Spring time in Japan ก่อนลมหนาวจะจากไป By Tonnam Ep.4: Noboribetsu Onsen - Hakodate

สวัสดีครับผมชื่อ "ต้นน้ำ"​ ครับ อาจจะเขียนไม่ค่อยเก่ง ข้อมูลไม่ค่อยเยอะ แต่เน้นลงรูปกับความรู้สึกที่ไปสัมผัสมาแล้วกันนะครับ

ถ้าอ่านรีวิวผมแล้วชอบแวะไปติดตามกันได้นะครับ
Facebook: https://www.facebook.com/tonnamfoto
Instagram: https://instagram.com/tonnamfoto  (@tonnamfoto)

Ep1: Wakkanai-Rishiri-Rebun http://ppantip.com/topic/33742559
Ep2: Asahikawa - Biei - Furano http://ppantip.com/topic/33751131
Ep3: Asahiyama Zoo-Sapporo-Wakkanai http://ppantip.com/topic/33772371

แสงแดดที่สาดจ้าเข้ามาในห้องปลุกผมให้ตื่นจากภวังก์ แม้ว่าค่ำคืนที่ผ่านมาจะเต็มไปด้วยความทรงจำและชีวิตของผู้คนในร้านเหล้าที่ได้พบเจอ ผมคว้ามือถือที่ตั้งอยู่ข้างตัวมากดดูเวลา 8โมงแล้วหรอ ผมอุทานกับตัวเอง สายกว่าที่ผมตั้งใจไว้มากแพลนทั้งหมดที่ตั้งค่อยตั้งวางกันใหม่ ผมกัดฟันลุกขึ้นอาบน้ำแต่งตัวด้วยความรวดเร็วเพื่อให้ทันรถไฟ limited express รอบถัดไป

ผมวิ่งกระหืดกระหอบลากกระเป๋าเดินทางขึ้นรถไฟทันเวลาพอดีแถมยังมีเวลาซื้ออาหารกล่องเบาจากร้านที่ขายอยู่ตรงชานชาลาอีกด้วย ไม่กล้าฝากความหวังไว้กับบริการในรถไฟเพราะที่ Hokkaido บางสายก็ไม่มีแม้ตู้น้ำหยอดเหรียญให้ดื่ม รถไฟเล่นออกจากชานชาลาตามเวลาเช่นเคย ผมกล่าวคำลา Sapporo อยู่เบาๆในใจ หวังว่าวันนึงผมจะได้กลับมาในฤดูหนาวท่ามกลาวหิมะขาวโพลน

จุดหมายตต่อไปของผมคือ Noboribetsu Onsen อยู่กลางทางไป Hakodate มีชื่อเสียงเรื่องน้ำพุร้อนและ Onsen ของ Hokkaido ผมเปิดดูรีวิวของหลายคนที่นี่เป็นที่ยอดนิยมระดับต้นๆของคนมาเที่ยว Hokkaido เช่นกัน

รถไฟเทียบชานชาลาของสถานีเล็ก "์Noboribetsu" เสียงประกาศดัง ผมชะโงกหน้าไปดูสถานีเล็กๆ ในใจก็คิดว่าใช่เหรอที่นี่ แหล่งท่องเที่ยวดังทำไมดูเงียบจัง แต่เห็นนักท่องเที่ยวจีนในโบกี้เดียวกับผมลุก ผมเลยลุกตามคิดว่าคงลงมาไม่ผิด สถานีเล็กๆแต่เต็มไปด้วยนักท่องเที่ยว สถานีอยู่ไกลจากแหล่งที่เที่ยวพอสมควร ต้องนั่งรถบัสต่อไปอีกประมาณ 15 นาที ผมเลือกจะซื้อตั๋วไปกลับที่เคาเตอร์ขายตั๋วรถไฟเพราะราคาจะถูกกว่าจ่ายเงินข้างบน

ผมจัดแจงฝากกระเป๋าในล๊อกเกอร์เรียบร้อยแล้วเดินไปรอรถบัสข้างหน้า "แมวน่ารักจังเลย"​ เสียงคนไทยดังขึ้นมา ผมหันหน้าไปตามที่มาของเสียง เริ่มมีการสนทนากันดังขึ้น ประมาณครึ่งหนึ่งของคนที่รอเป็นพี่น้องชาวไทย และอีกครึ่งนึงเป็นพี่น้องชาวจีน ผมมองต่อไป "แมว" ที่นั่งอยู่หน้าสถานีรถไฟ มันน่ารักน่าอุ้มมาก มีแต่คนเข้าไปถ่ายรูปกับมัน มันเองก็เล่นกล้องไม่แพ้กัน

ผมขอเรียกมันว่า "เจ้าแมวโนโบริเบทซึ" พอคนเริ่มซาผมก็เริ่มเข้าหามัน แกล้งค่อยๆเคลื่อนเข้าใกล้ มันโค้งคอมาดูแล้วก็โพสต์ท่าให้ถ่ายอย่างง่ายดาย ผมเก็บภาพเจ้าโนโบริเบทซึหลายๆมุมจนรถบัสเลี้ยวเข้ามาจอด ก็เป็นเวลาที่ผมกับมันต้องจากกัน ผมไม่ลืมจะโบกมือบ๊ายบายให้กับมันที่ก็พยักคอช้าประหนึ่งว่าเข้าใจในคำบอกลา



ย่านน้ำพุร้อนอยู่กลางหุบเขา ดูเป็นเมืองท่องเที่ยวจริงๆจังๆ อู่รถบัสอยู่ติดกับ Information Center มีถนนเส้นหลักเส้นเดียวนำไปสู่หุบเขาน้ำพุร้อน โรงแรมออนเซ็นมีอยู่ตลอดสอดข้างทาง ร้านขายของที่ระลึกก็เปิดรายทางต่อกันไป และอีกอย่างที่ยืนต้องรับเราคือ "เจ้าอสูรน้อย" ยักษ์ผู้คอยปกปักษ์รักษาเมืองนี้ไว้ ไม่ให้ปีศาจชั่วร้ายเข้ามาทำอันตรายได้



ผมมาที่นี่มีแพลนอยู่สองอย่าง อย่างแรกคือ "ปีนเขา" และอีกอย่างคือ "แช่ออนเซ๋น" ผมเลือกที่จะไปปีนเขาก่อน ทางเดินตัดเข้าไปในเขา มียักษ์ใหญ่สองตัวนอนเฝ้าปากทางขึ้นอยู่ ผมเลือกเส้นทางตรงที่สุดเพื่อไปถึงบ่อน้ำร้อนขนาดใหญ่ หุบเขานี้มีฉายาว่า "Jigoku" หรือหุบเขาแห่งนรก ไม่รู้ว่าญี่ปุ่นมีความเชื่อเรื่องนรกแบบกระทะทองแดงรึเปล่า แต่ถ้าใช่นี่ก็เหมือนอยู่ไม่เบา

จุดแรกจะเป็นหุบเขาสีแดงส้ม มีไอความร้อนพวยพุ่งออกมาคล้ายขุมนรกที่แท้จริง กลุ่มกำมะถันคละคลุ้งไปทั่ว



ผมหยุดถ่ายรูปอยู่ไม่นานก็เดินต่อตามทางตัดป่าขึ้นสู่ยอดเขาเพื่อไปดู "ทะเลสาบน้ำร้อนกลางหุบ"​



เกือบกิโลผมก็มาถึงจุดชมวิวทะเลสาบ ผมยืนหยุดหายใจอยู่ด้านบนด้วยความเหนื่อย มองลงไปยังทะเลสาบที่มีควันพวยพุ่งขึ้นมาตลอด


ตอนแรกตั้งใจว่าจะเดินต่อไปยัง "สปาเท้าน้ำพุร้อน" ซึ่งต้องเดินไปอีกพอสมควร แต่กำมะถันที่อบอวนอยู่ทั่วทั้งหุบเขาทำพิษผมแล้ว รู้สึกปวดหัว หายใจไม่สะดวก อยากจะอ้วกเลยจำเป็นต้องเดินลงกลับเข้าในเมืองเพื่อไปยังจุหมายต่อไป "แช่ออนเซ็น"



ในเมือง Noboribetsu มีออนเซ็นให้แช่อยู่หลายเจ้ามาก ทั้งในโรงแรมและสาธารณะ ผมเลือกที่ดังที่สุด Daiichi Takimotokan เพราะที่นี่ได้ชื่อว่าใหญ่ที่สุด มีผ้าขนหนูและอุปกรณ์อาบน้ำให้พร้อม แต่ราคาค่าเข้าก็แพงพอสมควร 2,000 ต่อคน จ่ายเงินเสร็จต้องขึ้นลิฟต์ไปโซนออนเซ็นตะกร้าผ้าวางให้ใส่เสื้อ พออยู่ในชุดวันเกิดก็ลงไปแช่ได้ครับ ตอนไปเป็นกลางวันวันธรรมดา ไม่มีลูกค้าคนอื่นเลย มีแต่พนักงานกำลังทำความสะอาด เหมือนทั้งออนเซ็นเป็นของเรา ผมก็ลงแช่บ่อนั้นทีบ่อนี้ที ทั้งอินดอร์เอาท์ดอร์ แล้วก็ไปนั่งซาวน่าเป็นอันเสร็จพิธี ออกมาล้างตัวใส้เสื้อผ้ากินนมแล้วก็ออกเดินทางต่อ ไปจุดหมายสุดท้ายใน  Hokkaido ที่ Hakodate
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่