สวัสดีค่ะ อ่านมาหลายกระทู้ ความรักระหว่างเชื้อชาติ บางคนอยู่ต่างแดน บางคนอยุ่เมืองไทย และอีกหลายๆ กระทู้ คิดนานเหมือนกันค่ะ แต่ไหนๆ ก็ไหน ตกงานอยู่แล้วนิ งั้นถือว่ามาแชร์ประสบการณ์ การตกงานด้วยแล้วกันว่าเป็นยังไง อิอิ
กุมภาพันธ์ ปีที่แล้ว เราลาออกจากงานที่เรียกว่า งานดี เงินเยอะ เพื่อกลับมาทำงานที่บ้านค่ะ เป็นเด็กต่างจังหวัดค่ะ สาวอีสาน แต่ไม่ค่อยจะเหมือนสักเท่าไหร่ มีหลายคนว่ามางั้นนะคะ สูง 160 ผิวขาว หุ่นบางๆ ค่ะ หน้าตาก็งั้นๆค่ะ ไม่ได้สวยอะไรมากมาย แต่ด้วยหน้าที่การงาน บังคับให้ต้องทำตัวดูดีตลอดค่ะ หลังจากที่ผ่านการสัมภาษณ์ โดยใครที่เราก็ไม่รู้จัก จากบริษัท ฯ แห่งหนึ่ง เรื่งทำงานกับ Boss ได้ 3 วัน วันที่ 3 ช่วงบ่าย นายให้เลขา ขับรถพาเราเข้าที่ประชุมที่อยู่สาขาหนึ่ง ของตัวเมืองค่ะ พอเข้าไป ก็พบกับ............................... ผู้บริหารทั้งกรุ๊ปของบริษัท ฯ นี้ เข้ามาสัมมนา เรานั่งหลังสุดค่ะ เพราะ อายุน้อยกว่าทุกท่านในห้องนี้ ตำแหน่งแน่นอนค่ะ เท่ากะบางท่านในห่องประชุมนี้ หลังจากนั่งฟังได้ประมาณ 3 ชม. หลังพักเบรค สิ่งที่เกิดขึ้นในหัวตอนนั้นคือ ภาพที่เราเห็นในห้องประชุม บวกกับเลขาของนาย อธิบายว่า ท่านนี้คือใคร นี่คือใคร หน้าเด็กๆ คนนั้นคือใคร ....ค่ะ เป็นไปตามคาดค่ะ ในบรรดาผู้บริหารของบริษัท เก่าแกที่มีชื่อดังในจังหวัด แห่งนี้ ทุกๆ ท่านคือ เครือญาติ หลาย เหลน คนเก่าคนแก่ .....เรานั่งฟังเลขาอธิบายแต่ละคนให้เราฟัง ทุกอย่างมันแล่นเข้ามาในหัว ก่อนหน้านี้ในห้องประชุม เรานั่งฟังเลขาคนสวยอธิบายถึงคนเหล่านี้ ในขณะที่เรานั่งนิ่ง ภายใต้หน้าตาที่เงียบสงบ มีรอยยิ้มเล็ก บนใบหน้า และพยัคหน้าเพื่อรับฟังสิ่งที่เลขาพูด มันทำให้เราอดถามคำถามนี้ไม่ได้คือ ......แล้ว Boss คือใคร .... แน่นอนค่ะ เลขายิ้มหน้าบานมากกกก และบอกกับเราอย่างภาคภูมิใจว่า นายคือลูกชายของเจ้าของบริษัท ฯ นี้ค่ะ ................อืม!!!!
คืนนั้นทั้งคืน เราคิดมาก และมากที่สุด ไม่ใช่เพราะการประชุมเพียงอย่างเดียว หลายอย่างมากที่ทำให้เรารู้สึกว่า ที่นี่ไม่ใช่ที่ของฉัน แล้วฉันจะทำงานร่วมกับคนเหล่านี้ได้อย่างไหร่ ฉันจะแก้ไขปัญาที่เขาดึงฉัน และยอมจ้างฉันในราคาที่สูงลิ้วขนาดนี้ ในเมืองเล็กๆ แห่งนี้ได้อย่างไร นี่มันไม่ใช่เรื่องง่าย สำหรับผู้หญิงตัวเล็กๆ ที่มีความรู้ ความสามารถ แต่ .......ฉันไม่มีอำนาจพอ และฉันไม่ใช่หนึ่งในเครือญาติ ก่อนหน้านี้ในวันแรกที่เข้าทำงาน เราแปลกใจมากที่หลายๆ คนในบริษัท ฯ มองเราแปลกๆ ยิ่งในฝ่ายยิ่งแปลก ที่แปลกคือ มี Supervisor หลายคนที่ทำงานกับเราแต่กลับยกมือไหว้เราในเช้าทำงานและนอบน้อมกับเราตลอดเวลาการทำงาน 3 วัน....เรารู้ที่หลังจากเลขา เลขาบอกว่า ในนี้ทุกคนคิดว่าเราคือ ลูกท่าน หลานเธอของเจ้าของที่นี่ เหตุเพราะเราหน้าเด็กมากกกกก และมานั่งในตำแหน่งสูงขนาดนี้ .....และนายบอกห้ามบอกใคร ให้ทุกคนคิดแบบนั้นแหล่ะดีแล้ว .....สิ่งที่มันแล่นอยู่ในหัว ตกลงด้วยข้อสรุปคือ ....ค่ะ เราไม่สามารถทำได้จริงๆ ..................ลาออก !!!!!!!!!!! คำนี้คำเดียวที่มีอยู่ตอนนี้
หลายคนๆ อาจคิดว่า เราแก้ไขปัญหาไม่ถูกทาง บางคนอาจบอกว่าเป็นฉันฉันจะสู้ เพื่อพิสูทธ์ ?????... คะ เราก็เป็นคนแบบนั้นมาตลอด 12 ปี ค่ะ 12ปี ที่เราสูญเสียเวลาให้กับคนรัก เพื่อการทำงาน 12 ปี ที่เราเลือกงาน และเงินเพื่อหวังว่าอนาคตจะมั่นคง 12 ปีคะ 12 ปี ที่พยายามทำเพื่อบอกทุกคนว่า หน้าฉันเด็กแต่ความสามารถฉันแก่เท่าอายุนะ ( เราอายุ 34 ปี แล้วคะ ทำงานตั้งแต่เรียนจบ มหาวัย แต่ทำงานด้านนี้เฉพาะจริงหลังจากออกจากงานแรก 2 ปีคะ)
เช้าวันที่ 4 ของการทำงานที่นี่ เดินเข้าไปหาเจ้านายคะ และแน่นอน ขอลาออกคะ ด้วยเหตุผลตรงๆ ซึ่งนายเองก็เข้าใจ เขาบอกกับเราว่า ขอให้ลองอยู่ด้วยกันก่อนสัก 1 เดือนนะ เพราะเขาต้องการคนแบบนี้มาทำงาน ซึ่งหายากมาก นี่ไม่ใช่เรื่องงานสำหรับบริษัท ฯ แบบเขาที่จะได้คนที่มีคุณสมบัติแบบเรามาทำงาน (ดีใจคะ ดีใจมากที่มีคนชมแบบนั้น) แต่เรายืนยันคะ ยืนยันที่จะลาออก และเราก็ได้ลาออกสมใจ อิอิ ......มีความสุขคะ มีความสุขมากแบบบอกไม่ถูก เหมือนหลุดออกมาจากสิ่งที่อึดอัดมาตลอดทั้งคืน
ก่อนลาออก ปรึกษาแม่ พี่สาว ก่อนคะ ทุกคนยอมรับการตัดสินใจของเรา แต่เราว่าคงเป็นเพราะเขารู้ว่าเราตัดสินใจชีวิตตัวเองมาตลอดและดูแลตัวเองมาตลอดด้วยมั้งคะ เลยไม่มีใครทักทวง
กลับมาบ้าน ฟินค่ะ .....มีความสุขมากที่ตกงาน!!!!!!!!!!! 55555555 จริงๆ ค่ะ มันมีความสุขที่สุด แต่!!!!! ......แล้วจะทำะไรต่อ หางานใหม่เหรอ ??? หรือ...เอาไงหล่ะที่นี้ ชีวิตฉัน ...เรียนต่อเมืองนอก???? เงินไม่พอมั้ง แล้วจะไปเรียนเอาอะไร อายุปูนนี้ ?????
ว่าแล้วก็โทรศัพท์หาเพื่อนค่ะ เพื่อนบอก เตะฝุ่นเล่นดิ ......แหม่ แนะนำกันดีเชียว เพื่อนนิก็ ...เอ๊า เอา ไหนๆ ก็ไหน ไหนแหร่ะ เที่ยวแล้วกัน
หยิบสมุดบัญชีขึ้นมาดู โอเคร ฉานมีเงินส่วนเก็บเที่ยวของแันที่ไม่ได้เที่ยวอยู่นิ .... งั้น!!!!!! ไปเที่ยวแล้วกับ ว่าแต่.....ที่ไหนดีน๊าาาาาา อ่ะ ทะเล ใช่ ใช่ เราชอบทะเล ไปทะเลดีก่าาาาาา มีที่ไหนสวยๆ มั้งน๊าาาา ....เปิดคอมแล้วลองค้นหาข้อมูลดู ..อืม แต่ละที่ สวยๆ ทั้งนั้น หาดขาว ทะเลน้ำใส ปลาแหวกว่าย ลมพัดเย็นสบาย กลิ่นไอทะเล ชิวๆ โอ๊ยยยยยย....... ภูเก็ต!!!!!!!!!! อ่ะ ทะเลสวย ปาร์ตี้แหล่ม อ่ะ อ่ะ ...เพื่อนเราย้ายไปเป็นเลขาที่ภูเกตนิ ....โอ๊ววววว โลกช่างกลมแท้ จัดเลยค่ะ ไม่รีรอ ..กริ่งกร้าง โทรหาเพื่อนสาวคนสวย ..ตัวเอง ยังอยู่ภูเก็ตป่าววววว ปลายสายตอบกลับแบบ วี๊ดว๊ายยยยยย ต๊ายยยยยย ตาย นี่ฉันนึกว่าแกลืมฉันแหร่ะนะย่ะ ยังอยุ่ย่ะ ว่าไงจามาเที่ยวหราาาาา ปาร์ตี้มั๊ย ศุกร์นั้ !!! อิอิ นางหัวเราะลั่นค่ะ เพราะนางคิดว่า คงไม่มีทาง 5555555
ผิดคาดค่ะ เรา แอบอ้มยิ้ม และหัวเราะกลับไป หึหึ .....คนสวย มารับฉานที่สนามบิน เวลา... เที่ยวบิน... ด้วยนะย่ะ กรุณาทำตัวให้ว่าง .....ห๊าาาา อะไรน่ะ แกจะมาหาฉันใช่มั๊ย พูดจริง บอกมาเดี่ยวนี้ ... แน่นอนคร๊าาาาาา เท่านั้นแหร่ะ เสียงกรี๊ดหนักขึ้นกว่าเดิม เอ่อ!!!! เพื่อน เบาๆ นี่ทำงานอยู่ป่ะ เกรงใจชาวบ้าน ที่สำคัญ เลขา ค่ะ เลขา ...เรียบร้อยแปร๊บ ...นางก็ถึงกับ อุ๊ยฉันลืมตัวแก ดีใจอ่ะ ไม่ได้เจอเพื่อนนานมากกกกก ว่าแต่จะอยู่นานแค่ไหน พักกับฉันมั๊ย ...คำตอบจากเราคือ พักนานมั๊ย ??? ไม่รู้อ่ะแก นานเท่าที่ฉันชาร์ตแบ็ตเต็ม พักกับแกมั๊ย ไม่เอาอ่ะ ฉันอยากขี้เกียจ ไม่ต้องทำอะไร พักโรงแรมดีกว่า ....นางก็ได้แต่บอก ได้ๆ เพื่อนไม่มีปัญหา เจอกันที่สนามบิน
นี่แหร่ะที่เราเลือก เพื่อนเราไม่ถามสักคำว่าเกิดอะไรขึ้น ทำไมเราไม่ทำงาน ทำไม เราไม่มีPlan ทั้งที่ชีวิตเรา Plan ทุกอย่างเสมอ แต่สิ่งหนึ่งที่เพื่อนเรารู้คือ ถ้าเราบอกว่า ฉันอยากขี้เกียจ นางรู้เลยว่า .... มันยังไม่พร้อมที่จะบอก ว่าเกิดอะไรขึ้นกับมัน .....
Landing .......สนามบินนานาชาติภูเก็ต ตอนบ่าย บินข้ามน้ำข้ามทะเล มา 2 flight และแล้วฉันก็มาถึงที่นี่ ลากกระเป๋าเดินออกไปสู่เมืองภูเก็ต สนามบินที่เต็มไปด้วย ชาวต่างชาติ โอ๊ยๆๆๆๆ มันช่างฟินเช่นนี้ แต่ละคน อยากถามว่า กางเกงมันสั้นไปมั๊ยค่ะ คือฝรั่งบางคนตัวใหญ่มากกกกกกก แต่ใส่กางเกงตัวเล็กนิดเดียว เหมือนกางเกงเล่นรับบี้ ... สายตากวาดมองไปทั่วสนามบิน ก็มาสะดุดก่ะ เสียงนางหนึ่ง .....Hi Friend ....หันไปนี่นางมาโผ่กอด เราก็เอ่อ อืมๆ เพื่อนๆ ดีจัยมากไป ตรู่คนไทย ที่สำคัญ ฝรั่ง ฝรั่งมอง .... เอามือดันนางออกเล็กน้อย ค่ะ...เดียวมีคนเข้าใจผิด ชอบผู้ชายค่ะ ฝรั่ง อย่างเข้าใจผิดน่ะเราชอบผู้ชาย .....หนุ่มๆ กลุ่มหนึ่งมองมาที่เรากะเพื่อน ยิ้มกันใหญ่เชียว ...ต๊ายยยยย หมดกันฉัน หมด ...เพื่อนบ้านิ
เรียบร้อยค่ะ ทุกสายตาหันมามองที่เรา เพราะมีเพื่อนสาว คนสวยเดินกอดแขนเราค่ะ ไม่พอนางคงคิดถึงเพื่อนมาก หอมแก้มเราด้วย ยังคะ ยังไม่พอ มีหยิกแก้มด้วยคะ คือนางฟินค่ะ เพราะเปนเพื่อนรักกัน เหมือนพี่เหมือนน้องคะ ฝรั่งมองมา นางยังมีแกล้งค่ะ บอก เนี้ยของ I หอมแก้มให้ดูด้วย.......โอ๊ยๆๆๆ ตีายยยย ฉัน จบอนาต ณ.สนามบินนานาชาติภูเก็ต ......
ตกงานมา 1 ปี 4 เดือน กลับมาพบสิ่งที่ไม่คาดฝัน "สาวไทยกับหนุ่มลูกครึ่งสก๊อต อิตาลี"
กุมภาพันธ์ ปีที่แล้ว เราลาออกจากงานที่เรียกว่า งานดี เงินเยอะ เพื่อกลับมาทำงานที่บ้านค่ะ เป็นเด็กต่างจังหวัดค่ะ สาวอีสาน แต่ไม่ค่อยจะเหมือนสักเท่าไหร่ มีหลายคนว่ามางั้นนะคะ สูง 160 ผิวขาว หุ่นบางๆ ค่ะ หน้าตาก็งั้นๆค่ะ ไม่ได้สวยอะไรมากมาย แต่ด้วยหน้าที่การงาน บังคับให้ต้องทำตัวดูดีตลอดค่ะ หลังจากที่ผ่านการสัมภาษณ์ โดยใครที่เราก็ไม่รู้จัก จากบริษัท ฯ แห่งหนึ่ง เรื่งทำงานกับ Boss ได้ 3 วัน วันที่ 3 ช่วงบ่าย นายให้เลขา ขับรถพาเราเข้าที่ประชุมที่อยู่สาขาหนึ่ง ของตัวเมืองค่ะ พอเข้าไป ก็พบกับ............................... ผู้บริหารทั้งกรุ๊ปของบริษัท ฯ นี้ เข้ามาสัมมนา เรานั่งหลังสุดค่ะ เพราะ อายุน้อยกว่าทุกท่านในห้องนี้ ตำแหน่งแน่นอนค่ะ เท่ากะบางท่านในห่องประชุมนี้ หลังจากนั่งฟังได้ประมาณ 3 ชม. หลังพักเบรค สิ่งที่เกิดขึ้นในหัวตอนนั้นคือ ภาพที่เราเห็นในห้องประชุม บวกกับเลขาของนาย อธิบายว่า ท่านนี้คือใคร นี่คือใคร หน้าเด็กๆ คนนั้นคือใคร ....ค่ะ เป็นไปตามคาดค่ะ ในบรรดาผู้บริหารของบริษัท เก่าแกที่มีชื่อดังในจังหวัด แห่งนี้ ทุกๆ ท่านคือ เครือญาติ หลาย เหลน คนเก่าคนแก่ .....เรานั่งฟังเลขาอธิบายแต่ละคนให้เราฟัง ทุกอย่างมันแล่นเข้ามาในหัว ก่อนหน้านี้ในห้องประชุม เรานั่งฟังเลขาคนสวยอธิบายถึงคนเหล่านี้ ในขณะที่เรานั่งนิ่ง ภายใต้หน้าตาที่เงียบสงบ มีรอยยิ้มเล็ก บนใบหน้า และพยัคหน้าเพื่อรับฟังสิ่งที่เลขาพูด มันทำให้เราอดถามคำถามนี้ไม่ได้คือ ......แล้ว Boss คือใคร .... แน่นอนค่ะ เลขายิ้มหน้าบานมากกกก และบอกกับเราอย่างภาคภูมิใจว่า นายคือลูกชายของเจ้าของบริษัท ฯ นี้ค่ะ ................อืม!!!!
คืนนั้นทั้งคืน เราคิดมาก และมากที่สุด ไม่ใช่เพราะการประชุมเพียงอย่างเดียว หลายอย่างมากที่ทำให้เรารู้สึกว่า ที่นี่ไม่ใช่ที่ของฉัน แล้วฉันจะทำงานร่วมกับคนเหล่านี้ได้อย่างไหร่ ฉันจะแก้ไขปัญาที่เขาดึงฉัน และยอมจ้างฉันในราคาที่สูงลิ้วขนาดนี้ ในเมืองเล็กๆ แห่งนี้ได้อย่างไร นี่มันไม่ใช่เรื่องง่าย สำหรับผู้หญิงตัวเล็กๆ ที่มีความรู้ ความสามารถ แต่ .......ฉันไม่มีอำนาจพอ และฉันไม่ใช่หนึ่งในเครือญาติ ก่อนหน้านี้ในวันแรกที่เข้าทำงาน เราแปลกใจมากที่หลายๆ คนในบริษัท ฯ มองเราแปลกๆ ยิ่งในฝ่ายยิ่งแปลก ที่แปลกคือ มี Supervisor หลายคนที่ทำงานกับเราแต่กลับยกมือไหว้เราในเช้าทำงานและนอบน้อมกับเราตลอดเวลาการทำงาน 3 วัน....เรารู้ที่หลังจากเลขา เลขาบอกว่า ในนี้ทุกคนคิดว่าเราคือ ลูกท่าน หลานเธอของเจ้าของที่นี่ เหตุเพราะเราหน้าเด็กมากกกกก และมานั่งในตำแหน่งสูงขนาดนี้ .....และนายบอกห้ามบอกใคร ให้ทุกคนคิดแบบนั้นแหล่ะดีแล้ว .....สิ่งที่มันแล่นอยู่ในหัว ตกลงด้วยข้อสรุปคือ ....ค่ะ เราไม่สามารถทำได้จริงๆ ..................ลาออก !!!!!!!!!!! คำนี้คำเดียวที่มีอยู่ตอนนี้
หลายคนๆ อาจคิดว่า เราแก้ไขปัญหาไม่ถูกทาง บางคนอาจบอกว่าเป็นฉันฉันจะสู้ เพื่อพิสูทธ์ ?????... คะ เราก็เป็นคนแบบนั้นมาตลอด 12 ปี ค่ะ 12ปี ที่เราสูญเสียเวลาให้กับคนรัก เพื่อการทำงาน 12 ปี ที่เราเลือกงาน และเงินเพื่อหวังว่าอนาคตจะมั่นคง 12 ปีคะ 12 ปี ที่พยายามทำเพื่อบอกทุกคนว่า หน้าฉันเด็กแต่ความสามารถฉันแก่เท่าอายุนะ ( เราอายุ 34 ปี แล้วคะ ทำงานตั้งแต่เรียนจบ มหาวัย แต่ทำงานด้านนี้เฉพาะจริงหลังจากออกจากงานแรก 2 ปีคะ)
เช้าวันที่ 4 ของการทำงานที่นี่ เดินเข้าไปหาเจ้านายคะ และแน่นอน ขอลาออกคะ ด้วยเหตุผลตรงๆ ซึ่งนายเองก็เข้าใจ เขาบอกกับเราว่า ขอให้ลองอยู่ด้วยกันก่อนสัก 1 เดือนนะ เพราะเขาต้องการคนแบบนี้มาทำงาน ซึ่งหายากมาก นี่ไม่ใช่เรื่องงานสำหรับบริษัท ฯ แบบเขาที่จะได้คนที่มีคุณสมบัติแบบเรามาทำงาน (ดีใจคะ ดีใจมากที่มีคนชมแบบนั้น) แต่เรายืนยันคะ ยืนยันที่จะลาออก และเราก็ได้ลาออกสมใจ อิอิ ......มีความสุขคะ มีความสุขมากแบบบอกไม่ถูก เหมือนหลุดออกมาจากสิ่งที่อึดอัดมาตลอดทั้งคืน
ก่อนลาออก ปรึกษาแม่ พี่สาว ก่อนคะ ทุกคนยอมรับการตัดสินใจของเรา แต่เราว่าคงเป็นเพราะเขารู้ว่าเราตัดสินใจชีวิตตัวเองมาตลอดและดูแลตัวเองมาตลอดด้วยมั้งคะ เลยไม่มีใครทักทวง
กลับมาบ้าน ฟินค่ะ .....มีความสุขมากที่ตกงาน!!!!!!!!!!! 55555555 จริงๆ ค่ะ มันมีความสุขที่สุด แต่!!!!! ......แล้วจะทำะไรต่อ หางานใหม่เหรอ ??? หรือ...เอาไงหล่ะที่นี้ ชีวิตฉัน ...เรียนต่อเมืองนอก???? เงินไม่พอมั้ง แล้วจะไปเรียนเอาอะไร อายุปูนนี้ ?????
ว่าแล้วก็โทรศัพท์หาเพื่อนค่ะ เพื่อนบอก เตะฝุ่นเล่นดิ ......แหม่ แนะนำกันดีเชียว เพื่อนนิก็ ...เอ๊า เอา ไหนๆ ก็ไหน ไหนแหร่ะ เที่ยวแล้วกัน
หยิบสมุดบัญชีขึ้นมาดู โอเคร ฉานมีเงินส่วนเก็บเที่ยวของแันที่ไม่ได้เที่ยวอยู่นิ .... งั้น!!!!!! ไปเที่ยวแล้วกับ ว่าแต่.....ที่ไหนดีน๊าาาาาา อ่ะ ทะเล ใช่ ใช่ เราชอบทะเล ไปทะเลดีก่าาาาาา มีที่ไหนสวยๆ มั้งน๊าาาา ....เปิดคอมแล้วลองค้นหาข้อมูลดู ..อืม แต่ละที่ สวยๆ ทั้งนั้น หาดขาว ทะเลน้ำใส ปลาแหวกว่าย ลมพัดเย็นสบาย กลิ่นไอทะเล ชิวๆ โอ๊ยยยยยย....... ภูเก็ต!!!!!!!!!! อ่ะ ทะเลสวย ปาร์ตี้แหล่ม อ่ะ อ่ะ ...เพื่อนเราย้ายไปเป็นเลขาที่ภูเกตนิ ....โอ๊ววววว โลกช่างกลมแท้ จัดเลยค่ะ ไม่รีรอ ..กริ่งกร้าง โทรหาเพื่อนสาวคนสวย ..ตัวเอง ยังอยู่ภูเก็ตป่าววววว ปลายสายตอบกลับแบบ วี๊ดว๊ายยยยยย ต๊ายยยยยย ตาย นี่ฉันนึกว่าแกลืมฉันแหร่ะนะย่ะ ยังอยุ่ย่ะ ว่าไงจามาเที่ยวหราาาาา ปาร์ตี้มั๊ย ศุกร์นั้ !!! อิอิ นางหัวเราะลั่นค่ะ เพราะนางคิดว่า คงไม่มีทาง 5555555
ผิดคาดค่ะ เรา แอบอ้มยิ้ม และหัวเราะกลับไป หึหึ .....คนสวย มารับฉานที่สนามบิน เวลา... เที่ยวบิน... ด้วยนะย่ะ กรุณาทำตัวให้ว่าง .....ห๊าาาา อะไรน่ะ แกจะมาหาฉันใช่มั๊ย พูดจริง บอกมาเดี่ยวนี้ ... แน่นอนคร๊าาาาาา เท่านั้นแหร่ะ เสียงกรี๊ดหนักขึ้นกว่าเดิม เอ่อ!!!! เพื่อน เบาๆ นี่ทำงานอยู่ป่ะ เกรงใจชาวบ้าน ที่สำคัญ เลขา ค่ะ เลขา ...เรียบร้อยแปร๊บ ...นางก็ถึงกับ อุ๊ยฉันลืมตัวแก ดีใจอ่ะ ไม่ได้เจอเพื่อนนานมากกกกก ว่าแต่จะอยู่นานแค่ไหน พักกับฉันมั๊ย ...คำตอบจากเราคือ พักนานมั๊ย ??? ไม่รู้อ่ะแก นานเท่าที่ฉันชาร์ตแบ็ตเต็ม พักกับแกมั๊ย ไม่เอาอ่ะ ฉันอยากขี้เกียจ ไม่ต้องทำอะไร พักโรงแรมดีกว่า ....นางก็ได้แต่บอก ได้ๆ เพื่อนไม่มีปัญหา เจอกันที่สนามบิน
นี่แหร่ะที่เราเลือก เพื่อนเราไม่ถามสักคำว่าเกิดอะไรขึ้น ทำไมเราไม่ทำงาน ทำไม เราไม่มีPlan ทั้งที่ชีวิตเรา Plan ทุกอย่างเสมอ แต่สิ่งหนึ่งที่เพื่อนเรารู้คือ ถ้าเราบอกว่า ฉันอยากขี้เกียจ นางรู้เลยว่า .... มันยังไม่พร้อมที่จะบอก ว่าเกิดอะไรขึ้นกับมัน .....
Landing .......สนามบินนานาชาติภูเก็ต ตอนบ่าย บินข้ามน้ำข้ามทะเล มา 2 flight และแล้วฉันก็มาถึงที่นี่ ลากกระเป๋าเดินออกไปสู่เมืองภูเก็ต สนามบินที่เต็มไปด้วย ชาวต่างชาติ โอ๊ยๆๆๆๆ มันช่างฟินเช่นนี้ แต่ละคน อยากถามว่า กางเกงมันสั้นไปมั๊ยค่ะ คือฝรั่งบางคนตัวใหญ่มากกกกกกก แต่ใส่กางเกงตัวเล็กนิดเดียว เหมือนกางเกงเล่นรับบี้ ... สายตากวาดมองไปทั่วสนามบิน ก็มาสะดุดก่ะ เสียงนางหนึ่ง .....Hi Friend ....หันไปนี่นางมาโผ่กอด เราก็เอ่อ อืมๆ เพื่อนๆ ดีจัยมากไป ตรู่คนไทย ที่สำคัญ ฝรั่ง ฝรั่งมอง .... เอามือดันนางออกเล็กน้อย ค่ะ...เดียวมีคนเข้าใจผิด ชอบผู้ชายค่ะ ฝรั่ง อย่างเข้าใจผิดน่ะเราชอบผู้ชาย .....หนุ่มๆ กลุ่มหนึ่งมองมาที่เรากะเพื่อน ยิ้มกันใหญ่เชียว ...ต๊ายยยยย หมดกันฉัน หมด ...เพื่อนบ้านิ
เรียบร้อยค่ะ ทุกสายตาหันมามองที่เรา เพราะมีเพื่อนสาว คนสวยเดินกอดแขนเราค่ะ ไม่พอนางคงคิดถึงเพื่อนมาก หอมแก้มเราด้วย ยังคะ ยังไม่พอ มีหยิกแก้มด้วยคะ คือนางฟินค่ะ เพราะเปนเพื่อนรักกัน เหมือนพี่เหมือนน้องคะ ฝรั่งมองมา นางยังมีแกล้งค่ะ บอก เนี้ยของ I หอมแก้มให้ดูด้วย.......โอ๊ยๆๆๆ ตีายยยย ฉัน จบอนาต ณ.สนามบินนานาชาติภูเก็ต ......