อะไรทำให้การมอง สาว30+ ที่ไม่มีสามี ไม่แต่งงาน เป็นสาวแก่! เป็นป้า ที่กำลังจะขึ้นคาน ไม่มีใครเอา
ในจุดที่เรากำลังดำเนินชีวิตอยู่บนโลกยุคดิจิตอล ,สิ่งแวดล้อมที่ขับเคลื่อนด้วยการแข่งขัน และการใช้สื่อตบตีกัน โลกเราทุกวันนัมีแอคทิวิตี้อะไรที่อินเทอเรสมากมายให้เราได้ทำเรื่อยๆเสมอ
ชีวิตฟรีๆของสาวยุคใหม่และการหาความสุขรอบตัวในฐานะคนโสดที่ไร้พันธะ มันน่าสนุกและน่าสนใจมากกว่าการอยู่เป็นแม่บ้านซัพพอร์ตสามี หรือการต้องทำงานหาเงินมารับผิดชอบใครที่เพิ่มมาในชีวิต ส่วนตัวคิดว่าแค่สัตว์เลี้ยงคู่ใจสักตัวก็น่าจะเพียงพอนะ แล้วจะเหงาอะไรถ้ามีการแฮงค์เอาท์กับเพื่อนเรื่อยๆ มีอะไรทำเรื่อยๆ
ไม่กี่วันก่อนเพื่อนเราคนนึงแสดงแอทติจูดคร่ำครึที่น่าสนใจเกี่ยวกับการมีชีวิตคู่ เขากล่าวว่า "ผู้หญิงควรมีสามีในช่วงอายุไม่เกิน27หลังจากนี้ไปก็ไม่มีผู้ชายเหลือแล้ว เพราะเนื้อหนังจะเริ่มเหี่ยว ผู้ชายส่วนใหญ่จะมีคู่กันไปหมดแล้ว สุดท้ายแล้วเราอาจเป็นได้แค่เมียน้อย" มันเป็นความคิดที่ค่อนข้างน่ากลัวสำหรับสังคมเรามาก ยิ่งจากมุมมองของผู้ชายด้วยแล้วใหญ่
คือลืมไปหรือเปล่าว่านี่มันศตวรรษที่21 สังคมเราก็ไม่ได้มีแค่ การใช้ชีวิตในหมู่บ้านทำไร่ทำนาแล้วต้องรีบมีลูกออกเรือนตั้งแต่อายุ15 16 แบบคนสมัยก่อน นี่มันหมดยุควันทองแล้ว มันคือยุคเรยา
เอาเป็นว่าถ้าผู้ชายรุ่นนั้นมันจะไม่เหลือหนุ่มโสดจริงๆแล้ว ซึ่งมันเป็นไปไม่ได้ เพราะเกณฑ์การอยากโสดของผู้ชายมีมากกว่าผู้หญิง แต่ถ้าหากว่ามันหมดจริงๆ เด็กผู้ชายรึ่นใหม่ๆก็กำลังโตมาอีกตั้งเยอะตั้งแยะ
ในจุดที่ความหล่อสุดๆและสวยสุดๆของผู้ชายและผู้หญิงส่วนใหญ่จริงๆอยู่ที่ช่วงอายุ35ขึ้นไป แล้วถ้าในมุมของการเลือกคู่ครองที่ใช้เกณฑของเรื่องหน้าตากว่า60เปอร์เซนอีก40เปอร์เซนต์เป็นเรื่องภายใน มาตัดสินแบบคนทั่วไปแล้วล่ะก็ อะไรทำให้พวกเขาต้องรีบเลือกตะครุบคนที่ต้องการตั้งแต่มันยังอยู่ในจุดที่ไม่สมบูรณ์ เพราะการถูกสั่งสอนให้รีบมีลูกทันใช้เหรอ หรือค่านิยมไม่ดีเกี่ยวกับความโสด?
คนโสดไม่ได้หมายถึงว่าจะเป็นพวก celibate แต่คือในจุดที่โลกเรามีอะไรทำมากมายกว่าแต่ก่อนแล้ว เราคิดว่า การถือตัวเป็นสาวโสด มันไม่ใช่เรื่องไม่โอเค และการเป็นสาวโสดไม่ใช่การไม่มีใครเอา แต่เราเลือกที่จะไม่เอาใครที่ยังไม่ใช่ดีกว่า
มันจะมีมุมมองด้านสุขภาพการแพทย์เกี่ยวกับสาว30+ในเรื่องการมีลูก ก็ต้องยอมรับแหละว่าอาจเกิดปัญหาสุขภาพได้จริงๆ แต่ในยุคที่การแพทย์เดินหน้าไปถึงขั้นเกือบจะล้ำ แล้วเนี่ย เราคิดว่าปัญหาตรงนี้ไม่ใช่เรื่องน่ากังวลอะไร
เราไม่ได้มองว่า คนโสด ดีกว่าคนมีแฟน คือมันเป็นเรื่องส่วนบุคคลถ้าคิดว่าคนนี้ใช่จริงๆต้องเป็นคนนี้จริงๆเท่านั้น นั่นก็แล้วแต่คุณ แต่เราไม่โอเคกับการมองสาวโสดตัวคนเดียวในด้านลบ ทั้งๆที่พวกเขาส่วนใหญ่ก็แฮปปี้ดีกว่าคนมีคู่ด้วยซ้ำไป.
#GtoonPizzicato
สาวโสด 30+ ไม่ดี?ซะเมื่อไหร่ล่ะ
ในจุดที่เรากำลังดำเนินชีวิตอยู่บนโลกยุคดิจิตอล ,สิ่งแวดล้อมที่ขับเคลื่อนด้วยการแข่งขัน และการใช้สื่อตบตีกัน โลกเราทุกวันนัมีแอคทิวิตี้อะไรที่อินเทอเรสมากมายให้เราได้ทำเรื่อยๆเสมอ
ชีวิตฟรีๆของสาวยุคใหม่และการหาความสุขรอบตัวในฐานะคนโสดที่ไร้พันธะ มันน่าสนุกและน่าสนใจมากกว่าการอยู่เป็นแม่บ้านซัพพอร์ตสามี หรือการต้องทำงานหาเงินมารับผิดชอบใครที่เพิ่มมาในชีวิต ส่วนตัวคิดว่าแค่สัตว์เลี้ยงคู่ใจสักตัวก็น่าจะเพียงพอนะ แล้วจะเหงาอะไรถ้ามีการแฮงค์เอาท์กับเพื่อนเรื่อยๆ มีอะไรทำเรื่อยๆ
ไม่กี่วันก่อนเพื่อนเราคนนึงแสดงแอทติจูดคร่ำครึที่น่าสนใจเกี่ยวกับการมีชีวิตคู่ เขากล่าวว่า "ผู้หญิงควรมีสามีในช่วงอายุไม่เกิน27หลังจากนี้ไปก็ไม่มีผู้ชายเหลือแล้ว เพราะเนื้อหนังจะเริ่มเหี่ยว ผู้ชายส่วนใหญ่จะมีคู่กันไปหมดแล้ว สุดท้ายแล้วเราอาจเป็นได้แค่เมียน้อย" มันเป็นความคิดที่ค่อนข้างน่ากลัวสำหรับสังคมเรามาก ยิ่งจากมุมมองของผู้ชายด้วยแล้วใหญ่
คือลืมไปหรือเปล่าว่านี่มันศตวรรษที่21 สังคมเราก็ไม่ได้มีแค่ การใช้ชีวิตในหมู่บ้านทำไร่ทำนาแล้วต้องรีบมีลูกออกเรือนตั้งแต่อายุ15 16 แบบคนสมัยก่อน นี่มันหมดยุควันทองแล้ว มันคือยุคเรยา
เอาเป็นว่าถ้าผู้ชายรุ่นนั้นมันจะไม่เหลือหนุ่มโสดจริงๆแล้ว ซึ่งมันเป็นไปไม่ได้ เพราะเกณฑ์การอยากโสดของผู้ชายมีมากกว่าผู้หญิง แต่ถ้าหากว่ามันหมดจริงๆ เด็กผู้ชายรึ่นใหม่ๆก็กำลังโตมาอีกตั้งเยอะตั้งแยะ
ในจุดที่ความหล่อสุดๆและสวยสุดๆของผู้ชายและผู้หญิงส่วนใหญ่จริงๆอยู่ที่ช่วงอายุ35ขึ้นไป แล้วถ้าในมุมของการเลือกคู่ครองที่ใช้เกณฑของเรื่องหน้าตากว่า60เปอร์เซนอีก40เปอร์เซนต์เป็นเรื่องภายใน มาตัดสินแบบคนทั่วไปแล้วล่ะก็ อะไรทำให้พวกเขาต้องรีบเลือกตะครุบคนที่ต้องการตั้งแต่มันยังอยู่ในจุดที่ไม่สมบูรณ์ เพราะการถูกสั่งสอนให้รีบมีลูกทันใช้เหรอ หรือค่านิยมไม่ดีเกี่ยวกับความโสด?
คนโสดไม่ได้หมายถึงว่าจะเป็นพวก celibate แต่คือในจุดที่โลกเรามีอะไรทำมากมายกว่าแต่ก่อนแล้ว เราคิดว่า การถือตัวเป็นสาวโสด มันไม่ใช่เรื่องไม่โอเค และการเป็นสาวโสดไม่ใช่การไม่มีใครเอา แต่เราเลือกที่จะไม่เอาใครที่ยังไม่ใช่ดีกว่า
มันจะมีมุมมองด้านสุขภาพการแพทย์เกี่ยวกับสาว30+ในเรื่องการมีลูก ก็ต้องยอมรับแหละว่าอาจเกิดปัญหาสุขภาพได้จริงๆ แต่ในยุคที่การแพทย์เดินหน้าไปถึงขั้นเกือบจะล้ำ แล้วเนี่ย เราคิดว่าปัญหาตรงนี้ไม่ใช่เรื่องน่ากังวลอะไร
เราไม่ได้มองว่า คนโสด ดีกว่าคนมีแฟน คือมันเป็นเรื่องส่วนบุคคลถ้าคิดว่าคนนี้ใช่จริงๆต้องเป็นคนนี้จริงๆเท่านั้น นั่นก็แล้วแต่คุณ แต่เราไม่โอเคกับการมองสาวโสดตัวคนเดียวในด้านลบ ทั้งๆที่พวกเขาส่วนใหญ่ก็แฮปปี้ดีกว่าคนมีคู่ด้วยซ้ำไป.
#GtoonPizzicato