[CR] รีวิวการทำเลสิคครั้งแรกของผม โดยคุณหมอตุลยา ที่สุพรีมไอเลสิค

ก่อนอื่นต้องบอกก่อนนะครับ นี่เป็นการเขียนรีวิวครั้งแรกของผม ผมไม่ใช่ blogger ไม่มีใครมาจ้างเขียน
และผมไม่มีความรู้ทางการแพทย์ ไม่ใช่คุณหมอครับ
ดังนั้นจะเล่าแบบภาษาชาวบ้านที่ได้ไปทำเลสิคมาครับ

ผมใส่แว่นตั้งแต่ประถม พอขึ้นมัธยมก็อยากดูดีเลยเริ่มใส่คอนแทคเลนส์ อายุก็ล่วงเลยมาเรื่อยๆ เพื่อนๆก็ไปทำเลสิคกันหลายคน แต่ตัวเองก็ยังไม่กล้าครับ
จนมาวันนึงเลนส์ที่เคยใส่อยู่ทุกวันมันเกิดปัญหา ผมแพ้เลนส์ที่ใส่ มีผื่นขึ้นในเปลือกตา หมอเลยสั่งให้หยุดใส่เลนส์ 2 เดือน... พระเจ้า นี่ผมต้องกลับไปเป็นลุงแว่น  2 เดือนเลยหรอ ทนไม่ได้แน่ๆ เลยตัดสินใจว่า หายแล้วจะทำเลสิคครับ ก็หาข้อมูลกันไปก่อน ระหว่างรอตาหายเป็นปกติ

ทั้งหาข้อมูลตามกระทู้ต่างๆ ทั้งสอบถามเพื่อนๆ ที่เคยทำมาแล้ว ในที่สุดผมก็ได้คุณหมอในใจละครับ ผมตัดสินใจเลือกหมอตุลยามาเปลี่ยนชีวิตผมครับ หลายๆ หรือคลีนิคที่จะไปทำก่อน แต่ผมเลือกคุณหมอก่อนครับ คราวนี้ก็มาหาต่อว่าหมอตุล ทำที่ไหนบ้าง มีอยู่ 3 ที่ครับ คือ โรงพยาบาลปิยะเวท ศูนย์ท็อปเจริญจักษุ และสุพรีมไอเลสิค

หลังจากนั้นผมก็ดูเทคโนโลยีของแต่ละที่ครับว่าใน 3 ที่นี้ ที่ไหนมีเทคโนโลยีที่ทันสมัยกว่า เอาง่ายๆ ตามีคู่เดียว แล้วกลัวเจ็บด้วย สุดท้ายมาจบที่ สุพรีมไอเลสิคครับ เพราะเค้าบอกว่าเทคโนโลยีมาจากอเมริกา นาซ่ารับรองด้วย คิดว่าน่าจะโอเค เลยติดต่อไปที่คลีนิคครับ เพราะการทำเลสิคต้องตรวจตาอย่างละเอียดก่อน ไม่ใช่ว่ามีตังค์แล้วจะทำได้ทุกคนนะครับ

หลังจากนัดแนะเรียบร้อย เจ้าหน้าที่ย้ำว่าให้หยุดใส่เลนส์ไปเลยเพื่อให้ตาได้พักเต็มที่ เอาล่ะผมขอข้ามมาวันที่ไปตรวจตาเลยนะครับ บอกเลยตื่นเต้นมาก มาตามนัดที่ตึกยูไนเต็ด เข้าไปด้านใน  แลกบัตรแล้วขึ้นลิฟต์ไปชั้น 19 เลยครับ สุพรีมไอเลสิค เป็นคลีนิคใหญ่สะอาด มีคลีนิคเดียวบนชั้นนั้นไม่มีหลงครับ
หลังจากพูดคุยกับเจ้าหน้าที่เรียบร้อย ก็จะมีเอกสารประวัติให้เรากรอก พร้อมถ่ายรูปนิดนึงครับ หลังจากนั้นเค้าจะพาเราไปตรวจครับ มีหลายฐานที่ต้องเข้าเลยครับ ตรวจความหนาของกระจกตาว่าเราจะทำได้มั้ย ตรวจความดันของลูกตา วัดค่าสายตาด้วยคอมพิวเตอร์ และวัดซ้ำด้วยเจ้าหน้าที่อีกรอบ เค้าจะมีการหยอดยาขยายม่านตาด้วยนะครับ จะแสบๆตานิดนึงเวลาตาโดนแสง แต่น่าจะทนกันได้ครับ สุดท้ายจะเข้าเครื่องสแกนกระจกตา เพื่อเก็บผลไปไว้ตอนยิงเลเซอร์ครับ ต้องให้ความร่วมมือนะครับ ผลจะออกมาแม่นไม่แม่น เจ้าเครื่องนี้ก็มีส่วนมากครับ
ตรวจเสร็จหมดก็ได้เวลาพบคุณหมอละครับ เจอหมอตุลครั้งแรก โอเคเลย คุณหมอใจดีมากเป็นกันเอง ผมรู้สึก relax ขึ้นเยอะเลยครับ หมอเอาผลการตรวจมาดูครับ บอกว่า ตาโอเคมาก จะทำด้วยวิธีไหนก็ได้ มีหลายวิธีให้เลือกตามความพอใจเลยครับ คุณหมอไม่ขายของนะครับ บางที่อาจจะเชียร์ให้ใช้ของแพงๆ เค้าจะได้เงินเยอะๆ แต่หมอตุลนั่งอธิบายให้ฟังเลยครับ
วิธีถูกสุดเรียกว่า PRK อันนี้หมอบอกว่าถูกและดี เพราะว่ามันเป็นการขูดกระจกตา แล้วค่อยยิงเลเซอร์เข้าไปอีกที จะเหมือนแผลถลอก ซึ่งมันจะสร้างเนื้อเยื่อใหม่ขึ้นมาทดแทน ไม่มีการผ่าเปิดกระจกตาครับ คนที่กระจกตาบาง รวมถึงคนที่ใช้ชีวิตแบบ extreme จะทำได้เฉพาะวิธีนี้เท่านั้น
วิธีต่อมาคือเลสิคปกติ ที่ใช้ใบมีดขนาดเล็กเปิดกระจกตาของเรา แบบฝามาม่าคัพอะครับ คือเปิดไม่หมด แล้วใช้เลเซอร์ยิงเข้าไป จากนั้นก็ปิดฝามาม่ากลับที่เดิม รอ  3 นาทีเปิดกินได้ เอ๊ย... ไม่ใช่ ปิดกลับที่เดิมแล้วรอกระจกตาสมานกลับครับ อันนี้ตัวกระจกจะได้รับความเสียหายจากการตัดของใบมีดครับ
วิธีสุดท้ายคือ ไอเลสิค หรือ เฟมโต ครับ (คลีนิคเรียกไอเลสิค คุณหมอเรียก เฟมโต) วิธีนี้คล้ายวิธีที่สอง แต่ไม่ได้ใช้มีดครับ เค้าใช้เลเซอร์แทนครับ ซึ่งถ้าเลเซอร์ไปแล้วหมอเห็นว่ารอยตัดไม่โอเคหมอจะหยุดไม่ทำต่อ คือกระจกตาจะไม่ถูกเปิดขึ้นมา แล้วให้กลับบ้าน แล้วค่อยนัดมาทำใหม่ครับ วิธีนี้แผลจะเรียบกว่า และฟื้นตัวเร็วกว่าครับ แต่ราคาจะแพงสุดครับ
ไม่ต้องคิดมากเลย ผมเลือกวิธีที่เข้าใจว่าจะเจ็บน้อยที่สุด และกลับมามองเห็นได้เร็วที่สุด นั่นคือ ไอเลสิค หรือเฟมโตนั่นเอง หมอยังถามซ้ำครับ ไม่เอา PRK จริงๆ หรอ ถูกกว่าเยอะ หมอมือเบาไม่เจ็บหรอกนะ ก็ลังเลไปแปปนึงครับ แต่สุดท้าย ก็ยังขอฟื้นตัวเร็วอยู่ดี ไม่อยากทรมานนานอะครับ 555
หลังจากเลือกวิธีเรียบร้อยก็นัดวันขึ้นเขียงครับ
ค่าตรวจวันนี้ 1,500 บาทครับ ถ้ามีบัตรกสิกรเหลือ 1,000 บาทครับ อันนี้ก็เสร็จผมสิครับ หยิบบัตรมารูดรับส่วนลดกันไป เช็คราคาค่าไอเลสิคไว้ก่อน ตอนนี้มีโปรบัตรกสิกรผ่อน 0% นาน 10 เดือน ค่ารักษา 99,000 รวมยาและการติดตามผลครับ (กลับไปรีบไปจัดการเพิ่มวงเงินบัตรเครดิตเลยครับ)

พอใกล้วันนัดเจ้าหน้าที่เค้าก็โทรมาหาและย้ำข้อควรปฏิบัติก่อนผ่าตัดอีกที อาบน้ำสระผมให้สะอาด ห้ามใช้น้ำหอมหรืออะไรก็ตามที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ (เค้าบอกว่าผลจะไม่แม่นยำได้ถ้าฉีดน้ำหอมมา) ห้ามทาครีมหรืออะไรก็ตามบนหน้ามา ใส่เสื้อแบบกระดุมเพื่อจะได้ลดการกระเทือนตา ทั้งหมดนี้เพื่อตัวเราเอง ก็ทำตามไปนะครับ

เอาล่ะมาถึงวันทำเลสิคแล้ว... อย่ามาคนเดียวนะครับ มีญาติพาญาติมา มีแฟนพาแฟนมา เพราะตอนกลับอาจจะลำบากครับ มาถึงคลีนิค เจ้าหน้าที่จะให้เราอ่านเอกสารเกี่ยวกับการอนุญาตให้หมอรักษา ซึ่งจะไม่มีการฟ้องร้องกันในภายหลัง ก็โอเคครับอ่านจบ เซ็นชื่อเรียบร้อย เจ้าหน้าที่ก็มานั่งอธิบายวิธีดูแลตาหลังผ่าตัด สอนเช็ดตา สอนหยอดยา และคุยเล่นเพื่อให้ผ่อนคลายก่อนจะขึ้นเขียงครับ เนื่องจากผ่าตาอาจจะทำให้มีปัญหาในการเซ็นสลิปบัตรเครดิตจึงรูดค่าทำเลสิคก่อนครับ โชคดีมาก วันที่ทำขึ้นเดือนใหม่ มีโปรใหม่ของบัตรกรุงศรีเข้ามาครับ ไอเลสิคเหลือ  80,000 บาท (จ่ายเต็ม ไม่มีผ่อน) โอ้...พระเจ้า ประหยัดไป 19,000 เยี่ยมเลยครับ จัดไปอย่าให้เสีย ส่วนกสิกรก็เก็บใสกระเป๋าไป ไม่ใช้ละวันนี้ 555
เจ้าหน้าที่มาเรียกไปสแกนตาอีกรอบ แล้วส่งไปด้านในห้องลับ เก็บกระเป๋าและโทรศัพท์มือถือเข้าตู้ ให้ผมล้างหน้าเช็ดหน้าให้สะอาด เอาชุดเตรียมขึ้นเขียงมาให้ใส่ แล้วให้นอนรอ เจ้าหน้าที่เอายาแก้ปวดมาให้กิน แล้วก็เดินเข้ามาหยอดยาฆ่าเชื้อให้ 3 รอบครับ ระหว่างนั้นหมอตุลก็จะออกมานั่งคุยกับเราเพื่อลดความเครียด บอกว่าจะเกิดอะไรบ้างในห้องผ่าตัด ไม่ต้องเครียด ผมก็ทำสมาธิไป รอเวลาเค้าเรียกเข้าห้องครับ
ในห้องมีเตียงอยู่ 1 เตียงครับ และมีเครื่องมือไอเลสิคอยู่ด้านบนเลื่อนไปเลื่อนมาได้ครับ เอาล่ะครับขึ้นเตียงแล้ว ความตื่นเต้นถาโถมเข้ามา สมาธิหลุด เจ้าหน้าที่อธิบายเครื่องต่างๆ ว่ามันจะทำงานยังไง เราต้องทำอะไรบ้าง ฟังรู้เรื่องบ้าง ไม่รู้เรื่องบ้าง หมอตุลย้ำให้อีกรอบ สำคัญที่สุด อย่าหลับตา อย่าพยักหน้า ให้มองไปที่ไฟตรงหน้านิ่งๆ ได้ยินเสียงอะไรไม่ต้องสนใจ เจ้าหน้าที่เค้าคุยกับหมอ ไม่ใช่กับคนไข้นะ มีซ้อมให้ดูด้วยครับ ความตื่นเต้นลดลง เรียกสมาธิกลับมาอีกครั้ง
หัวเราจะถูกล็อคด้วยหมอนสุญญากาศครับ เพื่อไม่ให้เราขยับหัวตอนที่เลเซอร์ทำงาน (เจ้าหน้าที่บอกว่า จริงๆ เครื่องจะหยุดทำงานทันที ถ้าตาเราไม่อยู่ในตำแหน่งเดียวกับที่สแกนไว้ครับ ดังนั้นไม่ต้องกลัวว่ามันจะผิดพลาดนะครับ) เค้าจะเอาหมอนมาให้กอด เอาผ้ามาห่มให้อุ่น แล้วก็จะเริ่มผ่าละครับ
ขั้นตอนแรกครับ ยาชาแบบหยดจะถูกหยอดใส่ตาเราทั้งสองข้าง มันจะเย็นๆ ครับ ไม่แสบ หยอดแล้วหยอดอีก หยอดเรื่อยๆ แล้วหมอจะเอาเครื่องมือสุญญากาศมาติดที่ตาขวาครับ (จะเริ่มที่ขวาเสมอครับ) หลังจากนั้นจะเลื่อนเตียงไปใต้เครื่องยิงเลเซอร์เปิดกระจกตาครับ ตอนนี้จะรู้สึกหนักๆ ที่ตาขวานิดนึงนะครับแต่ไม่เจ็บมากอาจเป็นฤทธิ์ของยาชาครับ หมอจะคอยบอกให้เรามองตรงๆ ที่ไฟในเครื่อง ระหว่างนั้น เลเซอร์มันคงทำงานไปแล้ว ไม่กี่วินาที ก็มาทำแบบเดียวกันกับตาซ้ายครับ ราบรื่นสวยงาม เสียงหมอตุลคุยกับเจ้าหน้าที่ ทำเอาผมใจชื้นไปด้วย จากนั้นครับ หมอเลื่อนเตียงออกมานิดนึงเพื่อเปิดกระจกตาครับ มีน้ำหยดๆ ที่ตา แล้วก็เห็นเครื่องมือบางอย่างมาเขี่ยๆ ที่ตาครับ จากที่เคยเห็นลางๆ คราวนี้กลายเป็นสีเทาๆ ครับ คิดว่ากระจกตาขวาน่าจะถูกเปิดเรียบร้อย จากนั้นเข้าเครื่องอีกด้านยิงเลเซอร์ลงมา เจ้าหน้าที่จะนับเวลาถอยหลังให้ จะได้ยินเสียงเหมือนที่ช็อตยุงครับ มีกลิ่นไหม้นิดๆ เสร็จแล้วคุณหมอก็เกลี่ยกระจกตากลับที่เดิมครับ แล้วก็ทำเหมือนเดิมกับตาข้างซ้าย เป็นอันเสร็จ สามารถลุกจากเตียงได้เลยครับ หันไปเห็นนาฬิกา เวลาผ่านไปประมาณครึ่งชั่วโมงเอง เสร็จแล้วหรอเนี่ย เดี๋ยวๆ อะไรน่ะ ผมเห็นตัวเลขบนนาฬิกาดิจิตอลที่ผนังชัดแจ๋วเลย สุดยอดมากครับหมอ หมอให้ลงมาที่เครื่องตรวจตา เพื่อตรวจดูแผลอีกรอบ หมอบอกว่าแผลดีมาก  เยี่ยมเลยครับ พรุ่งนี้ให้มาตรวจแผลอีกรอบ กลับบ้านได้ ชีวิตดีอะ มองเห็นเลยจริงๆ หมอให้พักตาเยอะๆ ครับ และใส่แว่นกันแดด เวลาเจอแสง จะได้ไม่แสบตาครับ ช่วงนี้อย่าให้ตาโดนน้ำเด็ดขาด

กลับมาถึงบ้าน สงสัยยาชาเริ่มหมดฤทธิ์ครับ เริ่มแสบๆ ตา น้ำตาไหลออกมาเอง ผมเลยกินยาแก้ปวด กับยานอนหลับที่ได้มาแล้วรีบไปนอน ก่อนนอนก็ปิดที่ครอบตากันขยี้ตาไว้ด้วยครับ แต่อาจเพราะนอนดึกจนชิน เลยได้แต่นอนหลับตา ไม่ยอมหลับจริงๆ น้ำตาก็ไหลออกมาเรื่อยๆ เลยครับ หลับไปเมื่อไหร่ไม่รู้ รู้อีกทีก็ตอนตื่นละครับ แกะที่ครอบตาออก สุดยอดจริงๆ ชัดแจ๋วเลยครับ ภาพ ตัวหนังสือ หรืออะไรตรงหน้า ก็ชัดหมด ลืมแว่นตากับคอนแทคเลนส์ไปได้เลย ขอบคุณชีวิตใหม่จริงๆ ครับ

ครบ 1 วันไปตรวจตามา ทุกอย่างยังโอเคดีหมดครับ นัดเจอคุณหมออีกทีตอนครบเจ็ดวันครับ
คืนที่สอง ที่ครอบตาเอาไม่อยู่ โดนกระชากหลุดไป  3 รอบ ไม่รู้เผลอไปขยี้ตารึเปล่า เลยไปโพสต์เล่าให้เจ้าหน้าที่ของสุพรีมไอเลสิค และผู้ช่วยหมอตุลฟัง ทางเจ้าหน้าที่ของสุพรีมก็โทรกลับมาถามไถ่อาการและให้คำแนะนำ พร้อมข้อสังเกตที่ดีมากๆ ครับ คือถ้ายังเห็นชัดอยู่ไม่เห็นเป็นริ้ว หรือเป็นคลื่นแสดงว่ายังโอเคไม่ต้องเครียด วิธีที่ผมใช้ 6-8 ชั่วโมงกระจกตาก็จะรักษาตัวเองได้แล้ว ส่วนผู้ช่วยหมอตุลก็แนะนำเรื่องการติดที่ครอบตาให้ถูกต้อง เพื่อไม่ให้มันถูกดึงหลุดง่ายๆ อีก คืนนี้จะลองดูนะครับ ขอบคุณมากๆ สำหรับคำแนะนำ และความเอาใจใส่

รีวิวจบเท่านี้ก่อนนะครับ ไว้มีอะไรเพิ่มเติมจะมาเล่าให้ฟังครับ
ชื่อสินค้า:   สุพรีมไอเลสิค โดยคุณหมอตุลยา
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่