต้องจ่ายให้มันเพิ่ม 700 บาท 555 ขำมาก
มาถึงปัญหาของเรา จริงๆมันมีเยอะมาก เอาปัญหาใหญ่ๆละกัน เราซื้อรถยนต์มาใหม่ (ไม่ได้รวยแต่อยากเปลี่ยนเงินให้เป็นทรัพสินย์ค่ะ) เราก็จะเอามาจอดที่หอ อีเจ๊บอกไม่มีที่จอด เอ๊า เราเห็นอยู่ว่าว่าง เพราะมีคนย้ายออกเยอะ มันก็บ่นว่า จะเอามาทำไมรถยนต์ แค่นี้ปัญหาก็เยอะอยู่แล้ว เรื่องที่จอด บ่นๆๆๆ แฟนเราเลยบอกงั้นย้ายออกก็ได้ ถ้าปัญหามันเยอะ
มันเลยบอกงั้นเอางี้ มีที่ว่างอยู่ที่ 1 คัน แต่ต้องย้ายไปอยู่ห้องแอร์นะ เดี๋ยวคนอื่นจะว่าเอา ว่าจ่ายค่าห้องถูกแต่มีที่จอดรถ (เราเช่าห้องพัดลมราคาถูกกว่าห้องแอร์ 500 ) แฟนเราก็ย้ายก็ได้ แต่ขอห้องชั้นล่างๆ อีเจ๊บอก ว่างห้องเดียวชั้นบนสุด อยู่ชั้นบนนั่นแหละ เงียบดี คือไม่ให้เราเลือกเลยง่า พอย้ายไปอยู่ โห ร้อนมาก ต้องเปิดแอร์ตลอด ค่าไฟเพิ่มขึ้นเป็นพัน
ปัญหาเรื่องที่จอดรถ คือมันบังคับให้เราซื้อสติ๊กเกอร์จอดรถ ถ้าไม่มีจอดไม่ได้ เราได้ที่จอดในหอตรงประตูทางออก ซึ่งต้องซื้อกุญแจประตูอีกต่างหาก ก็โอเค ไม่ว่าไร แต่อยู่ๆก็มีรถมาจอดขวางหน้าประตูทางออก ไม่มีสติ๊กเกอร์ ไม่เขียนเบอร์โทรหรือเบอร์ห้องบอก เราก็ไม่รุว่าใคร ทีงี้ดิ เอารถออกไปทำงานไม่ได้ ต้องนั่งแท๊กซี่ไป วันนั้นแฟนเราต้องไปทำงาน ตี 5 ต้องนั่งแท๊กซี่ไป จากลาดพร้าว 71 ไปรังสิต คลอง 3 ไม่ใช่ใกล้ๆนะ
พอกลับมา แฟนเราไปถามเจ๊ ทำไมมีรถใครมาจอดขวาง คนที่ดูแลหอก็ไม่ได้ทำอะไร อีเจ๊ก็ว่าเรากลับ บอกแล้วว่าอย่าเอามารถยนต์ มันมีปัญหา น่าเบื่อ เอ๊า ว่าเราซะงั้น จากนั้นเราไม่ไหวละ คือ เราจ่ายค่าเช่านะ ไม่ได้ขออยู่ฟรีๆ ทุกอย่างเก็บเงินหมด แต่ไม่ดูแลกันเลย เลยตัดสินใจบอกย้ายออก
สิ้นสุดกันที เกือบ 3 ปีที่อยู่มา มีแต่ลำบากใจ ต่อไปนี้กุไม่ง้อแล้วอีเจ๊ พอขนของเสร็จมันไม่ยอมเคลียร์เงิน บอกให้มาเคลียร์วันที่ 5 (คือถ้ากุย้ายไปต่างจังหวัด ไม่ต้องเสียเวลา เสียงาน เสียการหรอ) เราคืนกุญแจไปไม่ครบ ขาดกุญแจประตูตรงที่จอดรถ กะว่าจะคืนวันที่มาเคลียร์เงิน มันโทรมาตามคร๊า บอกทำไมคืนกุญแจไม่ครบ เราบอกหาไม่เจอเก็บของย้ายหอ มันรวมกันไปหมด เดี๋ยววันที่ 5 เอาไปให้ทีเดียว มันบอก ทำงี้ได้ไง มันต้องคืนพร้อมกันหมดสิ เราก็คิดในใจว่า ต่อให้กุไม่คืน ก็หักเงินไปสิ เก็บเงินกุทุกอย่างยุแล้ว มันไม่ยอม บอกให้เอามาคืนวันนี้เลย เราก็กลับไปหาเจอก็เอาไปให้มัน แต่มันไม่อยู่นะ ฝากไว้ที่คนดูแลหอ
วันที่ต้องไปเคลียร์เงิน โทรไปถามว่าเจ๊เข้าหอไหม จะเข้าไปเคลียร์เงิน มันบอกฝากไว้ที่คนดูแลหอ เราก็ไป แต่ไม่เจอ ก็เลยจะโทรไปขอเบอร์คนดูแลหอ แต่อีเจ๊ไม่รับสาย แล้วมันก็โทรกลับมา คำแรกที่พูด จะเอาอะไรอีก อยู่งานแต่งเนี่ย เค้าทำพิธีกันอยู่ ยุ่งจริงๆ เอ่อ คือ กุจะรู้กับไหม สรุปเจอคนดูแลก็เคลียร์เงินเรียบร้อย หักค่าน้ำค่าไฟ ค่าทำความสะอาดห้อง ค่าล้างแอร์(ซึ่งอยู่แค่ 2 เดือน) ค่าห้องชำรุด (ซึ่งไม่เคยทำอะไรพังเลยมีแต่พังอยู่แล้ว) ค่าคีการ์ดพัง (พังอะไรกุใช้เข้าออกทุกวัน) แต่ก็ไม่อยากคุยกับมันแล้ว ก็ช่างเหอะ จบๆไป
อยากจะบอกคนที่จะไปอยู่ที่นี่นะคะ ให้คิดดีๆนะ อีเจ๊นี่ พูดจาไม่มีดีเลยค่ะ เราจะพูดถึงข้อดี ข้อเสีย แล้วลองพิจารณากันเอานะ
ข้อดี
- ราคาไม่แพง
- ดูปลอดภัยกว่าหอระแวกนั้น
- เลี้ยงสัตว์ได้
- มีลิฟ แต่มันเขียนว่า ใช้ได้เฉพาะคนแก่ คนพิการ ห้ามขนของหนัก เช่น ตู้เย็น (แล้วจะมีไว้ทำไม)
- ใกล้แหล่งของกิน
ข้อเสีย
- อีเจ๊เจ้าของหอ พูดจาไม่ดีมากๆๆๆๆ ไม่แคร์ผู้อาศัย
- ไม่ให้เอารถยนต์มาใช้บอกไม่มีที่จอด ปัญหาเยอะ
- เก็บเงินทุกอย่างเท่าที่จะเก็บได้ ขี้โกง เอกสารหลักฐานทุกอย่างจำเป็นต่อการอยู่ที่นี่จริงๆ (ลืมบอก ว่าตอนย้ายออก มันบอกเราว่า ไม่เคยเก็บค่าประกันเฟอร์ 2000 ค๊าาา กุมีหลักฐาน อึ้งเลยค่ะ เถียงไม่ขึ้น เกือบเสียเงินไปฟรีๆ) หักทุกอย่างเท่าที่หักได้ ทั้งๆที่มันพังยุแล้ว
- หลัง 2 ทุ่ม ถ้าลืมกุญแจหอ ต้องนอนข้างนอกนะคะ เพราะไม่มีใครมาเปิดให้ ให้เหตุผลว่า เป็นเวลาพักผ่อนของคนดูแล เคยมีคนมาตะโกนด่า ท้าต่อยยันตี 2 ตี 3 อ่ะ มันก็ไม่ทำอะไร เสียงดังรบกวนคนอื่นมาก สรุปเค้าคนนั้นก็คงนอนล่างหอนั่นแหละ น่าสงสาร
ตอนนี้ย้ายหอใหม่ เหมือนจะมีความสุขดีค่ะ ห้องกว้าง ดูดี คนคุมหอก็ดี พูดจาดี ที่จอดรถก็ไม่มีปัญหา ไงก็ต้องรอดูกันไป เพราะเพิ่งอยู่ไม่ถึงเดือน
ขอให้เป็นอุทาหรณ์สำหรับคนหาที่อยู่นะคะ ดูดีๆ เอาที่เราสบายใจดีกว่า เราเลือกได้
ขอบคุณที่อ่านกันจนจบนะคะ
แชร์ประสบการณ์หอพัก เจอเจ้าของอย่างนี้ต้องรีบเผ่น
คือแบบว่า ทนไม่ไหวกับหอพักที่เคยอยู่ อยากจะแชร์ประสบการณ์ให้ คนที่คิดจะเข้าไปอยู่ที่นี่ ไม่ระบุชื่อละกัน หอพักนี้อยู่ลาดพร้าว 71 นาคนิวาส 9 เป็นตึกสีชมพูสูง 5 ชั้น เริ่มระบายความอัดอั้นตันใจเลยละกันนะ
ย้อนไปเมื่อ ปี 55 เราได้งานแถวลาดพร้าว 71 แล้วต้องเริ่มงานเลย จึงไม่มีเวลาไม่มากหาหอพัก ไปหาดูก็เจอหอนี้ซึ่งอยู่ใกล้ที่ทำงาน
สามารถเดินไปทำงานได้ สภาพหอพักดูดีกว่าหออื่นในบริเวณนั้น ราคาไม่แพงมาก มีลิฟ ไม่มีค่าส่วนกลาง ต้องใช้คีการ์ด ซึ่งดูปลอดภัยกว่าหออื่น จึงตกลงปลงใจเช่าเลย
อ่อ ลืมบอกไป วันที่ไปดู มีแม่บ้านพาไปดูห้อง เราก็ถามรายละเอียดต่างๆ แกก็เหมือนตอบได้ไม่มาก ให้โทรไปคุยกับเจ้าของหอพัก อีเจ๊นั่นก็บอกเรื่องราคา เรื่องเงินว่าต้องจ่ายเท่าไร แล้วถ้าจะย้ายเข้า ให้จ่ายเงินไว้ที่แม่บ้านได้เลย แกบอกชั้นยุ่งเรื่องเปลี่ยนโอนหอพักอะไรเนี่ยแหละ แล้วก็ไม่คุยรายละเอียดกับเราอีก
สิ่งที่เราต้องจ่ายคือ ค่าห้องจ่ายก่อนอยู่ 2500 (ห้องพัดลมเล็กๆ เฟอร์ผุพังบ้าง) ค่าประกันห้อง 2500 ค่าประกันเฟอร์ 2000 ค่ากุญแจ 40 ค่าคีการ์ด 100 เบ็ดเสร็จ 7140 บาท เราก็จ่ายแม่บ้านไป และให้เราเซ็นสัญญาเช่า ซึ่งมีชุดเดียว เค้าเอาไป ทำไงดี ไม่มีใบเสร็จหรือหลักฐานอะไรเราเลย เราเลยให้แกเขียนว่ารับเงินเท่าไร ค่าอะไรบ้าง แล้วเซ็นชื่อไว้ (ตอนนั้นคิดออกแค่นี้)
พอย้ายเข้ามาอยู่ อีเจ๊นั่นก็ไม่มีการให้สัญญาเช่า หรือใบเสร็จอะไร เราเลยไปทวง แกก็ทำสีหน้าไม่พอใจ บอกเดี๋ยวเอาให้ แล้วก็หายไปอาทิตย์นึง เราก็ไปทวงอีก แกถึงถ่ายเอกสารให้ อยู่ๆไปเราเพิ่งมารู้ทีหลังว่า หอนี้เค้ามีปัญหากัน มีการเปลี่ยนแปลงเจ้าของ หรือซื้อขายกันใหม่ สรุปคือ อีเจ๊นี่เป็นเจ้าของคนใหม่
อยู่มาประมาณ 3 เดือน เราก็แนะนำลูกพี่ลูกน้อง ซึ่งทำงานใกล้กัน ให้มาเช่าหอนี้ และยังมีเพื่อนและน้องร่วมงานอีก รวมเป็น 4 ห้องที่เรารู้จัก แรกๆก็ดี
อยู่ไปเรื่อยๆ ก็มีการเขียนด่ากันระหว่างผู้เช่ากับเจ้าของหอ(อีเจ๊) เรื่องลิฟเสียไม่ยอมซ่อมบ้าง เรื่องเอาคนนอกเข้าหอบ้าง เรื่องที่จอดรถบ้าง คือบางทีก็ตลกนะ อีเจ๊ไม่พอใจอะไรก็จะเขียนด้วยเมจิก ใส่กระดาษ A4 แล้วแปะไว้หน้าลิฟบ้าง หน้าประตูหอบ้าง วันต่อมาก็จะมีคนมาเขียนด่าต่อกันบ้าง คืออารมณ์เหมือนเข้าห้องน้ำ แล้วมีคนเขียนด่ากันตามประตู ตามผนังห้องน้ำ
จนน้องเรา คนแรกที่ย้ายออก ก็เสียค่าทำความสะอาด ค่าของเสียหาย (ซึ่งมันพังอยู่แล้วมามั่วเก็บเงิน) แต่ปัญหาคือ มันไม่ยอมเคลียร์เงินให้วันนั้น มันบอกอีก 2 วันค่อยมาเคลียร์ ที่แปลกคือ มันบอกให้น้อง จ่ายเงินไว้ 1000 กันไว้เผื่อไม่มาเคลียร์เงิน (งงเลยค่ะ มีที่ไหน เงินค่าประกันเราก็อยู่ที่มัน แถมต้องจ่ายตังให้มันไว้อีก เพื่อๆๆๆๆๆ)
คนต่อไปที่ย้ายออกคือพี่ที่ทำงานด้วยกัน ประกันห้องพี่เค้าจ่ายแค่ 2000 (ซึ่งเราจ่ายค่าประกันไปทั้งหมด 4500 คือทำไมเก็บไม่เท่ากัน) พี่เค้าโดนหักไป 2700 ค่าโต๊ะคอม ค่าตู้ บลาๆๆๆๆ สรุปต้องจ่ายให้มันเพิ่ม 700 บาท 555 ขำมาก
มาถึงปัญหาของเรา จริงๆมันมีเยอะมาก เอาปัญหาใหญ่ๆละกัน เราซื้อรถยนต์มาใหม่ (ไม่ได้รวยแต่อยากเปลี่ยนเงินให้เป็นทรัพสินย์ค่ะ) เราก็จะเอามาจอดที่หอ อีเจ๊บอกไม่มีที่จอด เอ๊า เราเห็นอยู่ว่าว่าง เพราะมีคนย้ายออกเยอะ มันก็บ่นว่า จะเอามาทำไมรถยนต์ แค่นี้ปัญหาก็เยอะอยู่แล้ว เรื่องที่จอด บ่นๆๆๆ แฟนเราเลยบอกงั้นย้ายออกก็ได้ ถ้าปัญหามันเยอะ
มันเลยบอกงั้นเอางี้ มีที่ว่างอยู่ที่ 1 คัน แต่ต้องย้ายไปอยู่ห้องแอร์นะ เดี๋ยวคนอื่นจะว่าเอา ว่าจ่ายค่าห้องถูกแต่มีที่จอดรถ (เราเช่าห้องพัดลมราคาถูกกว่าห้องแอร์ 500 ) แฟนเราก็ย้ายก็ได้ แต่ขอห้องชั้นล่างๆ อีเจ๊บอก ว่างห้องเดียวชั้นบนสุด อยู่ชั้นบนนั่นแหละ เงียบดี คือไม่ให้เราเลือกเลยง่า พอย้ายไปอยู่ โห ร้อนมาก ต้องเปิดแอร์ตลอด ค่าไฟเพิ่มขึ้นเป็นพัน
ปัญหาเรื่องที่จอดรถ คือมันบังคับให้เราซื้อสติ๊กเกอร์จอดรถ ถ้าไม่มีจอดไม่ได้ เราได้ที่จอดในหอตรงประตูทางออก ซึ่งต้องซื้อกุญแจประตูอีกต่างหาก ก็โอเค ไม่ว่าไร แต่อยู่ๆก็มีรถมาจอดขวางหน้าประตูทางออก ไม่มีสติ๊กเกอร์ ไม่เขียนเบอร์โทรหรือเบอร์ห้องบอก เราก็ไม่รุว่าใคร ทีงี้ดิ เอารถออกไปทำงานไม่ได้ ต้องนั่งแท๊กซี่ไป วันนั้นแฟนเราต้องไปทำงาน ตี 5 ต้องนั่งแท๊กซี่ไป จากลาดพร้าว 71 ไปรังสิต คลอง 3 ไม่ใช่ใกล้ๆนะ
พอกลับมา แฟนเราไปถามเจ๊ ทำไมมีรถใครมาจอดขวาง คนที่ดูแลหอก็ไม่ได้ทำอะไร อีเจ๊ก็ว่าเรากลับ บอกแล้วว่าอย่าเอามารถยนต์ มันมีปัญหา น่าเบื่อ เอ๊า ว่าเราซะงั้น จากนั้นเราไม่ไหวละ คือ เราจ่ายค่าเช่านะ ไม่ได้ขออยู่ฟรีๆ ทุกอย่างเก็บเงินหมด แต่ไม่ดูแลกันเลย เลยตัดสินใจบอกย้ายออก
สิ้นสุดกันที เกือบ 3 ปีที่อยู่มา มีแต่ลำบากใจ ต่อไปนี้กุไม่ง้อแล้วอีเจ๊ พอขนของเสร็จมันไม่ยอมเคลียร์เงิน บอกให้มาเคลียร์วันที่ 5 (คือถ้ากุย้ายไปต่างจังหวัด ไม่ต้องเสียเวลา เสียงาน เสียการหรอ) เราคืนกุญแจไปไม่ครบ ขาดกุญแจประตูตรงที่จอดรถ กะว่าจะคืนวันที่มาเคลียร์เงิน มันโทรมาตามคร๊า บอกทำไมคืนกุญแจไม่ครบ เราบอกหาไม่เจอเก็บของย้ายหอ มันรวมกันไปหมด เดี๋ยววันที่ 5 เอาไปให้ทีเดียว มันบอก ทำงี้ได้ไง มันต้องคืนพร้อมกันหมดสิ เราก็คิดในใจว่า ต่อให้กุไม่คืน ก็หักเงินไปสิ เก็บเงินกุทุกอย่างยุแล้ว มันไม่ยอม บอกให้เอามาคืนวันนี้เลย เราก็กลับไปหาเจอก็เอาไปให้มัน แต่มันไม่อยู่นะ ฝากไว้ที่คนดูแลหอ
วันที่ต้องไปเคลียร์เงิน โทรไปถามว่าเจ๊เข้าหอไหม จะเข้าไปเคลียร์เงิน มันบอกฝากไว้ที่คนดูแลหอ เราก็ไป แต่ไม่เจอ ก็เลยจะโทรไปขอเบอร์คนดูแลหอ แต่อีเจ๊ไม่รับสาย แล้วมันก็โทรกลับมา คำแรกที่พูด จะเอาอะไรอีก อยู่งานแต่งเนี่ย เค้าทำพิธีกันอยู่ ยุ่งจริงๆ เอ่อ คือ กุจะรู้กับไหม สรุปเจอคนดูแลก็เคลียร์เงินเรียบร้อย หักค่าน้ำค่าไฟ ค่าทำความสะอาดห้อง ค่าล้างแอร์(ซึ่งอยู่แค่ 2 เดือน) ค่าห้องชำรุด (ซึ่งไม่เคยทำอะไรพังเลยมีแต่พังอยู่แล้ว) ค่าคีการ์ดพัง (พังอะไรกุใช้เข้าออกทุกวัน) แต่ก็ไม่อยากคุยกับมันแล้ว ก็ช่างเหอะ จบๆไป
อยากจะบอกคนที่จะไปอยู่ที่นี่นะคะ ให้คิดดีๆนะ อีเจ๊นี่ พูดจาไม่มีดีเลยค่ะ เราจะพูดถึงข้อดี ข้อเสีย แล้วลองพิจารณากันเอานะ
ข้อดี
- ราคาไม่แพง
- ดูปลอดภัยกว่าหอระแวกนั้น
- เลี้ยงสัตว์ได้
- มีลิฟ แต่มันเขียนว่า ใช้ได้เฉพาะคนแก่ คนพิการ ห้ามขนของหนัก เช่น ตู้เย็น (แล้วจะมีไว้ทำไม)
- ใกล้แหล่งของกิน
ข้อเสีย
- อีเจ๊เจ้าของหอ พูดจาไม่ดีมากๆๆๆๆ ไม่แคร์ผู้อาศัย
- ไม่ให้เอารถยนต์มาใช้บอกไม่มีที่จอด ปัญหาเยอะ
- เก็บเงินทุกอย่างเท่าที่จะเก็บได้ ขี้โกง เอกสารหลักฐานทุกอย่างจำเป็นต่อการอยู่ที่นี่จริงๆ (ลืมบอก ว่าตอนย้ายออก มันบอกเราว่า ไม่เคยเก็บค่าประกันเฟอร์ 2000 ค๊าาา กุมีหลักฐาน อึ้งเลยค่ะ เถียงไม่ขึ้น เกือบเสียเงินไปฟรีๆ) หักทุกอย่างเท่าที่หักได้ ทั้งๆที่มันพังยุแล้ว
- หลัง 2 ทุ่ม ถ้าลืมกุญแจหอ ต้องนอนข้างนอกนะคะ เพราะไม่มีใครมาเปิดให้ ให้เหตุผลว่า เป็นเวลาพักผ่อนของคนดูแล เคยมีคนมาตะโกนด่า ท้าต่อยยันตี 2 ตี 3 อ่ะ มันก็ไม่ทำอะไร เสียงดังรบกวนคนอื่นมาก สรุปเค้าคนนั้นก็คงนอนล่างหอนั่นแหละ น่าสงสาร
ตอนนี้ย้ายหอใหม่ เหมือนจะมีความสุขดีค่ะ ห้องกว้าง ดูดี คนคุมหอก็ดี พูดจาดี ที่จอดรถก็ไม่มีปัญหา ไงก็ต้องรอดูกันไป เพราะเพิ่งอยู่ไม่ถึงเดือน
ขอให้เป็นอุทาหรณ์สำหรับคนหาที่อยู่นะคะ ดูดีๆ เอาที่เราสบายใจดีกว่า เราเลือกได้
ขอบคุณที่อ่านกันจนจบนะคะ