💰💰💰คาสิโน เมืองไทยพร้อมหรือไม่ รายได้เข้าระบบ กับปัญหาสังคม(มีตัวเลขรายได้ casinoประกอบ)💰💰💰

รายได้จาก casino ของสิงคโปร์ และ รวมของทั่วโลก






เรียนรู้ประสบการณ์การเปิดคาสิโนของสิงคโปร์

โดย ดร.รัตพงษ์ สอนสุภาพ  



สิงคโปร์เป็นประเทศที่มีขนาดเล็กและมีทรัพยากรจำกัด รัฐบาลเห็นว่า รายได้จากการท่องเที่ยวจะเป็นรายได้สำคัญต่อการพัฒนาประเทศ จึงตัดสินใจเปิดบ่อนการพนันภายใต้โครงการคาสิโนรีสอร์ท (Casinos Integrated Resort : IRs) ขึ้นในปี 2005 เพื่อรองรับกลุ่มลูกค้าหลากหลายประเภท

ในช่วงก่อสร้าง รัฐบาลสิงคโปร์ดำเนินกระบวนการสร้างความรู้ความเข้าใจต่อสังคมอย่างต่อเนื่อง และในช่วงปี 2009-2010 ได้อนุญาตให้เปิดบ่อนการพนันอย่างถูกกฎหมายสองแห่ง คือ เซนโทซ่า (Sentosa) และมารีนาเบย์ (Marina Bay) โดยใช้เงินลงทุนเบื้องต้น 5,000 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์


มองในแง่ผลประโยชน์ รัฐบาลคาดหวังว่าโครงการนี้จะก่อให้เกิดการจ้างงาน 35,000 อัตรา มีเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจ 15,000 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์ต่อปี และผลอันเกิดจากการทำงานของตัวทวีคูณ (Multiplier effect) จะทำให้ภาคเศรษฐกิจอื่นๆขยายตัวตามไปด้วย เช่น โรงแรม สายการบิน ค้าปลีก ห้องพัก และเช่าซื้ออสังหาริมทรัพย์ ภาพรวมเหล่านี้จะส่งผลให้อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจของประเทศเพิ่มขึ้นระหว่างร้อยละ 0.3-1.3 ต่อปี

มองในแง่ผลกระทบ การเปิดบ่อนการพนันอาจส่งผลต่อภาพลักษณ์ของประเทศ รวมทั้งอาจนำไปสู่ปัญหาอื่นๆทางสังคม ได้แก่ ความพยายามที่จะหลีกเลี่ยงไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย เป็นเหตุให้ปัญหาการคอร์รัปชันเพิ่มขึ้น และอาจส่งผลในแง่ประสิทธิภาพในการบริหารงานของรัฐบาลและรัฐสภาต่อทิศทางในการกำหนดเกมการพนันของประเทศ อันเป็นผลสืบเนื่องมาจากภาพลวงตาของโครงการ IRs รวมทั้งการกำหนดแนวทางในการนำเงินที่ได้จากธุรกิจการพนันไปใช้ประโยชน์ต่อสังคมอย่างไรเพื่อให้สังคมได้ประโยชน์สูงสุด เช่นด้านการศึกษาและสาธารณสุขรวมถึงการรณรงค์เพื่อลดผลกระทบจากธุรกิจการพนัน

ข้อกังวลอีกประการหนึ่งสำหรับการเปิดบ่อนการพนันในสิงคโปร์คือ ปัญหาการเสพติดการพนันของชาวสิงคโปร์เอง ซึ่งจะนำไปสู่ปัญหาอื่นๆตามมา ได้แก่ ปัญหาครอบครัว ปัญหาอาชญากรรม และปัญหาหนี้สิน เป็นต้น

รัฐบาลสิงคโปร์ตระหนักถึงผลกระทบทางสังคม จึงได้ถอดบทเรียนและประสบการณ์ของเมืองหรือประเทศที่ได้มีการอนุญาตให้เปิดบ่อนการพนันอย่างถูกกฎหมายมาเป็นกรณีตัวอย่าง เช่น เมืองแอตแลนติกซิตี้ บาฮามาส และเมืองเวเนเซีย ลาสเวกัสในรัฐเนวาดา

รัฐบาลสิงคโปร์ได้ออกมาตรการทางสังคม กฎระเบียบในการเข้าไปเล่นการพนันในบ่อนคาสิโนอย่างเข้มงวด โดยเฉพาะชาวสิงคโปร์และคนที่มีถิ่นพำนักอยู่ถาวรในสิงคโปร์จะต้องเสียค่าใช้จ่าย 100 ดอลลาร์สิงคโปร์ต่อ 24 ชั่วโมง และ 2,000 ดอลลาร์สิงคโปร์ต่อปี ส่วนชาวต่างชาติสามารถเข้าได้ฟรี ทั้งนี้ผู้เข้าไปเล่นจะต้องมีอายุตั้งแต่ 21 ปีขึ้นไป การเข้าไปใช้บริการในแต่ละครั้งจะต้องแสดงหลักฐานตัวตนอย่างชัดเจน เช่น บัตรประชาชนใบขับขี่ ส่วนชาวต่างชาติก็แสดงหลักฐาน เช่น หนังสือเดินทาง เป็นต้น

Pricewaterhouse Coopers LLP และ Wilkofsky Gruen Associates (2011) ประเมินว่าสิงคโปร์เป็นประเทศที่มีอัตราการเติบโตในธุรกิจนี้รวดเร็วมาก ในปี 2010 ซึ่งเป็นปีแรกที่เปิดบ่อนคาสิโน สิงคโปร์มีส่วนแบ่งตลาดถึงร้อยละ 8.2 มูลค่า 2,827 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เป็นรองจากมาเก๊าและออสเตรเลียเท่านั้น สูงกว่าตลาดเก่าที่เปิดให้บริการอยู่แล้วทั้งเกาหลีใต้ มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ นิวซีแลนด์ และเวียดนาม ในช่วงปี 2011-2015 ตลาดสิงคโปร์มีแนวโน้มเติบโตสูงมาก มีอัตราการเติบโตเฉลี่ยร้อยละ 20.5 ต่อปี กลายเป็นตลาดใหญ่อันดับสองทั้งในแง่มูลค่าและอัตราการเติบโต เป็นรองเพียงมาเก๊าที่เดียวเท่านั้น โดยในปี 2015 มีมูลค่าสูงถึง 7,172 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

ล่าสุดมีข่าวออกมาว่า การพนันโดยรวมของคนสิงคโปร์ลดลง แต่ผลการสำรวจสะท้อนว่า ประชาชนที่มีรายได้ต่ำทุ่มเงินไปกับการพนันมากขึ้น วางเดิมพันก้อนใหญ่ขึ้น นักพนันหน้าเดิมเล่นพนันบ่อยขึ้น และมีคนขอคำปรึกษาเกี่ยวเนื่องกับปัญหาการพนันมากขึ้น ทำให้รัฐบาลต้องเดินหน้าแก้ปัญหาเรื่องนี้ ด้วยการห้ามผู้ล้มละลายหรือผู้ที่พึ่งพาความช่วยเหลือจากรัฐเข้าคาสิโน เพิ่มโทษทางวินัยแก่ผู้ดำเนินงานคาสิโนที่ไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย รวมถึงจำกัดสินเชื่อสำหรับนักพนัน และกำลังพิจารณามาตรการอื่นๆเพิ่มเติมจากกฎที่เคยห้ามคาสิโนโฆษณาพุ่งเป้าไปที่คนท้องถิ่น และจำกัดหน้าม้าที่หานักพนันกระเป๋าหนักเข้าคาสิโน

ชาวจีนลูกค้ารายใหญ่




ถ้ามองแค่ในเชิงเศรษฐกิจ ( แค่อ้างอิง )



ตัวเลขที่กล่าวข้างบนเป็นเพียงรายได้ที่ casino หลักๆในย่านนี้
ไม่นับตัวตัวเลขอีกมหาศาลที่คนไทยเสียให้กับตามชายแดน  ทั้งพม่า ลาว กัมพูชา



ในความเป็นจริง ประเทศเรายอมรับอะไรบ้างที่เกิดในบ้างเมืองนี้

การพนัน หวย การค้าประเวณี มาเฟีย  รีดไถตามถนน สิ่งพวกนี้ไม่ได้ไกลเราตัวเลย

คนที่มันไม่เล่นพนันมันก็ไม่เล่น คนที่มันเล่นมันก็ดิ้นรนอยู่ดีที่จะเล่น

จะเพิ่มความอยากไหม ถ้าไม่ตั้งแบบ 7/11 คงไม่เป็นปัญหา เพราะทุกวันนี้ online เพียบ



การควบคุมให้อยู่ใน zone เศรษฐกิจ  พิเศษ พวกจังหวัดแล้งซ้ำซาก เมืองที่ไม่ใช่เมืองท่องเที่ยวหลัก

ดึงรายได้จาก casino รายล้อมเรากลับมาให้เป็นภาษีที่พัฒนาสังคมบ้างดีกว่าให้เพื่อนบ้านเอาไปหมด

นี่เป็นเพียงมุมมองของ จขกท ที่เดินทางไปที่ต่างๆและก็เล่นเป็นการ entertain เท่านั้นครับ



ยินดีรับฟังปัญหา มุมมองจากสมาชิกทุกท่านครับ

แก้ไขข้อความเมื่อ
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 5
เชื่อหรือไม่ว่า เมืองที่ได้ชื่อว่า เป็นเมืองหลวงของการพนัน เช่น มาเก๊า

หรือแม้กระทั่งสิงคโปร์ ต่างมีอัตราการเกิดอาชญากรรม ต่ำกว่าไทยทั้งสิ้น


ป.ล สาเหตุที่ประเทศไทยเปิดคาสิโนไม่ได้ในขณะนี้ เพราะส่วนแบ่งยังไม่ลงตัวมากกว่า
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 6
จริงๆแล้วเป็นคนไม่เล่นการพนันนะคะ  แต่เรื่องเปิดบ่อนเสรีนี้เห็นด้วยตั้งแต่รัฐบาลไทยรักไทยคิดจะทำแล้วค่ะ

การนำเรื่องใต้ดินขึ้นมาทำให้ถูกฏหมาย เป็นเรื่องที่น่าจะรีบทำตั้งนานแล้ว เพราะเป็นการทำลายเงินนอกระบบ เพื่อดึงเงินเข้าระบบ ได้ทั้งภาษีและจัดระเบียบวงการนี้ด้วย  การจะเข้าไปใช้บริการก็ต้องแสดงตัวชัดเจน โดยแสดงบัตรประชาชน  เพื่อเป็นการบันทึกประวัติว่ามีอาชีพใด มีความสามารถหาเงินจากไหนเพื่อมาเล่น แค่นี้อีกหน่อยคนที่ชอบเล่นก็อาจจะท้อถอยไปบ้าง และถือเป็นการลดปริมาณคนเล่นการพนันไปในตัว

ข้อเสนออีกอย่างคือต้องให้บ่อนถูกกฏหมายสามารถช่วยทางการด้วยการแจ้งเบาะแสบ่อนเถื่อนที่ลักลอบเปิด เพื่อเป็นการดูแลกันเอง ลดบ่อนเถื่อนไปได้ด้วย
ส่วนมาตรการในการป้องกันและรองรับก็ไปคิดหาวิธีให้เข้มงวดเพื่อป้องกันคนที่รายได้น้อยต้องการเข้ามาเล่นให้ยากเข้าไว้

เรื่องเปิดบ่อนเสรีใช่ว่าจะทำแล้วต้องทำตลอด ถ้าชาวต่างชาติไม่นิยม หรือคนไทยไม่นิยมแล้ว  พอทางการมีข้อมูลมีประวัติครบถ้วน อีกหน่อยไม่มีคนเล่น ก็สามารถปิดไปเอง

ถือเป็นการเปิดเพื่อปิดค่ะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่