รวบหนุ่มงัดรถลักทรัพย์นับสิบครั้ง อึ้งใช้ไขควงอันเดียว
http://goo.gl/zKqBgt
17 มิถุนายน 2558 เวลา 12:13 น.
ตร.สน.ท่าข้าม รวบหนุ่ม ตระเวนงัดรถห้างดังพระราม 2 ก่อเหตุ 12 ครั้งได้ทรัพย์สิน รวมมูลกว่า1ล้านบาท ระบุ ใช้เพียงไขควงอันเดียว
เวลา 10.00 น. วันที่ 17 มิ.ย. ที่ สน.ท่าข้าม พ.ต.อ.เชิดชาย สัตตบุศย์ ผกก.สน.ท่าข้าม แถลงข่าวจับกุม นายสมยศ หรือตั้ม ทองคุ้ม อายุ 32 ปี ชาว จ.สมุทรสาคร ตามหมายจับศาลอาญาธนบุรี ที่ 385/2558 ลงวันที่ 3 มิ.ย.58 ข้อหาลักทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำความผิด พร้อมของกลางอาวุธปืนขนาด 6.35 พร้อมซองกระสุน 2 อัน รถยนต์อีซูซุ รุ่นมิว 7 สีเทา ทะเบียน ศฮ – 5713 กรุงเทพมหานคร รถกระบะอีซูซุ รุ่นดีแมกซ์ สีขาว ทะเบียน ถย 718 กรุงเทพมหานคร กล้องถ่ายรูปยี่ห้อโอลิมปัส 1 ตัว โน้ตบุ๊ก 1 ตัว ไขควงที่ใช้ก่อเหตุงัดประตูรถ 1 อัน และทรัพย์สินอื่นๆ รวม 40 รายการ โดยจับกุมผู้ต้องหาได้ที่บ้านพักเลขที่ 31/299-300 หมู่ 4 ต.นาดี อ.เมือง จ.สมุทรสาคร
พ.ต.อ.เชิดชาย เผยว่า การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา มีผู้เสียหายซึ่งใช้รถกระบะอีซูซุ รุ่นดีแมกซ์ และ รถยนต์อีซูซุ รุ่นมิว 7 จำนวน 12 ราย เข้ามาแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สน.ท่าข้าม ว่า ถูกงัดประตูรถลักทรัพย์สินและบางรายถูกขโมยรถไปจากห้างสรรพสินค้าหลายแห่งในพื้นที่ สน.ท่าข้าม จึงสั่งการให้กำลังฝ่ายสืบสวนร่วมกับชุดจู่โจมฝ่ายป้องกันและปราปราบปรามโรงพัก ช่วยกันแกะรอยหาเบาะแสของคนร้ายจากกล้องวงจรปิด กระทั่งพบภาพ นายสมยศ ร่วมมือกับพรรคพวกที่ยังหลบหนีอีก 1-2 คน ตระเวนก่อเหตุตามลานจอดรถจึงนำหลักฐานไปขออนุมัติหมายศาลทำการติดตามจับกุมตัวมาดำเนินคดี พร้อมยึดของกลางทั้งรถและทรัพย์สินมาคืนให้ผู้เสียหายได้เป็นจำนวนมาก ส่วนผู้ร่วมก่อเหตุที่เหลือกำลังรวบรวมหลักฐานขอหมายจับติดตามตัวมาดำเนินคดีด้วยเช่นกัน
จากการสอบสวน นายสมยศ ให้การว่า เรียนจบแค่ชั้น ป.6 เมื่อปี 2550 เคยถูกตำรวจพื้นที่ จ.สมุทรสาคร จับข้อหาเสพยาบ้า,ลักทรัพย์และรับของโจร ติดคุกมา 1 ปี 6 เดือน ปัจจุบันไม่มีงานทำจึงร่วมกันกับเพื่อนอีก 2 คนประกอบด้วย นายตรีทศพล หรือ เอส วิเชียรโรจน์ อายุ 27 ปี และ นายเอก ไม่ทราบนามสกุล เพื่อนที่รู้จักกันในคุกตระเวนใช้ไขควงงัดประตูรถผู้เสียหายนำทรัพย์สินไปขายหาเงินมาแบ่งกันใช้จ่าย ส่วนรายใดที่เผลอทิ้งกุญแจสำรองไว้ในรถก็จะลักรถทั้งคันไปชำแหละอะไหล่สับเปลี่ยนเครื่องและสลับแผ่นป้ายทะเบียนนำมาขับเป็นยานพาหนะใช้ในการก่อเหตุ สำหรับห้างสรรพสินค้าในพื้นที่ สน.ท่าข้าม นั้น เคยก่อเหตุสำเร็จมาแล้ว จำนวน 12 ครั้ง โดยใช้ไขควงปากแบนแค่ตัวเดียว
นายสมยศ กล่าวอีกว่า สาเหตุที่ต้องคัดเฉพาะรถกระบะอีซูซุดีแม็กซ์และรถยนต์อีซูซุรุ่นมิว 7 นั้น ก็เพราะมีเทคนิคการงัดที่ฝึกฝนกันมานานประกอบกับทราบดีว่าถ้าหากงัดถูกจังหวะสัญญาณกันขโมยก็จะไม่ร้องเตือน แต่ละคันใช้เวลาแค่ 2-3 วินาทีก็สามารถเปิดประตูได้แล้ว โดยตนกับ นายเอ และ นายเอส จะผลัดเปลี่ยนกันทำหน้าที่งัด ดูต้นทาง และรื้อค้นทรัพย์สิน ซึ่งการลงมือแต่ละครั้งรถผู้เสียหายจะไม่บอบช้ำเลยเพราะพวกตนรู้ขั้นตอนการงัดเป็นอย่างดี และเมื่อลงมือเสร็จก็จะจัดทรัพย์สินในรถให้เรียบร้อยพร้อมล๊อกประตูคืนให้ เพื่อไม่ให้ผู้เสียหายสงสัยขณะเดินห้างแล้วกลับมาที่รถกว่าจะทราบว่าของหายก็เคลื่อนย้ายรถออกไปด้านนอกห้างสรรพสินค้าแล้ว มีอยู่รายหนึ่งที่ทิ้งกุญแจสำรองเอาไว้ก็ถูกขโมยรถออกไปทั้งคัน ทั้งนี้จะเอาทรัพย์สินไปขาย แบ่งเงินกัน เอาเงินไปเที่ยวเตร่
รวบหนุ่มงัดรถ อีซูซุดีแม็กซ์และรุ่นมิว 7 ใช้ไขควงอันเดียว 3 วินาที รถไม่บอบช้ำเลย
http://goo.gl/zKqBgt
17 มิถุนายน 2558 เวลา 12:13 น.
ตร.สน.ท่าข้าม รวบหนุ่ม ตระเวนงัดรถห้างดังพระราม 2 ก่อเหตุ 12 ครั้งได้ทรัพย์สิน รวมมูลกว่า1ล้านบาท ระบุ ใช้เพียงไขควงอันเดียว
เวลา 10.00 น. วันที่ 17 มิ.ย. ที่ สน.ท่าข้าม พ.ต.อ.เชิดชาย สัตตบุศย์ ผกก.สน.ท่าข้าม แถลงข่าวจับกุม นายสมยศ หรือตั้ม ทองคุ้ม อายุ 32 ปี ชาว จ.สมุทรสาคร ตามหมายจับศาลอาญาธนบุรี ที่ 385/2558 ลงวันที่ 3 มิ.ย.58 ข้อหาลักทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำความผิด พร้อมของกลางอาวุธปืนขนาด 6.35 พร้อมซองกระสุน 2 อัน รถยนต์อีซูซุ รุ่นมิว 7 สีเทา ทะเบียน ศฮ – 5713 กรุงเทพมหานคร รถกระบะอีซูซุ รุ่นดีแมกซ์ สีขาว ทะเบียน ถย 718 กรุงเทพมหานคร กล้องถ่ายรูปยี่ห้อโอลิมปัส 1 ตัว โน้ตบุ๊ก 1 ตัว ไขควงที่ใช้ก่อเหตุงัดประตูรถ 1 อัน และทรัพย์สินอื่นๆ รวม 40 รายการ โดยจับกุมผู้ต้องหาได้ที่บ้านพักเลขที่ 31/299-300 หมู่ 4 ต.นาดี อ.เมือง จ.สมุทรสาคร
พ.ต.อ.เชิดชาย เผยว่า การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา มีผู้เสียหายซึ่งใช้รถกระบะอีซูซุ รุ่นดีแมกซ์ และ รถยนต์อีซูซุ รุ่นมิว 7 จำนวน 12 ราย เข้ามาแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สน.ท่าข้าม ว่า ถูกงัดประตูรถลักทรัพย์สินและบางรายถูกขโมยรถไปจากห้างสรรพสินค้าหลายแห่งในพื้นที่ สน.ท่าข้าม จึงสั่งการให้กำลังฝ่ายสืบสวนร่วมกับชุดจู่โจมฝ่ายป้องกันและปราปราบปรามโรงพัก ช่วยกันแกะรอยหาเบาะแสของคนร้ายจากกล้องวงจรปิด กระทั่งพบภาพ นายสมยศ ร่วมมือกับพรรคพวกที่ยังหลบหนีอีก 1-2 คน ตระเวนก่อเหตุตามลานจอดรถจึงนำหลักฐานไปขออนุมัติหมายศาลทำการติดตามจับกุมตัวมาดำเนินคดี พร้อมยึดของกลางทั้งรถและทรัพย์สินมาคืนให้ผู้เสียหายได้เป็นจำนวนมาก ส่วนผู้ร่วมก่อเหตุที่เหลือกำลังรวบรวมหลักฐานขอหมายจับติดตามตัวมาดำเนินคดีด้วยเช่นกัน
จากการสอบสวน นายสมยศ ให้การว่า เรียนจบแค่ชั้น ป.6 เมื่อปี 2550 เคยถูกตำรวจพื้นที่ จ.สมุทรสาคร จับข้อหาเสพยาบ้า,ลักทรัพย์และรับของโจร ติดคุกมา 1 ปี 6 เดือน ปัจจุบันไม่มีงานทำจึงร่วมกันกับเพื่อนอีก 2 คนประกอบด้วย นายตรีทศพล หรือ เอส วิเชียรโรจน์ อายุ 27 ปี และ นายเอก ไม่ทราบนามสกุล เพื่อนที่รู้จักกันในคุกตระเวนใช้ไขควงงัดประตูรถผู้เสียหายนำทรัพย์สินไปขายหาเงินมาแบ่งกันใช้จ่าย ส่วนรายใดที่เผลอทิ้งกุญแจสำรองไว้ในรถก็จะลักรถทั้งคันไปชำแหละอะไหล่สับเปลี่ยนเครื่องและสลับแผ่นป้ายทะเบียนนำมาขับเป็นยานพาหนะใช้ในการก่อเหตุ สำหรับห้างสรรพสินค้าในพื้นที่ สน.ท่าข้าม นั้น เคยก่อเหตุสำเร็จมาแล้ว จำนวน 12 ครั้ง โดยใช้ไขควงปากแบนแค่ตัวเดียว
นายสมยศ กล่าวอีกว่า สาเหตุที่ต้องคัดเฉพาะรถกระบะอีซูซุดีแม็กซ์และรถยนต์อีซูซุรุ่นมิว 7 นั้น ก็เพราะมีเทคนิคการงัดที่ฝึกฝนกันมานานประกอบกับทราบดีว่าถ้าหากงัดถูกจังหวะสัญญาณกันขโมยก็จะไม่ร้องเตือน แต่ละคันใช้เวลาแค่ 2-3 วินาทีก็สามารถเปิดประตูได้แล้ว โดยตนกับ นายเอ และ นายเอส จะผลัดเปลี่ยนกันทำหน้าที่งัด ดูต้นทาง และรื้อค้นทรัพย์สิน ซึ่งการลงมือแต่ละครั้งรถผู้เสียหายจะไม่บอบช้ำเลยเพราะพวกตนรู้ขั้นตอนการงัดเป็นอย่างดี และเมื่อลงมือเสร็จก็จะจัดทรัพย์สินในรถให้เรียบร้อยพร้อมล๊อกประตูคืนให้ เพื่อไม่ให้ผู้เสียหายสงสัยขณะเดินห้างแล้วกลับมาที่รถกว่าจะทราบว่าของหายก็เคลื่อนย้ายรถออกไปด้านนอกห้างสรรพสินค้าแล้ว มีอยู่รายหนึ่งที่ทิ้งกุญแจสำรองเอาไว้ก็ถูกขโมยรถออกไปทั้งคัน ทั้งนี้จะเอาทรัพย์สินไปขาย แบ่งเงินกัน เอาเงินไปเที่ยวเตร่